Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1440

ตอนที่ 1440

บทที่1440 การเชื่อฟังโดยสมบูรณ์

ฉินซีมองตรงไปที่จ้านเซิน น้ำเสียงสงบนิ่ง ไม่มีความใจฝ่ออยู่เลย

น้ำเสียงของเธออ่อนโยนมาก ดวงตาชัดเจนสดใส ทำให้จ้านเซินใจสั่นเล็กน้อย

สายตากับน้ำเสียงแบบนี้ จ้านเซินไม่รู้ว่าไม่ได้เห็นมานานแค่ไหนแล้ว

ในใจจ้านเซินรู้สึกซับซ้อน แล้วพยักหน้าภายใต้การจ้องมองของฉินซี “โอเค”

เขามองดูฉินซีวางของไว้ในกระเป๋าเดินทางของตน แววตาเผยความซับซ้อน

“ก๊อกก๊อกก๊อก…..”

ประตูห้องถูกเคาะขึ้นอีกครั้ง

“เข้ามา”

ฉินซีชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็พูดขึ้น

วันนี้ทางด้านเธอครึกครื้นจริงๆ ผู้คนหลั่งไหลมาไม่หยุด

ก่อนหน้านี้เป็นเพราะจ้านเซิน ทุกคนจึงเว้นระยะห่างกับเธอ วันนี้ก็ไม่รู้ว่ามาได้ยังไง

ประตูห้องเปิดออก

เผยให้เห็นผู้ชายสองคนที่หน้าตาเหมือนกันทุกประการ

สองคนนี้คือลูกน้องที่มีความสามารถของจ้านเซิน จั่วยีจั่วเอ้อ

พวกเขาเป็นฝาแฝดกัน ถูกพาเข้ามาในองค์กรตั้งแต่อายุไม่กี่ขวบ หลายปีมานี้ ก็อยู่ข้างกายจ้านเซินอย่างซื่อสัตย์มาโดยตลอด

จ้านเซินมักจะพูดเสมอว่า ต่อให้ทุกคนจะทรยศเขา จั่วยีกับจั่วเอ้อก็จะไม่ทำ

เพราะที่นี่คือบ้านของจั่วยีจั่วเอ้อ เป็นท่าเรือของพวกเขาไปปชั่วชีวิต

“บอส คุณฉิน หมอเหยา”

จั่วยีจั่วเอ้อทักทายอย่างพร้อมเพรียงกัน

พวกเขาทั้งสองเป็นฝาแฝดไข่ใบเดียวกัน หน้าตาเหมือนกันเป๊ะ ฉินซีอยู่องค์กรมาตั้งหลายปีแล้ว ยังแยกแยะชื่อของทั้งคู่แทบไม่ได้

แล้วเหยาจ้าวที่เข้ามาหลายปีแล้ว ก็ยังแยกได้ไม่ชัดเจน

หลักๆเป็นเพราะเขากับจั่วยีจั่วเอ้อไม่ได้ติดต่อกันมากนัก ดังนั้นจึงไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้

น้ำเสียงของพวกเขามีความเฉยชาเป็นพิเศษ ราวกับเป็นหุ่นยนต์

ฉินซีคุ้นเคยกับน้ำเสียงโทนเดียวกันของทุกคนแล้ว พวกเขาไม่มีความรู้สึก ไม่มีหัวใจ มีเพียงการเชื่อฟังโดยสมบูรณ์

เมื่อฉินซีเห็นการปรากฏตัวของจั่วยีจั่วเอ้อ ก็รู้เจตนาของพวกเขาแล้ว

แววตาของจ้านเซินมีแสงแวบผ่าน “ฉินซี สองสามวันถัดจากนี้จั่วยีกับจั่วเอ้อจะอยู่ข้างกายเธอตลอดเวลา คุ้มครองความปลอดภัยของเธอ จนกว่าเธอกลับมาถึงองค์กร”

เขาพูดอย่างแผ่วเบา โดยจงใจเน้นคำสองคำ คำว่าตลอดเวลา

ฉินซีฟังการเตือนที่อยู่ในนั้นออก เม้มมุมปาก

เธอแสร้งทำเป็นฟังไม่เข้าใจ พูดด้วยรอยยิ้มบางๆ “จั่วยีจั่วเอ้อ สองสามวันนี้รบกนพวกนายด้วยนะ”

ฉินซีผงกหัวให้ทั้งสองเล็กน้อย

แต่ก่อนพวกเขาก็เคยปฏิบัติภารกิจร่วมกันมาก่อน แต่หลังจากที่ฉินซีค่อยๆเติบโตยืนด้วยลำแข็งตัวเอง ภารกิจที่ได้รับก็เป็นความลับมากขึ้น จั่วยีกับจั่วเอ้อก็ไม่มีคุณสมบัติ

จั่วยีจั่วเอ้อเห็นเธอเกรงใจแบบนี้ ก็รีบโค้งตัวให้ “คุณฉิน นี่เป็นสิ่งที่พวกเราควรทำ”

เมื่อก่อนตอนอยู่องค์กร สถานะของฉินซีสูงมาก

สถานะของเธอกับถังย่าเป็นรองเพียงแค่จ้านเซิน

ตอนนี้แม้ว่าฉินซีอยากออกจากองค์กร ก่อนหน้านี้ก่อความผิดพลาดไว้

แต่จ้านเซินก็ไม่กล่าวโทษเรื่องที่ผ่านมา ทั้งยังดีกับเธอเหมือนก่อน นั่นทำให้ทุกคนในองค์กรต่างมองออกว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่ธรรมดา

แม้ว่าในองค์กรจะไม่อนุญาตให้มีความรัก ไม่อนุญาตการแต่งงาน แต่คนที่มีความรักคือหัวหน้าของพวกเขา ด้วยวิธีการของจ้านเซินแล้ว ใครจะกล้ารนหาที่ตายไปคัดค้าน

จ้านเซินเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ พูดเสียงต่ำ “ใกล้ได้เวลาแล้ว พวกเธอออกเดินทางเถอะ”

แม้ว่าในใจของเขาไม่เต็มใจอย่างมากที่จะให้ฉินซีออกจากองค์กร แต่คำที่พูดออกไปแล้ว ก็เหมือนน้ำที่สาดออกไปแล้ว

ในเมื่อเรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว งั้นเขาอยากที่จะเก็บคำสั่งกลับมาก็ทำไม่ได้แล้ว

“ค่ะ/ครับ”

ฉินซีกับจั่วยีจั่วเอ้อตอบรับด้วยสีหน้าจริงจัง

ทั้งสามคนเตรียมออกเดินทาง

ฉินซีมองไปที่จ้านเซินกับเหยาจ้าว เอ่ยปากพร้อมยิ้มเบาๆ “ฉันไปแล้วนะ”

เธอโบกมือให้ ดูแล้วสวยงามมาก

“รีบกลับมานะ”

เหยาจ้าวพูดอย่างอดไม่ได้

จ้านเซินกลับยืนอยู่ที่เดิมไม่ซักคำเดียว เขาไม่อยากบอกลาฉินซี

เขาหวังว่าฉินซีจะกลับมาภายในเวลาที่กำหนด อย่าบังคับให้เขาตัดสินใจ

จ้านเซินเม้มปาก แววตาลึกซึ้งเฝ้ามองแผ่นหลังของฉินซีหายไปจากสายตา

เหยาจ้าวยืนอยู่ด้านข้างเขา สัมผัสได้อย่างชัดเจน ถึงออร่าหนาวเหน็บที่แผ่ออกมาจากตัวของจ้านเซิน ทำให้คนตัวสั่น

เขาถอนหายใจเงียบๆในใจ ไม่กล้าพูดจา

จ้านเซินสงบลงแล้วซักพัก ถึงเอ่ยปากพูด “กลับกันเถอะ”

ที่นี่ถึงอย่างไรก็เป็นห้องของฉินซี พวกเขาชายหนุ่มสองคนอยู่ต่อจะไม่สะดวก

“โอเค”

เหยาจ้าวพยักหน้า เดินตามหลังเขาออกไป

ก่อนที่จะไป เหยาจ้าวยังล็อคประตูห้องของฉินซี

เมื่อจ้านเซินกลับมาถึงห้อง ก็หยิบเครื่องติดตามออกมา

เขาต้องควบคุมการเคลื่อนไหวของฉินซีตลอดเวลา ไม่อย่างนั้นเขาเอาแต่รู้สึกว่าจะเกิดเรื่องขึ้น

อันที่จริง ครั้งนี้ฉินซีไม่ได้วางแผนที่จะหนีเลย

เธอรู้สึกว่า จ้านเซินในตอนนี้แม้ว่าจะดูเหมือนวางใจเถอะ แต่กลับระแวดระวังมากกว่าครั้งไหน

จ้านเซินวางกับดักไว้อย่างแน่นหนา รอให้เธอกับลู่เซิ่นติดกับ

ครั้งที่แล้ว พวกเขาทำพลาดไปแล้วครั้งนึง

ครั้งนี้ พวกเขาจะต้องระแวดระวังให้มากกว่าเดิม

จ้านเซินให้อภัยเธอมาครั้งนึงแล้ว ไม่ลงโทษเธอ ไม่ได้แปลว่าจะให้อภัยเป็นครั้งที่สอง

ถ้าหากมีอีกครั้ง ต่อให้จ้านเซินไม่อยากจัดการเธอ พวกตาเฒ่าในองค์กรก็จะไม่เห็นด้วย

พวกเขากดดันจ้านเซิน จ้านเซินก็จะเริ่มลำบาก

ฉินซีไม่ต้องการให้สถานการณ์ตกไปอยู่ในจุดนั้น เธออยากจะสำเร็จซักครั้ง หลังจากออกไป ก็จะไม่กลับมาแล้ว

“จั่วยีจั่วเอ้อ ตามแผนการ วันนี้พวกเราไปตรวจสอบสภาพแวดล้อมของงานเลี้ยงก่อน พรุ่งนี้จะได้ลงมือสะดวก”

ภารกิจครั้งนี้ จ้านเซินออกคำสั่งไว้แล้ว ว่าให้ทุกคนฟังคำสั่งของฉินซี

แน่นอน ว่าต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ฉินซีเป็นฝ่ายถูก

ถ้าฉินซีมีการเคลื่อนไหวว่าจะหลบหนีใดๆ ก็จับเธอไว้ทันที

“ครับ”

จั่วยีจั่วเอ้อพยักหน้า

ทั้งสองต่างเป็นคนพูดไม่เก่ง ฉินซีเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรกับพวกเขา ได้แต่นั่งอยู่บนรถด้วยความเบื่อหน่ายเล็กน้อย มองวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่าง

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทิวทัศน์ด้านนอก สวยงามมากจริงๆ

เวลาผ่านไปกว่าหนึ่งเดือน ฉินซีคิดถึงมันมาก

เธอหลับตาลง สัมผัสลาเบาๆที่ผ่านแก้ม

มุมปากฉินซีโค้งขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าเผยความปิติยินดี

ในที่สุดเธอก็ออกมาแล้ว!

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ฉินซีก็มาถึงสถานที่จัดงาน

……

ในขณะเดียวกัน

ลู่เซิ่นกับโจวเอ้อเองก็มาแล้ว

ลู่เซิ่นมาถึงก่อนฉินซีหนึ่งก้าว

โจวเอ้อได้ตรวจสอบล่วงหน้าแล้ว ตอนนี้คนสอดแนมของจ้านเซินยังมาไม่ถึง

ดังนั้น ทั้งสองถึงกล้าเข้ามาอย่างกล้าหาญแบบนี้

แต่พวกเขาก็ไม่กล้าอยู่นาน ตรวจสอบภูมิประเทศนิดหน่อย สเก็ตช์ภาพวาดของห้องจัดเลี้ยงไว้ ก็รีบออกไป

ห้องหนังสือ

“ห้องจัดเลี้ยงทั้งหมด มีเพียงตรงนี้ที่เป็นจุดบอดของกล้องวงจรปิด”

หลูจื๋อหลินมีเงิน เขาทำสัญญาเป็นพิเศษกับสถานที่จัดงานที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไห่ เชิญผู้คนมามากมาย

ลู่เซิ่นดูภาพวาดอย่างละเอียดหนึ่งรอบ ใบหน้าจริงจัง

โจวเอ้อนึกย้อนกลับไปในสมองหนึ่งรอบ พยักหน้า “ใช่แล้ว”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท