Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1506

ตอนที่ 1506

ลู่เซิ่นหัวเราะอย่างไร้หนทาง เหมือนกับเด็กชราเข้าไปทุกที

บางทีอาจเพราะคุณปู่เช่อาศัยอยู่บนเขามาโดยตลอด เพราะงั้นจิตใจของเขาจึงร่าเริงมากกว่าเหล่าผู้สุเอายุในเมือง คุยกับเขาก็ไม่ต้องมีพิธีอะไรมากมาย

คุณปู่เช่พยักหน้า “มีเหตุผล ฉินซีเป็นหลานสาวของฉัน เธอก็ต้องฉลาดเหมือนฉันอยู่แล้ว”

เมื่อพูดถึงฉินซี ใบหน้าของคุณปู่เช่เผยรอยยิ้มแห่งความรักใคร่เอ็นดู

ตอนนี้ลู่เซิ่นอยากจะพูดประโยคหนึ่งว่า คุณปู่เช่ ท่านและฉินซีไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดต่อกัน ความฉลาดของเธอจะได้มาจากท่านได้ยังไง

แต่ เพื่อหลีกเลี่ยงคุณปู่เช่วางยาพิษใส่เขา ลู่เซิ่นจึงปิดปากเงียบอย่างว่าง่าย

ลู่เซิ่นเผยรอยยิ้มพลางให้ความร่วมมือ “ใช่แล้ว คุณปู่เช่พูดไม่ผิดหรอก”

คนสูงอายุมักจะชอบการถูกเอาไว้ คุณปู่เช่เองก็ไม่ยกเว้น

ภายใต้ความร่วมมืออย่างมีความอดทนของลู่เซิ่น ความเกลียดชังต่อลู่เซิ่นของปู่เช่เองก็น้อยลงบ้าง

คุณปู่เช่หยิบไว้ที่ถูกขัดจนเรียบออกมา งัดเอายาออกมาจากขวด ทาลงที่บาดแผลของลู่เซิ่นอย่างเบามือ

“ซี๊ด…..”

ลู่เซิ่นขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าเผยความประหลาดใจ

เมื่อใส่ยาบนบาดแผลของเขา มีความรู้สึกแสบจี๊ด

ลู่เซิ่นสูดลมหายใจเข้าอย่างสุดทน ยากที่จะทนอยู่ได้ เม็ดเหงื่อไหลผุดบนหน้าผาก

ปู่เช่จ้องมองทีท่ากัดฟันสู้ของเขา พลันกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ทนหน่อย ยานี่จะเจ็บสักหน่อย แต่อีกเดี๋ยว ก็จะรู้สึกดีเอง”

เป็นไปตามคาด หลังห้านาทีผ่านไป ความเจ็บแสบค่อยๆ ลดลง ตรงข้ามกลับรู้สึกเย็น สบายมาก

“ปู่ครับ ในนี้ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?”

ลู่เซิ่นอดไม่ได้ที่จะกล่าวถามด้วยความประหลาดใจ

ปู่เช่ช่วยเขาทายา พรางตอบคำถามไปด้วย “ในนี้มีตัวยาทั้งหมดนับร้อยชนิด ต่างก็เป็นของวิเศษที่เอาไว้รักษาบาดแผลภายนอกทั้งนั้น ขวดแค่นี้ฉันลงแรงไปนับสิบปี วันนี้แกช่างโชคดีจริงๆ”

เขาบ่นอุบอย่างเสียดายของ “หากไม่เห็นแก่ที่แกเป็นสามีของฉินซีละก็ ฉันไม่มีทางให้แกได้ใช้ของดีขนาดนี้หรอก แกต้องดีต่อเธอให้มาก หากวันหนึ่งแกดูแลหลานสาวของฉันไม่ดี ฉันจะตัดขาของแก หั่นแกเป็นชิ้นๆ”

ปู่เช่ข่มขู่ด้วยความดุดัน เขายิ่งพูดก็ยิ่งโกรธ เสมือนกับว่าได้เห็นเหตุการณ์ก่อนล่วงหน้า

เขาเพิ่มกำลังแรงอย่าอดไม่ได้ ลู่เซิ่นเจ็บจนหลังตรงขึ้นมาในทันใด

ลู่เซิ่นเกรงว่าหากเป็นแบบนี้ต่อไป คุณปู่เช่จะฆ่าเขาทิ้งเสียก่อน จึงรีบกล่าว “คุณปู่ ผมสาบานว่าผมจะดีต่อฉินซี ไม่ทำให้เธอต้องผิดหวัง”

เขากล่าวด้วยความหนักแน่น อย่างจริงใจ

เมื่อคุณปู่ได้ยินเขาพูดแบบนั้น สีหน้าถึงได้ผ่อนคลายลงมาบ้าง

เขากล่าวอย่างไม่พอใจ “ฉันจะลองเชื่อแกดูสักครั้ง จำของของตัวเองเอาไว้ให้ดี ไม่อย่างนั้นบนหัวแกมีเทวดาเฝ้ามองอยู่ สิ่งที่แกทำทั้งหมดฟ้าดินเป็นพยาน ในเมื่อสาบานแล้ว ก็จะถูกลงโทษ”

แม้ว่าคุณปู่เช่ จะแข็งแกร่งในปาก แต่การกระทำของเขานั้นอ่อนโยนกว่ามาก

ลู่เซิ่นพยักหน้ารับ กล่าวอย่างให้ความเคารพ “ปู่เช่ ท่านวางใจเถอะ ผมจะจำคำสอนของท่านให้ขึ้นใจ ไม่มีทางทำเรื่องที่ผิดต่อฉินซี ผมจะรักเธอ เคารพเธอ เอ็นดูเธอ ตามใจ เหมือนกับชีวิตของผมเอง”

เขาก้มหน้าลงจ้องมองสายตาของปู่เช่ ดวงตาดำประกายความมุ่งมั่น

แม้ว่าในปกติปู่เช่จะไม่ออกไปไหน แต่เขากลับรู้สึกได้ถึงหัวใจที่มั่นคงและจริงใจของหนุ่มอายุน้อยตรงหน้า

นาทีนี้ ปู่เช่ทราบซึ้งในหัวใจของลู่เซิ่นเข้าอย่างจัง

ปู่เช่ตบบ่าของเขา ดวงตาอำพันฉายแววแห่งความชื่นชม “ได้ ฉันเชื่อแก”

ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมฉินซีถึงได้ชอบผู้ชายคนนี้

เพราะลู่เซิ่นไม่เพียงแค่หน้าตาดีเท่านั้น แต่ยังอีคิวสูงอีกด้วย

ผู้ชายแบบนี้ มีใครบ้างล่ะที่ไม่ชอบ

ลู่เซิ่นสบสายตาของเขา ในใจเกิดความรู้สึกยินดีขึ้นมาเสียอย่างนั้น

เขารู้สึกว่าการได้รับการยอมรับจากผู้อาวุโสของฉินซี เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ

บรรยากาศของทั้งคู่ดีขึ้นไม่น้อย

ไม่นาน ฉินซียกน้ำร้อนเข้ามา

ฉินซีกล่าวเสียงหวาน “คุณปู่ ฉันต้มน้ำร้อนเสร็จแล้ว มีอะไรให้ฉันทำอีกไหม?”

เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม จับจ้องปู่เช่นิ่ง

ปู่เช่วางผ้าขนหนูลงไปในอ่าง ช่วยลู่เซิ่นเช็ดบริเวณรอบๆ “ไม่เป็นไร พักก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวฉันก็เสร็จแล้ว”

หลังจากที่เช็ดตัวเสร็จ คุณปู่เช่หยิบผ้าก๊อซออกมา ช่วยลู่เซิ่นพันแผล

คุณปู่ เช่ค่อนข้างช่ำชอง ไม่เหมือนกับชายชราเลยแม้แต่น้อย

เขาพันแผลอย่างสวยงาม รู้ได้ทันทีว่าเขาเป็นหมอเก่า

มิน่าเล่าฉินซีถึงบอกว่าเขาเป็นผู้มีวิชาความรู้สูง ลู่เซิ่นนึกทึ่ง

ฉินซีจ้องมองบาดแผลที่ถูกพันเรียบร้อย ด้วยรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้า “ขอบคุณค่ะปู่”

ลู่เซิ่นเองก็รีบกล่าวขึ้น “ขอบคุณครับปู่”

ครั้งนี้หากไม่ใช่เพราะปู่เช่ ตอนนี้เขาอาจจะสลบไปเพราะเสียเลือดมากแล้ว

ปู่เช่จ้องมองทั้งสอง เม้มริมฝีปากแน่น “พอได้แล้ว พวกเธอสองคนอย่ามาเกรงใจกับฉัน ฉันว่าพวกเธอเองก็เหนื่อยแล้ว ฉันจะไปเตรียมอาหาร คืนนี้เราทานอาหารด้วยกัน”

แม้ว่าเขาจะไม่ได้ถามรายละเอียดมาก แต่เขาก็รู้สึกได้ ว่าฉินซีและลู่เสี้ยงหยางต้องเผชิญกับความลำบากแน่

ไม่เช่นนั้น บาดแผลแบบนั้นต้องไปหาหมอตั้งแต่แรก จะอุตส่าห์วิ่งมาไกลถึงบนเขาเพื่อมาหาเขาได้อย่างไร

ในเมื่อฉินซีและลู่เซิ่นไม่อยากพูด เขาก็จะไม่พูดมาก

เรื่องจองคนหนุ่มสาว ก็ไม่ใช่เรื่องที่แก่ที่ละโลกอย่างเขาจะเข้าใจได้

ปู่เช่กล่าว พรางเก็บข้างของกลับเข้าที่ วางเอาไว้ที่ตระกร้าสานเช่นเคย ก่อนที่จะถือออกไป

ฉินซีจ้องมองแผ่นหลังของคุณปู่ พลันดวงตาแดงก่ำขึ้นมาอีกครั้งอย่างอดไม่ได้

เธอเองก็ไม่รู้ ว่าทำไมช่วงนี้ ถึงได้ร้องไห้บ่อยนัก ช่างดูเล่นตัวเสียเหลือเกิน

แต่ก่อนคนอื่นบอกว่าเธอเป็นคนเลือดเย็น ไม่ค่อยร้องไห้ ตอนนี้เธอเป็นอะไรกันแน่

ลู่เซิ่นรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของเธอ จึงขมวดคิ้วแน่น

เขายื่นมือออกไป รั้งฉินซีเข้ามากอด “พอได้แล้ว ไม่เป็นไรหรอก”

ลู่เซิ่นค่อยๆ ปาดน้ำตาที่ขอบดวงตาของเธออย่างเบามือ พลันเปลี่ยนเรื่อง “ฉินซี เธอคิดว่าชีวิตในป่าเขาของคุณปู่เป็นยังไง?”

เขากล่าวอย่างหยั่งเชิง อยากจะรู้ว่าฉินซีคิดยังไง

ฉินซีนิ่งไป ความคิดถูกปล่อยออกมา “ฉันว่าดีมากเลย ที่นี่มีภูเขามีลำธาร ตอนที่ฉินซีรักษาตัว ได้อาศัยอยู่กับคุณปู่ช่วงหนึ่ง ฉันว่าดีกว่าในทีมเป็นไหนๆ ที่นี่สงบมากเลย แล้วก็สบายใจ”

ริมฝีปากแดงหนักยกขึ้น เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ตอนที่ฉันต้องไปจากที่นี่ฉันอาลัยมากเลย ก็เลยบอกปู่ไปว่าจะมาที่นี่อีก”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท