Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1463

ตอนที่ 1463

บทที่ 1463 ดำเนินการ

ฉินซีมองไปยังเขาพลางขยิบตา และหันหลังเดินจากไป

หลูจื๋อหลินช่วยเหลือเธอเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าเธอจะต้องทำดีกับเขา

แค่ส่งสายตาหวานง่ายๆ ก็ทำให้หลูจื๋อหลินหลงใหลในตัวเธอจนแทบไม่อาจต้านทานได้

หลูจื๋อหลินยังคงยืนตะลึงอยู่ที่เดิม พลางมองเงาหลังของเธอพร้อมใจที่เต้นแรง

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินซีแสดงความรู้สึกดีๆกับเขาตั้งแต่รู้จักกัน

หลูจื๋อหลินควบคุมตัวเองไม่อยู่ เริ่มคิดไปต่างๆนานา เขารู้สึกว่าฉินซีกำลังตกอยู่ในกับดักความอ่อนโยนของเขา ขอแค่เขาพยายามมากกว่านี้ ฉินซีจะต้องตกอยู่ในกำมือของเขาแน่ๆ

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ริมฝีปากของหลูจื๋อหลินก็ค่อยๆยกขึ้น ในใจพึงพอใจเป็นอย่างมาก

เขาคิดไม่ถึงอย่างแน่นอนว่าการที่ฉินซีปฏิบัติต่อเขาแบบนั้นเป็นเพราะว่าการตัดสินใจโดยไม่ได้ตั้งใจของเขา ที่สร้างโอกาสให้เธอกับลู่เซิ่นได้ใกล้ชิดกันสักพัก

ฉินซีพยายามเก็บความรู้สึกไว้ในใจ เสแสร้งทำเป็นเย็นชา แล้วเธอไปข้างหน้า

ลู่เซิ่นแสดงเป็นพนักงานเสิร์ฟ แล้วเดินตามหลังเธอไปติดๆ

ทั้งสองนิ่งไม่มีพิรุธ ไม่รู้สึกกินปูนร้อนท้องแต่อย่างใด

“หลูจื๋อหลินคนนี้โง่จริงๆ”

ภายใต้หน้ากาก ฉินซียิ้มอย่างเบิกบานใจ น้ำเสียงเต็มไปด้วยอาการเย้ยหยัน

ลู่เซิ่นคล้อยตามพลางพยักหน้า:“ใช่”

ใครจะไปคิดว่าเขาจะมีข้อเสนอแบบนี้

ฉินซีพูดขึ้นต่อว่า:“แต่ก็ต้องขอบคุณข้อเสนอของเขา ที่ทำให้เรามีโอกาสอยู่ด้วยกันสองคนสักพัก และยังไม่ทำให้ลูกน้องของจ้านเซินสงสัย”

เมื่อถึงเวลานั้นหากจ้านเซินถามขึ้น เธอจะได้มีข้อแก้ตัว

“อืม”

เมื่อเห็นท่าทีระมัดระวังแบบนี้ของเธอ ในใจของลู่เซิ่นก็อดทรมานใจไม่ได้

ลู่เซิ่นพยายามระงับความรู้สึกที่อยากจะกอดฉินซี พลางพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า:“ฉินซี คุณวางใจเถอะ คุณใกล้ที่จะได้รับอิสรภาพแล้ว”

ตอนนี้เขากำลังแอบวางแผนอย่างลับๆ ว่าจะทำอย่างไรจึงจะสามารถช่วยฉินซีออกมาได้

ลู่เซิ่นจ้องมองไปที่เธอ ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

แม้ว่าจะมีหน้ากากกั้นอยู่ แต่ฉินซีก็พอที่จะจินตนาการได้ว่าสีหน้าของลู่เซิ่นตอนนี้จะเคร่งขรึมแค่ไหน

เธอเป็นกังวลว่าตัวเธอจะทำให้ลู่เซิ่นเครียดจนเกินไป ดังนั้นจึงเอ่ยปากปลอบโยนพลางยิ้มอ่อนว่า:“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่รีบร้อน ฉันอยู่ข้างในมาตั้งนานแล้ว จะอยู่ต่ออีกสักวันสองวันจะเป็นอะไรไป”

น้ำเสียงของฉินซีอ่อนโยน ทำให้ลู่เซิ่นมีกำลังใจขึ้นมาทีเดียว

ทั้งสองยิ้มประสานสายตากัน หัวใจเย็นชาดวงนั้นก็อบอุ่นขึ้นมา

เพื่อที่จะหลบหลีกหูตาที่จ้านเซินจัดเตรียมไว้ ทั้งสองไม่กล้าที่จะใกล้ชิดกันมากกว่านี้

สำหรับฉินซีแล้วขอเพียงแค่ได้อยู่กับฉินซี อย่าว่าแต่เดินเล่น พูดคุยเลยแค่นี้เธอก็มีความสุขมากแล้ว

แม้ว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่ แต่ว่าสำหรับสถานการณ์ของเขาทั้งสองคนแล้ว การที่ได้พบหน้ากันสักครั้งหนึ่งมันก็ยากมากเหลือเกิน ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเรื่องมากเลือกโน้นเลือกนี้

เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย ฉินซีกับลู่เซิ่นอยู่ด้วยกันเพียงครึ่งชั่วโมงก็แยกจากกัน

ฉินซีนั่งอยู่บนโซฟาตามลำพัง พลางมองไปที่งานปาร์ตี้ที่มีผู้คนเดินไปเดินมาไม่ขาดสาย

เธอมองไปรอบๆทั้งสี่ด้าน แล้วสายตาไปหยุดอยู่ที่หลูจื๋อหลิน

ตอนนี้หลูจื๋อหลินกำลังพูดคุยกับแขกอยู่ จึงไม่ได้สังเกตว่าฉินซีมองมาที่เขา

เมื่อเห็นว่าหลูจื๋อหลินไม่ได้มองมาที่เธอ ฉินซีก็เปลี่ยนใจ

เธอค่อยๆลุกขึ้นและออกจากที่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ

ฉินซีเดินมายังห้องน้ำอย่างรวดเร็ว แล้วเปิดกระเป๋าสะพายออก พลางเปลี่ยนมาใส่ชุดดำ

ดีที่เมื่อวานเธอที่นี่มาก่อน จึงได้สำรวจสถานที่ไว้เรียบร้อยแล้ว

ฉินซีพบว่า ฝ้าเพดานของห้องน้ำมีช่องระบายอากาศช่องหนึ่งที่สามารถปีนขึ้นไปชั้นบนได้

จากข้อมูลที่ฉินซีทราบจากจ้านเซินก่อนหน้านี้หลูจื๋อหลินไม่ได้ซ่อนหลักฐาน ไว้ในบ้านและไม่ได้พกติดตัว แต่เก็บไว้ในห้องที่โรงแรม

หลูจื๋อหลินได้เซ็นสัญญาระยะยาวกับโรงแรมแห่งนี้ งานปาร์ตี้ของเขาในทุกครั้งจะจัดในสถานที่แห่งนี้

โรงแรมแห่งนี้ได้จัดห้องพักห้องดีลักซ์ให้กับหลูจื๋อหลินห้องหนึ่ง เพื่อรับรองเขาจะเขาจะมาที่นี่เมื่อไหร่ก็ได้

อีกทั้งกุญแจของห้องนี้มีเพียงหลูจื๋อหลินคนเดียวเท่านั้นที่มี แม้แต่พนักงานที่หน้าเค้าเตอร์ก็ยังไม่มี

สถานที่ที่คิดว่าจะมีก็หาจนหมดแล้ว แต่ก็ยังหาหลักฐานมัดตัวหลูจื๋อหลินไม่พบ

ดังนั้น สายตาของจ้านเซินจึงจับจ้องอยู่ที่ห้องดีลักซ์ห้องนี้

เขาคิดว่าในนั้นจะต้องมีอะไรแปลกๆ จึงส่งฉินซีให้มาตรวจสอบ

หลังจากที่ฉินซีเปิดประตูห้องน้ำทุกห้อง เพื่อตรวจสอบว่าไม่มีใครอยู่ในนั้น จากนั้นเธอก็ปีนขึ้นไปบนช่องลม

เธอราวกับตุ๊กแกตัวหนึ่ง ที่ราวกับพื้นที่ราบเรียบท่ามกลางความมืด

ไม่นาน

ฉินซีก็มาถึงชั้นที่หลูจื๋อหลินอาศัยอยู่

เธอค่อยๆกระโดดเข้าไปจากหน้าต่าง โดยไม่มีใครสังเกตเห็น

ห้องของหลูจื๋อหลินมีกล้องวงจรปิดติดอยู่ฉินซีพกเครื่องก่อกวนสัญญาณไปด้วย ทำให้กล้องวงจรปิดหยุดทำงาน

เพื่อไม่ให้หลูจื๋อหลินพบ ฉินซีจึงรีบดำเนินการหาอย่างรวดเร็ว

เธอค้นหาแล้วรอบหนึ่ง แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ

จู่ ๆ ไม่รู้ว่าฉินซีคิดอะไรขึ้นมา

ฉินซีเดินไปบริเวณด้านหน้าตู้เสื้อผ้า แล้วเปิดตู้เสื้อผ้าออก

ภายในตู้มีเสื้อสูทและเสื้อเชิตแขวนอยู่เต็มไปหมด

ฉินซีผลักเสื้อผ้าไว้ด้านหนึ่งด้วยสีหน้าเคร่งขรึม และเธอก็พบจุดที่น่าสงสัย

เธอลูบสัมผัส เพื่อมองหาที่เปิด

ปลายนิ้วของฉินซีพบจุดที่นูนขึ้นมา เธอค่อยๆกดลงไปเบาๆ มีประตูเล็กๆโผล่มาจากด้านหลังตู้

ไม่พูดไม่ได้ว่าหลูจื๋อหลินฉลาดไม่น้อย

เดิมทีฉินซีคิดว่าจะสามารถเปิดได้เลย แต่ที่ไหนได้จำเป็นต้องใช้รหัส

เธอขมวดคิ้ว ลองใส่รหัสดู ผลปรากฎว่ารหัสผิดพลาด

ฉินซีนิ่งเงียบ กลับไปคิดถึงวิธีการที่องค์กรสอนในตอนนั้น

สมองของเธอก็มีความคิดแวบขึ้นมา จู่ๆเธอก็มีไอเดีย

ฉินซีรีบกดรหัสอย่างรวดเร็ว และได้ยินเพียงแค่เสียงคาซ่า กล่องก็ถูกเปิดออก

เธอมองเห็นสมุดบัญชีหลายเล่มวางอยู่ในนั้น ในใจของฉินซีรู้สึกเบิกบาน

เธอยื่นมือออกไปกำลังจะหยิบสมุดบัญชีขึ้นมา ด้านหลังของเธอก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น

“อย่าขยับ!”

ปืนสีดำของชายคนหนึ่ง จ่อไปที่ศีรษะของฉินซี

ขณะนั้นสีหน้าของฉินซีก็เปลี่ยนไป

“ยกมือขึ้นมา!”

เมื่อฉินซีได้ยินเสียงแหบนี้ดังขึ้น

เธอก็ค่อยๆยกมือขึ้นมา แล้วค่อยๆหันหลังกลับไป

หน้าของฉินซีมีผ้าปกหน้าปกปิดอยู่ อีกทั้งก็เป็นเวลาตอนกลางคืน ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเห็นหน้าเธอไม่ชัด แต่เธอสามารถเห็นใบหน้าของฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดเจน

ฝ่ายตรงข้ามเป็นลูกน้องของหลูจื๋อหลิน ชื่อว่าหรูเว่ยเสียง

เขาเป็นลูกน้องที่มีความสามารถคนหนึ่งที่อยู่ข้างกายหลูจื๋อหลิน เป็นคนลึกลับซับซ้อน ฝีมือการต่อสู้ร้ายกาจ

ก่อนหน้าตอนที่อยู่ที่องค์กร จ้านเซินได้ให้ฉินซีดูรูปภาพของหรูเว่ยเสียงแล้ว ยังกำชับให้เธอระวังเขาด้วย

แต่ว่าก่อนหน้านี้ฉินซีได้ตรวจสอบร่องรอยการเดินทางของหรูเว่ยเสียงแล้ว

จากการรายงานของลูกน้องหรูเว่ยเสียงถูกหลูจื๋อหลินสั่งให้ไปจัดการภารกิจที่แอฟริกาไม่ได้อยู่ในประเทศ ต้องใช้เวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ถึงจะกลับมา ดังนั้นฉินชีจึงตัดสินใจใช้โอกาสนี้ลงมือ

ใครจะไปคิดว่าหรูเว่ยเสียงจะกลับมาก่อนเวลา

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท