Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1519

ตอนที่ 1519

ถังย่าไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง พลันกล่าวอย่างเย็นชา “จ้านเซิน นายรู้ไหมว่าคนที่นั่งอยู่ข้างกายของนายตอนนี้เป็นใคร?

เธอกล่าวถามอย่างลองใจ เพื่อที่จะทดลองสติของจ้านเซิน

หากเขาสติไม่ดีแล้ว จะต้องส่งโรงพยาบาลในทันที

หากจ้านเซินไม่ยอม เธอก็จะทุบเขาให้มึนแล้วแบกไป

จ้านเซินที่นั่งอยู่ดีๆ เมื่อได้ยินประโยคของเธอพลันขมวดคิ้วแน่น

เขาหันหน้ากลับมาเล็กน้อย ใช้สายตาที่มองคนสติฟั่นเฟือน จับจ้องถังย่า

จ้านเซินกล่าวด้วยเสียงแผ่ว “ถังย่า เธอสมองไม่ดีแล้วใช่ไหม?”

น้ำเสียงที่เย็นชา แช่ถังย่าจนตัวแข็งทื่อ

เธอรู้สึกถึงไอเย็นพัดผ่าน ไม่รู้ว่าต่อจากนี้จะเอายังไงต่อไปดี

ถังย่าจับจ้องดวงตาที่ลึกซึ้งคู่นั้นของเขา พลันหัวเราะ “ฮ่าฮ่า ฉันแค่อยากล้อเล่นกับนายเท่านั้น นายอย่าใส่ใจเลย สมองฉันยังดีอยู่ ไม่มีปัญหาแน่นอน”

เธอหัวเราะอย่างอับอาย กล่าวด้วยน้ำเสียงเยินยอเล็กน้อย

ถังย่าไม่อยากจะถูกมองว่าสติฟั่นเฟือนแบบนี้หรอกนะ แล้วถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล

ไอ้พวกปีศาจใหญ่ในองค์กร ต่างก็ไม่ใช่มนุษย์กันทั้งนั้น แต่ละคนต่างโหดร้ายทารุณ

เมื่อถังย่ารู้ว่าเขาไม่มีความผิดปกติด้านสติ ก็ไม่กล้าล่วงเกินเขาอีกเลย

เธอนั่งอยู่กับที่อย่างว่าง่าย จับจ้องทิวทัศน์นอกหน้าต่าง

ถังย่าไม่เข้าใจว่าทำไมในระยะเวลาสั้นๆ จ้านเซินถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ความรู้สึกแบบนี้ทำไมเธอเป็นกังวล

เธอไม่กล้าคิดอะไรไปไกลกว่านี้ ยิ่งไม่กล้ารับความดีของจ้านเซิน

ถังย่ากังวล ว่าทุกอย่างเป็นเพียงความฝัน ความดีที่จ้านเซินมีแต่เธอ ก็เป็นเพียงช่วงเวลาชั่วครั้งชั่วคราว ที่จะมลายหายไปได้ทุกเมื่อ

ถึงเวลานั้น หากเธอเคยชินกับความดีของจ้านเซินขึ้นมา จุดจบของเธอ ก็จะทุกข์ทรมาน

เครื่องยนต์สองคันแล่นอยู่บนถนน

ตลอดทาง ภายในรถเงียบกริบ

เมื่อมาถึงองค์กร จ้านเซินก็ออกไปก่อน

เขาจับจ้องถังย่าที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่บนรถ พลันขมวดคิ้วแน่น “เธอไม่ลงมาหรือ?”

จ้านเซินกล่าวด้วยน้ำเสียงตุ้มต่ำ จ้องมองดวงตาดำขลับที่เป็นประกายและลมหายใจที่สับสน

ถังย่ายังคงโต้ตอบตนเองในหมอกควัน เมื่อได้ยินน้ำเสียงของเขา จึงหันหน้ากลับไป

เธอกล่าวอย่างร้อนรน “ลง ฉันจะลงไปเดี๋ยวนี้”

ถังย่าผลักประตูรถออก เดินลงไป

เธอเดินไปยังข้างกายจ้านเซิน เพื่อรอคำสั่งจากเขา

จ้านเซินจับจ้องรอยแดงช้ำที่ลำคอของเธอ “เดินตามฉันมา”

จบประโยค เขาก็สาวเท้ายาวมุ่งตรงไปที่ห้องทำงาน

ซิวหน่ายซิงที่คิดจะตามเข้าไป แต่ห้องทำงานเป็นห้องที่เต็มที่ด้วยความลับ

คนที่ไม่ได้ถูกฝึกฝนมาจากองค์กรตั้งแต่เด็กอย่างเขา ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปได้

นอกเสียจากซิวหน่ายซิงได้ทำประโยชน์ ถึงจะได้เลื่อนขั้นได้

แม้ว่าหลายปีมานี้ ซิวหน่ายซิงอยู่ข้างกายถังย่า ขยันขันแข็ง แต่ระยะห่างกลับห่างไกลกันมาก เพราะงั้น ซิวหน่ายซิงได้แต่รออยู่ด้านนอกอย่างว่าง่าย

เขาจับจ้องแผ่นหลังของถังย่าอย่างไม่สบายใจ พลันกล่าวเสียงแผ่ว“นาย…..”

ซิวหน่ายซิงอยากจะบอกว่าอย่าเข้าไป

แต่ เมื่อเขาสบสายตาอำพันคู่นั้นเข้า กลับพูดอะไรไม่ออก

ถังย่าเข้าใจความหมายของเขา จึงกล่าวเสียงแผ่ว “วางใจเถอะ ฉันไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวฉันออกมา นายรอฉันอยู่ตรงนี้ก็พอแล้ว”

ระหว่างพวกเขาทั้งสอง เพียงแค่สบตาก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ นี่เป็นความเข้าใจที่ทั้งคู่ได้ร่วมงานกันนาน

ซิวหน่ายซิงรู้ดี ต่อให้จ้านเซินเอาชีวิตของถังย่า เธอก็จะมอบให้อย่างเต็มใจ

ความรักนี้ ช่างยิ่งใหญ่

ซิวหน่ายซิงเห็นใจเธอ ไม่ต้องการให้เธอเพราะรัก ต้องลืมความเป็นตนเอง

แต่ เขากลับรู้จักนิสัยของถังย่าเป็นอย่างดี นอกเสียจากเธอตายใจจริงๆ ไม่อย่างนั้นเธอไม่มีทางที่จะเปลี่ยนความคิด

“ได้ ผมจะรอนายกลับมา”

ซิวหน่ายซิงสบสายตาสีอ่อนคู่นั้น พลันพยักหน้าอย่างหนักแน่น

เพื่อถังย่าแล้ว เขายอมทุกอย่าง

ถังย่าเผยรอยยิ้ม ก่อนที่จะเดินตามหลังจ้านเซิน เข้าไปในห้องทำงาน

เขาจ้องมองจ้านเซินเดินตรงไปที่ตู้ หยิบกล่องยาออกมา

เมื่อเห็นจ้านเซินหยิบเดินตรงมาที่เธอ หัวใจของถังย่าตีกันให้วุ่น

ทีแรกเธอคิดว่าจ้านเซินเพียงพูดไปอย่างนั้น แต่กลับไม่คิดเลย ว่าเขากลับช่วยเธอทำแผลจริงๆ

เมื่อจ้านเซินเห็นเธอยืนอยู่ที่เดิมนิ่งไม่ไหวติง พลันขมวดคิ้วแน่น “เธอไปนั่งที่โซฟาก่อน”

เขากล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ปนน้ำเสียงแกมออกคำสั่ง

ถังย่าพยักหน้า ก่อนเดินไปที่โซฟาอย่างว่าง่าย

เธอไม่รู้ว่าจ้านเซินจะทำอะไรกันแน่ แต่เมื่อเผชิญกับเขาที่แสนอ่อนโยน ถังย่าไม่สามารถต่อต้านได้เลย

จ้านเซินเดินไปที่ข้างของเธอคุกเข่าลง

นี่มันครั้งแรกที่ถังย่าจ้องมองจ้านเซินจากมุมนี้ เธอรู้สึกว่าจ้านเซินในตอนนี้น่าหลงใหลกว่าคนเดิมเป็นไหนๆ ทำให้หัวใจของเธอเต้นโครม

หัวใจของเธอในคราแรกได้เย็นชาไปแล้ว แต่ตอนนี้กลับมาอบอุ่นดั่งเดิม

จ้านเซินมนอดีตมักมีทีท่าสูงส่ง ไม่เคยดูแลคนอื่นแบบนี้มาก่อน ต่อให้กับฉินซี ก็ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน

ถังย่าไม่รู้ว่าควรจะอธิบายความรู้สึกในใจอย่างไรดี เสมือนกับว่าเขากำลังอยู่ในความฝัน ไม่ชัดเจน

หากสิ่งเหล่านี้คือความฝัน ถังย่าหวังว่าเธอจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย เธอจับจ้องจ้านเซินนิ่ง ด้วยสายตาร้อนผ่าว

จ้านเซินถูกเขาจ้องจนอึดอัด จึงขมวดคิ้วแน่น “แหงนหน้าขึ้น”

เธอก้มหน้าแบบนั้น มองไม่เห็นคอเลยแม้แต่น้อย

ถังย่ามัวแต่จินตนาการ จนไม่ได้ยินในสิ่งที่จ้านเซินพูด

จ้านเซินที่เห็นเธอใจไม่อยู่กับตัว จึงกล่าวอีกครั้งอย่างเบื่อหน่าย “เงยหน้าขึ้น”

เขาเอื้อมมือออกไป ดันหัวของถังย่าขึ้น บังคับให้เธอฟังคำสั่ง

ถังย่าปล่อยให้เขาดันอย่างว่าง่าย ไม่พูดอะไร

เธอจ้องมองจ้านเซินทายา ใบหน้าที่ขาวนวลแดงก่ำ

จ้านเซินกล่าวด้วยความอ่อนโยน “เจ็บไหม?”

เขาจุ่มสำลีก้านลงในครีมอย่างระมัดระวัง และทาให้ทั่วบริเวณรอยแดงบนลำคอของถังย่า

จ้านเซินยากที่จะจินตนาการ ว่าเมื่อสักครู่เขาใช้ความรุนแรงมากแค่ไหนกันแน่ ถึงได้ทำให้ถังย่าบาดเจ็บถึงขนาดนี้

ถังย่าเธอมีผิวที่ขาวนวลอยู่แล้ว เมื่อมีบาดแผล ก็จะชัดเจนจนดูน่าตกใจ

“ไม่เจ็บ”

ถังย่าไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด ตรงกันข้ามเธอกลับรู้สึกจั๊กจี้ เสมือนกับมีอะไรยางอย่างทับถมเข้ามา

เธอรู้สึกว่า หากเป็นแบบนี้ต่อไป เธอจะทนไม่ไหวขึ้นมาจริงๆ

ถังย่าอยากจะผลักจ้านเซินออก บอกกับเขาว่า เธอทาเองได้

แต่ ถังย่ากลับเสียดายความหอมหวานในนาทีนี้ เธอกลัวว่าหลังจากครั้งนี้ ก็จะไม่มีเรื่องดีๆ แบบนี้เกิดขึ้นอีก

หากรู้แต่แรกว่าการจี้จุดจ้านเซิน ผลลัพธ์จะดีขนาดนี้ ถังย่าลงมือทำตั้งนานแล้ว

“เมื่อกี้ทำไมจะต้องแบบนั้นด้วย หากเธอไม่พูด ก็จะไม่ต้องเป็นแบบนี้”

จ้านเซินจับจ้องดวงตาสีอำพันคู่นั้นของเธอ กล่าวอย่างตรงไปตรงมา

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท