Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1425

ตอนที่ 1425

บทที่1425 ทั้งหมดล้วนถูกบังคับ

จ้านเซินมองไปที่ฉินซี แววตามีความไม่พอใจ “กำหนดวิธีการที่เป็นวิทยาศาสตร์ที่สุด รวดเร็วที่สุดไว้ให้เธอแล้ว ทำไมเธอถึงไม่ฟัง!”

เขาโกรธที่ฉินซีไม่ห่วงใยร่างกายของตัวเอง ทนทรมานทั้งวัน

ฉินซีมองท่าทีโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงของเขา ก็เม้มปาก “ครั้งต่อไปไม่ทำแล้ว”

ต่อหน้าจ้านเซิน เธอได้แต่ก้มหัว

เห็นเธอน้ำเสียงหดหู่ไม่พูดจา ในใจของจ้านเซินก็รู้สึกช่วยไม่ได้ “ช่างเถอะ”

ราวกับเริ่มตั้งแต่วันนั้นที่ลู่เซิ่นมาช่วยฉินซีที่โรงพยาบาล ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

ทุกครั้งที่จ้านเซินเผชิญหน้ากับฉินซี มักจะมีความรู้สึกอึดอัด

เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไม อาจเป็นเพราะสายตาที่ฉินซีมองตนมันเย็นชาเกินไป

“หมอเหยา นายอยู่ที่นี่ดูฉินซีไว้ ให้เธอทำตามเนื้อหาบนตารางแผนการอย่างเคร่งครัด ถ้าเธอไม่ได้ทำตามนั้น หรือว่าเพราะร่างกายเหนื่อยล้าเกินไป ทำให้เกิดสิ่งผิดปกติอะไรก็ตาม นายคงจะรู้ผลที่ตามมา”

จ้านเซินหรี่ตาคู่ยาวลงอย่างอันตราย มองตรงไปที่เหยาจ้าวที่ยืนอยู่ตรงข้ามตน น้ำเสียงเผยกลิ่นอายคุกคาม

เขารู้ ว่าตนเองอยู่ที่นี่ฉินซีมีแต่จะยิ่งนิ่งเงียบ

อีกอย่าง การก่อกบฏในตัวของฉินซีคือปัญหา จะไม่ฟังคำพูดของเขา

แต่ฉินซีจะไม่ยอมคนอื่นได้รับเคราะห์เด็ดขาด ดังนั้นจ้านเซินจึงจงใจพูดแบบนี้ เพื่อให้ฉินซีเชื่อฟัง

เหยาจ้าวพยักหน้าอย่างเคารพ ต่อแววตาที่เย็นชาคู่นั้นของเขา “ครับ”

เขารู้ดีว่าวิธีการของจ้านเซินร้ายกาจแค่ไหน แต่นี่ไม่ใช่เพราะคำสั่งของจ้านเซินเขาถึงดูแลฉินซีด้วยใจ เขาคิดทำเพื่อร่างกายของฉินซีจริงๆ

ฉินซีมองแผ่นหลังที่จากไปไกลของจ้านเซิน ดวงตาสีเข้มเป็นประกายด้วยแสงสลัวอย่างไม่ทิ้งร่องรอย

เธอหายใจเข้าลึก คายเอาก๊าซในอกออก

ฉินซีมองไปที่เหยาจ้าว กำลังคิดที่จะเอ่ยปากพูด แต่กลับถูกเหยาจ้าวชิงพูดก่อน “ตอนนี้เธอต้องพักผ่อนยี่สิบนาที จากนั้นค่อยฝึกฝนต่อ”

เหยาจ้าวเอ่ยปากอย่างเคร่งครัด “ถ้าหากเธออยากให้ฉันโดนจ้านเซินลงโทษ ตอนนี้จะไม่ฟังฉันก็ได้ เข้าไปฝึกได้เลย”

เขายืนอยู่ที่เดิมด้วยท่าทีเข้มงวด มองตรงไปที่ฉินซี

สายตานั้น ทำให้ฉินซีรู้สึกทนไม่ได้

จ้านเซินลงโทษคนด้วยวิธีที่โหดร้ายแค่ไหน ฉินซีรู้ดี

เธอถอนหายใจ พูดอย่างหมดหนทาง “ช่างเถอะ ฉันพักซักหน่อยก่อนแล้วกัน เหนื่อยพอสมควร”

ฉินซีหย่อนก้นลงนั่งบนโซฟา ใบหน้าซีดขาวเผยความเหนื่อยล้า

แน่นอนว่าเธอเหนื่อยมาก ร่างกายและสมองต่างรู้สึกอ่อนล้า

แต่ในหัวของเธอยังคงเป็นลู่เซิ่น ยังไงก็นอนไม่หลับ ได้เพียงใช้การฝึกมาทำให้ตนเองชินชา แบบนี้จะได้ไม่ปล่อยความคิดของตนรั่วไหลออกไป

เห็นท่าทีที่ไม่สบายใจของฉินซี เหยาจ้าวเองก็ลำบากใจไปด้วย

เหยาจ้าวส่งยาน้ำเสริมกำลังให้เธอ “ดื่มซักอึกก่อน ช่วงนี้เธอไม่ได้กินอะไรเลย”

อากาศร้อนขึ้นเรื่อยๆ ความอยากอาหารของฉินซีก็ลดลงตาม

ถ้าเกิดไม่กินข้าว แล้วยังฝึกฝนทุกวันอีก ซักวันหนึ่งร่างกายของฉินซีจะรับไม่ไหวเอาได้

ฉินซีค่อยๆลืมตาขึ้นมองไปที่ยาน้ำไร้สีขวดนั้น ขมวดคิ้ว

พูดตามตรง เธอไม่ชอบดื่มอะไรแบบนี้เลย

เพราะรสชาติขมมากจริงๆ แทบจะเหมือนยาจีน แล้วยังกลิ่นไม่ดีอย่างมาก

ต่อให้สีจะโปร่งใส แต่ข้างในจะต้องมีส่วนผสมของยาจีนเพิ่มเข้าไปแน่

แต่ก่อนตอนที่ฉินซีอยู่ในองค์กร ดื่มไปไม่รู้กี่ขวด แทบจะวันละสามครั้ง ก่อนมื้ออาหารทุกมื้อจะต้องดื่มหนึ่งขวด

แน่นอน ทั้งหมดนี่ล้วนแต่โดนบังคับ

นับตั้งแต่ที่ครั้งหนึ่งฉินซีเคยแอบเทยาน้ำทิ้ง แล้วถูกจ้านเซินจับได้ หลังจากนั้นทุกครั้งที่ดื่มยา จ้านเซินจะเฝ้าดูอยู่ข้างเธอ

ดังนั้น ยาน้ำขวดนี้ ได้ฝังเมล็ดพันธุ์ลึกลงไปในสมองของฉินซี

ทุกครั้งเพียงแค่เห็นมัน ร่างกายก็เกิดขยะแขยงขึ้นมา

“แหวะ~”

ฉินซีเบือนหน้าหนีอาเจียนออกมา

เธอโบกมืออย่างหงุดหงิด “เอาไปไกลๆหน่อย ฉันไม่ต้องการของแบบนี้”

ตอนนี้จ้านเซินไม่อยู่ที่นี่ เป็นธรรมดาที่ฉินซีจะไม่เป็นเด็กดีเชื่อฟัง

ของดื่มยากที่ฆ่าคนได้แบบนี้ ชั่วชีวิตนี้เธอจะไม่ดื่มมันอีกแม้แต่อึกเดียว

เหยาจ้าวขมวดคิ้ว “ไม่ได้ จ้านเซินสั่งฉันไว้ ให้ฉันดูเธอดื่มมันด้วยตาตัวเอง เขาบอกว่า ถ้าเขาจับได้ว่าเธอไม่ดื่ม ตอนมื้อเย็น เขาจะกรอกปากเธอสองขวดด้วยมือตัวเอง”

อันที่จริงนี่เป็นเพียงสิ่งที่เหยาจ้าวพูดเอาเอง จ้านเซินไม่ได้สั่งไว้แบบนี้เลย

เหยาจ้าวรู้เพียง คำพูดของเขา ฉินซีจะไม่รับฟัง ได้เพียงใช้จ้านเซินมาคุกคาม ฉินซีถึงจะหวั่นเกรงไม่มากก็น้อย

แน่นอน หลังจากฉินซีได้ฟังประโยคนี้ สีหน้าก็ดำมืดลงทันที

มือที่วางอยู่ข้างตัวกำหมัดขึ้น ในใจของฉินซีโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา

จ้านเซินทำแบบนี้กับเธอได้จริงๆ ถึงตอนนี้ยังบังคับเธอดื่มยา

ฉินซีกัดฟันพูด จ้องไปที่เหยาจ้าว “นายไม่พูด เขาจะรู้ได้ไง”

เธอไม่อยากดื่มของเล่นนี่เลยจริงๆ คาดว่าเอาของแบบนี้ให้สุนัขกิน สุนัขก็ตายได้

“เธอคิดว่าจ้านเซินโง่หรอ?”

เหยาจ้าวมองไปที่กล้องวีดีโอด้านข้าง ส่งสัญญาณให้ฉินซีดื่มไปอย่างซื่อตรงเถอะ ไม่ต้องฝืนแล้ว

ฉินซีโกรธจนแทบจะปล่อยหมัดใส่หน้าเหยาจ้าว

เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าเหยาจ้าวขวางหูขวางตา เป็นแค่สุนัขที่จ้านเซินส่งมา

ฉินซีคิดคำนวณอยู่ในใจ

ถ้าหากตอนนี้ไม่ดื่ม ตอนเย็นก็ต้องดื่มสองขวด งั้นก็คือความทุกข์สองเท่า

ภายใต้ความทำอะไรไม่ได้ ฉินซีได้เพียงพูดอย่างโมโห “เอามานี่!”

เธอตะโกนอย่างแรง แววตาราวกับแสงของมีด

ถ้าสายตาสามารถฆ่าคนได้ งั้นตอนนี้เหยาจ้าวก็ไม่รู้ตายไปกี่ครั้งแล้ว

เหยาจ้าวมองท่าทีโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงของเธอ แววตาก็แอบเผยรอยยิ้ม

เขาเดินอ้อยอิ่งไปถึงข้างตัวฉินซี ยื่นมือออกไป “ให้เธอ”

เหยาจ้าวรู้สึกว่า ท่าทางของฉินซีในตอนนี้น่ารักเกินไปแล้ว

ใครจะไปรู้ ว่าฉินซีที่ไม่กลัวฟ้ากลัวดิน ถูกทำให้เป็นอาวุธสังหารขององค์กร กลับกลัวข่ม กลัวการดื่มยา ถ้าหากเผยแพร่ออกไปคาดว่าความน่าเกรงขามจากเมื่อก่อนก็คงไม่มีแล้ว

“ให้นายส่งของมาให้ยังทำอ้อยอิ่ง น่ารำคาญ!”

สายตาของฉินซีมองตามเขาอย่างแนบแน่น เมื่อเห็นการก้าวเดินของเขาเชื่องช้าแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดกระตุ้น

ตามปกติ ฉินซีไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ที่ชัดเจนขนาดนี้มาก่อน

ตอนนี้ เป็นเพราะยาน้ำขวดเล็กๆขวดนี้ ฉินซีราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคน

เห็นท่าทีเธอประหม่าจนจะตายให้ได้ แล้วยังก้าวร้าว เหยาจ้าวอดที่จะขำไม่ได้

แต่ว่า เหยาจ้าวรู้ ถ้าตอนนี้เขาส่งเสียงหัวเราะออกมา ถูกฉินซีเห็นเข้า เขาได้ตายอย่างอนาถแน่นอน

เพื่อชีวิตอันน้อยนิดของตน เหยาจ้าวกล้ำกลืนไว้ จนหน้าแดงก่ำ

ความสนใจของฉินซีทั้งหมดวางไว้บนยาน้ำขวดนั้น คิดว่าอีกเดี๋ยวจะดื่มมันยังไงให้มีท่าทางที่เท่สมาท เด็ดขาดเสียหน่อย

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท