Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1354

ตอนที่ 1354

บทที่ 1354 ไปในทางที่ดี

ฉินซีคิดมาโดยตลอดว่าตัวเองไม่ใช่คนที่มองคนอื่นที่หน้าตา แต่ตอนนี้ค้นพบแล้วว่า แท้จริงแล้วเธอก็เป็นคนที่หลงใหลคนอื่นที่หน้าตาเช่นกัน

“หืม?”

เมื่อได้ยินเสียงของจ้านเซิน ฉินซีก็กลับมามีสติทันที

เธอมองตรงไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาของจ้านเซิน ราวกับไม่รู้จักคำว่าเขินอาย

เหมือนฉินซีจะนึกอะไรได้บางอย่าง เธอรีบวิ่งไปข้างหน้าทันทีและกอดเอวของจ้านเซินไว้แน่น “รีบไปเถอะ ที่นี่มีหมาป่าอยู่”

ฉินซียังคงมึนงง หมาป่าที่หิวโหยดุร้ายตัวนั้น วิ่งไปที่ไหนแล้ว

แต่ในขณะที่เธอพุ่งตัวไปยังจ้านเซินนั้น เธอก็ตกใจกับซากศพที่อยู่บนพื้น

เขาฆ่าหมาป่าที่ดุร้ายและหิวโหยด้วยตัวคนเดียวตั้งแต่เมื่อไร

หรือว่าเมื่อครู้นี้เธอจะหลับไป……

ฉินซีไม่อยากจะเชื่อ เธอยืนอยู่ตรงนั้นอย่างมึนงง และไม่คิดว่าจ้านเซินจะกล้าหาญมากขนาดนี้

แม้จะเห็นได้ชัดจากร่างกายของจ้านเซินว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา แต่ว่ามันก็ยังเหนือจินตนาการของฉินซีอยู่ดี อีกทั้งจ้านเซินเองก็ดูนิ่งเฉย ไม่รู้ว่าเขากำลังกลัวอยู่หรือเปล่า

หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าที่นี่ปลอดภัย ฉินซีก็เอ่ยขึ้น“นั่น…..ขอบคุณที่ช่วยชีวิตฉัน”

มารู้ตัวอีกที ฉินซีกำลังบิดตัวไปมา

จ้านเซินมองไปยังใบหน้าของเธอที่เปื้อนโคลนสีดำ พลางขมวดคิ้ว

ถึงแม้ใบหน้าของฉินซีจะสกปรก แต่จากเซ้นส์แล้วก็พอจะดูออกว่าเธอคือสาวน้อยหน้าตาสะสวย และคาดว่าเมื่อโตขึ้น จะต้องเป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีอย่างแน่นอน

แต่ว่า จ้านเซินไม่ใช่คนที่จะเคลิบเคลิ้มไปกับความสวยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

จ้านเซินให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น หลังจากที่ร่างกายของฉินซีระเบิดพลังความสามารถออกมา

เขาถูกพ่อแม่เลี้ยงดูให้เป็นผู้นำที่สมบูรณ์แบบมาตั้งแต่เด็ก เมื่อมองจากมุมมองของจ้านเซิน ฉินซีเป็นลูกน้องที่ไม่เลว เพียงแต่ต้องใช้เวลาในการเลี้ยงดูให้เหมาะสม ในอนาคตจะต้องมีโอกาสได้สร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่แน่นอน

นี้คือเหตุผลว่า เพราะอะไรจ้านเซินถึงช่วยชีวิตเธอไว้

ฉินซีไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยในเวลานั้น และดูเหมือนว่าจ้านเซินยังไร้เดียงสามาก คิดไม่ถึงว่าเขามีความคิดมากมาย และก็เริ่มเข้าใกล้เป้าหมายของตัวเองในตอนที่ยังเป็นเด็ก มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย

ส่วนทางด้านฉินซีเองก็กำลังคิดถึงอดีต

อีกด้านนึง ลู่เซิ่นที่ไม่สามารถนั่งอยู่เฉยๆได้

เขาเดินไปรอบๆทั่วห้อง ใบหน้าซีดเซียว

หลังจากที่โจวเอ้อเห็นเขาวางสายโทรศัพท์แล้วกลายเป็นคนเงียบขรึม ก็รู้สึกเป็นกังวล

เขาอดที่จะเดินไปถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ “เป็นอะไรไป”

โจวเอ้อรับรู้ได้ว่าลู่เซิ่นผิดแปลกไป แต่ก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่อยู่ในใจของเขา แท้จริงคือเรื่องอะไรกันแน่

“ฉันกำลังคิดหาวิธีที่จะช่วยฉินซีให้ออกมาได้เร็วที่สุด”

แม้จะรู้ว่าตอนนี้ฉินซียังอยู่กับโจวซิง คาดว่าไม่น่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่แค่เธอต้องอยู่ข้างกายจ้านเซินเพิ่มอีกหนึ่งวัน ความทุกข์ในใจของลู่เซิ่นก็มาขึ้นเท่าตัว

โจวเอ้อ รับรู้ถึงความกังวลในใจเขา เขาตบไปที่ไหล่ของลู่เซิ่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ไม่ต้องรีบร้อน เรื่องนี้เราต้องวางแผนกันอีกยาว วางใจเถอะ มีโจวซิงอยู่ล่ะก็ เขาต้องดูแลฉินซีเป็นอย่างดีแน่นอน ”

เขาเข้าใจความคิดของลู่เซิ่น แต่ว่าภายใต้สถานการณ์ในตอนนี้ แต่ถ้าลู่เซิ่นบุ่มบ่ามยื่นมือเข้าไป มันจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น และจ้านเซินก็ยังเป็นอีกคนที่คล่องแคล่วว่องไวมาก

เพียงสายลมพัดต้นหญ้าขยับเล็กน้อย เขาก็สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด

ถ้าถูกจ้านเซินเจอตัวจริงๆ และกลัวว่ามันจะเป็นการยากที่อยากจะช่วยฉินซีออกมาหลังจากนั้น

“อืม”

ลู่เซิ่นพยักหน้ารับ เขารู้ดีว่าไม่ควรทำอะไรผลีผลาม

คำพูดถัดไป ทำให้โจวเอ้อรู้สึกว่ามันไม่ง่ายดาย

“นายพูดกับโจวซิงให้ที ว่าคิดหาวิธีจัดการให้ฉันได้เจอกับฉินซี ”

ลู่เซิ่นที่เพิ่งได้ยินว่าฉินซีกำลังร้องไห้อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เขาก็รู้สึกเป็นทุกข์มากขึ้นเมื่อนึกถึงที่เธอร้องไห้ท่ามกลางสายฝน เขาก็ยิ่งเจ็บปวด

เขาอยากเจอฉินซีอีกครั้ง และกอดเธอไว้แน่นๆ ให้เธอสงบลง

“นาย……”

โจวเอ้อเปิดปาก ที่จริงแล้วอยากจะพูดว่า ถึงนายได้พบฉินซี แต่ก็ไม่สามารถพาเธอหนีได้ มีแต่จะเพิ่มความโศกเศร้าให้เธอเท่านั้น

แต่ว่า เมื่อนึกถึงสภาพจิตใจของทั้งสองคนแล้ว ประกอบกับสภาพจิตใจของฉินซีที่แตกต่างจากคนทั่วไปแล้วด้วย โจวเอ้อจึงเลือกที่จะไม่พูดออกไป

“อะไร”

ลู่เซิ่นที่เห็นว่าเขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แล้วจู่ๆก็เงียบไป เขาขมวดคิ้วเผยสีหน้าที่ไม่เข้าใจออกมา

เขาไล่ถาม แต่โจวเอ้อได้เปลี่ยนความคิดไปแล้ว

ในตอนนี้ ฉินซีและลู่เซิ่นลำบากมามากพอแล้ว โจวเอ้อ ก็ไม่อยากทำให้ทั้งสองคนรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้

โจวเอ้อส่ายหัว “ไม่มีอะไร ฉันจะบอกโจวซิงให้เขาดูการจัดเตรียมให้เรียบร้อย ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสเมื่อไหร่ พวกเราทำได้แค่เพียงอดทนรอ ”

ในช่วงสองวันที่ผ่านมานี้ จ้านเซินไม่มีทางตีตัวออกห่างจากตัวของฉินซีอย่างแน่นอน

จากคำพูดของโจวซิงที่พูดเมื่อครู้นี้ จ้านเซินไม่ยอมส่งฉินซีไปโรงพยาบาลแน่นอน

เห็นได้ชัดว่า จ้านเซินต้องการให้ฉินซีอยู่ติดกับเขา และไม่ให้เธอติดต่อกับโลกภายนอก

ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ การที่ให้ลู่เซิ่นและฉินซีได้เจอกัน นั้นยากกว่าการขึ้นไปบนฟ้าเสียอีก

คาดว่าตอนนี้จ้านเซินน่าจะสั่งคนให้สอดแนมอยู่ที่โรงพยาบาล เพื่อเฝ้าดูฉินซี ให้อยู่ในคำสั่ง และไม่ให้หนีไปจากการควบคุมขององค์กร

เมื่อคิดถึงสถานการณ์ในปัจจุบันของฉินซี โจวเอ้อก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา

เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ทั้งยังเด็กและสะสวย กลับต้องมีครึ่งชีวิตที่ที่น่าหดหู่แบบนี้ ช่างน่าเศร้าจริงๆ

ลู่เซิ่นเห็นว่าเขารับปากแล้ว ในใจของลู่เซิ่นก็สงบลงไม่ใช่น้อย “โอเค นายให้โจวซิงปกป้องความปลอดภัยให้ฉินซีต่อไป ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับฉินซี เพราะอย่างนั้นจะต้องไม่เสี่ยง”

ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับฉินซีล่ะก็ เขาที่ยอมทำทุกอย่างในตอนนี้ ก็จะไม่มีความความหมายอะไรเลย

โจวเอ้อรู้ว่าฉินซีมีความสำคัญกับเขามากขนาดไหน เขาพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “วางใจเถอะ ตอนนี้ยังมีโจวซิงอยู่”

แม้ว่าโจวซิงจะดูเหมือนเด็กมาก ไม่ค่อยน่าเชื่อถือ แต่ว่าแท้ที่จริงแล้วเขาเป็นคนที่มีความรู้สึกรับผิดชอบสูงมาก

มิฉะนั้น โจวเอ้อก็คงไม่ให้มอบหน้าที่ที่มีความสำคัญขนาดนี้ให้เขาทำหรอก

“อืม”

“นายกลับไปเถอะ ผมยังมีเรื่องที่ต้องจัดการอีก ”

ลู่เซิ่นพยักหน้า และไม่ได้พูดอะไรออกมา

ในหัวของลู่เซิ่นตอนนี้นั้นเต็มไปด้วยฉินซี เขาไม่สามารถเฝ้าต้นไม้และรอกระต่ายได้อีกต่อไป

โจวเอ้อไม่ได้รบกวนเขาอีก พลางหันตัวช่วยเขาปิดประตูห้องสมุดและเดินออกไป

ปล่อยลู่เซิ่นนั่งที่ด้านหน้าโต๊ะทำงานไว้คนเดียว

เขาเปิดโทรศัพท์ และใส่รหัสผ่าน

นิ้วที่เรียวยาวกำลังเคาะบนแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว และส่งเสียงแหลมชัด

ลู่เซิ่นมองไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างตั้งใจ ในดวงตาสีดำเข้มได้เปล่งประกายแสงที่คลุมเครือออกมา

รหัสปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ทีละแถวทีละแถว หากคนที่เข้าใจเรื่องพวกนี้แค่มองไม่นานก็รู้แล้วว่าลู่เซิ่นกำลังถอดรหัสของโปรแกรมอยู่

ใช่แล้ว

ลู่เซิ่นกำลังจะเจาะเข้าระบบเครือข่ายของโรงพยาบาล

เขาต้องการหาแบบแปลนของโรงพยาบาล จากนั้นก็ตรวจสอบที่อยู่ห้องพักผู้ป่วยของฉินซี และหาวิธีที่สามารถแอบเข้าไปห้องฉินซีอยู่เพื่อเจอหน้าเธอ โดยที่ไม่โดนจ้านเซินจับได้

นิ้วมือที่เรียวเล็กของลู่เซิ่นได้หยุดชะงัก เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น “หาเจอแล้ว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท