Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1455

ตอนที่ 1455

บทที่1455 เชื่อฟังคำสั่ง

เพื่อป้องกันเหตุการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว ซิวหน่ายซิงจะมีเสื้อผ้าไว้เปลี่ยนเตรียมไว้หลังรถ จะได้มีไว้ยามต้องการเสมอ

ความรู้ใจของเขาทำให้ถังย่าพอใจมาก

แม้ว่าปกติซิวหน่ายซิงจะดูเป็นพวกเอ้อระเหยลอยชาย ดูท่าทางไม่น่าเชื่อถือ แต่ถังย่ากลับรู้ว่าเขาเนื้อแท้เขาเป็นคนอ่อนโยน และใจดี

จากเรื่องเล็กน้อยบางอย่างข้างบน ก็สามารถเห็นได้แล้ว ว่านี่คือเหตุผลที่ถังย่าตกลงที่จะให้ซิวหน่ายซิงอยู่เคียงข้างท่ามกลางผู้คนมากมายที่ขอร้องเธอ

“โอเค”

ในวันพรุ่งนี้ถังย่ายังคงต้องเฝ้าดูลู่เซิ่น และไม่สามารถปล่อยให้เขาได้พบกับฉินซี

เธอรับปากกับจ้านเซิน และสัญญาว่าจะทำงานให้เสร็จ

ถังย่าไม่กล้าจินตนาการได้เลย ถ้าหากทำไม่สำเร็จ จ้านเซินจะทำอย่างไร

แน่นอนว่าคงโกรธ หลังจากนั้นจะไม่สนใจเธอ?

เมื่อนึกว่าจะเป็นแบบนั้น ถังย่าก็รู้สึกเศร้าใจ

ลู่เซิ่นเป็นคนเจ้าเล่ห์และกำลังก็ไม่ได้ด้อย ถังย่าไม่กล้าชะล่าใจ

ซิวหน่ายซิงนำหน้าต่างรถขึ้น ก่อนจะออกไปรอด้านนอก

ถังย่าถอดเสื้อออก และเปลี่ยนเป็นเสื้อตัวใหม่

หลังจากเปลี่ยนเสร็จ เธอก็โยนเสื้อผ้าที่เปียกทิ้งไว้ “นายก็เปลี่ยนสิ อึดอัดเปล่าๆ เดี๋ยวพวกเราตรงไปร้านหม้อไฟ”

เมื่อโดนฝน ไอชื้นบนร่างกายยิ่งหนัก

กินหม้อไฟจะช่วยขับเหงื่อ ทำให้ดีขึ้น

“ครับ”

ซิวหน่ายซิงพยักหน้า รอถังย่าลงมาจากรถ เขาจึงค่อยเข้าไปข้างใน

หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็ตรงไปที่ร้านหม้อไฟด้วยความสบายใจ

อีกด้าน

ฉินซีรีบตรงไปยังโรงแรม

คืนนี้พวกเขาจะพักกันทีนี่ ยังต้องเจอใครคนหนึ่งอีกครั้งก่อนหน้า

นั่นคือเป้าหมายของภารกิจในครั้งนี้ หลูจื๋อหลิน

ฉินซีจำได้ จ้านเซินบอกเธอว่าหมายเลขห้องของหลูจื๋อหลินคือ 1540

ในเวลานี้ เขาควรจะกำลังทานอาหารเย็นในห้องอาหารดาดฟ้าชั้นบนสุด

ก่อนงานเลี้ยงในวันพรุ่งนี้ ฉินซีจะต้องไปพบกับหลูจื๋อหลินเพื่อให้เธอคุ้นตาหลูจื๋อหลินก่อน หลังจากนั้นก็จะได้รับบัตรเชิญจากเขา

หลูจื๋อหลินฉลาดเฉียบแหลม เขาก็กังวลว่าคนอื่นจะมาโจมตีเขา

ดังนั้นข้างกายจึงมักนำบอดี้การ์ดไปด้วยทุกที่ และบัตรเชิญงานเลี้ยงก็จัดทำเพียงเฉพาะบุคคล

ดังนั้นจ้านเซินจึงไม่มีทางที่จะช่วยเธอทำขึ้นมาหนึ่งใบได้ ทำได้เพียงแค่พึ่งวิธีการของตัวเอง

แต่ในความคิดของฉินซี นี่เป็นเพียงแค่ปัญหาเล็กน้อยเท่านั้น

หลูจื๋อหลินเป็นคนเจ้าชู้ และความงามของฉินซีก็ถือได้ว่าเป็นความงามอันดับต้นๆ ใน เมืองไห่

ตราบใดที่เขายังเป็นผู้ชาย ก็คงอดที่จะหวั่นไหวไม่ได้

ฉินซีมองไปยังคนสองคนที่เดินตามหลังมา ก่อนพูดเสียงเบา “จั่วยี จั่วเอ้อพวกนายรอฉันที่หน้าประตูลิฟต์ ไม่ต้องตามเข้ามา”

หลูจื๋อหลินระมัดระวังตัวมาแต่ไหนแต่ไร ถ้าหากเขาเห็นบอดี้การ์ดข้างหลังเธอ จะต้องสงสัยในตัวตนของเธออย่างแน่นอน

จั่วยี จั่วเอ้อขมวดคิ้ว “คุณฉิน พี่ใหญ่บอกว่า… …”

จั่วยีพูดออกมาอย่างไม่สบายใจ คิดอยากจะตามขึ้นไป

สีหน้าเคร่งเครียดของฉินซีเหลือบมอง “พวกนายอยากให้หลูจื๋อหลินรู้ตัวตนของพวกเราใช่ไหม?”

เธอพูดทีละคำ “ก่อนออกมา จ้านเซินไม่ใช่เคยมอบหมายให้พวกนายหรือ? ในเรื่องใหญ่ ทุกอย่างต้องฟังคำกำชับจากฉัน ตอนนี้ฉันมาทำภารกิจ ไม่ใช่มาเล่น”

เสียงของฉินซีเย็นชา ดูเหมือนว่าเธอจะโกรธจริง

ทันใดจั่วยีจั่วเอ้อก็ตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ เมื่อเห็นความโกรธของฉินซี เขาก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีก

ทั้งสองค้อมศีรษะลง และพูดพร้อมเพรียงกัน “ครับ”

เมื่อเห็นว่าพวกเขาไม่ได้ยืนกรานต่อไป ฉินซีจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

เธอกดลิฟต์ “รอให้ฉันออกมาค่อยพูด”

ลิฟต์เคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะไปถึงห้องอาหารด้านบน

ทันทีที่ฉินซีเข้าไปพนักงานบริการก็เข้ามาขวางเธอเอาไว้ “คุณผู้หญิง มาเดินเล่นที่นี่ไม่ได้นะครับ”

เมื่อพนักงานบริการเห็นใบหน้าของฉินซี สีหน้าก็พลันเปลี่ยนเป็นประหลาดใจ “คุณผู้หญิง มารับประทานอาหารที่นี่หรือไม่ครับ? คุณเอาคีย์การ์ดติดตัวมาด้วยหรือเปล่าครับ?”

ฉินซีรู้ดีว่า ที่โรงแรมนี้ เฉพาะลูกค้าของห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทสุดหรูบนชั้น 15 เท่านั้นที่มีสิทธิ์รับประทานอาหารในห้องอาหารชั้นบนสุดนี้

ดังนั้น เธอจึงจัดเตรียมห้องที่ชั้นสิบห้า

ยังไงก็ตาม เงินพวกนี้ก็จ้านเซินเบิกคืนให้ ให้อยู่ฟรีก็อยู่ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความต้องการของการทำงาน

ฉินซีพยักหน้าแกนๆ “เอามาค่ะ”

เธอหยิบคีย์การ์ดออกจากกระเป๋าอย่างสง่างาม ก่อนยื่นให้พนักงานบริการ

ห้องของฉินซีอยู่ติดกับหลูจื๋อหลิน 1505

พนักงานเสิร์ฟเมื่อเห็นเสื้อผ้าที่แสนธรรมดาของฉินซี จึงคิดว่าเธอมาที่นี่เพื่อเยี่ยมชม

แต่เมื่อมองดูอย่างใกล้ชิดแล้ว พลันเปลี่ยนทัศนคติมีต่อเธอทันที “คุณผู้หญิงครับ เชฟของเราที่นี่ได้รับเชิญเป็นพิเศษจากร้านอาหารมิชลินห้าดาวจากต่างประเทศ ผมหวังว่ามันจะทำให้คุณผู้หญิงพอใจ”

พนักงานคนเดิมคืนคีย์การ์ดให้ฉินซีก่อนเปิดประตูและพาเธอเดินเข้าไปข้างใน

“อืม”

ฉินซีพยักหน้าอย่างเงียบๆ ไอเย็นแผ่ออกมาจากทั่วร่างของเธอ

ตัวเธอเองมีนิสัยที่ค่อนข้างเงียบ ตอนนี้เธอจงใจแสร้งทำเป็นเย็นชา และยิ่งเพิ่มความรู้สึกเอื้อมไม่ถึงเข้าไป ทำให้คนอยากหยุดแต่หยุดไม่ได้

พนักงานตามบริการอย่างระมัดระวัง “คุณผู้หญิง อยากนั่งตรงไหนไหมครับ”

คนที่สามารถอยู่ในชั้นที่สิบห้านั้นล้วนแต่เป็นพวกคนรวยและคนชนชั้นสูง เขาไม่กล้ารุกราน

“ฉันต้องการที่นั่งริมหน้าต่าง อยากชมทิวทัศน์เสียหน่อย”

ฉินซีมองไปรอบๆ ก่อนจะหยุดสายตาอยู่ข้างโต๊ะของหลูจื๋อหลิน

“นั่งตรงนั้นแล้วกัน”

ฉินซียื่นมือผุดผ่องราวกับเนื้อหยกชั้นดี ชี้ไปทางที่ว่า

พนักงานคนเดิมนางเธอไปทางนั้นด้วยท่าทางนอบน้อม “รับทราบครับ”

เขาดึงนั่งออกมา ก่อนจะช่วยฉินซีนำเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและเมนูออกมา

พนักงานบริการยิ้มจาง “คุณผู้หญิง อยากรับประทานอะไรครับ?”

ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉินซีไม่ได้มองไปที่หลูจื๋อหลินเลยสักนิด

แต่ทว่า หลูจื๋อหลินกลับเฝ้ามองเธอมาตั้งแต่แรกที่ฉินซีเดินเข้ามา

หลูจื๋อหลินไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าใน เมืองไห่ จะมีผู้หญิงที่สวยงามเช่นนี้จริง

ทำไมเขาไม่เคยเห็น?

ความงามของฉินซี ไม่เหมือนใคร

เธอแตกต่างจากผู้หญิงสวยธรรมดาพวกนั้น ร่างกายเธอดูมีเสน่ห์ที่มันช่างพิเศษ

ฉินซีขมวดคิ้ว คล้ายกับมีความลำบากใจเล็กน้อย

หลูจื๋อหลินกำลังรอให้ฉินซีเงยหน้าขึ้น เขาอยากจะใช้โอกาสนี้เพื่อทักทายเธอ

เขาเป็นภารกิจที่โด่งดังในเมืองไห่ เป็นไปไม่ได้ที่ฉินซีจะไม่รู้จักเขา

ทว่า ฉินซีก็ยังคงไม่ตอบสนอง

เธอมองไปที่เมนูอย่างใจจดจ่อ ซึ่งทำให้หลูจื๋อหลิน รู้สึกงุ่นง่าน

ในที่สุด หลูจื๋อหลินก็ไม่สามารถทนต่อแรงกระตุ้นภายในใจเขาได้

เขาดึงเก้าอี้ออก และเดินไปหาฉินซีโดยอัตโนมัติ

หลูจื๋อหลินไม่เห็นว่า ในขณะที่เขาลุกขึ้นมา ใบหน้าที่เย็นชาของฉินซีปรากฏรอยยิ้มน้อยๆ

ดีมาก ปลาติดเบ็ดแล้ว

ฉินซียังคงแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง และยังคงจ้องที่เมนูต่อไป

หลูจื๋อหลินเดินไปยืนนิ่งอยู่ข้างเธอ “สวัสดีครับ คุณคนสวย ถ้าหากคุณเชื่อใจผม ให้ผมได้แนะนำอาหารให้คุณสักหน่อยไหมครับ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท