Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1428

ตอนที่ 1428

บทที่1428 การลงโทษ

เหยาจ้าวเบิกตากว้างตาความกลัว ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่ง “ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้จริงๆว่าคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาแล้ว ฉินซีเธอต้องเชื่อฉันนะ ฉันจะไปหลอกเธอตั้งสองครั้งได้ยังไง!”

ในใจเขารู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างมาก เหยาจ้าวเงยหน้ามองไปที่จ้านเซิน “บอส คุณอย่าใส่ร้ายผม ทำไมผมถึงไม่เคยได้ยินเลยว่าผลิตภัณฑ์ใหม่คิดค้นออกมาแล้ว”

เขารู้สึกว่า นี่เป็นเพียงวิธีการเอาคืนตนของจ้านเซินเท่านั้น

คิดจะยืมมือของฉินซี มาลงโทษเขา

“หุบปาก!”

เหยาจ้าวพูดพล่าม โวยวายจนฉินซีปวดหัว

ฉินซีขมวดคิ้ว กระโกนเสียงดัง

แววตาของเธอเฉียบคมมาก ทำเอาเหยาจ้าวปิดปากทันที

เมื่อกี้เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงกลิ่นอายฆ่าฟันจากแววตาของฉินซี น่ากลัวเกินไปแล้ว

“คือ ฉัน…..”

เหยาจ้าวยังอยากพูดต่อ แต่ก็กลัวถูกฉินซีกับจ้านเซินร่วมมือกันจัดการ

จ้านเซินมองดูฉากนี้ มุมปากโค้งขึ้นเล็กน้อย

ดวงตาสีเข้มมีแสงแวบผ่าน ในเมื่อเหยาจ้าวใช้ชื่อเขาไปสร้างเรื่อง ไม่บอกเขาก่อน งั้นเขาก็ต้องคิดดอกเบี้ยเสียหน่อย

ไม่อย่างนั้น ถ้าหากครั้งต่อไปเหยาจ้าวเอาชื่อเขาไปทำเรื่องอะไรไม่ดี ถึงตอนนั้นคนอื่นจะมาตำหนิเขา

เห็นเหยาจ้าวถูกฉินซีรังแกพอสมควรแล้ว จ้านเซินถึงค่อยๆพูดขึ้น “พอแล้ว”

เขายื่นมือ ไปจับข้อมือของฉินซี

จ้านเซินพูดไป พลางดึงข้อมือฉินซีออกจากคอของเหยาจ้าว “เรื่องยาน้ำชนิดใหม่นั้นไม่จริง แต่ฉันไม่ได้ให้เหยาจ้าวเอาไปให้เธอดื่มแน่นอน”

เขาใช้เสียงสงบนิ่งช่วยพูดเรื่องดีๆให้เหยาจ้าว “แต่สาเหตุที่หมอเหยาทำแบบนั้น ก็เพราะอยากให้ร่างกายของเธอแข็งแรง แม้จะไม่ถูกต้อง แต่ก็เป็นความหวังดี เรื่องในครั้งนี้ช่างมันไปเถอะ เอาตามที่เขาพูด ให้เขาคิดค้นยาเสริมสมรรถภาพรสหวานแบบใหม่ภายในเวลาหนึ่งสัปดาห์ ถือเป็นการชดใช้ให้เธอ และเพื่อลงโทษเขาด้วย”

ถัดจากนี้แน่นอนว่าฉินซีต้องฝึกต่อไป แล้วฤดูร้อนพึ่งเริ่มต้น

ตั้งแต่ตอนนี้เธอก็เริ่มกินข้าวไม่ลงแล้ว จำเป็นต้องพึ่งยาเสริมกำลังมาส่งเสริมสมรรถนะที่ร่างกายต้องการ คิดจะผ่านช่วงหน้าร้อนนี้มันยังเร็วไป

หลังจานี้ฉินซีเองก็ไม่อยากดื่มยาน้ำขมๆไปตลอด ดังนั้นจึงพยักหน้า ปล่อยมือของเหยาจ้าว “ครั้งนี้เป็นเพราะจ้านเซินช่วยนายไว้ ถ้าครั้งหน้านายยังกล้าหลอกฉันอีก ฉันจะโกนหน้านายให้เกลี้ยง!”

เธอขยับมีดในมือข่มขู่อย่างเยือกเย็น แววตาฉายความขี้เล่น

เหยาจ้าวมองท่าทางของฉินซี รู้สึกอย่างอธิบายไม่ได้ว่าเหมือนเธอจะเคลื่อนไหว แทบรอไม่ไหวที่จะช่วยเขา “ทำศัลยกรรม” ให้ใหม่

แม้ว่าเหยาจ้าวเป็นผู้ชาย แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่สนใจใบหน้า

กลับกัน เหยาจ้าวพิถีพิถันและทะนุถนอมยิ่งกว่าผู้หญิงทั่วไปเสียอีก

มือเรียวยาวคู่นั้น บอบบางและเนียนยิ่งกว่าผู้หญิง

แต่มือของฉินซี เนื่องจากการฝึกฝน ต้องทำภารกิจที่ยากลำบากหลายอย่าง บนมือมีแต่รอยปูด แข็งด้าน สีเหลือง น่าเกลียด

“ครับครับครับ!”

ตอนนี้ชีวิตน้อยๆของเหยาจ้าวอยู่ในกำมือฉินซีแล้ว จะกล้าโต้แย้งได้ยังไง

เขาพยักหน้าอย่างว่าง่าย ใบหน้าเผยรอยยิ้มประจบประแจง

จ้านเซินมองท่าทางหมาน้อยของเขา แววตาก็เผยรอยยิ้ม “หมอเหยา ครั้งหน้าก่อนที่จะเอาชื่อฉันไปใช้ทำอะไร จำไว้ว่าต้องบอกฉันก่อน ไม่งั้นถูกเปิดโปงอย่างวันนี้ คนที่ต้องเป็นทุกข์ก็คือนาย”

เขาพูดอย่างเย็นชา ในน้ำเสียงมีความข่มขู่

แม้ว่าจ้านเซินจะไม่ได้ลงโทษเหยาจ้าว และไม่ได้สั่งสอนเขา

แต่เหยาจ้าวกลับฟังออกถึงความไม่พอใจของจ้านเซิน จ้านเซินจะต้องรู้สึกว่าเขาละเมิดกฎแน่ๆ

เหยาจ้าวเก็บรอยยิ้มบนใบหน้า ยืนตัวตรง ก้มหัวลงอย่างเคารพ “ครับ ผมจะจำไว้ ครั้งหน้าไม่มีอีกแล้ว”

สถานการณ์ค่อยๆสงบลง

ฉินซีที่ฝึกฝนมาตลอดช่วงเช้า ท้องก็ร้อง “จ๊อกจ๊อก” ขึ้นมา

ฉินซีลูบท้องน้อยๆที่หิวโหย พูดอย่างเร่งรัด “เอาล่ะ เอาล่ะ คุยกันจบหรือยัง คุยจบแล้วไปกินข้าวก่อนได้ไหม ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว”

ใบหน้าของเธอเผยความไม่อดทนออกมา

มันทำให้เหยาจ้าวและจ้านเซินรู้สึกพูดไม่ออกพร้อมกัน

เรื่องนี้ เห็นชัดๆว่าฉินซีเริ่มก่อน เป็นเธอที่เอาแต่จับไม่ปล่อย ตอนนี้มาปัดความรับผิดชอบให้คนอื่น นี่เป็นเคล็ดลับที่กลับกลอกและไร้ประโยชน์จริงๆ

เหยาจ้าวยกนิ้วให้ฉินซีในใจ ในองค์กรก็มีแค่ฉินซีที่กล้าพูดแบบนี้กับจ้านเซิน จ้านเซินก็ไม่โกรธ

“คุยจบแล้ว”

เหยาจ้าวพูดพึมพำ ไม่กล้าโต้แย้งฉินซี

ใครปล่อยให้ฉินซีได้รับการสนับสนุนจากจ้านเซิน เขาจำเป็นต้องปล่อยเธอไป

ฉินซีเหลือบมองเขา “งั้นไปกินข้าวเถอะ”

เธอกำลังจะเดินไป เห็นจ้านเซินยังยืนอยู่ที่เดิม จึงเอ่ยปากถาม “จ้านเซิน นายไม่เข้ามากินด้วยกันหน่อยหรอ? นายกินหรือยัง?”

ฉินซีทักจ้านเซิน ทำให้จ้านเซินแปลกใจเล็กน้อย

จ้านเซินนึกว่าเธอไม่อยากคบค้ากับตน จึงไม่ได้เดินตามไป

แต่ตอนนี้ฉินซีพูดแบบนี้แล้ว เขาก็ไม่มีอะไรต้องกังวล

“ยังไม่ได้กิน”

อันที่จริงเมื่อกี้จ้านเซินกินไปแล้ว แต่ในตอนที่ฉินซีเอ่ยถามเขา ก็ยังโกหกไปโดยไม่กระพริบตา

ฉินซีได้ยินเขาพูดแบบนี้ เลยกวักมือ “งั้นยังไม่รีบเข้ามากินข้าวด้วยกันอีก ฉันหิวแล้วจริงๆ พวกนายสองคนเลิกอ้อยอิ่งซักทีได้ไหม?”

เธอพูดจบ ก็เดินเข้าไปเลย

เหยาจ้าวมองไปที่จ้านเซินอย่างระแวดระวัง “บอส เชิญคุณก่อน”

ทุกครั้งที่เหยาจ้าวทำเรื่องผิดพลาดมักจะเรียกเขาว่าบอส ปกติจะเรียกจ้านเซิน

จ้านเซินเหล่มองเขาเบาๆ ไม่ได้พูดอะไร

เขาเดินตามฉินซีไปโดยไม่พูดอะไร ก้าวขาใหญ่มาก ไม่นานก็มายืนข้างตัวฉินซี

ฉินซีสั่งซุปซี่โครงข้าวโพดที่ตนเองเองชอบอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้เธอกินอย่างอื่นไม่ลง ได้แต่ดื่มซุปที่มีโภชนาการมาทดแทน

จ้านเซินเมื่อกี้กินไปแล้ว ตอนนี้ไม่หิวเลยซักนิด

เขายืนอยู่ตรงหน้าต่าง พนักงานเห็นการกลับมาของจ้านเซิน ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “บอส คุณกินข้าวไปแล้วไม่ใช่หรอ? ทำไมถึง….”

เขาเอ่ยปากพูด แต่ถูกจ้านเซินถลึงตาใส่

จ้านเซินมองไปที่ฉินซีอย่างมีความผิด พบว่าเธอกำลังหาที่นั่ง ไม่ได้สนใจเรื่องของตนตรงนี้

“ทำซุกซี่โครงให้ฉันอีกชาม ไม่ต้องเยอะมาก”

จ้านเซินเพียงแค่อยากนั่งอยู่กับฉินซีซักพัก ไม่ได้อยากกินข้าว

“ครับผม”

พนักงานโรงอาหารแม้จะไม่รู้ว่าจ้านเซินกำลังทำอะไรอยู่ แต่เมื่อเผชิญกับคำสั่งของเขาก็ยังพยักหน้า

เขาเสิร์ฟซุปซี่โครงให้จ้านเซินอย่างว่องไว ยังนึกว่าเมื่อกี้จ้านเซินกินไม่อิ่ม

ครั้งนี้ พนักงานตักให้จ้านเซินเต็มที่ ลืมไปโดยสิ้นเชิงเรื่องที่เมื่อกี้จ้านเซินบอกว่าเอาน้อยๆ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท