Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1438

ตอนที่ 1438

บทที่1438 งานเต้นรำสวมหน้ากาก

ก่อนโจวซิงจะไป ก็อดไม่ได้ที่จะหันมามองลู่เซิ่น “นายเองต้องระวังให้ดีนะ มีเรื่องอะไรโทรหาฉันกับโจวเอ้อได้ตลอด”

มองดูท่าทางอ้อยอิ่งของเขา ลู่เซิ่นก็ขมวดคิ้ว

ถ้าไม่กลัวว่าการเคลื่อนไหวจะเสียงดังเกินไป ลู่เซิ่นอยากที่จะเดินเข้าไปถีบโจวซิงซักทีจริงๆ ให้เขารีบออกไป ไม่ต้องอยู่ตรงนี้ให้เสียเวลา

แต่คิดๆดู สาเหตุที่โจวซิงพูดเยอะแบบนั้น ก็เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของเขา

ลู่เซิ่นสูดหายใจลึก บังคับตัวเองให้ใจเย็นลง

“ฉันรู้”

ลู่เซิ่นพยักหน้า

เขาขี้เกียจที่จะรอให้โจวซิงไปแล้ว หันตัวจากฝั่งขยะของเสียไปทางกำแพงแล้วกระโดดออกไปอย่างคล่องแคล่ว

การเคลื่อนไหวของลู่เซิ่นที่บินข้ามกำแพงไป ปฏิบัติกับโจวซิงโดยตรง

โจวซิงตาโตอ้าปากค้างมองเขาที่เมื่อกี้ยังยืนตรงนี้อยู่ดีๆ ตอบคำถามตรงไปตรงมา ชั่วพริบตาก็หายไปในค่ำคืน ยังคงไม่ตอบสนองเป็นเวลานาน

สามวินาทีต่อมา ลมเย็นพัดผ่าน

โจวซิงอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น ใบหน้าเผยความงุนงง

“เฮ้อ…..”

โจวซิงถอนหายใจยาว พูดพึมพำกับตัวเอง “ต้องกลับมาอย่างปลอดภัยนะ!”

พูดจบ เขาก็หันหน้ากลับไปที่ห้องทำงาน

ตอนที่เดินไป โจวซิงยังคงมีความลังเล แต่เขารู้ว่า ลู่เซิ่นตัดสินใจที่จะไปพบฉินซีแล้ว ใครก็หยุดไว้ไม่ได้

……

ด้านนอกโรงพยาบาล

ลู่เซิ่นตกลงบนพื้น ราวกับแมวน้อยน้ำหนักเบา ไม่มีเสียงใดๆเลย

ออกจากโรงพยาบาลมาได้ ความกังวลในใจของลู่เซิ่นก็คลายลงไปมาก

เขาให้โจวเอ้อมาเหยียบจุดนี้ล่วงหน้าแล้ว ตรงนี้ไม่มีกล้องวงจรปิด

ลู่เซิ่นเลือกเดินตรงทางที่อำพรางมาตลอดทาง โจวเอ้อเตรียมรถไว้แล้วตรงจุดที่อยู่ไม่ไกล

เขาหารถที่โจวเอ้อเตรียมไว้เจอ แล้วขับรถไป

เพื่อหลีกเลี่ยงคนสอดแนมที่ถังย่าส่งไปที่วิลล่าที่เขาอาศัยอยู่ก่อนหน้านี้ ลู่เซิ่นจึงไปหนึ่งในคอนโดฯที่พวกเขาไม่รู้จัก

หลังลู่เซิ่นกลับไปแล้ว ก็อาบน้ำก่อน

เมื่อกี้เขาอดทนมาตลอด ถึงตอนนี้แน่นอนว่าอดทนไม่ไหวแล้ว

ลู่เซิ่นทิ้งเสื้อผ้าทั้งหมดลงถังขยะ อาบน้ำร้อนอย่างสุขสบาย

ในตอนที่ลู่เซิ่นอาบน้ำเสร็จออกมา โจวเอ้อเองก็กลับมาจากโรงพยาบาลแล้ว

พวกเขาทั้งสองวางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว แยกกันออกมาทีละคน

แบบนี้จะสามารถลดความสงสัยของคนอื่นได้

พอโจวเอ้อเข้าประตูมา เห็นรองเท้าของลู่เซิ่น ความกังวลในใจก็คลายในที่สุด

ค่อยยังชั่ว ลู่เซิ่นไม่เกิดปัญหาอะไรระหว่างทาง

ในห้องครัว ลู่เซิ่นกำลังชงกาแฟ

ได้ยินเสียง ลู่เซิ่นก็ถือกาแฟเดินออกมา

ลู่เซิ่นส่งสายตาให้เขานั่งลง “ทางฝั่งโรงพยาบาลโจวซิงดูอยู่ใช่ไหม?”

เขาวางหนึ่งในแก้วกาแฟ ลงที่ฝั่งตรงข้าม

โจวเอ้อพยักหน้า เดินลงไปนั่งตรงข้ามเขา ในจมูกมีกลิ่นหอมของกาแฟ “อืม ฉันกำชับเขาไว้แล้ว ครั้งนี้จะไม่เกิดข้อผิดพลาดขึ้นอีก”

ครั้งที่แล้ว พวกเขาประมาทไป

ข้อผิดพลาดแบบเดิม จะไม่เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สองแน่นอน

“อืม งั้นก็ดี”

ลู่เซิ่นพยักหน้า ใบหน้าเผยรอยยิ้มที่พอใจ “พรุ่งนี้ฉินซีจะออกมาปฏิบัติภารกิจแต่เช้า พวกเรามาดูกันก่อนเถอะว่าจะปะปนเข้างานเลี้ยงยังไง”

แม้ว่าก่อนหน้านี้ ลู่เซิ่นแค่เผยตัว ก็สามารถเข้าได้แล้ว

แต่ว่าตอนนี้ เขาไม่สามารถใช้ตัวตนที่แท้จริงเข้าไปได้

“ฉันมีวิธีนึง แต่อาจจะไม่เป็นธรรมกับนาย”

โจวเอ้อมองไปที่ลู่เซิ่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง

มองไปที่ท่าทีพูดคำหยุดคำของเขา ลู่เซิ่นก็ขมวดคิ้ว “วิธีอะไร?”

ถังขยะเขาก็มุดมาแล้ว ยังมีอะไรน่าอัปยศกว่านั้นหรอ?

โจวเอ้อได้สอบถามเกี่ยวกับงานเลี้ยงในครั้งนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว

เจ้าของงานคือหลูจื๋อหลิน มีชื่อเสียงอย่างมากในศูนย์การค้า เฉิดฉายมาหลายสิบปีแล้ว

ตาแก่คนนี้หื่นมาก ว่ากันว่ายังมีงานอดิเรกพิเศษบางอย่าง

ดังนั้น งานเลี้ยงที่หลูจื๋อหลินจัดขึ้นในครั้งนี้ ก็ไม่ใช่ทั่วๆไป

งานเลี้ยงในครั้งนี้ เขากำหนดให้ทุกคน รวมทั้งพนักงานเสิร์ฟ สวมใส่หน้ากาก

กล่าวได้ว่าเป็นการแสวงหาความลึกลับและความตื่นเต้น

คิดมาถึงตรงนี้ โจวเอ้อก็เบ้ปาก ในใจเริ่มขยะแขยง

เป็นตาแก่จะเข้าโรงอยู่แล้ว ยังจะมีเล่ห์เหลี่ยมเยอะอีก

แต่ก็โชคดีที่หลูจื๋อหลินมีความคิดนี้ ทำให้พวกเขาลงมือได้สะดวกขึ้น

“ฉันจะจัดเตรียมให้นายเข้าไปล่วงหน้า ปลอมเป็นพนักงานเสิร์ฟ แต่งตัวให้นายน่าเกลียดนิดหน่อย แล้วใส่หน้ากาก แบบนี้ก็ไม่มีใครจับได้แล้ว”

แน่นอน โจวเอ้อเองก็จะปลอมเป็นหนึ่งในนั้น

ถึงเวลาถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เขาก็ยังช่วยลู่เซิ่นหลบหนีได้

“ได้”

ลู่เซิ่นตอบตกลงโดยไม่ต้องคิด

ก็แค่ปลอมเป็นพนักงานเสิร์ฟ ยกชารินน้ำให้คนอื่นเท่านั้น

จะมีอะไรที่ไม่สามารถทนได้อีก เขาในตอนเด็ก เคยทำเรื่องที่ยากกว่านี้เป็นร้อยเท่า เขาก็อดทนผ่านมาได้

เห็นลู่เซิ่นตกลงแล้ว ใบหน้าของโจวเอ้อก็เผยรอยยิ้ม “โอเค ฉันจะไปจัดเตรียมหน่อย”

“จริงสิ ถึงตอนนั้นนายจะต้องเก็บออร่าน่ากลัวบนตัวไปด้วย พยายามทำให้ตัวเองไม่สะดุดตา อย่าดึงความสนใจของคนอื่นมารวมไว้ที่ตัวนาย”

รูปร่างภายนอกของลู่เซิ่นยอดเยี่ยมเกินไป นี่เป็นจุดที่โจวเอ้อกังวลมากที่สุด

แม้ว่าหน้ากากจะปกปิดใบหน้าของลู่เซิ่นไว้ได้ แต่กลับปกปิดกลิ่นอายที่หลั่งออกมาจากข้างในไม่ได้

“ฉันรู้”

ลู่เซิ่นขมวดคิ้ว แล้วรับปาก

เขาเคยฝึกฝนทักษะด้านนี้มาก่อน หลบซ่อนตัวเก่ง

โจวเอ้อยังคงไม่วางใจเล็กน้อย “ฉันเตรียมหน้ากากไว้หลายอัน แล้วก็เอาชุดของพนักงานเสิร์ฟมาหนึ่งชุด นายลองดู ถ้ามีตรงไหนไม่ดี นายบอกฉัน ฉันจะเอาไปแก้ไขทันที”

เขาทำอะไรเหมาะสมมาตลอด ของที่จำเป็นก็จะเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว

นี่เป็นจุดที่ลู่เซิ่นพอใจที่สุด

“โอเค”

ลู่เซิ่นพยักหน้า

“งั้นฉันไปหยิบมาให้นายดู”

พูดจบ โจวเอ้อก็รีบเดินไปทางห้องชั้นบน

เขาเอาหน้ากากที่ตนซื้อมาหลายอันกับชุดที่เอามาจากทางโรงแรมวางไว้ตรงหน้าลู่เซิ่น

“เพราะว่าเป็นงานเต้นรำสวมหน้ากาก ดังนั้นถึงตอนนั้นทุกคนจะสวมใส่เสื้อผ้าหลากหลายแต่งต่างกัน พวกเราคงจะไม่เด่นเท่าไหร่”

แต่ก่อนโจวเอ้อก็เคยร่วมงานเต้นรำแบบนี้ เพราะมองไม่เห็นว่าเป็นใคร ในงานเต้นรำจึงมักจะมีเรื่องตลกเกิดขึ้น

สาเหตุที่เขาให้ลู่เซิ่นปลอมเป็นพนักงานเสิร์ฟ เพราะพนักงานเสิร์ฟต้องรินไวน์ให้แขกทุกคน ที่เดินไปเดินมาในงานเลี้ยง แบบนี้ก็จะมีโอกาสได้เข้าใกล้ฉินซี

ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นไปเข้าใกล้ฉินซี เป้าหมายใหญ่เกินไป อาจถูกเปิดเผยได้

ลู่เซิ่นก้มหน้า มองหน้ากากหลายอันที่ไม่เหมือนกัน

เขาเลือกหมาป่าอันหนึ่งที่หลบซ่อนที่สุดในนั้น สีเทาเข้มที่ดูแล้วธรรมดา

ลู่เซิ่นลองดู เอาหน้ากากมาใส่บนหน้า

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะลู่เซิ่นหรือไม่ หน้ากากที่แต่เดิมดูธรรมดา จู่ๆก็ดูเข้าตาไม่น้อย

ดวงตาคู่นั้นของลู่เซิ่น ลึกล้ำเฉียบคม ราวกับหมาป่าตัวจริง ล็อคเหยื่อไว้ ทำให้คนใจเต้นเร็วขึ้น

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท