Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1460

ตอนที่ 1460

บทที่1460 เพื่อนชั่ว

“ในห้องจัดเลี้ยงทั้งหมดล้วนเป็นหูเป็นตาให้กับจ้านเซิน นายระวังหน่อย เดี๋ยวจะถูกจับได้” โจวเอ้อแสร้งทำเป็นไม่ได้ตั้งใจเดินเขามาหาเขา ก่อนเตือนเขาด้วยเสียงเบา

เสียงที่ดังขึ้นมา ดึงลู่เซิ่นให้ออกมาจากความโกรธ

มาถึงจุดนี้แล้ว ความพยายามที่ทุ่มเทไปจะเสียไปเปล่าๆ

ลู่เซิ่นหายใจเข้าลึก และระงับความโกรธในใจ

เขาหลับตาลง พยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะซ่อนไฟที่ลุกโชนในดวงตาของเขา “ฉันรู้”

ลู่เซิ่นพูดด้วยเสียงแหบพร่า โจวเอ้อสามารถได้ยินเสียงความอดทนจากความโกรธได้ในน้ำเสียงของเขา

โจวเอ้อพูดอย่างเจ็บปวดว่า “อย่าห่วงเลย ฉินซีจัดการได้แน่”

ในสายตาของเขา ฉินซีเป็นผู้หญิงเข้มแข็งที่ยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง

เธอสามารถปกป้องตัวเองจากอันตรายได้

โจวเอ้อมองไปทางฉินซี

แน่นอน เขาเห็นว่าฉินซียังคงรักษาระยะห่างกับหลูจื๋อหลินครึ่งเมตร

ฉินซีมองไปยังหลูจื๋อหลินอย่างต้องการตักตวงผลประโยชน์ ดวงตาสีเข้มทอแววรังเกียจ “ขอบคุณประธานหลู ที่เข้าใจค่ะ ”

เธอพูดด้วยน้ำเสียงไม่ร้อนไม่หนาว ไอเย็นชาแผ่ออกมาทั่วทั้งร่าง

หลูจื๋อหลินเห็นการป้องกันในดวงตาของเธอ ก่อนจะถอนมือออกไปอย่างเก้อๆ

เขาไม่ได้โกรธ แต่กลับรู้สึกฉินซีแบบนี้ยิ่งน่าท้าทายไปอีกแบบ

หลูจื๋อหลินหัวเราะชอบใจพลางพูด “คุณฉินเกรงใจมากไปแล้วครับ วันนี้เป็นโอกาสที่หายาก อย่างนั้นผมแนะนำเพื่อนบางคนให้คุณดีกว่า?”

เขาพูดอย่างกระตือรือร้น ดวงตาเป็นประกาย

ที่เรียกว่าเพื่อนของหลูจื๋อหลิน คือพวกลูกคนรวยที่ใช้ชีวิตสำมะเลเทเมาไปวันๆ กับเขา

อาศัยว่าที่บ้านมีเงิน เลยทำอะไรตามอำเภอใจข้างนอกได้ ไม่ได้มีความสามารถอะไรมากนัก

หลูจื๋อหลินฉลาดเฉียบแหลม เขารู้ว่ารูปร่างหน้าตาและความรู้ความสามารถของฉินซีนั้นจะต้องดึงดูดความชื่นชอบจากชนชั้นสูงมากมาย

ถึงเวลานั้นก็คงมีชายหนุ่มเข้ามาหาแทบไม่ขาดสาย ถ้าหากผู้ชายคนไหนที่มาแล้วโดดเด่นกว่าเขา ฉินซีต้องถูกพวกเขาดึงดูดแน่นอน

หลูจื๋อหลินไม่อนุญาตให้มีเรื่องทำนองนั้นเกิดขึ้น ดังนั้นเขาจะหากลุ่มที่แย่กว่าตัวเองเป็นพิเศษมาให้

เป็นแผนการที่ฉินซีคาดไม่ถึง

แต่เธอไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านั้น จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือทำภารกิจที่จ้านเซินมอบหมายไว้ให้สำเร็จ

ครั้งนี้ฉินซีต้องตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลของหลูจื๋อหลิน และค้นหาหลักฐานการหลีกเลี่ยงภาษีของเขาเพื่อดูว่าเขามีผู้สมรู้ร่วมคิดอื่นอีกหรือไม่

เมื่อเผชิญหน้ากับคำเชิญของหลูจื๋อหลิน เธอพยักหน้า “คงต้องรบกวนประธานหลูแล้วค่ะ”

ริมฝีปากของเธอยกขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มบางๆ ปรากฏบนใบหน้าที่ใสสะอาดของฉินซี

เธอดูสูงส่งและสง่างามเมื่อสวมหน้ากากสีทอง

เธอแยกกับจั่วยีจั่วเอ้อตั้งแต่หลังจากเดินเข้ามาแล้ว

หลูจื๋อหลินเป็นคนที่ระมัดระวังตัวมาก ถ้าเขาเห็นคนมากมายอยู่ข้างหลังเธอ เขาจะต้องสงสัยอย่างแน่นอน ดังนั้นฉินซีจึง แยกทั้งสองคนออกจากกัน ปล่อยให้พวกเขารอเงียบๆ ที่มุมไปคนเดียว

เธอทำเช่นนี้เพราะยังมีเหตุผลอยู่อีกอย่างคือ ไม่มีการเฝ้ามองจั่วยีจั่วเอ้อ เธอจะได้พูดคุยกับลู่เซิ่นได้มากหน่อย

“คุณฉิน ผมบอกไปแล้วนะครับว่าระหว่างเราไม่จำเป็นต้องมาเกรงใจอะไร ถ้าหากคุณยังพูดขอบคุณ ผมจะโกรธจริงๆแล้วนะ”

หลูจื๋อหลินกล่าว ขณะพาเธอเดินไปหาเพื่อนของเขา

เขาแสร้งทำท่าทางไม่มีความสุข พลางมองไปยังฉินซี

เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ฉินซีพยักหน้า ก่อนตอบ “โอเคค่ะ ฉันจะไม่พูดแล้ว”

เขาพูดอย่างลวกๆ เธอไม่ได้เอาคำพูดของหลูจื๋อหลิน มาใส่ใจ

หากแผนการเป็นไปด้วยดี นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่หลูจื๋อหลินจะได้จัดงานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้ที่นี่

สิ่งที่รอเขาอยู่ คือชีวิตในคุกอันยาวนานที่ไม่มีสาวงามหรือเหล้ารสชาติดี ฉันไม่รู้ว่าหลูจื๋อหลินที่เคยมองว่าความสุขสำคัญกว่าชีวิตจะทนได้หรือไม่

ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในขอบเขตการพิจารณาของฉินซี สิ่งที่เธอต้องทำคือรวบรวมหลักฐาน

เธอเดินตามหลูจื๋อหลินอย่างว่าง่าย ไปหากลุ่มเพื่อนชั่วของเขา

เมื่อเห็นหลูจื๋อหลินนำสาวงามที่ไม่มีใครเทียบได้มา ใบหน้าของทุกคนปรากฏความประหลาดใจ

ดวงตาลุกโชนไปด้วยกองเพลิงสาดใส่มายังร่างของฉินซี ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดจนต้องขมวดคิ้ว

หลูจื๋อหลินมองไปยังแววตาที่มีความอิจฉาของทุกคน เขาอิ่มอกอิ่มใจ ก่อนจะพูดออกมาว่า “ผมอยากจะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับเพื่อนสนิทของผมฉินซี คุณฉินครับ”

เขาเปิดทางเล็กน้อยเพื่อเผยให้เห็นฉินซี

“คุณฉินเพิ่งเรียนจบจากต่างประเทศและกลับมายังเมืองไห่ได้ไม่นาน ครอบครัวเพื่อนฝูงต่างก็ไม่ได้อยู่ในประเทศนี้ หวังว่าทุกคนจะไว้หน้าผมและปฏิบัติดูแลคุณฉินดีๆนะครับ”

คำพูดของหลูจื๋อหลินทำให้ฉินซีอยู่ในขอบเขตป้องกันของเขาทันที ในเวลาเดียวกันก็บอกทุกคนว่าฉินซีเป็นผู้หญิงของเขาและบอกพวกเขาว่าอย่างให้ความสนใจกับฉินซี

แม้ว่าทุกคนจะไม่เห็นรูปลักษณ์ของฉินซี แต่แนวสันกรามของเธอที่เผยออกมาให้เห็น รูปร่างสวยงาม และผิวที่ขาวราวกับหิมะ ก็เพียงพอแล้วที่จะตัดสินได้ว่าเป็นหญิงงาม

เมื่อบวกกับท่าทางที่ประจบประแจงของ หลูจื๋อหลินแล้วก็ยิ่งมั่นใจได้ว่าฉินซีไม่ใช่สินค้าอย่างแน่นอน

ต้องการรู้ว่าสายตาของหลูจื๋อหลินเฉียบมาก ของคุณภาพงั้นๆเขาไม่เสียเวลามายุ่งหรอก

ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอหน้าตาของฉินซี ชายคนหนึ่งในนั้นที่มีหน้าตาเหมือนลิงพูดขึ้นมา “คุณฉินนำหน้ากากมา ปิดบังแน่นหนาเสียขนาดนี้ ถ้าหากเจอกันทีหลัง แล้วจำหน้าตาของคุณฉินไม่ได้ แน่นอนว่ามองไม่ออกแน่ จะดีกว่าไหมครับถ้ากอดหน้ากากให้ทุกคนได้เห็นหน้าตาเสียหน่อย เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิดในการเจอกัน การทำให้คุณฉินเคืองใจคงไม่ใช่เรื่องดี”

เขากลอกตา คิดหาข้ออ้าง

ฉินซีรู้ดีว่าเขาหมายถึงอะไร ด้านหลังหน้ากากใบหน้าที่งดงามเผยรอยยิ้มเย็นชา “วันนี้ไม่ใช่งานเลี้ยงปลอมตัวหรือคะ? ถ้าหากถอดหน้ากากแล้วมันคงจะหมดความน่าสนใจ”

เธอพูดเบาๆ และปฏิเสธผู้ชายที่ขอให้เธอถอดหน้ากาก

เมื่อเห็นเธอไม่ยินยอม ใบหน้าของชายคนนั้นปรากฏความไม่พอใจ “คุณฉิน ผมไม่ได้ให้คุณถอดตลอดทั้งคืนนี่ครับ แค่ชั่วคราวเท่านั้น ให้ทุกคนได้รู้จักหน่อยแค่นั้นเอง”

เขามองว่าฉินซีเป็นผู้หญิงที่แสร้งทำเป็นว่าตัวเองสูงส่งอย่างไม่รู้ตัว เมื่อเห็นเธอไม่ยินยอมที่จะถอดหน้ากากลง มันทำให้เขาเกิดความไม่พอใจ

ฉินซีมาที่นี่เพื่อทำภารกิจ ไม่ได้มาเพื่อทำให้ใครพอใจ

เธอมองไปยังผู้ชายตรงหน้าอย่างเย็นชา “คุณผู้ชายคนนี้ ไม่เข้าใจความหมายที่ฉันพูดหรือคะ?”

ในโลกของผู้ใหญ่ หากไม่มีการตอบสนองเชิงบวก นั้นก็หมายถึงการปฏิเสธ

ความหมายง่ายๆเช่นนี้ เขาไม่เข้าใจไม่ได้

เป็นเพียงแค่ลูกของคนรวยที่เคยชินกับการกำเริบเสิบสาน ไม่สนว่าอีกฝ่ายจะยินยอมหรือไม่ บังคับให้อีกฝ่ายำตามคำสั่ง

ในสายตาของพวกเขา ผู้หญิงไม่ได้เป็นอะไรเลยนอกจากของเล่นไว้ฆ่าเวลา

นี่พูดอะไร!

เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉินซีพูด ชายคนนั้นพลันมีโทสะขึ้นมา สองมือกำหมัดแน่น

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท