Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1445

ตอนที่ 1445

บทที่ 1445 เล่ห์เหลี่ยม

“ตอนนี้ทั้งฮอลล์ ตกแต่งตามที่ ประธานหลูต้องการเกือบหมดแล้ว เหลือแค่ตรงมุมยังต้องเก็บรายละเอียดเพิ่มอีกหน่อย”

ลู่เซิ่นพูดจริงจัง ก่อนมาที่นี่ เขาท่องจำปัญหาทั้งหมดของงานเลี้ยงจนขึ้นใจแล้ว

“อึม”

ฉินซีสังเกตรอบๆ ใจลอย รู้สึกว่าการตกแต่งสวยดี

แต่เป้าหมายของเธอที่มาครั้งนี้คือสังเกตสภาพพื้นที่ เธอจำสภาพพื้นที่ภายในห้องโถงก่อน จากนั้นก็มองบนเพดาน สังเกตตรงไหนมีกล้องวงจรปิด

เธอมองขึ้นไปเพื่อสังเกตรายละเอียด แต่ต้องการทำอะไรกันแน่ มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้

ลู่เซิ่นยืนรอเงียบๆ ไม่เร่งรัดเธอ

สายตาเขามองฉินซีอ่อนโยน ใบหน้าด้านข้างที่ขาวอมชมพู ดวงตาดำขลับมีประกายรักใคร่

เวลาห่างกันเดือนครึ่ง

ความรักของลู่เซิ่นต่อเธอไม่ลดลงเลย มีแต่จะลึกซึ้งขึ้น

ระยะห่างไม่เป็นอุปสรรคกับสองคน เพราะการแยกกันครั้งนี้ทำให้ลู่เซิ่นกับฉินซีรู้ใจตัวเองชัดเจนยิ่งขึ้นว่าพวกเขาต้องการอะไรกันแน่

สายตาลู่เซิ่นที่รักใคร่และเร่าร้อน ทำให้ฉินซีรู้สึกอึดอัด

แม้ว่าปกติแล้วฉินซีออกจากบ้านก็จะถูกจับตามองเป็นประจำ แต่ไม่เคยมีใครทำให้เธอรู้สึกประหลาดอย่างนี้

ขณะที่ลู่เซิ่นจ้องมองเธอ เธอกลับไม่รู้สึกรำคาญ

ฉินซีหันไปสบตากับดวงตาดำขลับคู่นั้นของลู่เซิ่น เธอมองเห็นความคิดถึงลึกๆ ในดวงตาของเขา

ฉินซีชะงัก ในใจรู้สึกแปลกๆ

ความรู้สึกคุ้นเคยทวีขึ้นเรื่อยๆ จนเธอควบคุมไม่ได้ อยากจะเดินเข้าไปถามลู่เซิ่นเหลือเกิน

แต่สายตาที่เฝ้าจับตาเธอของจั่วยีจั่วเอ้อ ทำให้ฉินซียังอดกลั้นไว้

ฉินซีสูดลมหายใจลึก ดึงสายตากลับมา “ที่นี่ดูพอแล้ว ไปดูที่อื่นกันเถอะค่ะ”

เธอพูดเรียบๆ น้ำเสียงสงบ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“โอเคครับ”

ตามที่ลู่เซิ่นวางแผนไว้พาเธอเดินไปมุมที่ไม่มีกล้องวงจรปิด

โจวเอ้อเห็นการ์ดสองคนนั้นตามติดฉินซีตลอดเวลา อดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนใจ

ในหัวของเขามีเงาของคนหนึ่ง เกิดแผนขึ้นในใจทันที

โจวเอ้อรีบเดินไปสำนักงานด้านหลัง

แม้ว่าเขาไม่สะดวกจะออกหน้าจัดการเอง อย่างนั้นก็ให้ผู้จัดการมาจัดการเรื่องนี้ละกัน

โจวเอ้อสังเกตเมื่อครู่ ผู้จัดการโรงแรมเป็นคนที่จัดการเรื่องได้

เขาไม่ต้องการให้ผู้จัดการทำได้ดีมาก เพียงแต่ดึงเวลาจั่วยีจั่วเอ้อสองนาที เพื่อให้ลู่เซิ่นกับฉินซีได้คุยกันสั้นๆ ก็เท่านั้น

โจวเอ้อผลักประตูออฟฟิศ น้ำเสียงเร่งรีบ “แย่แล้ว ผู้จัดการ คุณช่วยไปดูทางนั้นหน่อย”

เขาแกล้งทำเป็นเกิดเรื่องสำคัญขึ้น สีหน้าร้อนใจ

ผู้จัดการกำลังเอนหลังขี้เกียจบนโซฟา เพลิดเพลินกับบุหรี่ที่เขาเพิ่งให้เมื่อครู่

เมื่อได้ยินเสียงดังกะทันหัน ตกใจจนตัวสั่น

เขาลนลานตะกายขึ้นจากโซฟา ดวงตาหยีเล็กเต็มไปด้วยความตกใจ

เมื่อเห็นคนที่มาคือโจวเอ้อ สีหน้าไม่พอใจ

เมื่อครู่เขาคิดว่าคือคนที่มาตรวจสอบ ถึงได้ตกใจลนลานเช่นนี้

ผู้จัดการไม่รีบใส่รองเท้าเดินมาหาโจวเอ้อ พูดอบรมสีหน้าเคร่งเครียด “เสียงดังอะไรกัน เอะอะทั้งวัน ไม่หยุดหย่อน”

ถ้าไม่เห็นแก่ที่เมื่อครู่โจวเอ้อให้ของขวัญ เขาก็คงตบหน้าสักฉาดแล้ว สั่งสอนกฎของลูกน้อง

น้ำเสียงของเขารำคาญเต็มทน โจวเอ้อมองเขาท่าทางโมโห ดวงตามีประกายเย็นเยือก ถ้าไม่เป็นเพราะงานสำคัญ โจวเอ้อคงฆ่าเขาไปแล้ว

โจวเอ้อหลบตา ปิดบังสายตาสังหาร ทำเป็นรีบร้อน “ผู้จัดการ คุณรีบไปดูทางนั้นเถอะ มีคนมาแล้ว ผมกับ จางหู่จัดการไม่ได้”

เขาเดินเข้าไปพูดเร่งผู้จัดการ

ผู้จัดการได้ยินว่ามีคนมา ก็ย่นคิ้ว “ใครมากัน”

เขามีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดี

“เลขาของประธานหลู และลูกน้องของเธอด้วย”

โจวเอ้อพูดตรงๆ

ผู้จัดการได้ยินคนของ หลูจื๋อหลิน มาแล้ว สีหน้าลนลาน “เฮงซวย! ทำไมไม่รีบพูด!”

ต้องรู้ว่า หลูจื๋อหลิน เป็นลูกค้ารายใหญ่ของโรงแรม ถ้างานเลี้ยงนี้พัง หัวหน้าตำหนิลงมา เขารับมือไม่ไหวแน่

“ผมพูดแล้ว!”

โจวเอ้ออธิบายอย่างโมโห แต่ผู้จัดการไม่สนใจฟังแล้ว

ผู้จัดการรีบสาวเท้าออกจากห้อง

เขาเดินไปพลาง ดุเสียงดัง “แกยังยืนอึ้งอะไรอีก ยังไม่รีบพาไป!”

ผู้จัดการจ้องเขาสายตาโกรธ ร้อนใจจนยืนไม่ติด

ท่าทางวางอำนาจอย่างนี้ทำให้ความอดทนของโจวเอ้อแทบจะหมดสิ้น แต่เมื่อนึกถึงลู่เซิ่นกับฉินซีเขายังคงอดทนต่อไป

เขารีบเดินไปข้างหน้าผู้จัดการนำทาง

“ข้างหน้าครับ”

ผู้จัดการที่อยู่ไกลๆ ก็มองเห็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่สองคนยืนอยู่ข้างหน้า ด้านหน้าพวกเขายังมีผู้หญิงรูปร่างอ้อนแอ้นอีกคนหนึ่ง

หญิงสาวสวมเสื้อคลุมสีขาว ผมยาวดำสลวยใช้กิ๊บไม้ติดผมมวยผมขึ้น มองดูแล้วสง่างามแต่ก็มีประสบการณ์และความสามารถ เผยเสน่ห์ของผู้หญิงออกมาอย่างมาก

แม้จะไม่เห็นหน้าตรงๆ แต่ผู้จัดการก็มั่นใจ ผู้หญิงคนนี้จะต้องสวยมากแน่ๆ ออร่าพิเศษทำให้ละสายตาไม่ได้

อีกอย่าง แม้ว่า หลูจื๋อหลิน จะอายุกว่าห้าสิบแล้ว แต่นิสัยเจ้าชู้ยังเหมือนเดิม

เขาชอบจัดงานเลี้ยงมากที่สุด เชิญสาวๆ สวยๆ มาร่วมงาน แล้วเลือกคนที่ตัวเองชอบ ไปเลี้ยงดู

ชายหนุ่มมากมายที่รักสนุกก็มาหาคู่นอน

เขาคิดว่านิสัยเจ้าชู้ของ หลูจื๋อหลิน ผู้หญิงที่อยู่ข้างเขาต้องเป็นคนสวยมากแน่ๆ

เมื่อเห็นด้านหลังของฉินซี เขาก็ยิ่งแน่ใจว่าตัวเองคิดถูก

ฉินซีได้ยินเสียงฝีเท้าก็หันไปมอง

ขณะที่ผู้จัดการเห็นฉินซีสวยโดดเด่นกว่าใคร นัยน์ตาตี่ก็มีประกายกรุ้มกริ่ม

หลายปีนี้ หลูจื๋อหลิน มาจัดงานเลี้ยงที่โรงแรมพวกเขาบ่อยๆ ทุกงานจะมีสาวงามมาร่วมงานนับไม่ถ้วน แต่เขาไม่เคยเห็นใครเทียบได้กับฉินซี

เขาไม่รู้จะบรรยายความงามของฉินซีอย่างไร หน้าตาสวยงามของเธอเหมือนดอกบัวหิมะศักดิ์สิทธิ์บนเขาเทียนซัน ทำให้คนได้แต่มองไกลๆ แต่ไม่กล้าหยอกเล่นด้วย

เธอยืนนิ่งๆ ตรงนั้น ออร่าที่ออกมาจากข้างใน ทำให้หลงใหลไม่หยุดหย่อน

ผู้จัดการรู้สึกอิจฉาหลูจื๋อหลิน ไม่เข้าใจว่าเขามีดีตรงไหน หาหญิงสาวสวยหน้าตาดีขนาดนี้มาอยู่ข้างกายได้

ใจของเขาเต้นกระเพื่อม สายตาจ้องมองฉินซีไม่กะพริบ เหมือนกับหมาป่าหิวโซเจอเข้ากับอาหารโอชะก็ไม่ปา

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท