Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1400

ตอนที่ 1400

บทที่1400 ลักลอบเข้าไป

ถังย่าพูดเสียงอ่อนโยน พลางช่วยฉินซีทายา

เมื่อเนื้อครีมยาสีขาวนวลถูกป้ายลงบนแผล เธอรู้สึกแสบร้อนหน่อยๆ ก่อนจะกลายเป็นความรู้สึกเย็นสบายทีหลัง

ความเจ็บปวดเพียงเล็กน้อยเพียงแค่นี้ไม่ทำให้ฉินซีผู้ซึ่งมีประสบการณ์การฝึกฝนมาหลายปีรู้สึกอะไรได้

“ไม่เป็นไร”

ฉินซีพูดอย่างสับสนวุ่นวายใจ

… …

ด้านนอกโรงพยาบาล.

ลู่เซิ่นและโจวเอ้อกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมแผนสำหรับคืนนี้

พวกเขายังไม่เจอเครื่องดักฟังที่ถังย่าทิ้งเอาไว้

ความมืดค่อยๆโรยตัวลงมา

ภายใต้สีท้องฟ้าที่ปกคลุม ในวันอังคาร ลู่เซิ่นและโจวเอ้อมาถึงด้านนอกของโรงพยาบาล

เมื่อนึกไปถึงแผนการปฏิบัติต่อไป โจวเอ้อหันไปมองลู่เซิ่นอย่างกังวล “ไม่ว่าจะหาฉินซีเจอหรือไม่ ต้องออกมาภายในหนึ่งชั่วโมง รอให้ออกมาแล้วพวกเราค่อยคิดหาแผนการอื่น เข้าไปครั้งนี้ก็เพียงเพื่อที่จะได้คลำสถานการณ์ภายในให้ชัดเจน ว่าเหมือนกับที่เราคิดไว้หรือเปล่า เพื่อที่จะลักลอบเข้าไปวางรากฐานครั้งหน้า”

โจวเอ้อกำชับอย่างไม่วางใจ เขากลัวว่าลู่เซิ่นเมื่อเข้าไปแล้วจะเสียสติ จะไม่หยุดหาถ้าไม่เจอฉินซี

ลู่เซิ่นสบตากับเขา พลางพยักหน้า “วางใจเถอะ ฉันรู้ว่าจะต้องทำยังไง นายคอยคุ้มกันอยู่ข้างนอก ถ้าหากเจออะไรผิดปกติ ก็รีบส่งสัญญาณหาฉัน จะได้หนีทันเวลา”

จ้านเซินไม่เพียงแต่จะมีแค่บอดี้การ์ดด้านใน ด้านนอกยังมีหูมีตาเป็นคนทั้งฝูง

ถึงแม้โจวเอ้อจะอยู่ด้านนอก แต่ก็ไม่อาจจะคลายความกังวลได้หมด

“โอเค”

โจวเอ้อพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม

เขามองตามหลังลู่เซิ่นที่เดินเข้าไปในอุโมงค์อย่างไม่สบายใจ

โจวเอ้อเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิด คืนนี้ไม่มีดาวสักดวง ดวงจันทร์ก็ซ่อนเร้นอยู่ในเมฆสีดำ

ไม่รู้ทำไม เขารู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่าง

ในเวลาเดียวกัน

ฉินซีที่อยู่ภายในห้องพักฟื้นก็กังวลมากเช่นกัน

จ้านเซินและถังย่าเตรียมอาหารเย็นแบบจัดเต็มให้เธอ แต่เธอไม่ได้กินเลย

เธออยู่ในห้องอย่างกระสับกระส่าย จ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง

จ้านเซินรู้สึกตัวตรงจุดนี้อย่างฉลาด และมองสบตาถังย่า

ถังย่าก้าวออกไปด้านหน้า “ฉินซี เมื่อกี้ฉันเพิ่งได้รับแจ้งมาว่าหมอเหยากลับมาแล้ว ตอนนี้กำลังรอเธอไปตรวจอยู่ที่ห้องกายภาพบำบัด เธอไปกับฉันเถอะ”

เธอไม่สนว่าฉินซีจะเชื่อหรือไม่ ก้าวไปข้างหน้าและจับแขนฉินซีให้เดินออกไป

ความหมายของการบีบบังคับมันชัดเจน ใจฉินซีสับสนวุ่นวาย

เธอฝืนยิ้มส่งไป “ดึกขนาดนี้แล้ว ยังจะมาตรวจอะไรอีก พรุ่งนี้ไม่ได้เหรอ?”

ฉินซีเหลือบมองนาฬิกาบนผนัง ตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

ตามแผนของพวกเขา ลู่เซิ่นใกล้จะมาถึงแล้วในไม่ช้า

ถ้าเธอออกไปในเวลาแบบนี้ ลู่เซิ่นหาเธอไม่เจอแน่

เธอไปไม่ได้แน่นอน แต่ทั้งถังย่าและจ้านเซินต่างก็อยู่ที่นี่ ถ้าหากลู่เซิ่นมาแล้ว ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสองคนนี้อยู่ดี

ฉินซีร้อนรนใจ ทว่าใบหน้ากลับไม่แสดงร่องรอยอะไรสักเล็กน้อย

ถังย่าก้มลง ใบหน้าเคร่งขรึมมองตรงไปยังเธอ “พรุ่งนี้พวกเราจะเรียนกลับองค์กร คืนนี้หมอเหยาจะให้เธฮตรวจร่างกายเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าหากร่างกายเธอมันอนุญาต พรุ่งนี้เราจะออกไปทันที”

จ้านเซินจริงๆแล้วไม่ได้คิดจะออกไปเร็วอย่างนี้ ครั้งนี้สาเหตุเป็นเพราะลู่เซิ่น

ถังย่าพูดแบบนี้ ก็เพื่อที่จะขู่ฉินซี ให้รู้สึกตื่นตกใจ

เมื่อได้ยินเธอพูดแบบนี้ใบหน้าของฉินซีก็แสดงความลุกลี้ลุกลนขึ้นมาจริงๆ

เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า จ้านเซินจะออกไปเร็วแบบนี้

หมายความว่า ถ้าหากแผนของลู่เซิ่นคืนนี้ไม่สำเร็จละก็ เธอจะไม่มีโอกาสอีก

“มันเร็วไปหรือเปล่า ฉันยังไม่พร้อมเลย”

ฉินซีพูดอย่างตกใจ เธอไม่เต็มใจจะออกไปกับถังย่า

จ้านเซินที่ยืนอยู่อีกด้าน มองดูสายตาที่ต่อต้านของเธอ

เขาพูดอย่างเย็นชา “เธอไม่ต้องพร้อมอะไรทั้งนั้น แค่ออกไปจากที่นี่กับฉันอย่างเชื่อฟังก็พอแล้ว”

จ้านเซินเน้นคำว่า “เชื่อฟัง”สองคำนี้ มันทำให้ใจของฉินซีสั่นรัว

ตอนนี้เธอแน่ใจแล้วว่าจ้านเซินรู้

คิดถึงตรงนี้ จู่ๆอารมณ์ของฉินซีก็แตกกระจาย “ฉันไม่กลับ!”

เธอพูดด้วยน้ำเสียงรุนแรง เริ่มจะต่อต้าน

ฉินซีทำสิ่งนี้เพราะเหตุผลสองข้อ

หนึ่ง คือเพื่อที่จะให้จ้านเซินเปลี่ยนความตั้งใจ สอง ถ้าหากลู่เซิ่นมาถึงแล้วและกำลังหลบอยู่ เขาจะได้ยินเสียงของเธอที่เปล่งออกมา และไม่ลงมือทำอะไร

ทันใดจ้านเซินที่มองเธออยู่ก็หงุดหงิดขึ้นมา ดวงตาพลันมืดลง

ลู่เซิ่นมีอิทธิพลกับเธอขนาดนั้นเลยเหรอ?

ถ้าไม่มีลู่เซิ่น เธอจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้เหรอ?

“มากับฉัน”

จ้านเซินก้าวไปข้างหน้า ก่อนจะจับข้อมือของฉินซีและบังคับให้เธอออกจากห้อง

ฉินซีที่มักบ่นอยากออกจากห้องๆนี้ทุกวี่วัน ครั้งนี้เธอคิดอยากจะอยู่ในห้องนี้ต่อไป

ฉินซีไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ต่อ ว่าหลังจากเธอออกจากห้องพักฟื้น และเข้าไปในห้องกายภาพบำบัด เธอจะเจอกับสถานการณ์อย่างไร

แต่เธอจะขัดขืนจ้านเซินได้อย่างไรกัน

จ้านเซินตอนโกรธน่ากลัวมาก เขาพาฉินซีไปที่ประตูอย่างง่ายดาย

เมื่อมองไปยังท่าทางหยาบคายของเขา ถังย่าก็ขมวดคิ้ว

เธอรู้สึกว่า ช่วงนี้จ้านเซินควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้บ่อยครั้ง

นี่แสดงให้เห็นว่า จ้านเซินค่อยๆกลมกลืนกับโลกภายนอก เริ่มที่จะมีความรู้สึก

สิ่งที่น่าเสียดาย ที่ความรู้สึกนี้ดำรงอยู่แค่บนร่างกายของฉินซีนั้น

แต่ใจของฉินซีก็ยังคงมีแค่ลู่เซิ่นเพียงคนเดียว ความรักของจ้านเซิน ท้ายที่สุดแล้วมันไม่สามารถลงเอยได้อย่างมีความสุข

ถังย่าขมวดคิ้ว พลางเดินตามหลังสองคนนั้น

เธอมองจ้านเซินที่แบกฉินซีไว้บนบ่าขึ้น และนำไปที่ห้องกายภาพบำบัด

และเหยาจ้าวก็เฝ้ารอคอยอย่างเคารพอยู่นานแล้ว

เมื่อตอนเขาเห็นถังย่าเดินเข้ามาในท่วงท่าแบบนี้ ใบหน้าพลันเปลี่ยนสี

“เกิดอะไรขึ้น?”

เหยาจ้าวเปล่งเสียงถาม เขาคิดอยากเตือนให้ฉินซีใจเย็นลง

ยิ่งเธอทำแบบนี้ ยิ่งยั่วให้จ้านเซินโกรธ

จ้านเซินตอนนี้ ไม่ใช่คนเดิมของพวกเขาเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว

เมื่อฉินซีเห็นว่าตัวเองต่อต้านไม่ไหว เธอจึงหยุดการกระทำลง

เธอนอนคว่ำหน้าบนไหล่ของจ้านเซินอย่างว่าง่ายด้วยแววตาว่างเปล่า

ฉินซีในเวลานี้เหมือนกับตุ๊กตาผ้าไร้วิญญาณที่แตกสลาย

แม้ว่าเธอจะอยู่ที่นี่ แต่หัวใจของเธอว่างเปล่านานแล้ว

จ้านเซินวางฉินซีลงบนเก้าอี้ในห้องกายภาพบำบัด ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เริ่มเลย”

เขายืนอยู่ข้างๆฉินซี จ้องเขม็งมายังเธอ เพื่อป้องกันไม่ให้เธอฉวยโอกาสหลบหนี

การป้องกันที่เข้มงวดเช่นนี้ ทำให้ฉินซียกมุมปากขึ้นอย่างถากถาง

ฉินซีรู้ มีจ้านเซินอยู่แบบนี้ เธอหนีไม่ได้แน่

แทนที่จะเสียพลังงานไปกับการดื้อหัวแข็ง มันจะดีกว่าถ้าไหมถ้าเธอจะทำงานหนักในการตรวจสอบครั้งต่อไป

เหยาจ้าวกับเธอเป็นพวกเดียวกัน เขาต้องช่วยเธออยู่แล้ว ข้อนี้ทำให้ฉินซีวางใจแต่ เธอไม่รู้ ว่าครั้งนี้เหยาจ้าวช่วยเธอไม่ได้

มิฉะนั้น แม้แต่ชีวิตของเหยาจ้าวเองก็จะรักษาไว้ไม่ได้

จ้านเซินมีความรู้สึกต่อฉินซี เขาอาจปล่อยผ่านเธอได้ แต่ไม่ปล่อยผ่านเขาแน่ เหยาจ้าวรู้ถึงจุดนี้ดีกว่าใคร ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะปกป้องตัวเอง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท