Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1480

ตอนที่ 1480

ฉินซีอยากรู้มากว่า ท่าทางแบบนี้ของเหยาจ้าว ไปเรียนมาจากใครกันแน่ นี่มันดูผู้หญิงเกินไปหรือเปล่า

“นายเป็นแบบนี้ให้มันน้อยๆหน่อย”

ต่อหน้าท่าทางที่เสแสร้งของเหยาจ้าว ฉินซีไม่หลงกลเลย

เขารู้จักกับเหยาจ้าวมาตั้งหลายปี จะไม่รู้อารมณ์ของเขาหรอ?

เหยาจ้าวแม้ปากจะบอกว่าจะไม่ช่วยเหลือเธออีก แต่ในใจก็ยังคงอ่อนไหว

ฉินซีผลักเขาออกอย่างเมินเฉย “นายพูดให้มันปกติหน่อยได้ไหม ฉันไม่ชิน เหมือนอยู่กับตุ๊ด”

การแสดงออกของเธออยู่บนใบหน้า ไม่คิดที่จะซ่อนแม้แต่น้อย

คำพูดที่ตรงไหนตรงมาแบบนี้ ทำให้เหยาจ้าวโดนโจมตีเชิงลึก

เหยาจ้าวเกาหัว เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ “ไม่ถูกสิ ฉันดูบนอินเตอร์เน็ตตอนนี้ไม่ใช่ว่ากำลังนิยมผู้ชายนิสัยแบบนี้หรอ? ทำไมเธอถึงบอกว่าพวกเขาเป็นตุ๊ด?”

ปกติเวลาที่เขาเบื่อ จะดูวีดีโอ

อันที่จริง ทุกครั้งที่เหยาจ้าวเห็นผู้ชายใช้น้ำเสียงเสแสร้งแบบนี้พูดจา ก็รู้สึกว่าแปลกๆ

แต่ที่ทำให้เขาไม่เข้าใจคือ ตอนที่เขาเปิดคอมเมนต์ กำลังคิดที่จะเยาะเย้ย กลับเห็นการค้นพบที่น่าประหลาดใจ

ในช่องคอมเมนต์ สาวน้อยทุกคนต่างบอกว่า

“หล่อจังเลย! อยากแต่งงานมีลูกกับเขา!”

“สามีสามีสามี!”

“รักเลยรักเลย! สามี รีบกลับบ้านกับฉันเร็ว ลูกร้องไห้แล้ว!”

“คุณยืนอยู่ตรงนั้นอย่าขยับ ฉันติดหนี้คุณลูกสองคน อีกเดี๋ยวจะกลับมาหาคุณ”

คอมเมนต์ตรงไปตรงมาแบบนี้ เหยาจ้าวที่อ่านหน้าแดงไปถึงหู

การแสดงออกของเหยาจ้าวแม้ว่าจะดูเป็นคนไม่จริงจัง แต่เขาก็ยังเป็นหนุ่มบริสุทธิ์ไร้เดียงสา

เขาไม่เคยมีความรัก ตอนเด็กเพราะว่าติวเตอร์เข้มงวดมากไม่มีโอกาสสัมผัสเรื่องแบบนี้ หลังจากเติบโตขึ้น เขาก็ทุ่มเทให้กับการเรียนแพทย์ เวลาทั้งหมดใช้ไปกับเรื่องหมอเรื่องยา ยิ่งไม่มีเวลาไปหาแฟน

ดังนั้น เหยาจ้าวจึงไม่รู้ว่าการชอบใครซักคนมันรู้สึกยังไง

ถึงกระนั้น ก็ยังสามารถแยกแยะสาวน้อยเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน อาจจะเพียงแค่พูดไปฝ่ายเดียวเท่านั้น

ไม่อย่างนั้น ของอย่างความรัก มันก็ฉาบฉวยเกินไปหรือเปล่า?

ในใจเหยาจ้าวไม่ค่อยชอบอะไรแบบนี้ แต่เขารู้สึกว่าตนเองถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนแปลงแล้ว สัมผัสกับสังคมใหม่

เขาไม่มีประสบการณ์ด้านความรัก ดังนั้นจึงเรียนรู้จากอินเตอร์เน็ต

ฉินซีหน้าเจื่อน ฟังคำพูดของเขา “ของพวกนี้นายเรียนมาจากอินเตอร์เน็ต?”

เธอเอ่ยปากถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ ไม่เข้าใจว่าในสมองของเหยาจ้าวกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

ไม่ว่ายังไงเหยาจ้าวก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอ ว่าตามเหตุผล IQ ของเขาก็ไม่ควรโง่ขนาดนั้นถึงจะถูก ไม่อย่างนั้นจะเรียนข้ามชั้นสอบเข้าปริญญาเอกตั้งแต่อายุยังน้อย แล้วประสบความสำเร็จกลายเป็นหมอเหยาจ้าวที่อายุน้อยที่สุดในสถาบันวิจัยได้ยังไง

แต่ท่าทางที่เหยาจ้าวแสดงออกมาเมื่อกี้เป็นคนปัญญาอ่อนอย่างเห็นได้ชัด

เหยาจ้าวมองเธอด้วยความงงงวย พยักหน้าภายใต้การจ้องมองของเธอ “ใช่แล้ว มีปัญหาอะไรหรอ?”

เขาสงสัยว่าหรือว่าตนเรียนมาไม่เหมือน ดังนั้นเลยทำให้ฉินซีเกิดความสงสัย

ฉินซีมองท่าทีโง่เง่าของเขา ในใจก็หมดคำจะพูด

ดูท่าลูกพี่ลูกน้องของเธอคนนี้จะฉลาดแค่ IQ EQนั้นยุ่งเหยิง

เพื่อเลี่ยงไม่ให้เหยาจ้าวยิ่งเดินยิ่งไกลบนถนนเส้นที่ขรุขระนี้ ฉินซีรีบเอ่ยปากหยุดความคิดแบบนี้ของเขา “พวกที่อยู่บนอินเตอร์เน็ตล้วนแต่เป็นเรื่องเพ้อฝัน นายอย่าไปเรียนมั่วซั่วจากพวกเขา ถ้านายอยากจะมีแฟน สัมผัสรสชาติของความรักจริงๆ ก็ทำตัวเองให้ดี อย่าเป็นเปลี่ยนแปลงเพราะเรื่องอะไรหรือใคร ซักวันจะมีใครซักคนเห็นแสงที่ประกายอยู่บนตัวนาย มารักนายอย่างแน่วแน่ไม่ลังเล”

ในตอนที่เธอพูดคำนี้ ภาพของลู่เซิ่นก็ปรากฏขึ้นเต็มสมองของเธอ

ในชีวิตนี้ฉินซีไม่เคยคิดมาก่อน ว่าจะได้รู้จักกับลู่เซิ่นในภารกิจนั้น แล้วมีความรักที่ฝังอยู่ในกระดูกลึกลงไปในจิตวิญญาณ

เหยาจ้าวยอดเยี่ยมขนาดนี้ ถ้าเขาอยากที่จะหาจริงๆ ก็หาได้อย่างง่ายดาย

แต่ฉินซีรู้สึกว่าความรู้สึกเป็นเรื่องของคนสองคน คนหนึ่งพยายามถึงแม้อยู่ด้วยกัน ก็จะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดี

ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เหยาจ้าวเพียงแค่อยากลองดู เขาไม่ได้อยากจะรักใครซักคนจริงๆ

มองจากบางมุมแล้ว นี่ไม่ยุติธรรมกับผู้หญิงคนนั้น

แม้ว่าฉินซีกับเขาจะเป็นญาติกัน แต่ก็ยังหวังว่าเขาจะไม่เอาอย่างพวกผู้ชายเจ้าชู้บนอินเตอร์เน็ต

“จริงหรอ? เธอคงไม่ใช่เพื่อหยุดฉันจากการหาแฟน เลยจงใจพูดกับฉันแบบนี้หรอกนะ?”

เหยาจ้าวจ้องเธอด้วยความสงสัย มองดูเธอขึ้นขึ้นลงลงว่าเธอกำลังโกหกหรือเปล่า

ได้ยินคำนี้ของเขา ฉินซีก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหงุดหงิด “นายจะไปเข้าใจอะไร? ฉันหวังดีกับนายทั้งนั้น นายไม่เคยได้ยินประโยคนั้นหรือไง?”

เธอลุกขึ้นทันที จ้องไปที่เหยาจ้าวด้วยความโกรธ

“คำเก่าแก่พูดไว้อย่างดี ถ้าคุณเบ่งบาน สายลมพัดผ่าน ถ้าใจขึ้นๆลงๆ รอยยิ้มปลอดภัย”

ฉินซีสุดหายใจเข้าลึก พูดอย่างสง่างาม

คำพูดนี้ในสายตาของเหยาจ้าวช่างไม่คุ้นปาก เขาในฐานะนักเรียนวิทยาศาสตร์ แม้จะผ่านในวิชาภาษา แต่สำหรับพวกศัพท์ทางการ ยังคงไม่ค่อยเข้าใจ

“แปลว่าอะไร?”

เหยาจ้าวเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา

ฉินซีคาดไว้แล้ว ว่าเขาจะต้องไม่เข้าใจ จึงเปิดปากอธิบาย “คำพูดนี้เป็นของอาจารย์อีเป่ยจากมหาวิทยาลัยครูปักกิ่ง ดัดแปลงมาจากประโยคเรียงความที่เขียนโดยซานเหมา ใช้บรรยายชีวิตของหลินฮูหยิน”

เธอช่วยเหยาจ้าวเสริมความรู้อย่างคล่องมือ

เหยาจ้างเก่งในสาขาวิทยาศาสตร์ แต่ด้านศิลปศาสตร์กลับทั่วๆไป

ที่เขากลัวที่สุดก็คือการได้ยินคำพูดที่ยาวเป็นหางว่าวแบบนี้ สมองวิงเวียน มักจะอยากหลับ

เห็นฉินซีจะสอนความรู้ให้เขา แล้วยังพูดวรรณกรรมที่เขาไม่ชอบที่สุด เหยาจ้าวก็รู้สึกหัวพองโตทันที

เหยาจ้าวรีบยกมือขึ้น หยุดคำพูดของเธอไว้ “พอแล้วพอแล้ว เธอก็บอกฉันมาเลย ว่าคำพูดนี้หมายความว่าอะไรก็พอแล้ว อย่างอื่นฉันไม่อยากรู้”

เขาทำท่าทางขอร้อง หวังว่าฉินซีจะพอ ไม่สวดต่อ

ฉินซีมองท่าทางที่ไม่อดทนของเขา ก็อดไม่ได้ที่จะกรอกตา แต่ด้วยการร้องขอของเขา ก็ยังบอกความหมายของคำพูดนี้กับเขาอย่างครบถ้วน

“ความหมายก็คือถ้านายยอดเยี่ยมพอ เป็นธรรมดาที่จะมีคนมาหานาย เรื่องทุกอย่างก็จะดีขึ้นตาม ดังนั้นนายต้องใจเย็นปล่อยวาง พยายามยกระดับตัวเอง ทำตัวเองให้ดี ส่วนที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นไปตามกาลเวลาและโชคชะตา”

เธอสรุปความหมายของคำพูดนี้อย่างเร่งรัดชัดเจน ป้องกันไม่ให้ตาบื้อเหยาจ้าวฟังไม่เข้าใจ

ด้วยการอธิบายของฉินซี เหยาจ้าวก็เข้าใจในที่สุด

เหยาจ้าวพยักหน้าทันที “อ๋อ ที่แท้ก็แปลว่าแบบนี้เอง ฉันเข้าใจแล้ว”

ใบหน้าของเขาเผยความตื่นเต้นดีใจ การแสดงออกนี้ยังมีไม่ถึงสามวินาที ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกะทันหัน

จู่ๆสีหน้าของเหยาจ้าวก็กลายเป็นจริงจังขึ้นมา เขามองไปที่ฉินซีด้วยแววตาเคร่งขรึม พูดขึ้นเสียงดัง “เดี๋ยวก่อน!”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท