Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1370

ตอนที่ 1370

มีหลายครั้งที่ถังย่าเกือบเสียชีวิต แต่ในช่วงเวลาที่คับขันทำให้เธอคิดถึงจ้านเซิน คิดถึงคำพูดประโยคนั้นของเขาที่บอกว่าจงทำภารกิจให้สำเร็จ ถังย่าก็มีแรงฮึดสู้ขึ้นอีกครั้ง

เธอสู้จนรอดตาย เพื่อให้ได้มาซึ่งคำชื่นชมจากเขา

ความรักที่ไม่หวังผลของถังย่า เดิมทีคิดว่าจะดำเนินการไปแบบนี้เรื่อยๆ โดยไม่แปรผัน

จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอพบว่าท่าทีที่จ้านเซินมีต่อฉินซีมีความผิดปกติ

ถังย่าเคยชอบคนๆหนึ่ง เธอรู้ดีว่าการชอบคนคนหนึ่งนั้นมีลักษณะอย่างไร

แต่จ้านเซินไม่รู้ เพราะฉะนั้นเขารู้สึกอย่างไร้เดียงสาว่า ระหว่างฉินซีกับตัวเองนั้นเป็นเรื่องปกติ

เมื่อตระหนักได้ว่าจ้านเซินชอบฉินซี คืนนั้น ถังย่าเกิดการระเบิดขึ้นเป็นครั้งแรก เธอทุบทำลายข้าวของที่อยู่ในห้องของเธอจนแตกละเอียด

ถังย่าไม่เคยหงุดหงิดเช่นนี้มาก่อน ในหัวของเธอมีแต่ภาพที่จ้านเซินอ่อนโยนปกป้องฉินซี ด้วยสายตาที่รักใคร่ เธออิจฉาจนแทบจะเป็นบ้า

ดังนั้น เมื่อเกิดเรื่องขึ้นกับฉินซี จนเธอลืมเรื่องราวทุกอย่าง

สิ่งแรกที่ถังย่านึกขึ้นได้คือการปล่อยฉินซีออกไป เพื่อที่จ้านเซินจะได้ไม่พบเจอกับเธออีก

และบังเอิญไปตรงกับสิ่งที่ฉินซีคิด เธอจึงได้เสนอกับจ้านเซิน ให้เขาปล่อยฉินซีออกไปจากองค์กร เพื่อไปผ่อนคลายสักระยะ

จ้านเซินเชื่อถังย่าสนิทใจ โดยไม่ระแคะระคาย หลังจากที่ได้ฟังคำเสนอของเธอแล้ว จึงได้ส่งฉินซีออกไป แต่ต้องมีการเฝ้าติดตามดูเธออยู่ตลอดเวลา

ถังย่ารู้ข้อนี้ดี เธออิจฉาในใจ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้

เธอรู้ดีว่าตัวเองนั้นไม่ควรแสดงออกชัดเจนเกินไป

แต่ถังย่าก็รู้สึกไม่พอใจ

ว่าทำไมคนที่จ้านเซินชอบนั้นไม่ใช่ตัวเอง เธอรู้จักกับจ้านเซินมาเป็นเวลานานกว่าเสียอีก

อีกทั้ง เพื่อจ้านเซินแล้วเธอยอมตายนับครั้งไม่ถ้วน ผิวหนังบนร่างกายของเธอเหลือเพียงแต่รอยแผลเป็น แม้แต่ชีวิตเธอก็สามารถยกให้จ้านเซินได้

แต่ทำไมจ้านเซินถึงไม่แม้แต่ชายตามอง เธอนั้นแย่ขนาดนั้นเลยหรือ

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ถังย่าก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดใจ

เธอหายใจเข้าลึกๆ และฝืนยิ้ม แต่ช่างเป็นรอยยิ้มที่อดสูเหลือเกิน

ถังย่าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ : “ค่ะ ฉันรับทราบแล้ว ฉันจะไปเฝ้าดูลู่เซิ่นเดี๋ยวนี้”

เธอพยายามทำให้ตัวเองดูปกติที่สุด

จ้านเซินส่งเสียงรับคำ : “ลำบากคุณแล้วนะ”

เป็นเพียงประโยคเบาๆแต่กลับทำให้หัวใจของถังย่าเต้นแรงอย่างกับระเบิด

“ไม่ลำบากเลย นี่เป็นสิ่งที่ฉันควรต้องทำอยู่แล้ว”

ถังย่าที่เดิมทีมีอาการเคืองจ้านเซินเล็กน้อย ที่ทำไมถึงมองไม่เห็นการมีตัวตนอยู่ของเธอ

เมื่อได้ยินประโยคนี้จากเขา ทำให้ตัวของเธอใจเย็นลงอีกครั้ง

เธอเข้าใจดี เธอถลำเข้าไปจนลึกมาก และไม่มีใครช่วยเธอกลับมาได้อีก

ถ้าหากจ้านเซินกล้ามาขอความช่วยเหลือจากเธอ ขอให้เธอไปเกลี้ยกล่อมฉินซีให้อยู่กับเขา ถังย่าก็จะไม่มีการปฏิเสธด้วยซ้ำ เธอขอแค่เพียงให้จ้านเซินมีความสุข แม้จะไม่ใช่กับตัวเองก็ตาม

“ตู๊ดๆๆๆ…..”

เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่ดังลอยมาจากฝั่งนั้น ถังย่าก็เก็บโทรศัพท์ทันที

เธอสวมเสื้อกันลมสีกาแฟ ใส่รองเท้าบูต และบนใบหน้ามีการสวมแว่นตาดำขนาดใหญ่ ลากด้วยกระเป๋าเดินทางสีเงิน ยืนอยู่ที่ประตูสนามบิน

รูปลักษณ์ที่โดดเด่น ดึงดูดสายตาของผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา

รูปร่างหน้าตาของถังย่านั้นดูดีมาก ความงามเธอนั้นแตกต่างกับฉินซี

ถ้าเปรียบฉินซีเป็นดอกบัวหิมะบนเทือกเขาที่เกิดแต่โคลนตม แต่ก็ไม่เปื้อนสกปรก

อย่างนั้นถังย่าก็เป็นนกฟีนิกซ์ที่เกิดใหม่จากเถ้าถ่าน งามจนร่ำลือ งามจนสะดุดตา แม้ว่าจะถูกห่อหุ้มอย่างแน่นหนา ก็ไม่อาจจะปกปิดรูปร่างสุดเซ็กซี่ของเธอได้

ถ้าไม่ใช่เพราะระบบที่โหดร้ายในองค์กร ละทิ้งความเป็นมนุษย์ บางทีถังย่าตอนนี้อาจเป็นคนงามหลากหลายอารมณ์คนหนึ่ง ตอนนี้เธอมีเพียงบรรยากาศอันเยือกเย็นที่ใช้ในการระงับเสน่ห์บนเรือนร่างอันน่าหลงใหลของเธอ

ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาต่างคาดเดาว่า นี่เป็นดาราคนใดกัน หรือว่าเป็นคุณหนูไฮโซแห่งสังคมชั้นสูง รอรถส่วนตัวมารับกลับบ้าน

มีคนไม่น้อยที่อยากจะจู่โจมเข้าไป แต่ก็ไม่กล้า

เพราะว่าถังย่านั้นสวยและมีออร่ามาก

ผู้ชายขี้ขลาดบางคนมองเเวบเดียวก็รู้ว่า คนอย่างถังย่าคือกุหลาบที่มีหนาม พวกเขาเอาไม่อยู่ และไม่มีวาสนาจะเชยชม

มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่คิดว่าตัวเองนั้นหน้าตาดีใช้ได้ ขับรถสปอร์ตลัมโบร์กินีมาจอดอยู่ตรงหน้าถังย่า

เขาถอดแว่นกันแดดสีเหลืองออก แล้วผิวปากมองมาทางถังย่า : “คนสวย ขึ้นรถสิ ให้พี่ไปส่งนะ”

ทุกๆวันชายหนุ่มมีนิสัยการอวดร่ำอวดรวยอวดหน้าตา เมื่อเจอกับถังย่า จึงห้ามใจที่กระปรี้กระเปร่าไว้ไม่ไหว ต้องการจะจีบเธอให้อยู่หมัด

ส่วนใหญ่ที่เขาเจอในแต่ละวันล้วนเป็นดอกไม้ที่ใสซื่อบอบบาง แม้จะงดงาม แต่ก็เหมือนๆกันหมด เมื่อกินอิ่มแล้ว ก็ไม่มีรสชาติใดๆอีก

ความงามแบบถังย่า โดดเด่นดูดีมีออร่า ผสมผสานเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเจอ

คนที่น่าหลงใหลเช่นนี้ ในเมื่อเขาได้พบแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะปล่อยไปอย่างง่ายๆ

ถังย่ายกแว่นดำลงแล้วสแกนดูเขา

แล้วมองท่าทางน่ารังเกียจของชายหนุ่ม ถังย่าแทบไม่อยากจะแยแสด้วยซ้ำ

เธอยกมือขึ้นเพื่อดูนาฬิกา แล้วก็ขมวดคิ้ว

เวลาเลยไปสิบห้านาทีแล้ว ผู้ช่วยของเขาทำไมยังมาไม่ถึงนะ

เมื่อชายคนนี้เห็นว่าถังย่าไม่สนใจ จึงพูดขึ้นอีกครั้ง : “คนสวย ผมกำลังพูดกับคุณอยู่นะ คุณไม่ได้ยินหรือไง”

น้ำเสียงของเขาดังขึ้น

ถังย่าเดิมทีก็เป็นที่สะดุดสายตา ตอนนี้ยังชายหนุ่มทายาทเศรษฐีขับลัมโบร์กินีมาจอดอยู่ตรงหน้า ก็ยิ่งเป็นที่ดึงดูดสายตาผู้คนมากขึ้น

พวกเขาอยากรู้ว่า ถังย่าจะขึ้นรถของเขาไปหรือเปล่า

ชายหนุ่มที่จ๊อกๆแจ๊กๆ ทำให้ถังย่ารู้สึกหงุดหงิด

บางทีในสายตาของคนปกติทั่วไป ชายหนุ่มทายาทเศรษฐีที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่เลวเลยทีเดียว แต่ว่าในสายตาของถังย่าที่มีชายงามรายล้อมอยู่มากมายนั้น แม้แต่การช่วยถือรองเท้าให้เขาก็ยังไม่คู่ควร

ถังย่าถอดแว่นดำออก เผยให้เห็นถึงดวงตาจิ้งจอกที่เฉียบคม ริมฝีปากแดง ถังย่าพูดขึ้นอย่างเย็นชา : “ไสหัวไป!”

แค่เพียงสามคำของเธอ ก็กระชับชัดเจน น้ำเสียงที่แสดงให้เห็นถึงความหงุดหงิด

เวลาที่ถังย่ายิ้มขึ้น ดวงตาจิ้งจอกคู่นี้ช่างดูน่ารัก แต่เมื่อไม่ยิ้มดูดุร้ายและเย็นเยียบถึงกระดูก

“โห่……”

ในขณะที่ถังย่าถอดแว่นตาของเธอ รอบๆก็มีเสียงดังขึ้นเป็นระยะๆ

งาม!

ช่างงดงามจริงๆ!

ไม่รู้ว่างามมาจากไหน ทำไมถึงได้งามบาดตาบาดใจเช่นนี้

ผู้คนต่างสงสัยว่าเป็นดาราที่รอการเดบิวต์อยู่ รูปร่างหน้าตาสวยงามมาก ถ้าได้เดบิวต์คงจะต้องดังไปทั่วแผ่นดิน

หรืออาจเป็นคุณหนูของไฮโซ ออร่าที่อยู่บนตัว ไม่ใช่ว่าใครๆก็จะมีได้

แต่ว่า…..

เสื้อผ้าบนตัวของถังย่าไม่เลวเลยทีเดียว เพียงแต่ดูไม่ออกว่าเป็นของแบรนด์อะไร

แต่ด้วยรูปร่างและออร่าของถังย่า ต่อให้คลุมด้วยกระสอบ ก็ดูดีกว่าคนปกติทั่วไปร้อยเท่า

คนธรรมดาทั่วไปย่อมดูไม่ออก เสื้อผ้าชุดที่ถังย่าสวมใส่เป็นงานออกแบบจากนักดีไซเนอร์ชื่อดังของต่างประเทศ งานชิ้นแรกของจอห์น เป็นงานสั่งตัดทั้งตัว ราคาแพงกว่ารถสปอร์ตของหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท