Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1431

ตอนที่ 1431

ไม่นาน ยาเสริมกำลังที่มีอยู่เต็ม ก็มองเห็นก้นขวด

“เหยาจ้าว ดูท่านายจะยังมีประโยชน์อยู่บ้าง”

นึกถึงปัญหาของที่เสริมกำลังที่แก้ไขได้แล้ว หลังจากนี้ไม่ต้องดื่มยาน้ำที่ขมอีกแล้ว อารมณ์ของฉินซีก็มีความสุขขึ้นมา

ฉินซีลุกขึ้นจากพื้น ปัดฝุ่นที่ก้นออก

“ไปเถอะ เราไปกินข้าวที่ร้านอาหารกัน”

ตอนนี้ฉินซีแทบรอไม่ไหวที่จะกินผลไม้ แก้ไขความตะกละในท้องเสียหน่อย

“รอก่อน”

ในตอนที่เท้าของฉินซียังไม่ทันก้าวก้าวแรกออกมา จ้านเซินก็เอ่ยปากขึ้นกะทันหัน

ฉินซีชะงักเล็กน้อย เท้าค้างอยู่กลางอากาศ หรี่ตาลงด้วยความสงสัย “จ้านเซิน นายมีอะไรหรอ?”

เธอไม่เข้าใจ ทำไมจู่ๆ จ้านเซินก็เคร่งขรึมขึ้นมา เหมือนกับมีเรื่องอะไรซักอย่าง

จ้านเซินยืนอยู่ตรงข้ามเธอ เอ่ยปากเสียงต่ำ “ฉินซี เธออยากรับภารกิจไหม?”

เขาเอ่ยถามโดยตรง

หลังจากฉินซีได้ยินคำถามนี้แล้ว ตาก็สว่างขึ้นทันที

“อยากสิ ฉันอยากมาตั้งนานแล้ว”

ฉินซีพยักหน้า เอ่ยปากอย่างน้อยใจเล็กน้อย

แม้ว่าเธออยาก แต่จ้านเซินไม่ให้เธอทำมาตลอด บอกว่าสมรรถภาพร่างกายของเธอยังไม่ฟื้นฟูจนถึงมาตรฐานที่สามารถออกไปทำภารกิจได้ ยังต้องฝึกฝนต่อไป

อันที่จริง ฉินซีรู้สึกว่าจ้านเซินกังวลว่าเธอจะหนีออกไป แล้วไม่กลับมาอีก จึงเอาแต่รั้งเธอไว้ ไม่ยอมให้เธอไป

ฉินซีเข้าใจจิตใจของจ้านเซิน แม้ว่าเธอจะอยากออกไปมาก ไปหาลู่เซิ่น

แต่ว่า เพื่อให้จ้านเซินเชื่อใจเธออย่างลึกซึ้ง ฉินซีได้เพียงอดกลั้นความคิดถึงของตนไว้

ตามปกติ เธอกับลู่เซิ่นติดต่อกับผ่านเหยาจ้าว

แม้จะไม่ได้พบเจอ แต่ก็สามารถบรรเทาความรักใคร่ได้บ้างไม่มากก็น้อย

ฉินซีเตรียมตัว รอเธอสามารถออกไปได้จริงๆแล้ว ค่อยหนีไปหาลู่เซิ่น

ถึงตอนนั้นจ้านเซินก็ไม่อยู่ข้างกายเธอ เธอก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว

ฉินซีมองตาแป๋วไปที่จ้านเซิน สายตาเผยแววปรารถนา

จ้านเซินเม้มริมฝีปาก มีเรื่องมากมายอยู่ในใจ สุดท้ายก็ถอนหายใจเงียบๆ “ตอนนี้เธอสามารถออกไปทำภารกิจได้แล้ว”

เขาเอ่ยปากเบๆ น้ำเสียงสงบนิ่ง แต่มันทำให้เกิดความโกลาหลในใจของฉินซี

เธอคิดไม่ถึงว่า จ้านเซินจะปล่อยให้เธอออกไปทำภารกิจเร็วขนาดนี้

ฉินซีคิดมาตลอดว่า ด้วยนิสัยขี้ระแวงอย่างมากของจ้านเซินแล้ว จะต้องเฝ้าสังเกตเป็นเวลาหลายเดือนแน่

เธอเตรียมพร้อมที่จะสู้กับศึกระยะยาวแล้ว คิดไม่ถึงว่าความน่าประหลาดใจจะเกิดขึ้นกะทันหัน

“จริงหรอ?”

บนใบหน้าขาวนวลของฉินซีเผยความเหลือเชื่อ

เธอมองตรงไปที่จ้านเซิน รอคำตอบของเขา

จ้านเซินจ้องมองดวงตาที่ส่องประกายราวกับดวงดาวของเธอ พยักหน้า “จริงสิ”

ทันทีที่เขาพูด ฉินซีก็กระโดดอย่างมีความสุข

“เจ๋งไปเลย!”

ฉินซีกระโดดอยู่กับที่ ใบหน้าที่บอบบางเผยรอยยิ้มที่สดใส

เธอดีใจมากจริงๆ

จ้านเซินมองท่าทางชอบใจของเธอ ก็ขมวดคิ้ว “แต่ว่า ก่อนที่จะออกไป เธอจะต้องยอมรับเงื่อนไขฉันสองสามข้อ ถ้าหากเธอไม่รับปาก หรือรับปากแล้วทำไม่ได้ หลังจากนี้ฉันจะไม่ให้เธอเหยียบออกไปนอกองค์กรแม้แต่ก้าวเดียว”

เขาพูดด้วยใบหน้าจริงจัง เหมือนเทน้ำเย็นลงบนหัวของฉินซีโดยตรง

ฉินซีรู้สึกว่าร่างกายเปียกโชกทันที หัวใจทั้งดวงรู้สึกเย็นเยือก

“เงื่อนไขอะไร”

ฉินซีเม้มริมฝีปากแน่น รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไปในทันที

อากาศเปลี่ยนเป็นเย็นเยือกขึ้นมา

เหยาจ้าวยืนอยู่ด้านข้าง มองดูท่าทีที่เย็นชาของทั้งสอง ก็ตัวสั่นเล็กน้อย

สองคนที่จะไม่ปล่อยให้คนมีชีวิตอยู่เลยหรอ ทั้งคู่ดูไม่ต่างอะไรกับน้ำแข็ง

เรื่องแบบนี้ เขาไม่อยากเข้าไปร่วมด้วยเลย

เหยาจ้าวแอบอยู่ฝั่งหนึ่งอย่างเชื่อฟัง รอทั้งสองคุยกันเสร็จ ก็จะได้ไปกินข้าวแล้ว

เขารู้สึกว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ฉินซีจะอดทนยอมรับข้อเสนอที่ไม่เป็นธรรมของจ้านเซิน ถึงอย่างไรตอนนี้ฉินซีก็อยากทำให้จ้านเซินพอใจ ให้การระแวดระวังของจ้านเซินลดลง

จ้านเซินไม่ได้ปล่อยประเด็นให้คั่งค้าง เขาเปิดริมฝีปากออก “ข้อแรก เธอออกไปข้างนอกได้ แต่จำเป็นต้องมีผู้คุ้มกันอยู่ข้างกาย แม้ว่าตอนนี้ร่างกายเธอจะฟื้นฟูจนเกือบหายดีแล้ว แต่ก็เป็นเวลาหนึ่งปีกว่าแล้วที่ไม่ได้ทำภารกิจ มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเล็กๆมากมาย ที่เธอยังไม่เข้าใจ ให้พวกเขาไปกับเธอ เธอจะได้ปรับตัวด้วย ยังไงก็เพื่อรับประกันความปลอดภัยของเธอ”

ปากของเขาบอกว่าเพื่อปกป้องฉินซี อันที่จริงแล้วก็เพื่อเฝ้าสังเกตเธอ ป้องกันไม่ให้ครั้งนี้เธอออกไปแล้ว ก็จะไม่กลับมาอีก

เรื่องนี้ ฉินซีเข้าใจดียิ่งกว่าใคร

ในปีนั้นที่เธอออกไปทำภารกิจครั้งแรก พึ่งอายุไม่กี่สิบขวบ ยังไม่เห็นบอดี้การ์ดซักคนมาป้องกันความปลอดภัยให้เธอ

เธอยกมุมปากขึ้นอย่างเย้ยหยัน เธอว่าแล้ว จ้านเซินจะไปปล่อยให้ตนออกไปง่ายๆได้ยังไง ที่แท้ก็รอเธออยู่ตรงนี้

ฉินซีปรับอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว เธอรู้ว่าเรื่องนี้รีบร้อนไม่ได้ ต้องได้รับความไว้วางใจจากจ้านเซินไปทีละขั้น แล้วค่อยเป็นค่อยไป

“ฉันรับปากนาย ยังมีอีกไหม?”

ฉินซีพยักหน้า แม้ว่าในใจจะไม่มีความสุข แต่การแสดงออกบนใบหน้ากลับสงบนิ่ง

เธอรู้ว่าในเมื่อจ้านเซินพูดว่าข้อแรก งั้นถัดไปจะต้องมีเงื่อนไขอื่นรอตนอยู่อีกแน่

เพียงแต่ไม่รู้ว่า จะเรียกร้องมากขึ้นหรือเปล่า

ฉินซีแอบเตรียมพร้อมอยู่ในใจ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้อีกเดี๋ยวสีหน้าของตนจะกลายเป็นดูไม่ได้ ทำให้จ้านเซินสังเกตเห็นความผิดปกติ แล้วเปลี่ยนใจ กีดกันแม้แต่โอกาสที่เธอจะได้ออกไปข้างนอก

ถ้าเป็นแบบนั้น กระทั่งสถานที่ให้ร้องไห้เธอก็ไม่มี

“ข้อที่สอง ฉันจะติดกล้องวงจรปิดไว้บนตัวเธอ เธอพกติดตัวไปด้วย เพื่อที่ฉันจะได้ตรวจสอบที่อยู่ของเธอได้ตลอดเวลา ถ้าเกิดเรื่องขึ้นกับเธอ จะได้จัดแจงให้คนไปช่วยเหลือ”

จ้านเซินเอ่ยปากพูดต่อ ทุกคำพูดต่างคิดเพื่อความปลอดภัยของฉินซี แต่ที่จริงแล้วเพื่ออะไร คนที่อยู่ตรงนั้นล้วนรู้อยู่แก่ใจ เพียงแต่ไม่มีใครกล้าแหย่

ฉินซีสูดหายใจลึก กลอกตาในใจ

“โอเค มีอีกไหม?”

เธออยากให้จ้านเซินพูดให้จบในครั้งเดียวจริงๆ แต่ล่ะอันมันช่างเกินจะรับได้จริงๆ

เหตุผลที่จ้านเซินจะติดกล้องแล้วยังต้องบอกเธอ เป็นเพราะฉินซีรู้จักสิ่งของพวกนี้ดี ถ้าเขาแอบลงมือเอง ก็อาจทำให้ฉินซีมีใจขัดขืน ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะบอกกับเธอโดยตรง

ถ้าฉินซีทำไม่ได้ งั้นเธอก็จะไม่มีโอกาสได้ออกไป

หลังจากชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียดูแล้ว เป็นธรรมดาที่ฉินซีจะเลือกรับปาก

“ข้อที่สาม และเป็นข้อสุดท้าย ไม่ว่าภารกิจจะสำเร็จหรือไม่ เธอจะต้องกลับถึงองค์กรให้ตรงเวลา ตามเวลาที่กำหนด ถ้ากลับช้า ก็จะยกเลิกโอกาสที่เธอจะได้ออกไปทำภารกิจในครั้งต่อไป”

จ้านเซินบอกเงื่อนไขทั้งสามข้อกับฉินซี อย่างครบถ้วนและชัดเจน

หลังฉินซีฟังจบ ก็รู้ว่าใจที่ป้องกันตนของจ้านเซิน ที่แท้มันหยั่งลึกแค่ไหน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท