Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1360

ตอนที่ 1360

บทที่ 1359 การแข่งขัน

โจวซิงไม่เข้าใจจริงๆ เหตุใดฉินซีถึงตอบตกลง

เธอไม่รู้ว่าที่นี่ต้องมีกับดักงั้นหรือ

โจวซิงสงสัยว่าสมองของฉินซีถูกทำลายหรือไม่ทำไมถึงคิดไม่ออก

ก่อนที่เขาจะพูดจบ ฉินซีก็ขัดจังหวะเขาอย่างเย็นชา “หมอโจว ฉันรู้ว่าคุณหวังดีต่อฉัน แต่ตอนนี้มีคนที่มีทักษะทางการแพทย์ที่ดีกว่าต่อหน้าฉัน ฉันก็อยากจะลองดูฉันหวังว่า หมอโจวเข้าใจได้ว่าในฐานะผู้ป่วยฉัน ก็อยากจะหายเร็วๆนี้ ”

แม้ว่าน้ำเสียงของฉินซีจะอ่อนโยน แต่ความเฉียบขาดในคำพูดกลับทำให้คนตกใจ

เธอมองตรงไปที่โจวซิง ด้วยความมุ่งมั่นอย่างชัดเจน

จ้านเซินเหลือบมองเธออย่างชื่นชม “ในเมื่อเป็นแบบนี้ เหยาจ้าวนายก็รีบเตรียมตัวและเริ่มโดยเร็วที่สุดเถอะ”

เขารู้สึกว่าหลังจากฉินซีตื่นขึ้นมาในครั้งนี้ แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงจะค่อนข้างมาก แต่การตัดสินใจและการกระทำ ทำให้เขารู้สึกมีความสุขมากขึ้น

เพียงแต่ไม่รู้ว่าฉินซีแสร้งทำเป็นหลอกเขาหรือเปล่า

เมื่อเห็นการตัดสินใจของเธอ โจวซิง จึงได้แต่ถอนหายใจอย่างเงียบๆ “เอาหล่ะ ผมเข้าใจแล้ว”

ในเมื่อเป็นการแสดงนั่นต้องเป็นกับดักที่แสดงอยู่ เขามองไปที่จ้านเซินอย่างไม่ยอมรับเล็กน้อย “คุณจ้านครับ ผมได้พูดทุกอย่างที่ควรจะพูดไปแล้ว ผมเตือนคุณและคุณฉินแล้ว ถ้าในระหว่างกระบวนการรักษานี้ มีข้อผิดพลาดอะไรเกิดขึ้น ทำให้คุณฉินตื่นขึ้นมาไม่ได้ อย่ามาโทษผมก็แล้วกัน”

ดูเหมือนโจวซิงจะโกรธและปัดความรับผิดชอบอย่างตรงไปตรงมา

หลังจากนั้นเขาก็เดินหันหลังจากไป

ที่โจวซิงรีบร้อนนั้นไม่ใช่เพราะความโกรธที่แท้จริง แต่เพื่อกลับไปหาทางรับมือกับลู่เซิ่น และโจวเอ้อให้เร็วที่สุด

เขาถอดเสื้อคลุมสีขาว และเดินไปที่ประตูโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว

เดิมทีโจวซิงต้องการใช้โอกาสการขัดแย้งครั้งนี้เพื่อออกไปหาลู่เซิ่นและคนอื่นๆโดยตรง แต่ทันทีที่เขาก้าวไปที่ประตู เขาก็ถูกขวางโดยการ์ดที่จ้านเซินนำมา

“พวกแกมาทำอะไรที่นี่?”

โจวซิงมองไปที่การ์ดชุดดำตรงหน้าด้วยใบหน้าเย็นชาสายตาไม่เป็นมิตรปรากฏในแววตาเขา

การ์ดชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “หมอโจว เจ้านายของเราสั่งมาว่า ห้ามใครเข้าหรือออกจากโรงพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต โปรดกลับไป”

เขากล่าวอย่างสุภาพ แต่กลับไม่มีความเคารพอยู่ในคำพูดของเขา

เช่นเดียวกับหุ่นยนต์ที่มีใบหน้าที่เย็นชาน้ำเสียงไม่มีขึ้นลงแม้แต่น้อย

โจวซิงไม่ได้โกรธแต่อย่างใด “เจ้านายของแกพยายามขังฉันหรือเปล่า”

เขาแสร้งทำเป็นโกรธและเตรียมจะเอะอะใหญ่โต

เมื่อการ์ดชุดดำเห็นว่าเขาโมโหแล้ว จึงเตรียมการป้องกันและเตรียมจะคว้าตัวเขาไว้ทันที

หนึ่งในนั้นก็พูดอีกครั้ง “หมอโจว นี่คือคำสั่งจากเบื้องบนพวกเราแค่ทำตามคำสั่ง ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจและอย่าทำให้เราที่อยู่ระดับล่างสุดลำบากเลย”

เห็นได้ชัดว่าคำพูดของเขาน่าฟังกว่าคนเมื่อครู่แต่โจวซิง ก็ยังไม่ชอบใจ

“เหอะ !”

โจวซิงตะคอกพร้อมกับความไม่พอใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

เขายืนอยู่ที่เดิมฝ่ามือใหญ่กำหมัดแน่น กัดฟันกรอดแล้วถามอีกครั้ง “พวกแกแน่ใจเหรอว่า จะไม่ให้ผมออกไป”

การ์ดชุดดำส่ายหน้า “ปล่อยคุณไปไม่ได้ เว้นแต่คุณจะได้รับอนุญาตจากเจ้านายของเรา เราจะปล่อยคุณออกไปทันทีมิฉะนั้นใครก็ไปไม่ได้ทั้งนั้น”

เขากัดไม่ปล่อยทำให้โจวซิงไม่มีทางเลือก

เขาหยั่งเชิงแล้วว่าเขาไม่สามารถเอาชนะบอดี้การ์ดทั้งสองได้ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่หันกลับมาด้วยความโกรธและจากไป

เมื่อโจวซิงจากไปเขาก็ไม่ลืมที่จะพูดอย่างเป็นปฏิปักษ์ “ได้! ผมจำนายสองคนได้แล้ว นายสองคนรอฉันก่อนเถอะ รอฉันเข้ามาในองค์กรเราจะได้เห็นดีกันแน่”

หลังจากพูดจบเขาก็สะบัดแขนเสื้อออกด้วยความโกรธ

อย่างไรก็ตามในขณะที่โจวซิงหันกลับมาสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที

เดิมทีโจวซิงยังคงท่าทีโกรธเต็มที่แต่ทันใดนั้นเขาก็สงบลง

ความจริงแล้วโจวซิงไม่ได้มีความหวังมากนัก เขารู้ดีว่าด้วยนิสัยของจ้านเซินมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะออกไปง่ายๆ หลังจากที่เข้ามาแล้ว

นี่เป็นเพียงการลองพยายามดูสักครั้ง

ถ้าออกไปได้ก็จะดีที่สุด แต่ถ้าไม่ได้โจวซิงก็ไม่ได้ผิดหวังตลอดทางเขาแสร้งทำเป็นโกรธและเดินกลับไปที่ออฟฟิศอย่างรวดเร็ว

“ปัง!”

โจวซิงกระแทกประตูห้องอย่างแรงใบหน้าของเขาบูดบึ้งเหมือนใครติดหนี้ก้อนโต

จากนั้นบอดี้การ์ดที่ซ่อนตัวในความมืดก็ได้ยินเสียงทุบข้าวของดังมาจากห้องทำงานของโจวซิง

“โครม!”

แจกันตกลงที่พื้นพร้อมกับเสียงชัดเจนและทันใดนั้นก็แตก

“ผัวะ!”

ทันทีที่เสียงดังขึ้นโจวซิงก็เปล่งเสียงไปด้วยเพราะเขาแอบโทรหาลู่เซิ่น

ตั้งแต่ครั้งที่แล้วเพื่อที่จะสามารถติดต่อลู่เซิ่นได้โดยตรงเขาจึงขอช่องทางการติดต่อกับโจวเอ้อ

“แย่แล้ว จ้านเซินพาหมอคนใหม่มาเพื่อตรวจฉินซี”

เขาพูดตรงไปตรงมาไม่กล้าเสียเวลา

ตอนนี้เหยาจ้าวและฉินซีกำลังอยู่ในห้องผู้ป่วยยิ่งเวลาผ่านไปเท่าใดก็จะยิ่งอันตรายมากเท่านั้น

“อะไรนะ”

อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ใบหน้าของลู่เซิ่นแปลกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด

เขาลุกขึ้นยืนทันที ดวงตาสีเข้มของเขาฉายแววอันตราย

โจวซิงรีบพูดต่อทันที “จ้านเซินบอกว่าจะให้หมอคนใหม่นั่นตรวจฉินซีอีกครั้ง ผมคัดค้านหัวชนฝาแล้วแต่ดูเหมือนว่าฉินซีจะถูกครอบงำและเห็นด้วยจริงๆ เธอไม่ฟังเลยแม้ว่าผมขยิบตาให้เธอ ผมก็ไม่มีทางเลือกแล้ว ถ้าหมอสกุลเหยาพบอะไรบางอย่างในครั้งนี้ เรื่องระหว่างพวกคุณจะปิดไม่ไว้ไม่อยู่แล้วจริงๆ ”

ขณะที่เขาพูดเขาหยิบแก้วน้ำบนโต๊ะขึ้นมาและเขวี้ยงลงบนพื้นอย่างแรง

โจวซิงจงใจส่งเสียงดังเพื่อให้บอดี้การ์ดที่ซ่อนตัวอยู่ข้างนอกคิดว่าหลังจากทะเลาะกับจ้านเซินเขาอยากจะออกไปข้างนอก แต่ไปไม่ได้และกำลังอารมณ์เสีย

อันที่จริง มันคือการปกปิดการโทรศัพท์ระหว่างเขากับลู่เซิ่น

“ผมรู้แล้ว”

หน้าอกของลู่เซิ่นกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง ความประหลาดใจบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาค่อยๆหายไปแทนที่ด้วยความโกรธที่ไร้ขีดจำกัด

แน่นอนว่าเขารู้ว่าจ้านเซินจะไม่มีวันปล่อยฉินซีไปง่ายๆ

คนเลือดเย็นอย่างมันจะไปเข้าใจการรักใครสักคนได้ยังไง

ปากมันบอกว่าชอบฉินซี แต่ความจริงกลับไล่ตอนฉินซีไปสู่ทางตันมาตั้งแต่ต้นจนจบ จ้านเซินสนใจแต่ตัวเองเท่านั้นไม่สนความรู้สึกของคนอื่นเลยเขาไม่สนสักนิดว่าฉินซีจะเป็นหรือตาย

เมื่อเห็นท่าทางเขาไม่รีบร้อนโจวซิงจึงคิดว่าเขามีแผนการรับมือ

เขาสังเกตรอบตัวอย่างถี่ถ้วนและถามด้วยความประหลาดใจ “คุณพร้อมที่จะช่วยฉินซีหรือยัง”

ในสถานการณ์เช่นนี้ใครจะรู้ว่าความคิดจ้านเซินที่จะเกิดขึ้นในนาทีถัดไปจะเป็นการดีกว่าหากจะหาวิธีช่วยเหลือฉินซีก่อน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท