Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1391

ตอนที่ 1391

บทที่1391 เยี่ยมเยือน

ท่วงท่าที่ดูใกล้ชิดของฉินซีและจ้านเซิน ทำให้ใจของถังย่าเต็มไปด้วยความขมขื่น

แต่ในความเป็นจริง ฉินซีไม่ได้ตั้งใจที่จะดึงจ้านเซินเอาไว้

เมื่อกี้ตอนที่กำลังเดินอยู่ เธอไม่เห็นก้อนหินบนถนน ทำให้ไม่ทันระวังสะดุดมัน จ้านเซินก็แค่ยื่นมือมาช่วยอย่างเร็วเท่านั้น

ตั้งหลักได้แล้ว ฉินซีจึงหันไปมองจ้านเซิน “ขอบคุณ”

เธอพูดขอบคุณด้วยโทนเสียงต่ำ บนใบหน้ามีริ้วสีแดงจางๆด้วยความตกใจ

ท่าทางของฉินซีตอนนี้ มันดูทั้งน่ารักและน่าทะนุถนอม

“เฮ้อ”

จู่ๆฉินซีก็ถอนหายใจออกมา

ความรู้สึกหดหู่ที่ประเดประดังเข้ามา ทำให้จ้านเซินขมวดคิ้ว “มีอะไรเหรอ?”

ทำไมเมื่อกี้ฉินซียังดูร่าเริงอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับดูไม่มีความสุข มันทำให้เขาไม่เข้าใจ

ฉินซีส่ายหน้า ขบริมฝีปากล่าง ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไร้ซึ่งชีวิตชีวา “ฉันรู้สึกว่าตอนนี้ฉันยิ่งอยู่ยิ่งไม่มีประโยชน์ ขนาดเดินเฉยๆยังสะดุดล้ม เมื่อก่อนตอนปฏิบัติภารกิจฉันกล้าหาญมาก ไม่รู้ว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น หรือเป็นเพราะอาการป่วยของฉันเหรอ หรือเพราะว่าฉันอยู่แต่ในห้องนานเกินไป การตอบสนองของเส้นประสาทเลยเสื่อมไปแบบนี้”

เธอพยายามพูดชักจูง ฉินซีหวังว่าจ้านเซินจะตระหนักถึงจุดนี้ และไม่ให้เธออยู่ในห้องพักฟื้นทั้งวัน ถ้าเป็นแบบนั้นจะทำให้เธอมีโอกาสหนีได้มากขึ้น

ไม่รู้ว่าจ้านเซินฟังเข้าใจหรือไม่ เขาได้ยินแต่ทำเพียงแค่ตอบกลับด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ตอนนี้เธอออยู่ระหว่างการพักฟื้นร่างกาย การเคลื่อนไหวจะไม่เหมือนเมื่อก่อนก็เป็นเรื่องปกติ รอให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเอง บวกกับฝึกซ้อมเพิ่ม สิ่งเหล่านั้นในอดีตก็จะคืนสู่สภาพเดิมเอง ไม่ต้องกังวลไป”

จ้านเซินตอบคำถามด้วยความตั้งใจ แต่สิ่งที่เขาพูดมาทั้งหมด ไม่มีสักคำที่ฉินซีต้องการได้ยิน

ฟังจากสิ่งที่จ้านเซินพูดในตอนนี้ ฉินซีสามารถเข้าใจได้ชัดเจนเลยว่า จ้านเซินไม่มีความคิดที่จะปล่อยเธอไป

เขายังคงมีแผน ว่าถ้ารอให้เธอหายดีเมื่อไหร่ จะพาเธอกลับไปทำงานให้องค์กรเหมือนเดิม

ทว่า เธอเบื่อหน่ายชีวิตแบบนั้นเต็มทน

อยากให้เธอกลับไป เว้นเสียแต่เธอจะตายเท่านั้น

ความคิดของเธอ ฉินซีไม่กล้าให้จ้านเซินรู้ แค่คิดว่าวันนี้ตอนกลางคืนลู่เซิ่นจะมาช่วยพาออกไปจากที่นี่แล้ว ในใจของฉินซีเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

เธอรีบก้มหน้าลง เพื่อซ่อนประกายในดวงตาไว้ และพูดด้วยเสียงนุ่มนวล “อืม ที่นายพูดมันก็ถูก ฉันใจร้อนไป คิดมากไปหน่อย”

ฉินซีพยายามปล่อยตัวเองให้ไหลไปตามความคิดของจ้านเซิน เธอไม่ขัดเขา

ก็แค่ในเวลานี้

ทันใดนั้น ด้านหลังก็มีเสียงดังขึ้น “ฉินซี”

ทำไมเสียงถึงได้คุ้นเคยแบบนี้ ฉินซีเงยหน้าขึ้น สบเข้ากับดวงตาที่ลึกล้ำของถังย่า

แววตาประหลาดใจปรากฏขึ้นในดวงตาของฉินซี “ถังย่า เธอกลับมาแล้ว”

เธอปล่อยมือจากจ้านเซิน และรีบเดินไปหาถังย่า

เสียงของฉินซีเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความดีใจ

จริงๆ ถ้าไม่มีองค์กร เธอกับถังย่าก็สามารถกลายเป็นเพื่อนที่ดีมากๆต่อกันได้

แต่ตอนนี้มันกลับเป็นได้เพียงแค่ความสัมพันธ์ธรรมดาทั่วไป

จำกัดอิสระของพวกเธอ แถมยังจำกัดความรู้สึกของพวกเธออีก

ถังย่ายืนอยู่ที่เดิม แววตาไร้ความรู้สึกมองตรงมายังเธอ “อืม”

น้ำเสียงของเธอไม่ได้เย็นชาทว่าไม่ได้รู้สึกถึงความอบอุ่น แววตาล้ำลึกที่มีความหมายบางอย่างมองมายังฉินซี

ดวงตาคมปลาบที่จ้องมา มันทำให้ฉินซีรู้สึกอึดอัด

เธอคิดว่าวันนี้ถังย่ามีท่าทีแปลกไป แต่เธอไม่สามารถบอกได้ว่ามันแปลกตรงไหน

เมื่อตอนอยู่ในองค์กรแรกๆ อุปนิสัยของถังย่านั้นเผด็จการ ชอบเอาชนะ และไม่ยอมแพ้ใคร

ทุกคนในองค์กรบอกเป็นเสียงเดียวกัน ว่าถังย่าถอดแบบมาจากจ้านเซิน เหมือนเป็นจ้านเซินในร่างผู้หญิง

ในสายตาของฉินซีก็คิดแบบเดียวกัน

ดังนั้นเมื่อถังย่าใช้สายตาแบบนี้มองมาที่ตัวเอง มันทำให้ฉินซีรู้สึกขนลุก

ฉินซีกดความรู้สึกไม่ปลอดภัยไว้ในใจ ก่อนจะฝืนใจส่งยิ้มไปให้ “ถังย่า เธอเป็นอะไรไป?”

เธอเดินไปข้างหน้า ก่อนจะจับมือของถังย่าไว้ และถามด้วยความเป็นห่วง

ฉินซีและถังย่าเติบโตมาด้วยกันในองค์กร ถึงแม้จะจากออกจากองค์กร เธอก็ยังคงหวังที่จะรักษาความสัมพันธ์กับถังย่าต่อไป

ถังย่ามองเธอที่ก้าวเขามา และจับมือเองขึ้นไว้อยู่

เธอขมวดคิ้ว ในใจคิดอยากจะสะบัดมือออกมาจากฉินซี

แต่เมื่อคิดว่าจ้านเซินยังยืนอยู่ตรงนี้ เธอก็ยังคงไว้หน้าฉินซี “ไม่มีอะไร เธอเป็นยังไงบ้าง? มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?”

ถังย่าปล่อยเรื่องขุ่นมัวในจิตใจชั่วขณะ ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

“อย่าห่วงเลย ฉันดีขึ้นมากแล้ว แค่เธอมาเยี่ยม ฉันก็ดีใจมากแล้ว”

ฉินซีที่ใกล้จะอึดอัดตายภายในห้องสี่เหลี่ยม เมื่อเห็นถังย่า เธอก็มีความสุขมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

แต่ ฉินซีก็ยังไม่รู้ ว่าถังย่ารู้เรื่องที่พวกเขาจะหลบหนีคืนนี้แล้ว

ฉินซีที่คิดขึ้นมาได้เรื่องที่ถังย่าเพิ่งถูกตำรวจนำตัวไป เธอถามด้วยความเป็นห่วงว่า “ถังย่า เธอไปทำผิดอะไรมา ทำไมจู่ๆตำรวจถึงมาหา?”

เธอรู้ว่าฝีมือของถังย่านั้นเก่งมาก เรื่องธรรมดาไม่สามารถนำปัญหามาให้เธอได้แน่ แต่ทำไมครั้งนี้ถึงสะเพร่าจนถูกตำรวจจับ

“ไม่ได้ทำอะไรผิด ฉันก็แค่ไปสั่งสอนอันธพาลตัวเหม็นไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำที่สนามบินนิดหน่อย”

ถังย่าเหยียดริมฝีปากสีแดงสดขึ้น พูดด้วยความรังเกียจ

เมื่อนึกถึงพวกลูกคนรวยที่เย่อหยิ่งพวกนั้น ภายในใจของถังย่าก็รู้สึกสะอิดสะเอียนขึ้นมา

ฉินซีมองไปยังสีหน้าที่แสดงออกมาของเธอ รอยยิ้มเล็กๆปรากฏบนใบหน้าสวยบอบบาง

เธอคาดเดาได้เลยว่าชายที่มายั่วยุถังย่าคนนั้นจะตายได้น่าเวทนาแค่ไหน

ฉินซีเคยเจอเรื่องแบบนี้ครั้งหนึ่ง เมื่อเทียบนิสัยเธอกับความโหดร้ายของถังย่า เธอจะอ่อนโยนกว่า และจะไม่ใช่วิธีการที่มันโจ่งแจ้ง

แต่ฉินซีก็ไม่ใช่เป็นคนที่จะมายั่วได้ง่ายๆ เธอไม่ลงมือต่อหน้า ไม่ได้หมายความว่าเธอจะรักษาหน้าทุกฝ่ายเป็นการส่วนตัว

โดยปกติแล้วฉินซีจะหลอกล่อคนเหล่านั้นให้จนมุม และสั่งสอนพวกเขาอย่างโหดเหี้ยมในที่ที่ไม่มีใครมองเห็น ทำให้พวกมันกลัวจนฉี่ราด

สิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะประหยัดทั้งแรงและเวลา และยังได้แก้แค้นแบบรุนแรงด้วย

จ้านเซินที่ฟังอยู่ข้างหลังขมวดคิ้วเมื่อได้ฟัง

ตอนที่ไปโรงพักเพื่อประกันตัวถังย่าออกมา จ้านเซินไม่ได้ถามอะไรมาก

เป็นเพราะเหตุผลนี้

จ้านเซินไม่กังวลว่าถังย่าจะถูกเอาเปรียบ ถึงอย่างไรฝีมือของถังย่า ก็มีไม่กี่คนที่จะสามารถต่อสู้บเธอได้

“สั่งสอนได้ดี ไอบ้านั้นมันกวนตีนนี่”

ฉินซีปรบมือ ก่อนยื่นมือออกไปกดไลค์ชมเชยเธอ

ซิวหน่ายซิงยืนฟังเงียบๆอยู่ข้างหลัง อย่างรู้สึกเอือมระอา

เขาอยากรู้ว่า ทำไมผู้หญิงสมัยนี้ถึงใช้ความรุนแรงนัก หรือแค่ผู้หญิงข้างกายเขาเท่านั้นที่เป็นแบบนี้ ส่วนผู้หญิงคนอื่นนั้นอ่อนโยน

เพียงแต่ ถังย่ากับฉินซีประสบพบเจอกับเรื่องแบบนี้ เป็นเพราะว่าพวกเธอหน้าตาสวยงดงาม มีแค่ผีเสื้อบางประเภทเท่านั้นที่คิดว่าตัวเองเก่งกาจ สามารถจับพวกเธอได้ พวกนั้นไม่รู้ชะตาของตัวเอง และอยากลองเสี่ยงโชคดู

ผลก็คือหัวแตกเลือดโชก หนีหัวซุกหัวซุนหางจุกตูดไป

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท