Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1398

ตอนที่ 1398

บทที่ 1398 พ่ายแพ้

โจวซิงคิดอย่างหวาดกลัวในภายหลัง แรงของถังย่าเมื่อตะกี้ ถ้าหากเขาล้มลงไปจริง ใบหน้าบวมช้ำแน่นอน แถมฟันหน้าสองซี่คงหลุดอีก

แม้ว่าเขาจะหลบได้ แต่ข้อศอกของเขาก็แตกเพราะกระแทกพื้น

ถังย่ามองลงไปที่เขา ตาสวยเต็มไปด้วยแววตาหยิ่งยโส “ฝีมือแค่นี้ จะมาแย่งอะไรจากมือฉันไปได้ ไสหัวกลับไปฝึกฝนมาใหม่เถอะ”

เธอไม่ได้ห่วงว่าโจวซิงจะโกรธสักนิด ที่นี่ ใครมีพละกำลังมากที่สุด คือพระราชา

บนโลกใบนี้ มีทั้งคนอ่อนแอและเข้มแข็ง คนอ่อนแอเท่านั้นที่จะต้องถูกรังแก ดังนั้นเธอจะไม่ปล่อยให้ตัวเองเป็นคนอ่อนแอ

คำพูดของถังย่าบาดเข้าไปในใจของโจวซิง

โจวซิงใช้ช่องโหว่ตอนถังย่าเผลอจะชกเธอ ถังย่าเห็นว่าเขายังไม่ยอมแพ้ จึงเตะเข้าไปที่ท้องของเขา

“ปัง”

โจวซิงล้มลงกับพื้นอย่างแรง ทำให้โต๊ะและเก้าอี้ด้านข้างล้มลง

เขารู้สึกได้ทันทีราวกับว่าร่างกายของเขาถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ อวัยวะภายในร่างกายเขาปวดร้าว

โจวซิงกำหน้าอกของ ก่อนไอออกมาอย่างรุนแรง “แค่กแค่กแค่ก… …”

เลือดสีแดงไหลออกมาจากมุมปาก นัยน์ตาพร่ามัว

ถังย่าเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา และเปิดข้อความ

– เปลี่ยนแผน ไม่ต้องลงมือ

เมื่อถังย่าเห็นข้อความที่โจวซิงจะส่งให้ลู่เซิ่น ดวงตาดอกท้อทอประกายอันตราย

โชคดีที่ถังย่าลงมือทันเวลา โจวซิงยังไม่ส่งข้อความออกไป

ถังย่าลบข้อความที่ยังแก้ไขไม่เสร็จทันที และเดินไปหาโจวซิงที่กำลังนอนอยู่บนพื้นด้วยก้าวย่างที่สง่างาม

ฝีเท้าของเธอเบามาก แต่ทุกทุกย่างเท้าของเธอกลับเหยียบย่ำส่วนลึกของหัวใจของโจวซิง

โจวซิงมองเธอที่ก้าวเข้ามาหา ตึงเครียดภายในใจ

เขาไม่คาดคิดว่า ผู้หญิงอย่างถังย่าจะฝีมือดีขนาดนี้ เขาประมาทเกินไป

ถังย่าย่อตัวลงมองเขาด้วยความโกรธ เธอกรีดริมฝีปากเป็นรอยยิ้มลึก “เป็นอะไรไป? ไม่ยอม?”

เธออมยิ้มมองโจวซิงด้วยใบหน้าที่งดงาม

ใครจะไปคิด ผู้หญิงที่สวยงามเช่นเธอจะโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้

จริงๆแล้วโจวซิงไม่เต็มใจ “ถ้าหากคุณไม่ฉกฉวยโอกาส คุณคิดเหรอว่าผมจะแพ้!”

ถ้าเริ่มแรกเขารู้ว่าถังย่าจะแข็งแกร่งขนาดนี้ ก็คงจะงัดฝีมือทั้งหมดออกมาใช้แน่นอน

ถังย่ามองเขาอย่างโกรธเคือง ริมฝีปากสีแดงยกขึ้น “แกด้อยฝีมือเอง อย่ามาโทษฉัน ฉันยังไม่ได้โจมตีแกเลย แต่แกเมื่อกี้ต่างหากที่ฉวยโอกาสลงมือก่อน ฉันยังไม่คิดบัญชีเลยนะ”

การปัดความรับผิดชอบของโจวซิงแบบนี้ มันทำให้ถังย่ายิ่งดูถูก

ระดับอย่างโจวซิง ถ้ามาอีกสามหรือสี่คน ก็ยังไม่ใช่คู่ปะฝีมือของเธอ แพ้ก็คือแพ้ จะมาอวดฝีมืออะไรที่นี่

“คุณ!”

โจวซิงเก่งในเรื่องวิชาด้านการแพทย์ ถึงแม้ร่างกายจะผ่านการฝึกฝน แต่เขาก็สามารถรับมือได้แค่คนทั่วไป เป็นธรรมดาที่จะเทียบไม่ได้กับถังย่าที่ได้รับการฝึกฝนมาให้เป็น “อาวุธ” ขององค์กร

มันเป็นเรื่องแน่นอนที่เขาแพ้ แต่เพราะโจวซิงต้องมาแพ้ให้กับผู้หญิง ดังนั้นเขาจึงรู้สึกเสียหน้า

ถังย่าขี้เกียจที่จะพูดเรื่องไร้สาระกับเขา “โอเค มัดเขาไว้”

เธอลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว พูดแผ่วเบา

สองคนหน้าประตูทันใดก็กรูกันเข้ามาในห้อง มัดตัวโจวซิงที่นอนอยู่บนพื้น

โจวซิงหน้าถอดสี ก่อนถามด้วยน้ำเสียงดุเดือด “พวกคุณคิดจะทำอะไร”

เขารู้ว่าตัวเองถูกจับได้แล้ว แต่เขาไม่รู้ว่าจ้านเซินจะรู้การเคลื่อนไหวของลู่เซิ่นหรือยัง

ถ้าหากไม่รู้ บางทีคืนนี้ลู่เซิ่นอาจจะรีบมาช่วยเขาและฉินซีออกไป

ถ้าวางกับดักไว้ ก็จบแล้ว

“นี่ไม่ใช่สิ่งที่ควรถาม”

ถังย่าเหลือบมองเขา ขี้เกียจจะสนใจเขา

เธอมองโจวซิงที่ถูกปิดปากโดนนำตัวออกไปอย่างเย็นชา

ทันทีที่โจวซิงออกมา เขาก็หันไปเห็นจ้านเซินที่พิงกำแพงสูบบุหรี่อยู่

หน้าตาหล่อเหลาราวกับรูปสลัก แต่กลับเย็นชาจนทำให้ใจสั่นด้วยความกลัว

จ้านเซินรู้ว่าถังย่าเก่งแค่ไหน เขาขี้เกียจจะลงมือกับคนอ่อนแออย่างโจวซิง

ท่าทางเย่อหยิ่งเช่นนี้ ทำให้โจวซิงโมโหสุดๆ

โจวซิงเกลียดตัวเองที่ทำได้แค่มองจ้านเซินทำเรื่องชั่วๆ แต่ไม่สามารถช่วยอะไรได้

“อื้ออื้ออื้อ! จ้านเซิน แก… …”

ปากของโจวซิงถูกอุดด้วยผ้า เขาทำได้เพียงแค่ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความโกรธ

จ้านเซินเงยหน้าขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงร้อง

เขามองดูโจวซิง ที่ถูกจับตัวไปข้างหน้า ด้วยสายตาว่างเปล่า

ถังย่าเดินตามออกมาช้าๆ มองไปทางจ้านเซิน “จัดการเรียบร้อย”

เธอสั่นโทรศัพท์ในมือ นี่คือของที่ระลึกที่ยึดมาจากโจวซิง

จ้านเซินดับก้นบุหรี่ที่อยู่ในมือ เดินไปข้างเธอ ก่อนจะนำโทรศัพท์มา

เขาพูดเสียงต่ำ “ไป ไปสอบสวนโจวซิง”

แม้ว่าถังย่าจะติดตั้งเครื่องดักฟังในที่ที่ลู่เซิ่นอยู่ แต่เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ลู่เซิ่นจับได้ เธอเพียงแค่ติดตั้งไว้ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น

เมื่อลู่เซิ่นออกจากห้องนั่งเล่น ก็ไม่ได้ยินอะไรเลย

ลู่เซิ่นก็เป็นคนที่ระมัดระวังในระดับหนึ่ง ในสถานการณ์ทั่วไป เขาจะพูดคุยแผนการกับโจวเอ้อในห้องทำงาน

ดังนั้นถังย่าและจ้านเซินรู้แค่ว่า ลู่เซิ่นจะลงมือในคืนนี้ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าลู่เซิ่นจะทำอะไร

จ้านเซินต้องการแผนทั้งหมดจากโจวซิง เพื่อที่เขาจะได้เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่

แต่เห็นได้ชัดว่าโจวซิงไม่ยอมปริปากพูดแน่

เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของจ้านเซิน โจวซิงยิ้ม

เขาแสดงให้จ้านเซินเห็นว่าต้องการเอาสิ่งของที่อยู่ในปากตัวเองออก

จ้านเซินส่งสัญญาณให้ถังย่า ถังย่าก้าวไปข้างหน้าและเอาเศษผ้าที่อุดอยู่ในปากโจวซิงออก

“พูดมา”

จ้านเซินมองเขาอย่างเย็นชา

“ถุย ถุย”

โจวซิงมีนิสัยรักสะอาด เขาถุยออกมาด้วยความรังเกียจ

จ้านเซินยืนมองดูท่าทางเขาอยู่ตรงหน้า ไม่ได้พูดเร่งรัด

ยิ่งในช่วงเวลาแบบนี้ ใครยิ่งร้อนใจ คนนั้นยิ่งแพ้

โจวซิงต้องการรอให้จ้านเซินพูดก่อน แต่ใครจะรู้ว่าเขาจะข่มอารมณ์ไว้ได้ขนาดนี้ “คุณคิดว่าผมจะบอกคุณไหม?”

เขาอดไม่ได้ที่จะแย่งพูดก่อน และมองไปที่ดวงตาของจ้านเซินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเหน็บแนม

โจวซิงพูดด้วยเสียงเย็นชา “จ้านเซิน คุณคิดว่าผมโง่เหรอ! ผมจะบอกอะไรให้นะ อย่าคิดว่าจะมีใครรอดออกไปจากที่นี่ได้”

มือของเขาที่อยู่ข้างหลังแอบแกะเชือก

ทันทีที่โจวซิงถูกนำมาที่นี่ เขาก็สังเกตสภาพโดยรอบ

ห้องดำเล็กๆ นี่ไม่มีหน้าต่าง ถ้าอยากออกไป ต้องทะลวงไปทางด้านหน้าเท่านั้น

ตอนนี้ประตูเปิดอยู่ ถ้ามันถูกล็อคจากด้านนอก ในมือของโจวซิงไม่มีเครื่องมือใด คิดออกไปก็ยาก

ดังนั้น โจวซิงจึงเตรียมจะฉวยโอกาสตอนนี้ ให้จ้านเซินและถังย่าผ่อนคลายการระวังตัวลง หลังจากนั้นจะหาโอกาสหนี

ดูเหมือนว่าจ้านเซินจะมองแผนเขาทะลุปรุโปร่ง “ใส่กุญแจมือเขาบนเชือกที่มัดไว้ที่มือ”

เมื่อเขาสั่ง บอดี้การ์ดก็รีบนำกุญแจมือมาล็อคแขนและขาเขาอย่างแน่นหนา

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท