Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1462

ตอนที่ 1462

บทที่1462 ช่วยเหลืออย่างลับๆ

หลูจื๋อหลินพูดพลางเดินไปตามทางที่ฉินซีกำลังเดินไป

ในใจโกรธจนแทบจะระเบิด คิดรู้สึกว่าฉินซีไม่ไว้หน้าเขา

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาปฏิบัติต่อผู้หญิงคนหนึ่งราวกับแก้วตาดวงใจ แต่กลับได้ความเย็นชาเป็นสิ่งตอบแทน ในใจของเขาไม่สมดุล อยากจะถามฉินซีว่าทำไมถึงได้ทำกับเขาแบบนี้

……

ฉินซีไม่รู้เลยว่าหลูจื๋อหลินกำลังไล่ตามเธอมา ใจทั้งหมดของเธอจดจ่ออยู่ลู่เซิ่นหมดแล้ว

เธอเดินมาตรงหน้าของลู่เซิ่น หยิบแชมเปญจากถาดเสิร์ฟแล้วจิบเบาๆ

รสชาติหวานอ่อนๆกลิ่นลอยฟุ้ง สีหน้าของฉินซีเผยรอยยิ้มอ่อนๆออกมา

เธอประสานสายตากับลู่เซิ่น เห็นเงาของตนเองในสายตาฝ่ายตรงข้าม

เสียงเพลงเสนาะดังอยู่ในงานปาร์ตี้

ฉินซีใช้โอกาสนี้ค่อยๆเดินไปอยู่ข้างๆเขา พูดขึ้นเบาๆว่า:“ลู่เซิ่นฉันคิดถึงคุณมากเลย”

น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยกลิ่นอายของรักใคร่สุดซึ้งแยกจากกันไม่ได้ ทำให้ลู่เซิ่นอดไม่ได้ที่จะรู้สึกวูบวาบ

หากไม่เป็นเพราะเขายังมีสติอยู่ ลู่เซิ่นก็คงจะพุ่งเข้าไปแล้วโอบเธอเข้ามาในอ้อมกอดแล้ว

ลูกกระเดือกเซ็กซี่กลอกไปมา ลู่เซิ่นสูดหายใจเข้าลึกพยายามกดความต้องการลึกๆของตนลง

ลู่เซิ่นจับจ้องมองไปที่เธอ สายตาที่ร้อนผ่าวนั้นราวกับสามารถมองทะลุหน้ากากสีทองนั้นได้ และสามารถมองทะลุใบหน้าของฉินซีที่แอบซ่อนอยู่ได้

สายตานั้นราวกับจะกลืนกินฉินซีเข้าไปก็มิปาน ทำให้ฉินซีรู้สึกอกสั่นขวัญหายอย่างบอกไม่ถูก

เสียงแหบแห้งดังออกมาจากช่องอก ลู่เซิ่นพูดว่า:“ผมก็คิดถึงคุณเหมือนกัน”

เขาเอ่ยปากพูดทีละคำทีละประโยค แต่ละคำที่พูดออกมาล้วนแฝงไว้ด้วยความคิดถึงอย่างลึกซึ้ง

ในใจของฉินซีสั่นระรัว เธอไม่รู้เลยว่าควรที่จะบรรยายความรู้สึกในขณะนี้อย่างไร

เธอรู้เพียงว่าเธอรักลู่เซิ่น รักจนยากที่จะถอนตัว รักจนขนาดสามารถสละชีวิตตนได้

หลังจากที่ฟังประโยคนี้จบ จู่ๆ ฉินซีก็รู้สึกเสียใจภายหลังที่ทำให้เขาโกรธ ตอนนี้กลับรู้สึกว่าอารมณ์ของตนเอ่อล้นออกมา ยากที่จะเก็บความรู้สึกไว้ได้

ฉินซีถอนหายใจอย่างเงียบๆ เธอไม่พูดไม่จาราวกับเธอไม่อยากมีชีวิตอยู่

เธออยากที่จะโผลเข้ากอดลู่เซิ่น แล้วบอกเขาว่าเธอคิดถึงเขามาก

เธออยากจะใช้ชีวิตร่วมกับเขา เธออยากจะให้ลู่เซิ่นพาเธอไปจากที่นี่ จากนั้นหนีไปให้ไกล ราวกับพวกเขาเป็นนกที่บินอย่างอิสระ และไม่กลับมาตลอดกาล

แต่ว่าในงานปาร์ตี้แห่งนี้มีสายตาเป็นจำนวนมากจับจ้องอยู่ เธอไม่สามารถทำเช่นนั้นได้

ฉินซีพยายามระดับความต้องการของตนเอง ขณะกำลังจะพูดอะไรออกมากลับได้ยินเสียงฝีเท้าดังถี่มาจากด้านหลัง

“คุณฉิน”

แม้ว่าเธอจะไม่ได้หันไป แต่กลับรู้ว่าหลูจื๋อหลินตามา

หลูจื๋อหลินผลักลู่เซิ่นออกอย่างเผด็จการ ยืนอยู่ข้างหน้าของฉินซีพลางถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“คุณฉิน คุณทำแบบนี้หมายความยังไง?”

เขากัดฟัน น้ำเสียงอัดแน่นไปด้วยความโกรธที่บีบอัดอยู่

หากไม่ได้เห็นแก่ที่ฉินซีไม่เหมือนกับคนอื่น รวมไปถึงเป็นคนมีความรู้ความสามารถรอบด้าน คงเป็นไปไม่ได้ที่หลูจื๋อหลินจะยอมถอยให้ขนาดนี้ เขาก็คงจะเทตั้งแต่ที่เธออกตัญญูต่อเขาแล้ว

ดวงตาสว่างสดใสของฉินซีส่องแสงระยิบระยับ พลางพูดขึ้นอย่างผู้บริสุทธิ์ว่า:“ประธานหลูคุณถามฉันว่าฉันหมายความยังไง?ฉันก็อยากจะถามเหมือนกันว่าเพื่อนของคุณหมายความว่ายังไง?”

เธอพูดตรงๆโดยที่ไม่สนใจเลยแม้แต่น้อยว่าหลูจื๋อหลินจะโกรธหรือไม่

“เดิมทีฉันคิดว่าเพื่อนของประธานหลูก็เหมือนกันท่านสง่า ผ่าเผยเป็นผู้ดี คิดไม่ถึงเลยว่าคนที่ชื่อคุณชายหางกลับหาเรื่องฉันอย่างไม่ลดละ ฉันไม่อยากคบหากับคนพวกนั้นเป็นเพื่อนเลย หวังว่าประธานหลูจะเข้าใจ”

เมื่อพูดถึงจุดนี้ฉินซีก็หยุดชะงัก พลางพูดต่อว่า:“ประธานหลู หวังว่าท่านจะไม่หาว่าฉันชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน ฉันอยากจะพูดกับคุณประโยคหนึ่งที่นี่ว่าคุณรีบเลิกคบกับเพื่อนที่ไม่เรียนหนังสือ พวกนั้นเถอะ พวกเขาอาจจะทำให้คุณเสียชื่อเสียงได้”

ฉินซีขมวดคิ้วราวกับกำลังคิดเพื่อหลูจื๋อหลิน แต่แท้ที่จริงแล้วกำลังยุให้ความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองแตกหักรำ

เธอชื่นชมหลูจื๋อหลินว่าเป็นคนดีที่สมบูรณ์แบบด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์

จู่ๆประโยคนี้ก็ทำให้ความรู้สึกโกรธในใจของหลูจื๋อหลินคลายลง

จู่ๆเขาก็รู้สึกเบิกบานใจไม่น้อยเลย ริมฝีปากเผยรอยยิ้ม:“ขอบคุณคุณเฉินที่เตือน หากไม่ใช่เพราะเรื่องเมื่อสักครู่นี้ ผมก็คงถูกท่าทีในทุกๆวันของคุณชายหางหลอก ดีที่วันนี้คุณเฉินมาที่นี่ ทำให้ผมได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเขามากขึ้น คุณวางใจเถอะ ต่อไปผมจะไม่คบหาสมาคมกับเขาอีก”

หลูจื๋อหลินตบที่หน้าอกของตัวเองเพื่อเป็นการยืนยัน ไม่นานก็ถูกฉินซีโกหกแค่คำพูดคำสองคำ

เมื่อเห็นว่าเขาหลอกง่าย ในใจของฉินซีก็รู้สึกไม่สนุก

เมื่อกลัวว่าฉินซีจะติดภาพที่ไม่ดีของตนเองหลูจื๋อหลินจึงรีบขอโทษอย่างรวดเร็วว่า:“คุณฉิน เรื่องเมื่อสักครู่นี้ผมขอโทษจริงๆนะครับ!ที่ผมทำให้คุณต้องลำบากใจ เป็นเพราะผมดีไม่พอเอง”

น้ำเสียงของเขาจริงใจเป็นอย่างมาก ดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกผิดกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

เมื่อฉินซีได้ยินเขาพูดเช่นนี้ น้ำเสียงก็อ่อนลงไม่น้อย:“ไม่เป็นไรค่ะประธานหลูไม่จำเป็นต้องโทษตัวเอง เมื่อสักครู่นี้คุณก็พูดแล้วว่า ก่อนหน้านี้คุณไม่รู้ว่าเขาเป็นคนแบบนั้น งานปาร์ตี้ในครั้งนี้ประธานหลูเป็นพระเอก ท่านคงยังมีเรื่องอีกมากที่ต้องจัดการ ท่านไม่จำเป็นต้องติดตามฉัน เดี๋ยวฉันจะเดินเล่นรอก่อน รอท่านจัดการธุระของท่านเรียบร้อยแล้วกลับมาหาฉันก็ยังไม่สาย”

เธอเอ่ยขึ้นอย่างอาอกเอาใจ แสดงออกให้เห็นถึงท่าทีที่เป็นมิตร

ในความเป็นจริงแล้วที่ฉินซีพูดแบบนี้ก็เป็นเพราะว่าไม่อยากที่จะข้องแวะกับหลูจื๋อหลินอีกต่อไป อีกทั้งเธอยังต้องแฝงเข้าไปในงานเลี้ยงเพื่อตามหาหลักฐานหนีภาษีของหลูจื๋อหลิน

หลูจื๋อหลินยังมีเรื่องอีกมากที่ต้องจัดการ เพียงแต่ต้องการเอาอกเอาใจฉินซี จึงยอมเสียเวลาไปกับเธอมากขนาดนี้

เวลานี้ เมื่อได้ยินฉินซีพูดดังนั้นทำให้หลูจื๋อหลินรู้สึกดีกับเธอไม่น้อย

“ได้ ถ้างั้นเดี๋ยวผมจะหาพนักงานเสิร์ฟคอยติดตามคุณ พาคุณไปเดินให้ทั่ว หากคุณต้องการแก้ไขปัญหาอะไร ก็สามารถกำชับให้เขาไปทำได้”

หลูจื๋อหลินรู้สึกว่าฉินซีเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก ยิ่งเขาได้สัมผัสก็ยิ่งชอบ

เขาเหลือบตามองไปรอบๆ ก็เหลือบไปเห็นลู่เซิ่นที่ยืนอยู่ด้านหลังของตนเอง

หลูจื๋อหลินสีหน้าจริงจังชี้ไปที่เขาพลางพูดขึ้นว่า:“ต่อไปนายไม่ต้องทำอะไรแล้ว ทำเพียงติดตามคุณฉิน คอยดูแลให้เธอพอใจ หากคุณฉินมาฟ้องว่านายไม่ให้เกียรติเธอ ผมเอานายตายแน่”

เมื่อประโยคนี้ถูกพูดออกไป สีหน้าของฉินซีกับลู่เซิ่นก็เผยความดีใจออกมา

ดีที่ทั้งสองใส่หน้ากาก ไม่งั้นก็คงจะถูกดูออก

เธอคิดไม่ถึงเลยว่าหลูจื๋อหลินจะจัดการแบบนี้

ทำให้ความรู้สึกที่ฉินซีรำคาญต่อหลูจื๋อหลินลดลงส่วนหนึ่งโชคดีที่เขาได้สร้างโอกาสให้พวกเขาทั้งสองอย่างไม่ได้ตั้งใจ

“ครับประธานหลู”

ลู่เซิ่นเผยริมฝีปากออก พลางพยักหน้า

ฉินซีพยายามระงับความรู้สึกของตนเอง ยังคงเสแสร้งทำทีเย็นชา:“ได้ค่ะ ขอบคุณประธานหลูที่ดูแล”

ฉินซีรีบพูดขึ้นว่า:“ถ้าเช่นนั้นประธานหลูไปจัดการธุระก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปเดินเล่นสักรอบหนึ่ง เปิดหูเปิดตากับสไตล์ของเมืองไห่สักหน่อย”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท