Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1468

ตอนที่ 1468

บทที่ 1468 เชื่อไม่ได้

“เรื่องอะไร?”

ตามหลักแล้ว หัวหน้ารปภ.ไม่ควรอยู่ที่นี่ เกิดเรื่องใหญ่โตอะไรขึ้นกันแน่ ถึงทำให้เขามาที่นี่ด้วยตัวเอง

หัวหน้ารปภ.เหลือบมองฉินซีครู่หนึ่ง เขาพูดขึ้นอย่างกระง่องกระแง่งว่า:“ประธานหลู นี่……”

เมื่อรับรู้ได้ว่าเขาป้องกันอย่างระมัดระวัง ฉินซีจึงออกตัวลุกขึ้น:“ประธานหลู พวกคุณพูดคุยธุระกันก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันไปเดินเล่นที่อื่นก่อน”

เมื่อพูดจบ ขณะที่เธอกำลังจะจากไป

หลูจื๋อหลินก็มองไปที่การกระทำของเธอ และรีบเอ่ยปากยื้อไว้:“คุณฉิน คุณเป็นแขก จะไล่แขกได้อย่างไรกัน เดี๋ยวผมไปจัดการธุระก่อน เดี๋ยวอีกสักพักจะกลับมาหาคุณ”

เขาจับที่แขนของฉินซี เพื่อให้เธอนั่งลง

ฉินซีหลบการสัมผัสของเขา พลางพยักหน้า:“ได้ค่ะ”

ในใจของเธอเหน็บแนมพลางยกริมฝีปากขึ้น ตอนนี้หลูจื๋อหลินดูสง่าผ่าเผย แต่เกรงว่าอีกไม่นานก็คงจะยิ้มไม่ออก

ไม่รู้เหมือนกันว่าหากหลูจื๋อหลินรู้ว่าเอกสารสำคัญของตัวเองหายไป แล้วจะยังมีอารมณ์เย้าแหย่อยู่ที่นี่ไหม

เมื่อคิดถึงจุดนี้ ในใจของฉินซีก็รู้สึกสะใจไม่น้อย

โดยปกติแล้ว เธอเกลียดวิธีที่ใช้ความสวยเพื่อมาหลอกล่อเป็นที่สุด

แต่ว่า ภารกิจที่ทุกครั้งที่มีผู้ชายเป็นฝ่ายตรงข้าม วิธีการนี้เป็นวิธีการที่ใช้ได้ผลที่สุด

ในใจของฉินซีเฮิงด้วยความเย็นชา:“ผู้ชายเหล่านี้ตาเป็นมัน ไม่ช้าก็เร็วก็จะต้องตายอยู่ในอ้อมกอดของผู้หญิง”

หลูจื๋อหลินก็เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด หากเขาไม่ดูถูกความสามารถของฉินซี หลักฐานของเขาก็จะไม่ถูกขโมยไป

หลูจื๋อหลินพาหัวหน้ารปภ.จากไป ยังด้านในของห้องรับรองและหยุดฝีเท้าลง

“มีเรื่องอะไร?”

หลูจื๋อหลินเอ่ยปากอย่างเย็นชา สายตาจับจ้องไปที่เขา

หัวหน้ารปภ.รู้สึกถึงความกดดัน:“ประธานหลูเมื่อสักครู่นี้มีคนบุกรุกชั้นบน แล้วขโมยเอกสารสำคัญในตู้เชฟไป ……”

ขณะที่เขาพูด สีหน้าของหลูจื๋อหลินก็ค่อยๆขรึมขึ้น

สองมือของกำหมัดแน่น สายตาแหลมคมราวกับมีด

หัวหน้ารปภ.ยิ่งพูดเสียงก็ยิ่งเบาลง เขาค่อยๆเงยหน้าหรี่ตามองหลูจื๋อหลิน สองเกือบแทบจะอ่อนแรงลงและเกือบที่จะล้มลงบนพื้น

เขาปิดปากแน่น สั่นไปทั้งตัว

หลูจื๋อหลินกัดฟันแน่น พลางพูดขึ้นว่า:“พูดต่อสิ!”

แม้ว่าเขาจะพอคาดเดาคำพูดหลังจากนี้ได้แล้ว แต่เขาก็อยากจะได้ยินด้วยหูของเขาเอง เขาจึงจะตัดใจ

เมื่อต้องเผชิญกับคำถามของหลูจื๋อหลินหัวหน้ารปภ.จึงเอ่ยปากขึ้นว่า:“เอกสารสำคัญถูกขโมยไปแล้วครับ”

หลังจากที่เขาพูดประโยคนี้ออกมา ในใจของเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้น

แต่สิ่งที่ตามมากลับเป็นหมัดอย่างแรงของหลูจื๋อหลิน

“ผัวะ!”

เสียงดังทั่วห้องหลูจื๋อหลินใช้สุดแรงที่มี หน้าของหัวหน้ารปภ.ก็แดงขึ้นมา

หมัดนี้ทำให้หัวหน้ารปภ.งุนงง

สองมือของเขาประคองที่ใบหน้ามองไปยังหลูจื๋อหลินด้วยความตกใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้ต่อยตนเอง

หลูจื๋อหลินมองดูทีทีท่าของเขา ชั่วขณะนั้นก็โกรธควันออกหู:“ผมให้พวกคุณดูแลให้ดี แล้วพวกคุณมัวทำอะไรกันอยู่!หรูเว่ยเสียงล่ะ เขากลับมาก่อนเวลาไม่ใช่เหรอ?ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน!”

เขาพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึม นัยน์ตาสีตาฉายประกายกระหายเลือด

หากตอนนี้ไม่ใช่เป็นเพราะต้องตามหาเขาหลูจื๋อหลินอยากที่จะหันพวกเศษวันนี้ออกเป็นชิ้นๆจริงๆ

เมื่อหัวหน้ารปภ.เห็นเขาโมโหขนาดนี้ ก็ก้มหน้าลง:“หรูเว่ยเสียงกำลังตามหาอยู่ครับ แต่ตอนนี้ยังหาร่องรอยของคนที่บุกรุกไม่เจอ”

เมื่อประโยคนี้ถูกพูดออกไป หลูจื๋อหลินก็ยิ่งโมโหมากขึ้นไปอีก

“เศษวะ!เศษวะ!พวกเศษวะ!ผมให้พวกคุณกินดีอยู่ดีทุกวัน พวกคุณกลับตอบแทนผมแบบนี้เหรอ?ตอนนี้พวกคุณรีบพาผมไปหาหรูเว่ยเสียงเร็ว ผมจะไปถามเขาด้วยตนเอง !”

ในตู้เชฟล้วนเก็บเอกสารที่หลายปีมานี้เขาทำผิดกฎหมาย หากถูกนำไปส่งให้กับตำรวจ งั้นชีวิตหลังจากนี้ของเขาก็อย่าหวังเลยว่าจะได้อยู่อย่างสุขสบาย

ความผิดที่มีสามารถทำให้เขาตายได้เป็นร้อยครั้ง

เมื่อคิดถึงจุดนี้หลูจื๋อหลินรู้สึกก็หนาวสะท้าน

แต่ไหนแต่ไรหัวหน้ารปภ.ไม่เคยเห็นหลูจื๋อหลินโมโหขนาดนี้มาก่อนเลย

เขาไม่กล้าให้เสียเวลา รีบนำทางหลูจื๋อหลินขึ้นไปข้างบน

“เร็วเข้า!”

ตลอดการเดินทางหลูจื๋อหลินเร่งเขาหลายต่อหลายรอบ

……

ชั้นบน

หรูเว่ยเสียงยังคงตามหาเบาะแสของฉินซิกับลู่เซิ่น โดยไม่รู้เลยว่าอันตรายกำลังจะมาถึง

เขาหาแทบจะพลิกทั้งชั้นเพื่อตามหา แต่ก็หาคนที่น่าสงสัยไม่พบ

ขณะที่หรูเว่ยเสียงกำลังที่จะไปรายงานเรื่องนี้กับหลูจื๋อหลิน ก็ได้ยินเสียงเร่งฝีเท้าจากด้านหลัง

เขาหันไปดู แต่ยังไม่ทันรู้ว่าใครมา

ในเวลานี้เอง แรงมหาสารก็อัดไปที่ข้อพับขาของหลูจื๋อหลิน

ได้ยินเพียงแค่เสียง “ตุบ!” หลูจื๋อหลินอัดไปที่ข้อพับของเขาอย่างแรง

“ปึ๊ก”

หรูเว่ยเสียงเฮิงและล้มลงไปคุกเข่าบนพื้น

เขาคิดไม่ถึงเลยว่าหลูจื๋อหลินจะปฏิบัติกับเขาแบบนี้

หลูจื๋อหลินเอ่ยปากพูดด้วยความโกรธว่า:“เศษวะ!คุณทำงานยังไงกัน!”

เขาเดินมาข้างหน้าของหรูเว่ยเสียง สายตาแดงระเรื่อจ้องมองไปที่เขา

“ขอโทษครับ”

หรูเว่ยเสียงรู้ว่าตัวเองทำผิด ก็ไม่ได้ปัดความผิดชอบ

เขาเอ่ยปากขอโทษยอมรับแต่โดยดี แต่หลูจื๋อหลินไม่ยอมรับ:“ขอโทษแล้วมีประโยชน์เหรอ?คนล่ะ!ใครเป็นคนขโมยของไปกันแน่!”

หลูจื๋อหลินโกรธจนสะบัดมือออก ความโกรธที่มีในใจปะทุขึ้นมาอย่างไม่หยุดยั้ง

เสียดายที่เขาไว้ใจหรูเว่ยเสียงขนาดนี้ แต่เขากลับสะเพร่า

หรูเว่ยเสียงก้มหน้า เอ่ยปากขึ้นว่า:“หนีไปแล้วครับ”

เขาหาบนตึกนี้จนทั่ว แต่ก็ไม่พบร่องรอยของฉินซีกับลู่เซิ่น

สิ่งเดียวที่เป็นไปได้ก็คือ พวกเขาหนีออกไปแล้ว

“อะไรนะ!”

เมื่อหลูจื๋อหลินได้ยินประโยคนี้ก็แทบจะล้มสลบลง

เขาอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นด้วยเสียงสูง สีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

หลูจื๋อหลินโกรธจนกำหมัด:“หนีไปแล้ว?หนีไปที่ไหน?”

เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เข้มขรึม หรูเว่ยเสียงกลับตอบไม่ได้:“ไม่ทราบครับ”

เมื่อเสียงของหรูเว่ยเสียงจบลง หลูจื๋อหลินทนไม่ได้ทั้งเตะทั้งต่อยเขา

หัวหน้ารปภ.แอบดูอยู่ข้างๆ สีหน้ายิ้มอย่างมีเลศนัย

ยิ้มจนกระทบกับบาดแผลเมื่อสักครู่ หัวหน้ารปภ.เจ็บจนต้องขมวดคิ้ว

แต่หรูเว่ยเสียงกลับคุกเข่าอยู่ที่พื้น และถูกเตะต่อยด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ความรู้สึก

หลูจื๋อหลินรู้สึกว่าว่าแม้ว่าหรูเว่ยเสียงจะถูกฆ่าตายก็ไม่อาจทำให้ความรู้สึกโกรธของเขาลดลง:“คุณรู้ทั้งรู้ว่าเอกสารนั้นสำคัญมาก แล้วทำไมถึงยังปล่อยให้ถูขโมยไปได้ หรือว่าคุณไม่อยากมีหัวอยู่บนบ่าแล้ว!”

เขาเตะต่อยจนเหนื่อยแล้ว ก็เอ่ยปากอย่างหอบๆว่า:“หากคุณไม่ต้องการ ผมจะช่วยคุณเอาออกเดี๋ยวนี้”

หลูจื๋อหลิน เท้าสะเอว ยืนอยู่ที่เดิม

เขารู้สึกว่าตนเองโกรธจนหน้าเขียวแล้ว

หรูเว่ยเสียงคุกเข่าอยู่ที่พื้นอย่างเงียบๆ และยอมถูกเขาด่า

เมื่อหลูจื๋อหลินเห็นท่าทีของเขา ความโกรธก็ค่อยๆคลายลง:“ผมถามหน่อยว่า คนที่บุกรุกหน้าเป็นยังไง เห็นหน้าไหม”

เพราะถึงจะถูกหรูเว่ยเสียงทำร้ายจนตายก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้

ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดก็คือจะทำยังไงถึงจะได้เอกสารพวกนั้นกลับมา อีกทั้งยังรับรองได้ว่าคนที่ขโมยยังไม่ได้นำไปเผยแพร่ที่ไหน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท