Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1407

ตอนที่ 1407

บทที่ 1407 รอยรั่วมากมาย

เหยาจ้าวพูดเสียงอู้อี้ : “ฉันยินดีรับบทลงโทษทุกอย่าง เพื่อชดใช้ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น”

เขาเข้าใจความหมายประโยคเมื่อกี้ของจ้านเซิน ไม่ได้ต้องการจะสอบถามความเห็นของเขา แต่ต้องการทดสอบเขา

จ้านเซินจ้องเขา ดวงตาลึกล้ำ

เขาไม่พูดอะไร ต่อมา เขาก็เก็บสายตากลับไป

“เรื่องนี้รอให้กลับไปถึงองค์กรค่อยว่ากัน ตอนนี้ทุกคนเตรียมตัวออกเดินทาง”

จ้านเซินออกคำสั่ง บอดี้การ์ดลงมือในทันที

ฉินซียืนเหม่อลอยอยู่ที่เดิม เหมือนตุ๊กตาที่ไร้วิญญาณ

แววตาของเธอเหม่อมองไปด้านหน้า คนอยู่ที่นี่ แต่ความคิดกลับอยู่ที่ร่างกายของลู่เซิ่น

ฉินซีกลัวว่าเมื่อกี้จ้านเซินจะลงมือหนักเกินไป ลู่เซิ่นอยู่ตรงนั้นคนเดียว จะเกิดเรื่อง

พอคิดว่าลู่เซิ่นอ้วกออกมาเป็นเลือดมากมายขนาดนั้น ในใจของฉินซียิ่งรู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มในใจเป็นรูเป็นรอยเป็นพันรอยรั่ว

จ้านเซินสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่าอารมณ์ของฉินซีผิดปกติ ความโกรธแค้นปรากฏบนใบหน้า

เขาจับข้อมือฉินซีในทันที ดวงตาดำสนิทเปล่งประกายความหม่นหมอง : “ถ้าคุณยังคิดถึงเขาอีก ฉันจะให้คนกลับไปฆ่าเขาตอนนี้ทันที”

จ้านเซินกระซิบที่ข้างหูของฉินซี พูดอย่างเย็นชา

ความรักที่รุนแรงขนาดนั้นของเขา การครอบครองที่น่ากลัว ทำให้คนรู้สึกกลัวมาก

ได้ยินว่าจ้านเซินจะฆ่าลู่เซิ่น ฉินซีส่ายหน้าอย่างรุนแรง : “ไม่ได้!”

เธอตะโกนอย่างรุนแรงและใช้อารมณ์

ฉินซีจ้องจ้านเซินอย่างเกลียดชัง ในดวงตาไม่มีความอ่อนโยนอย่างเมื่อก่อนอีกแล้ว : “จ้านเซิน ฉันขอเตือนคุณ ถ้าคุณกล้าลงมือกับเขา ฉันจะยิ่งอยากตายให้คุณดู”

เธอรู้ในสายตาของจ้านเซินตอนนี้ อย่างเดียวที่มีค่าคือชีวิตของเธอ

ดังนั้น ฉินซีจึงมีแค่วิธีนี้เท่านั้นที่จะใช้ข่มขู่จ้านเซิน

จ้านเซินสบตาเข้ากับดวงตาโกรธแค้นคู่นั้นของเธอ ในใจเจ็บปวดมาก

“หึ!”

เผชิญหน้ากับความตายของฉินซี จ้านเซินทำได้แค่ปล่อยความคิดที่จะฆ่าลู่เซิ่นไว้ชั่วคราว

ขณะเดียวกัน

โจวเอ้อที่อยู่ด้านนอกโรงพยาบาล เห็นลู่เซิ่นเข้าไปนานแล้ว ไม่ออกมาสักที ในใจเริ่มลนลานขึ้นมา

“ทำไมยังไม่ออกมา หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น”

โจวเอ้อเดินหงุดหงิดวนไปมาอยู่ที่หน้าประตูโรงพยาบาล สายตามองเข้าไปในโรงพยาบาลบ่อยๆ

แต่ว่า ไม่ว่าเขาจะรอยังไงลู่เซิ่นก็ยังไม่ออกมา

แต่แล้ว หน้าประตูใหญ่ก็มีเสียงฝีเท้าก้าวมาเรื่อยๆ

โจวเอ้อได้ยินความวุ่นวายของฝีเท้าอย่างชัดเจน ดูท่าคนจำนวนไม่น้อยกำลังวิ่งมาทางเขา

เขาตกใจ รีบหาที่ซ่อนในพุ่มหญ้า

ประตูใหญ่โรงพยาบาลถูกเปิดออก

บอดี้การ์ดตั้งแถวเรียงกันต้อนรับการออกมาของจ้านเซิน

เห็นฉากนี้ โจวเอ้อขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีก

จากนั้นโจวเอ้อเห็นด้านหลังจ้านเซินมีคนเดินตามอีกหลายคน

หนึ่งในนั้น ก็คือฉินซีที่พวกเขาพยายามตามหาอย่างยากลำบาก

ข้อมือของฉินซีโดนใส่กุญแจมือไว้ ชุดผู้ป่วยสีฟ้าอ่อนยังมีคราบเลือดสีแดงอยู่

“แย่แล้ว!”

ในใจโจวเอ้อคิดว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแล้ว

เขาดูอารมณ์ที่ย่ำแย่ของฉินซีออกได้อย่างชัดเจน เธอไม่ยินดีที่จะเดินตามจ้านเซินเลยแม้แต่น้อย

หรือว่าลู่เซิ่นจะเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ?

โจวเอ้อเดาไปเรื่อย หัวใจสั่นหวั่นไหว อยากจะรีบพุ่งเข้าไปหาลู่เซิ่นในโรงพยาบาลหลังจากที่จ้านเซินออกไป

จ้านเซินเดินมาได้ครึ่งทางก็หยุดกะทันหัน

เหมือนมีความรู้สึกอะไรแปลก จ้านเซินหันหน้าดวงตาแหลมคมมองไปด้านข้าง

ทิศทางนั้น พอดีกับที่พุ่มหญ้าที่โจวเอ้อซ่อนตัวอยู่

“มีอะไร?”

ถังย่าเห็นจ้านเซินหยุดเดินกะทันหัน จึงเดินขึ้นมาถาม

เธอมองตามสายตาของจ้านเซิน เห็นพุ่มหญ้านั้น ตาหรี่เล็กลง

ความรู้สึกของผู้หญิงบอกเธอว่า ในนั้นน่าจะมีอะไร

ถังย่าเม้มริมฝีปาก : “ฉันไปดูเอง”

บรรยากาศเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาในพริบตา ฉินซีที่เดิมทีดวงตาเหม่อลอยก็ตื่นเต้นขึ้นมาด้วย

เมื่อกี้ในโรงพยาบาลเธอเห็นแค่ลู่เซิ่น

แต่กลับไม่เห็นโจวเอ้อปรากฏตัวตั้งแต่ต้น หรือตอนนี้เขาซ่อนตัวอยู่ในพุ่มหญ้านี่?

ในใจของฉินซีร้อนรนอย่างยิ่ง ไม่รู้ว่าจะช่วยเขายังไงดี ตอนนี้มือของเธอถูกล็อกกุญแจมือไว้ ไม่มีเวลาจะไปช่วยคนอื่น

เธอได้ภาวนาเงียบให้จ้านเซินและถังย่าเข้าใจผิด

ถังย่าเดินก้าวขายาวไปตรงหน้าพุ่มหญ้า : “ออกมาเถอะ ฉันเห็นคุณแล้ว”

สายตาแหลมคมของเธอมองไปที่พุ่มหญ้าสูงประมาณครึ่งตัวคน ริมฝีปากแดงขยับน้อยๆ

แต่ คำพูดของถังย่าไม่ได้รับการตอบกลับใดๆ

ถังย่าหรี่ตามองอย่างอันตราย เธอเดินไปข้างหน้าอย่างอดไม่ไหวและแหวกพุ่มหญ้าออก

ที่น่าแปลกใจก็คือ ในนั้นไม่มีอะไรเลย

“เมี๊ยว~”

และในตอนนั้นเอง ด้านข้างพุ่มหญ้าปรากฏแมวตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมากะทันหัน ดำไปทั้งตัว

มันกระโดดมาทางถังย่าอย่างบ้าคลั่ง และเปิดคมเล็บออกมา

ถังย่ารู้สึกถึงอันตรายที่กำลังจะมาถึง จึงตัดสินใจหลบออก

หลังแมวน้อยกระโดดเคว้งกลางอากาศ ก็รีบวิ่งหนีไป

ถังย่ามองพุ่มหญ้าที่ว่างเปล่า เม้มริมฝีปาก

เธอเดินกลับมาตรงหน้าจ้านเซิน : “ไม่มีอะไร แค่แมวตัวเดียว”

ถังย่ารายงานอย่างสงบนิ่ง

จ้านเห็นฉากเมื่อกี้แล้ว : “ไปเถอะ”

เขาพยักหน้า บ่งบอกให้ทุกคนเดินไปทางลาดจอดรถใต้ดิน

ฉินซีเห็นว่าในนั้นไม่มีโจวเอ้ออยู่ ก็สบายใจขึ้นมาหน่อย

ขอแค่โจวเอ้อยังไม่โดนค้นพบ ลู่เซิ่นก็ยังมีหวังว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไป

ฉินซีเชื่อมั่นในความสามารถของโจวเอ้อ ต้องหาลู่เซิ่นเจอแน่นอน

โจวเอ้อที่อยู่ในพุ่มหญ้าด้านซ้าย ตกใจจนเหงื่อออกเต็มตัว

เขาขดตัวอยู่ในพุ่มหญ้าโดยไม่แม้แต่จะขยับ มองเงาของจ้านเซินและฉินซีหายลับไปกับตา

รอจนกระทั่งบอดี้การ์ดทั้งหมดสลายตัวและถอยออกไป โจวเอ้อถึงจะกล้าลุกขึ้น

ทว่า ขาของเขากลับชาไปหมดแล้ว

โจวเอ้อเดินโซซัดโซเซออกมา จนเกือบจะล้มลงกับพื้น

เขาตบหน้าอกอย่างขาดความมั่นใจ เมื่อกี้เกือบจะไม่รอดแล้ว โชคดีที่แมวตัวนั้นกระโดดออกมากะทันหัน ดึงดูดความสนใจของถังย่า

ที่โจวเอ้อตกใจก็คือ ความสามารถด้านการสังเกตของจ้านเซินแม่นยำได้ขนาดนั้น

ความรู้สึกของโจวเอ้อ บอกว่าลู่เซิ่นต้องเกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน

ไม่งั้นลู่เซิ่นคงไม่ทนมองฉินซีโดนจ้านเซินพาตัวกลับองค์กร โดยไม่แยแส กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่ออกมา

ตามที่โจวซิงเคยบอกก่อนหน้านี้ จ้านเซินยังเกรงใจฉินซีอยู่มาก

แต่ตอนนี้กลับใส่กุญแจมือฉินซี ด้านข้างยังมีคนคอยคุ้มกันมากมาย

เห็นได้ชัดว่าจ้านเซินรู้เรื่องของฉินซีกับลู่เซิ่นแล้ว พวกเขาโดนเปิดโปงแล้ว

“ไม่ดี!”

โจวเอ้อรีบวิ่งเข้าไปในโรงพยาบาล

ตอนนั้นเขาก็ไม่ได้สนใจดูรอบๆ ว่ายังมีสายตาของจ้านเซินหลงเหลืออยู่อีกไหม

รีบช่วยลู่เซิ่นกับโจวซิงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุด

โจวเอ้อวิ่งตามแผนที่ที่ลู่เซิ่นเคยทำไว้ วิ่งอย่างบ้าคลั่งไปตามทางห้องพักผู้ป่วยของฉินซี

ในที่สุด โจวเอ้อก็มาอยู่หน้าประตูห้องพักผู้ป่วย เห็นจ้านเซินใบหน้าช้ำปูดบวม และถูกมัดปิดปากไว้อย่างแน่นหนา

หัวใจของโจวเอ้อร้อนใจขึ้นมาทันที : “ลู่เซิ่น! ลู่เซิ่น!”

เขาประคองลู่เซิ่นขึ้นจากพื้นเย็นๆ ตะโกนเรียกเสียงดัง

แต่ลู่เซิ่นกลับไม่ส่อให้เห็นแววตื่นได้สติแม้แต่นิด

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท