Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1501

ตอนที่ 1501

“ช่วย…..ช่วยด้วย!”

ชายหนุ่มเปล่งเสียงที่แผ่วเบาอย่างอ่อนแรง พลันลืมตาทั้งสองข้างขึ้นอย่างยากลำบาก

เขาสบประสานสายตากับดวงตาที่ลึกซึ้งคู่นั้นของจ้านเซิน ในใจเกิดสั่นสะท้าน

ชายหนุ่มคิดที่จะถอยหลังด้วยความตื่นเต้น แต่ด้านหลังของเขาเป็นเครื่องยนต์ที่จอดอยู่ เขาไม่สามารถหลีกหนีได้เลย

น้ำเสียงที่แหบพร่าของเขาเอ่ยถามขึ้น “พะ…..พวกแกเป็นใคร?”

ชายหนุ่มกลืนน้ำลายด้วยความกังวล ในใจเขาเป็นกังวลอย่างมาก

เขาไม่รู้ว่าเมื่อสักครู่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมเขาถึงได้สลบไปกะทันหัน?

ใช่สิ!

เขานึกออกแล้ว เมื่อสักครู่ได้มีชายหนุ่มและหญิงสาวหน้าตาดีปรากฏกายขึ้น บอกว่าจะเปลี่ยนรถกับเขา เขาไม่ยอม เพราะงั้นหญิงสาวหน้าตาดีขึ้น ถึงได้ตีเขาจนสลบ

เพราะงั้นกลุ่มคนตรงหน้ามีความเกี่ยวข้องอะไรกับสองคนนั้นกันแน่?

ชายหนุ่มไร้ความเชื่อมั่นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ สิ่งเดียวที่เขาต้องการในตอนนี้คือการออกไปจากที่นี่ กลับไปยังบ้าน ล็อกประตูห้องเอาไว้ ไม่ให้พวกเขาแทรกซึมเข้ามาได้

เมื่อจ้านเซินเห็นชายหนุ่มได้สติตื่นขึ้นมาแล้ว จึงก้าวเดินเข้าไปยังชายหนุ่ม เขาไม่ตอบคำถามของชายหนุ่ม พลันปริปากโพล่งออกไปดื้อๆ “พวกเขาไปที่ไหน?”

เขามองชายคนนั้นด้วยสายตาที่เฉียบแหลม ดวงตาที่มืดมิดประกายแววตาที่หลักแหลม ดุจดั่งใบมีดที่แหลมคมปักเข้าที่กลางใจของชายหนุ่ม

ชายหนุ่มอยู่มาครึ่งค่อนชีวิต ไม่เคยพบเจอผู้ชายที่น่ากลัวขนาดนี้มาก่อน ชายหนุ่มขาอ่อนยวบ จนแทบล้มลงกับพื้น

เขารีบประคองรถคันหนึ่งเอาไว้ ถึงได้ไม่เสียหน้าต่อหน้าทุกคน

ชายหนุ่มตระหนกกับภายนอกที่ดูน่ากลัวของจ้านเซิน ในหัวของเขาไม่สามารถตีความถึงความหมายของคำถาม

เขาจับจ้องจ้านเซินอย่างมึนงงพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “ใคร?”

เมื่อจบประโยค จ้านเซินหลี่ตา คู่คิ้วขมวดแน่นเป็นปม

ภายใต้การบีบบังคับของจ้านเซิน ชายหนุ่มนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ทันที “คุณหมายถึงหนุ่มสาวเยาว์วัยคู่นั้นใช่ไหม? ผมไม่รู้ว่าเขาหายไปไหน ตอนนั้นพวกเขาบอกว่าจะเปลี่ยนรถกับผม ผมเห็นว่าพวกเขาดูแปลกๆ ก็เลยคิดหนี แต่ถูกพวกเขาตีจนสลบซะก่อน”

เขากล่าวพรางคิดที่จะเดินกลับไปที่รถของตนเอง แต่กลับพบว่ารถของเขาได้หายไปแล้ว

ชายหนุ่มเผยสีหน้าแห่งความร้อนรน “รถของผมล่ะ!”

เขาตะโกนเสียงดังด้วยความบ้าคลั่ง “ต้องเป็นพวกเขาแน่ที่แย่งชิงรถของผมไป”

สายตาของชายหนุ่มตกไปอยู่ที่จ้านเซิน เซนส์ของเขาบอกกับเขา ว่ากลุ่มคนตรงหน้าไม่ได้เป็นพวกเดียวกันกับหนุ่มสาวสองคนนั้น

ลักษณะที่โหดเหี้ยมของจ้านเซิน เหมือนกับว่าต้องการไล่ฆ่าหนุ่มสาวคู่นั้น

เมื่อคิดได้อย่างนั้นชายหนุ่มจึงเปลี่ยนความคิด “พวกเขาตีผมจนสลบแล้วแย่งชิงรถของผมไป ผมขอร้องล่ะต้องเอารถของผมกลับคืนมาให้ได้”

เขาเดินเข้าไปคิดที่จะกุมมือของลู่เซิ่นเอาไว้ หากแต่ไม่ทันที่เขาได้ก้าวเท้า จั่วยีก้าวเท้าออกมาขวางหน้าของเขาเอาไว้

จ้านเซินเป็นคนที่รักสะอาดมาก โดยปกติแล้วเขารังเกียจที่จะเข้าใกล้ผู้คนมากที่สุด

จั่วยีเผยสายตาที่อันตรายคำรามเสียงดัง “ถอยหลังไป”

ชายหนุ่มจับจ้องเขาที่ขวางหน้าเอาไว้ ความกล้าหาญที่เพิ่งก่อตัวขึ้นเมื่อสักครู่ มลายหายไปทันพริบตา

เขาเคลื่อนกายชิดกับรถตามคำสั่งของจั่วยีอย่างว่าง่าย

“คุณครับผมไม่รู้จักหนุ่มสาวเมื่อสักครู่นี้จริงๆ ตอนนี้ผมเสียรถไปก็ซวยพออยู่แล้ว ขอร้องล่ะปล่อยผมไปเถอะ”

ชายหนุ่มรู้ตัวขึ้นมาได้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าไม่ควรล่วงเกิน ไม่แน่หากอยู่ต่อไป เขาจะเอารักษาชีวิตให้รอดได้ยาก

จ้านเซินพิจารณาเขา พร้อมไตร่ตรองในใจ

สำหรับเขา คำพูดของผู้ชายคนนี้ต้องเป็นความจริงแน่

ก่อนหน้านี้ลู่เซิ่นและฉินซีไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าวันนี้เขาจะปรากฏกายขึ้นกะทันหัน เป็นไปไม่ได้ที่จะจัดคนให้มารับหน้าตรงนี้

ดูเหมือนว่าชายหนุ่มตรงหน้าเป็นเพียงคนข้างทางจริงๆ

จ้านเซินไม่มีนิสัยฆ่าฟันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง เขาเม้มริมฝีปาก “บอกป้ายทะเบียนรถของคุณมา ไม่อย่างนั้นคุณรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

เขากล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ดวงตาจับจ้องชายหนุ่ม

ชายหนุ่มไม่กล้าปิดบังแต่อย่างใด พลันบอกเลขทะเบียนรถกับจ้านเซินอย่างว่าง่าย

จ้านเซินกล่าวอย่างกำชับ “หลังจากที่กลับไปแล้วอย่าบอกใครเรื่องนี้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นผลที่จะเกิดขึ้นคุณไม่อาจหลีกเลี่ยงไม่อาจรับไหวแน่นอน”

ชายหนุ่มแทบจะฉี่ราด กับรอยยิ้มที่กระหายเลือดของเขา

เขาพยักหน้ารับอย่างบ้าคลั่ง พลันกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นอบน้อม “วางใจได้เลย ขอเพียงแค่คุณไว้ชีวิตผม ผมกลับไปจะปิดปากเงียบแน่นอน ต่อให้ใช้จอบงัดก็งัดไม่ออกครับ”

รถหายยังเปลี่ยนได้ แต่ถ้าหากไม่มีชีวิตทุกอย่างก็จบลง

จ้านเซินเห็นว่าเขายังพอรู้สถานการณ์อยู่บ้าง จึงส่งสายตาให้กับจั่วยี

เมื่อจั่วจีได้รับคำสั่งจากเขา จึงถือโอกาสที่ชายหนุ่มเผลอฟันไปที่ลำคอ

ก่อนที่ชายหนุ่มสลบ เขาแอบก่นด่าในใจ “อีกแล้ว!”

เขาอยากจะรู้มาก จะปล่อยให้เขาขับรถกลับไปเองไม่ได้หรือ ทำไมต้องใช้วิธีแบบนี้ด้วย?

“ยัดเขาเข้าไปในรถ”

จ้านเซินกวาด สายตาพร้อมออกคำสั่ง

จั่วยียัดเขาเข้าไปที่เบาะหลังของรถจี๊ป

ถังย่ายืนดูเหตุการณ์ทั้งหมดอีกด้าน พลันนึกขำในใจ

เจ้าของรถคันนี้โชคร้ายชะมัด ไม่เพียงแต่รถที่รักถูกขโมย แถมยังต้องถูกคนพวกนี้ทรมานอยู่อีก

ถังย่านึกสงสารเขาเล็กน้อย ก่อนที่จะกล่าวถาม “จ้านเซิน ถ้างั้นตอนนี้เราจะทำยังไงต่อไปดี?”

ในเมื่อรู้ว่าลู่เซิ่นและฉินซีเปลี่ยนรถหนีไปแล้ว ก็ต้องรู้ป้ายทะเบียนรถใหม่ก่อน แต่ตอนนี้ในป่าในเขาแบบนี้ การที่พวกเขาคิดที่จะไล่ล่าลู่เซิ่นและฉินซีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ตอนนี้จ้านเซินเองก็ได้แต่ค่อยเป็นค่อยไป “รอยล้อรถปรากฏขึ้นที่นี่ จั่วยี นายไปตรวจสอบรถทุกคัน สั่งให้พวกเขาไปตามรอยนี้ หากได้พอกับทางแยกก็แยกไปสองทาง”

เขาไม่เชื่อว่าลู่เซิ่นและฉินซีจะติดปีกบินหนีไปได้

จั่วยีพยักหน้ารับอย่างนอบน้อม “ครับ!”

เขาจากไปอย่างรวดเร็ว เดินไปจัดการเรื่องราวอีกด้าน

จ้านเซินไม่มั่นใจว่าตอนนี้ลู่เซิ่นและฉินซีไปถึงไหนกันแล้ว

ในใจของเขาเกิดความกังวล ต้องไล่ตามให้ทันให้เร็วที่สุด

เขาไม่เสียเวลาอีกต่อไป กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถังย่า ขึ้นรถกับผม”

เขากล่าว พลันขยับเท้าที่เรียวราวขึ้นไปบนรถ

ถังย่าเดินตามหลังไป

……

ในเวลาเดียวกัน ลู่เซิ่นและฉินซีอยู่ในการหนีเอาชีวิตรอดด้วยความเร่งรีบ

ตลอดทาง สีหน้าของฉินซีดูไม่ได้ ใบหน้าดำทะมึนราวกับเมฆสีดำ

เมื่อนึกถึงลู่เซิ่นที่เสียสละเพื่อเขามากมาย หัวใจของเธอก็เจ็บปวดราวกับถูกเข็มทิ่มแทง

ฉินซีเหยียบคันเร่งจนมิด สายตาจับจ้องไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

ไม่ว่าอย่างไรในครั้งนี้เธอไม่มีทางปล่อยให้จ้านเซินได้ใจแน่ ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตของเธอก็ตาม

ลู่เซิ่นจับจ้องสีหน้าที่ดำทะมึนของเธอ ดวงตาที่มืดมิดฉายแววแห่งความกังวล “ฉินซี เธอจะพักผ่อนสักหน่อยไหม?”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท