Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1419

ตอนที่ 1419

บทที่ 1419 โทษตัวเอง

ถังย่าเห็นเขาได้รับบาดเจ็บขนาดนั้น ยังรักษาความสงบนิ่งไว้ได้ ในใจยอมรับเล็กน้อย : “คุณลู่ไม่ตายก็ดี ไม่งั้นฉันก็ไม่รู้จะบอกกับฉินซีฝั่งนั้นยังไงดี”

เธอพูดอย่างนิ่งเฉย แต่เพราะได้ยินชื่อฉินซี ทำให้ในใจของลู่เซิ่นเกิดความโกลาหลขึ้น

“ตอนนี้ฉินซีเป็นยังไงบ้าง?”

นิ้วมือทั้งห้าที่ซ่อนอยู่ได้ผ้าห่มกำแน่น ลู่เซิ่นจ้องตรงไปที่ถังย่ารอคำตอบจากเธอ

เขาหวังว่า ถังย่าจะตอบความจริงกับเขา

ถังย่าเห็นท่าทางร่างกายที่รัดแน่นของเขา แววตาส่องประกาย : “คุณลู่ไม่ต้องห่วง ตอนนี้ฉินซีอยู่ในองค์กร ยังตายไม่ได้”

น้ำเสียงเบาเหมือนลอยตามลม แทบจะไม่สนใจความเป็นความตายของฉินซีอยู่ในสายตา

ท่าทีไม่สนใจอะไรนั่น ทำให้โจวซิงที่ยืนดูอยู่ข้างโกรธเป็นไฟ

เขารู้สึกว่าคนไม่มีหัวใจแบบถังย่า ไม่คู่ควรกับความเป็นคน

“ก็แค่…”

ถังย่าพูดมาครึ่งหนึ่งและหยุดไป

เธอขมวดคิ้วแน่น แสดงท่าทางลำบากใจ

หัวใจของลู่เซิ่นหยุดเต้นไปชั่วขระ เขามองถังย่าด้วยแววตาลุกโชน ถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล : “ก็แค่อะไร?”

“สถานการณ์ของฉินซีตอนนี้ไม่น่ายินดีนัก ตอนฉันออกมาจากองค์กรได้ยินข่าวว่าเธอสลบไป ไม่รู้ว่าตอนนี้ฟื้นขึ้นมารึยัง”

ถังย่าบอกเรื่องร่าวกับเขาไปโดยไม่ปิดบังอะไร

สำหรับเธอแล้ว เรื่องนี้บอกหรือไม่บอกให้ลู่เซิ่นรู้ก็ไม่มีผลกระทบอะไร

ไม่แน่หลังจากลู่เซิ่นรู้ข่าวนี้ จะยิ่งโกรธ หลังจากนั้นทนไม่ไหวและรีบลงมือช่วยฉินซีออกมาจากองค์กร

ได้ยินว่าฉินซีตอนนี้สลบไปยังไม่ฟื้น สีหน้าของลู่เซิ่นเปลี่ยนเป็นหม่นหมองลงในทันที

เขาพูดเสียงแหบแห้ง บรรยากาศมืดมิดแผ่กระจายรอบตัว : “ฉินซีเป็นลมล้มไปได้ยังไง พวกคุณทำอะไรกับเธอ?”

ลู่เซิ่นกัดฟันจ้องมองถังย่า อยากจะฆ่าเธอให้ตาย

แต่ตอนนี้ยังทำไม่ได้ เขายังใช้ถังย่าได้

ถังย่าเห็นความแค้นที่เขามีต่อตัวเอง แต่กลับไม่สนใจอะไร

คนที่อยากจะฆ่าเธอให้ตาย บนโลกนี้มีเยอะแยะ แต่ก็แค่ไม่มีใครทำสำเร็จ

“ไม่ใช่พวกเราทำอะไรกับเธอ เพราะทำอะไรกับเธอต่างหาก เธอหลงใหลอยุ่แต่กับคุณ ต้องคุณเท่านั้น จนกระทั่งเพื่อคุณแล้วแม้แต่ชีวิตตัวเองก็ไม่ต้องการ”

ถังย่าเอ่ยปากทีละคำทีละประโยค ถึงแม้ลู่เซิ่นจะยอดเยี่ยม แต่ยอมทิ้งชีวิตเพื่อเขา ถังย่ารู้สึกว่าไม่คุ้มค่า

แต่เธอไม่ได้ลองเปลี่ยนตำแหน่งมาคิดดู ฉินซีก็เหมือนกับเธอ สูญเสียสติสัมปชัญญะในด้านความรักไปนานแล้ว

การทุ่มเททั้งหมดของพวกเธอ ไม่ต้องการการตอบกลับ แค่ต้องการให้อีกฝ่ายปลอดภัยดี

“คุณพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง?”

แววตาของลู่เซิ่นส่องประกายสงสัย เขารู้สึกว่าถังย่ามีอะไรซ่อนในคำพูด

“ฉินซีแหกออกมาจากการสะกดจิตเพื่อคุณ พยายามแหกออกมา จนเส้นประสาทสมองได้รับบาดเจ็บสาหัส ความเสียหายนี้ไม่สามารถย้อนกลับได้ ถ้าทำไม่ดีก็อาจจะกลายเป็นคนโง่ได้”

ถ้าความภาคภูมิใจขององค์กรก่อนหน้านี้กลายเป็นคนโง่ นั้นเป็นเรื่องที่น่าเสียมากเรื่องหนึ่ง

ได้บินอย่างนี้ ใบหน้าของลู่เซิ่นแสดงอาการไม่อยากจะเชื่อ

เขาถึงว่าทำไมวันนั้นสีหน้าของฉินซีดูผิดปกติมาก เดิมทีเขาคิดว่าฉินซีตกใจ คิดไม่ถึงว่าที่แท้เธอกำลังพยายามอดทนกับการบาดเจ็บ

แต่ เขากลับไม่สังเกตเห็นเลยสักนิด

ลู่เซิ่นโทษตัวเองในใจเต็มๆ

หลังจากได้ฟังโจวซิงก็ตกใจเป็นอย่างยิ่ง

ในฐานะจิตแพทย์ เขารู้ดีว่าการแหกออกจากความฝัน เป้นเรื่องที่อันตรายขนาดไหน

เพื่อลู่เซิ่นอะไรที่ฉินซีทำได้เธอทำทั้งหมด

“งั้นตอนนี้ เธอเป็นยังไงบ้าง?”

ลู่เซิ่นตะโกนถามรุนแรง เขานึกภาพไม่ออกว่าตอนนี้ฉินซีต้องรับความเจ็บปวดมากขนาดไหน

แววตาดำสนิทส่องกระกายไฟร้อน ลู่เซิ่นอยากจะฆ่าคนจริงๆ

“ฉันบอกไปแล้วฉันไม่รู้ แต่ว่ามีเหยาจ้าวอยู่ ไม่น่าจะเป็นอะไร”

ถังย่าพูดอย่างไม่เร่งรีบ ไม่ได้สนใจกับลู่เซิ่นที่กำลังโกรธแค้นเลยแม้แต่น้อย

ลู่เซิ่นในตอนนี้ ก็แค่สิงโตตัวหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บ สำหรับถังย่าแล้ว ไม่สร้างภัยคุกคามอะไรแม้แต่น้อย

ถังย่าพูดต่อว่า : “วันนี้ที่ฉันมาหาคุณที่โรงพยาบาล ก็เพื่อจะบอกคุณว่า ถ้าไม่อยากให้ฉินซีเป็นอะไร ก็อย่างรีบเร่งลงมือ ไม่ต้องรีบตาย เพราะถ้าคุณเกิดเรื่องขึ้น ฉินซีต้องไม่ยอมมีชีวิตอยู่ต่อแน่”

เขาทิ้งประโยคนี้ไว้อย่างนิ่งเฉยและหมุนตัวเดินออกไป

อะไรที่ทำได้ เธอก็ทำแล้ว ที่ควรเตือนก็เตือนแล้ว

สำหรับถังย่าแล้ว คำพูดที่เธอพูดไปเมื่อกี้ เมตตาอย่างถึงที่สุดแล้ว

ถ้าพูดมากกว่านี้ กลัวว่าถ้าจ้านเวินรู้เข้าจะมาลงโทษเธอ

ความจริงแล้ว เหตุผลที่ถังย่าพูดแบบนั้น สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะจ้านเซิน

ในเมื่อ ถ้าลู่เซิ่นอยู่อย่างซื่อสัตย์และสงบสุข จ้านเซินและเธอก็จะสบายใจขึ้นมาหน่อย

ไม่แน่เวลานานไป ความรู้สึกระหว่างลู่เซิ่นกับฉินซีค่อยๆลดลง ฉินซีไม่อยากออกจากองค์อรแล้ว

แต่ว่า เธอประเมินความรักของลู่เซิ่นและฉินซีต่ำไป

ลู่เซิ่นมองแผ่นหลังที่หมุนตัวอย่างสง่างามของเธอ ใบหน้าปรากฏความโกรธแค้น : “ถังย่า หยุดเดี๋ยวนี้!”

เขาลุกขึ้นอย่างร้อนรน อยากจะขวางถังย่าไว้

แต่ความเจ็บปวดของกระดูกซี่โครง กลับทำให้ลู่เซิ่นยืนยังไงก็ยืนไม่ไหว

โจวซิงเห็นเขาพยายามไล่ตาม รีบกดไหล่เขาไว้ : “ลู่เซิ่น ชีวิตตัวเองไม่เอาแล้วหรือไง!”

เขาตะโกนเสียงดัง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความห่วงใย

“ถ้าคุณเป็นอะไร ฉินซีจะทำยังไง!”

โจวซิงพูดถึงฉินซี อยากให้ลู่เซิ่นสงบลง

ขณะนั้น ถังย่าได้หายตัวไปแล้ว

ลู่เซิ่นตามไม่ทัน แววตาเต็มไปด้วยความหงุดหงิด

“เป็นเพราะฉันไม่ดี เพราะฉันไม่ดี…”

ลู่เซิ่นก้มหน้าพึมพำกับตัวเอง

เกิดเป็นผู้ชายต้องอดทน ลู่เซิ่นหลั่งเลือดหลั่งหยาดเหงื่อจนกระทั่งกระดูกซี่โครงหักเป็นท่อนๆก็ไม่ร้องเจ็บปวดสักคำ

แต่ หลังจากได้ยินว่าฉินทำเพื่อตัวเองมากขนาดนั้น กลับเบ้าตาแดงขึ้นมาในทันที

โจวซิงมองท่าทางที่เขาโทษตัวเอง จิตใจอ่อนไหว

เขาตบบ่าลู่เซิ่น ปลอบใจเบาๆว่า “ลู่เซิ่น นี่ไม่ความผิดของคุณ ความรักระหว่างคุณกับฉินซีเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง ผิดที่เธออาศัยอยู่ในองค์กร เพราะกฎเกณฑ์ที่ไร้มนุษยธรรม และยังมีจ้านเซินค่อยขัดขวาง”

โจวซิงยิ่งพูดยิ่งโกรธ เขารู้สึกว่าการมีอยู่ของจ้านเป็นอะไรที่ผิดพลาด

เรื่องความรักของคนอื่น เกี่ยวอะไรให้จ้านเซินมายุ่งวุ่นวายได้มากขนาดนี้

จะรักกับใครนั้นเป็นสิทธิของฉินซี เพราะคนที่ตัวเองชอบไปชอบผู้ชายคนอื่น เขาจะทำลายทั้งสองคนเลยหรือไง?

เห็นได้ชัดว่าเป็นโรคประสาทอย่างร้ายแรง จำเป็นต้องเข้ารับการรักษา

“ฉินซี ฉินซี”

ตอนนี้ลู่เซิ่นไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ในสมองของเขาคิดถึงคำพูดเหล่านั้นของถังย่าไม่หยุด

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท