Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1520

ตอนที่ 1520

เมื่อสักครู่เขาสั่งให้ถังย่าปิดปากแล้วแท้ๆ แต่ถังย่ากลับจะพูดออกมาให้ได้

ถังย่ารู้ว่าเขาไม่ชอบฟัง แต่กลับจะขัดคำสั่งเขาให้ได้ เขาจะไม่โกรธได้อย่างไร

แบบนี้ไม่ดีแน่ เพราะรู้ว่ามีเสืออยู่บนภูเขาแท้ แต่ก็มักจะไปที่เขาเสือโคร่งเสียให้ได้

คำถามของจ้านเซิน ถังย่านิ่งไปสักพัก ก่อนที่จะกล่าวช้าๆ “ฉันแค่ไม่อยากให้นายเป็นแบบนี้ต่อไปเท่านั้นเอง”

เธอกล่าวอย่างจริงใจ นัยน์ตาสั่นคลอน

จ้านเซินขมวดคิ้วแน่น “ตอนนี้ผมเป็นยังไง?”

ตอนนี้เขาเริ่มไม่มั่นใจในสถานะตนเองขึ้นมา

ถังย่ากล่าวอย่างหนักแน่น “นายในอดีตทุกอย่างองค์กรต้องมาก่อน เฉลียวฉลาด แต่ตอนนี้เพราะฉินซี นายทำเรื่องที่ทำให้สมาชิกในองค์กรลำบากใจ นายสามารถให้ทางรอดกับฉินซีได้แท้ๆ อวยพรเธอกับลู่เซิ่น แต่กลับจะไล่ล่าเธอกลับมาที่องค์กรให้ได้ ทำให้วุ่นวายไปทั่ว ทุกคนต่างไม่มีความสุข นายไม่ได้เป็นหัวหน้าที่ชาญฉลาดแบบเมื่อก่อนอีกแล้ว”

แม้ว่าคำพูดของเธอจะโหดเหี้ยม แต่ทุกคำเป็นความจริง

แต่ ทุกคนในโลกโดยส่วนใหญ่มักจะฟังในสิ่งที่น่าฟัง ไม่ยอมรับฟังความจริง

เมื่อถังย่าพูดออกไปแบบนั้น จ้านเซินสีหน้าบูดบึ้ง

จ้านเซินเก็บกดความโมโห กล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ผมเปล่า”

เขาไม่ยอมรับว่าตัวเขาจะเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องอย่างที่ถังย่าว่า

ถังย่าเลิกคิ้วขึ้น ยืนยันคำเดิม “หากนายไม่เชื่อฉัน นายสามารถไปถามคนอื่นในองค์กรได้เลย ว่าความคิดของพวกเขาเหมือนกับฉันหรือไม่”

เธอกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ทุกคำเสมือนกับเข็ม ที่ทิ่มแทงหัวใจของจ้านเซิน

จ้านเซินค่อยๆ ได้สติกลับคืนมา เขาคำรามเสียงดัง “พอได้แล้ว!”

ดวงตาที่ดุกร้าวถลึงใส่ถังย่า วางขวดยาในมือลง

ถังย่าจ้องมองทีท่าที่โมโหของเขา เผยรอยยิ้มเยาะเย้ย

เธอรู้อยู่แล้ว ความดีของจ้านเซินที่มีต่อเธอ อยู่ได้ไม่นาน

ดูสิ เธอเดาถูกแล้ว

จ้านเซินเปลี่ยนไปจากเมื่อสักครู่ พลันลุกขึ้นกะทันหัน

เขายืนเต็มความสูงมองไปที่ถังย่า ขณะที่ถังย่าคิดว่าจ้านเซินจะใส่อารมณ์กับเธอ มอบหมายให้เธอไปทำภารกิจที่ไกลที่สุด เลือกที่จะไม่เจอจะได้ไม่เบื่อนั้น จ้านเซินกล่าวขึ้นกะทันหัน “ถังย่า เธอคิดว่าฉันควรจะทำยังไง?”

น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความจริงจัง หากตั้งใจฟังให้ดี สามารถได้ยินเสียงที่ไร้หนทาง

ถังย่าไม่คิดเลย ว่าจ้านเซินที่อยู่สูงส่งมาโดยตลอด วันหนึ่งจะถามความคิดเห็นเธอด้วยเรื่องแบบนี้ สิ่งนี้ทำให้เธอตื่นตระหนก

“จ้านเซิน นายอยากจะฟังความคิดเห็นของฉันจริงหรือ?”

ถังย่ากล่าวถามอย่างไม่มั่นใจ

“อืม”

เมื่อเห็นจ้านเซินพยักหน้า ถังย่าจึงค่อยๆ กล่าว “ฉันคิดว่า ถ้านายหวังดีต่อฉินซีจริงๆ ชอบเธอจริงๆ ก็ควรที่จะเลือกให้เธอไปมีความสุข เมื่อก่อนเธอใช้ชีวิตไม่ง่ายเลย ชีวิตที่เหลือได้อยู่กับคนที่รัก เป็นเรื่องที่มีความสุขมากแค่ไหน”

ถังย่ากล่าว แววตาที่โหยหาปรากฏขึ้นบนใบหน้า

บอกตามตรง ในใจของเธอ สักวันเธอเองก็หวังว่าจะได้ไปจากองค์กรนี้กับจ้านเซิน ไปใช้ชีวิตของคนธรรมดา ไม่ใช่ทั้งวันมัวแต่ถือดาบถือปืน

แต่ เธอรู้ดี ว่าความฝันนี้ไม่มีทางเป็นจริง

อย่าว่าแต่เธอ ต่อให้เป็นจ้านเซิน ที่เป็นหัวหน้า ไม่สามารถละทิ้งองค์กรโดยไร้ความรับผิดชอบได้ แล้วสมาชิกกว่าเป็นพันเป็นหมื่นจะทำยังไง ที่มากไปกว่านั้น คนที่จ้านเซินชอบคือฉินซี ไม่ใช่เธอ ต่อให้จ้านเซินวางทุกอย่างลงได้ หนีไปพร้อมกับความรัก เหตุผลนั้นก็ไม่มีทางที่จะเป็นเธอไปได้

เพราะงั้น เธออย่านึกถึงอะไรที่เป็นไปไม่ได้จะดีกว่า

ถังย่าเผยรอยยิ้มที่ขมขื่น จ้านเซินไม่เข้าใจ

จ้านเซินขมวดคิ้วแน่น “เธอหมายความว่า ให้ผมปล่อยฉินซีและลู่เซิ่นไป?”

เขากล่างด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ บรรยากาศที่เป็นอันตรายในน้ำเสียง

ถังย่าพยักหน้า ภายในสายตาของเขา “ใช่”

ยังไงซะวันนี้นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอล่วงเกินลู่เซิ่น ตอนนี้ถือโอกาสพูดให้รู้เรื่องรวดเดียวเลย

ขมับของจ้านเซินกระตุก ไม่รู้ว่าจะอธิบายถึงความเจ็บปวดในตอนนี้อย่างไร “แล้วกฏขององค์กร จะทำยังไง? หากไม่ลงโทษฉินซีและลู่เซิ่น จะโน้มน้าวสมาชิกอื่นได้อย่างไร”

เขายังคงไม่สามารถผ่านอุปสรรค์ในใจ

ถังย่าเองก็มองเห็นความลังเลของเขา จึงกล่าวแนะนำ “ลงโทษส่วนลงโทษ แต่ในองค์กรก็ไม่มีกฎชัดเจน ว่าคนที่ออกจากองค์กรต้องตาย นายสามารถเลือกวิธีได้”

ยากนักที่เธอจะได้เจรจากับจ้านเซินในเรื่องนี้ หากเป็นเวลาปกติ จ้านเซินเบือนหน้าหนี ไล่เธอออกไปตั้งนานแล้ว

จ้านเซินค่อยๆ ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินอย่างนั้น “พอได้แล้ว!ผมไม่อยากได้ยินเรื่องนี้อีก”

เขากล่าวอย่างเย็นชา นัยน์ตาสีเข้มประกายด้วยความอดทน

จ้านเซินยังคิดไม่ได้ จึงไม่สามารถปล่อยวางได้

เสียงแหลมคม ทำให้ถังย่าสะดุ้งโหยง

เธอคิดว่าจ้านเซินอยากจะฟังความเห็นของเธอจริงๆ เสียอีก ที่แท้แล้วทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม

ถังย่าเผยรอยยิ้มเยาะเย้ยตนเอง เธอรู้อยู่แล้วว่าไม่ควรยุ่งเรื่องของคนอื่น

จ้านเซินที่มองเธอหลบหน้าหลบตา พลันหมดอารมณ์ขึ้นมา

“โอเค เธอออกไปเถอะ”

เขาขับไล่ด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ถังย่าได้ยินเสียงที่เศร้าสลด

เธอสูดหายใจเข้า พยายามขมความเจ็บปวดในใจ กลั้นน้ำตาที่กำลังจะร่วงหล่นเอาไว้

ถังย่ารู้สึกว่าเธออ่อนแอลงทุกที เมื่อก่อนต่อให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เธอก็ไม่เคยหลั่งน้ำตาเลยแม้สักหยด แต่ตอนนี้เพราะประโยคเดียวของจ้านเซิน ก็ขอบตาแดงแล้ว

เธอรู้สึกว่าที่นี่ช่างน่าหดหู่ ทำให้เธอหายใจไม่ออก

ถังย่าลุกขึ้น แสร้งเข้มแข็ง “ได้”

เธอก้าวขาที่เรียวยาวออก ก้าวไปที่หน้าประตูอย่างมั่นคง

ต่อให้เธอเสียใจมากแค่ไหน ถังน่าก็ไม่ยอมให้ตนเองหันกลับไป

ถังย่ารู้ดี ต่อให้เธอหลั่งน้ำตาต่อหน้าจ้านเซิน จ้านเซินก็ไม่มีทางเห็นใจเขาแม้แต่น้อย ไม่เช่นนั้นเมื่อสักครู่เขาก็จะไม่มีทางลงคือบีบคอเธอจนแทบตาย

จ้านเซินยืนอยู่ที่เดิม จับจ้องแผ่นหลังที่ไกลออกไป นัยน์ตาสีดำฉายแววสลัวอย่างไม่เข้าใจ

ไม่รู้จะบอกความรู้สึกในใจยังไง ในหัวของเขาตีกันให้วุ่น

กระทั่งร่างของถังย่าหายลับไปต่อหน้า จ้านเซินถึงได้ค่อยๆ ละสายตา

จ้านเซินนั่งอยู่บนโซฟานิ่ง สายตาพร่ามัว

ถังย่ามุ่งไปยังด้านนอก แหงนหน้าชนเข้ากับซิวหน่ายซิง แต่เธอกลับผ่านเขาไปอย่างใจลอย

เมื่อซิวหน่ายซิงเห็นเธอเดินออกมาอย่างปลอดภัยดี บนใบหน้าของเขาเผยความยินดี ถอนหายใจอย่างโล่งอก

เขาไล่ตามไป หากแต่เขาก็ได้เห็นดวงตาที่ร่องรอยที่ถังย่า

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท