Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1526

ตอนที่ 1526

จ้านเซินขมวดคิ้ว พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ยินดี: “เธอกลับมาทำอะไร?”

จ้านเซินมองถังย่าอย่างไม่สบอารมณ์ ราวกับไม่พอใจอย่างมาก ที่เธอกลับมากลางคัน

มือของเขาของบีบคอของเหยาจ้าวเอาไว้แน่น ถังย่าไม่ได้พูดอะไร รีบเดินเข้ามาขวาง

เธอแกะมือของจ้านเซินออก พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม: “จ้านเซิน นายใจเย็นๆหน่อย!”

ถังย่าก็โมโหอยู่บ้างแล้ว เธอไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรกันแน่จ้านเซินถึงกลายเป็นอย่างนี้

ท่าทีที่เธอโต้ตอบกลับไป ทำให้จ้านเซินหรี่ดวงตาที่อันตรายคู่นั้น

จ้านเซินกัดฟันพูดขึ้น: “ถังย่า ระวังท่าทางของเธอด้วย เธอถลึงตาดูให้ชัดๆนะ คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอเป็นใคร!”

มือที่อยู่ข้างลำตัวกำหมัดแน่น ความโมโหคุกรุ่นอยู่ในอกของเขา

ถังย่ามองเขาที่ไม่คุ้นเคยตรงหน้า ในใจหลากหลายความรู้สึก

แต่ก่อนจ้านเซิน ไม่เคยใช้ตัวตนมากำราบสมาชิกในองค์กรเลย

เพราะทุกคนล้วนแต่ศรัทธาในตัวของจ้านเซินมาก เพียงแค่เขายืนอย่างสงบอยู่ตรงนั้น ก็เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนยินยอมก้มหัวให้เขาแล้ว

แต่ทว่า จ้านเซินในตอนนี้กลับใช้วิธีนี้มาควบคุม เขาเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เปลี่ยนเป็นคนที่โหดเหี้ยมไร้ความเมตตา ไร้ความรู้สึก จ้านเซินไม่ใช่คนเดิมคนนั้นอีกแล้ว

สายตาที่แปลกไปเช่นนี้ ทำให้จ้านเซินรู้สึกอึดอัด

จ้านเซินเม้มปาก เห็นถังย่ายืนนิ่งไม่พูดไม่จา ความโมโหในใจก็ปะทุขึ้นมาทันที: “ฉันพูดกับเธอ เธอไม่ได้ยินหรือไง?”

เขาจ้องไปที่ถังย่า ในดวงตาดำขลับเปล่งประกายความเย็นยะเยือกออกมา

ถังย่าค่อยๆยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย พูดถากถาง: “จ้านเซิน นี่นายไม่รู้สึกว่าท่าทางตอนนี้ของนาย แย่มากจริงๆงั้นเหรอ?”

เธอเอ่ยปากอย่างตรงไปตรงมา ไม่ไว้หน้าของจ้านเซินเลย

ไม่เคยมีใครหักหน้าจ้านเซินอย่างนี้มาก่อน ในเมื่อตอนนี้คนมากมายในองค์กรต่างก็พร่ำบ่นจ้านเซินกันอยู่ในใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งของจ้านเซินซึ่งๆหน้าเลย

ประเด็นสำคัญคือพวกเขากังวลว่าแค่จ้านเซินโมโหก็จะลงมือฆ่าพวกเขาทันที แต่ถังย่ากลับไม่กลัว

เทียบกับความตายแล้ว สิ่งที่ถังย่ากลัวที่สุดคือ ได้แต่มองดูจ้านเซินตกต่ำลงไปเรื่อยๆอย่างนี้

เธอเติบโตมากับจ้านเซินตั้งแต่เด็ก ในใจของถังย่าชัดเจนที่สุด จ้านเซินเป็นคนมีเหตุผลมีการแก้แค้นเอาคืน

ตั้งแต่หัวหน้ารุ่นก่อนขององค์กร ก็คือพ่อของจ้านเซินหลังจากมอบตำแหน่งมาไว้ในมือของจ้านเซินแล้ว ภายในระยะเวลาสั้นๆไม่กี่ปี องค์กรก็สามารถพัฒนาใหญ่โตขึ้นไปได้หลายเท่า

ความดีความชอบทั้งหมดนี้ มีที่มาจากจ้านเซินทั้งนั้น

ถ้าไม่ใช่เพราะจ้านเซินชอบฉินซี ส่วนฉินซีกลับชอบลู่เซิ่น จนต้องออกจากองค์กร ตอนนี้องค์กรน่าจะยังคงรุ่งเรืองเฟื่องฟู

ถังย่าไม่อยากเห็นจ้านเซินโดนความรักทำลาย แล้วก็ไม่อยากเห็นองค์กรที่ฟูมฟักเด็กกำพร้ามากมาย สูญหายไปเพราะผู้หญิงคนหนึ่งอย่างนี้

ดังนั้น ต่อให้ต้องเสี่ยงอันตรายจากความตาย ถังย่าก็หวังว่าจะตำหนิเพื่อปลุกให้จ้านเซินตื่นขึ้นมาได้

แค่รู้ว่าจะฟื้นฟูจ้านเซินคนเดิมกลับมาได้ ให้เธอทำอะไรก็ยินยอมทั้งนั้น

“นายรู้ไหมว่าตอนนี้คนในองค์กรพูดถึงนายว่ายังไง?”

ถังย่ายืนกั้นอยู่ระหว่างจ้านเซินกับเหยาจ้าว ขัดขวางไม่ให้เขาลงมืออีก

เธอก้าวเท้าอย่างแน่วแน่ ค่อยๆเข้าไปใกล้ๆจ้านเซิน: “พวกเขาบอกว่าจ้านเซินก็คือผู้นำที่ใช้อำนาจตามอำเภอใจลุ่มหลงผู้หญิงจนขาดสติ เพื่อผู้หญิงคนเดียวแม้แต่องค์กรก็ไม่ต้องการแล้ว พวกเขาบอกว่านายมันไร้ความสามารถ โดนผู้หญิงปั่นหัวเล่น พวกเขาบอกว่า ไม่ช้าก็เร็วองค์กรจะโดนทำลายด้วยน้ำมือของนาย!”

ถังย่าพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ น้ำเสียงเคร่งขรึม

เธอโมโหมากจริงๆ ไม่ยินยอมที่จะเห็นจ้านเซินเอาแต่ตกต่ำลงไปอย่างนี้

ถังย่ารักจ้านเซินคนก่อนที่กระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวา ฝีมือปราดเปรียวร้ายกาจ สง่าผ่าเผย

เธอรักท่าทางที่ยโสโอหัง ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้ของจ้านเซินมากๆ แต่ตอนนี้ถังย่าไม่ได้เห็นความรู้สึกที่กระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวาบนตัวของเขาอีกแล้ว

จ้านเซินเบิกตาโพลงอย่างเหลือเชื่อ คำพูดของถังย่าราวกับมีดคมๆ แต่ละประโยคแทงเข้ามาที่หัวใจของเขาลึกๆ

เขาโดนเสียดแทงจนต้องถอยหลังเล็กน้อย กำหมัดแน่น

สายตาที่แวววาวของจ้านเซินกำลังมองเธอ กัดฟันพูดขึ้น: “ใครพูด!”

เขาพูดด้วยเสียงดุดัน มาพร้อมกับความรู้สึกที่จะออกไปสู้รบ

เผชิญหน้ากับคำถามของจ้านเซิน ถังย่าก็หัวเราะเยาะออกมา: “นายจะอยากรู้เรื่องนี้ไปทำไม จะถือโอกาสตอนที่ฉันไม่อยู่ เรียกคนพวกนั้นที่พูดถึงนายมา แล้วฆ่าพวกเขาให้ตาย อย่างนี้ในองค์กรจะได้ไม่มีคนกล้าต่อต้านนายอีกใช่ไหม?”

ถังย่าพูดประชดประชัน เธอโมโหจนตัวสั่นเทิ้ม: “ฉันจะบอกให้นะ ต่อให้นายทำอย่างนั้น ก็เปลี่ยนแปลงความจริงไม่ได้ ท่าทางของนายตอนนี้ ไม่ต่างจากผู้นำที่เผด็จการเลย!”

เธอจ้องเขม็งไปที่จ้านเซิน ไม่กลัวเขาโกรธเลยสักนิด

วันนี้ถังย่าจะต้องต่อว่าเพื่อเรียกสติของจ้านเซินกลับมาให้ได้ เธอจึงพูดขึ้นอย่างไม่เกรงกลัว

เหยาจ้าวที่ยืนอยู่ด้านหลัง มองด้านหลังที่บอบบางของเธอ ในใจสับสน

ฝ่ามือของเขามีเหงื่อผุดขึ้นมาบางๆ ในชีวิตนี้ผู้หญิงสองคนที่เขาเลื่อมใสที่สุด ต่างก็อยู่ในองค์กรนี้

คนหนึ่งคือฉินซี อีกคนหนึ่งคือถังย่า

นิสัยของเธอสองคนไม่เหมือนกันเลย แต่กลับเด็ดเดี่ยว แข็งแกร่งเหมือนกัน

ถังย่ากับฉินซีต่างก็เป็นคนสวยที่ไม่เป็นรองใคร หากเปลี่ยนเป็นนิสัยของผู้หญิงทั่วไป ต้องโดนประคบประหงมจนกลายเป็นเจ้าหญิงแน่ๆ แต่พวกเธอที่อยู่ในองค์กรกลับบุกน้ำลุยไฟ ทุกครั้งหลังกลับมาจากปฏิบัติภารกิจ บนร่างกายก็มีร่องรอยบาดแผลที่ลบไม่ออกเพิ่มขึ้นอีกมากมาย

แต่ พวกเธอไม่เคยพูดว่าลำบากและเหนื่อยเลยสักครั้ง

เพื่อองค์กร พวกเธอเสียสละตนเองได้เสมอ

ตอนนี้เพื่อองค์กร เพื่อจ้านเซินแล้ว ถังย่าจึงยืนขึ้นมาอีกครั้ง

เหยาจ้าวกังวลมากว่า จ้านเซินจะไม่น้อมรับน้ำใจนี้ แล้วฆ่าถังย่าให้ตายทันที

ในฐานะที่เขาเป็นหมอ จึงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าอารมณ์ของจ้านเซินแปรปรวนมาก

ถ้าเป็นไปได้ เหยาจ้าวอยากจะช่วยทำการตรวจร่างกายให้จ้านเซิน แต่เขารู้ว่า จ้านเซินคงไม่เห็นด้วยแน่ๆ

บางที ถังย่าอาจจะเป็นคนเดียวที่สามารถทำให้จ้านเซินลงมาจากแดนสวรรค์ได้

ด้านหนึ่งเหยาจ้าวก็รู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของถังย่า อีกด้านหนึ่ง ก็หวังว่าถังย่าจะสามารถโน้มน้าวจ้านเซิน ให้เขาสงบลงได้

จ้านเซินยืนเหม่อลอยอยู่ที่เดิม ยืดตัวตรง

ในวินาทีนี้ เขาไม่รู้ว่าในใจรู้สึกอะไรอยู่

ตั้งแต่จ้านเซินเกิดมา ก็อยู่ในองค์กรมาโดยตลอด

หลายปีมานี้ จ้านเซินแทบจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อองค์กร ถ้าองค์กรต้องการ เขาถึงขั้นยินยอมมอบชีวิตให้เป็นค่าตอบแทน

เขาคิดว่าตนเองทำเพียงพอแล้ว คิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะได้รับการประเมินค่าอย่างนี้

บนใบหน้าที่หล่อเหลาของจ้านเซินยิ้มเยาะตนเอง จู่ๆเขาก็หัวเราะออกมาอย่างเสียสติ

“ฮ่าๆๆๆ!”

เสียงหัวเราะดังลั่น ก้องไปทั่วห้องทดลอง

ตั้งแต่หลังจากถังย่ากับเหยาจ้าวรู้จักจ้านเซิน ก็ไม่เคยเห็นเขาหัวเราะเสียงดังขนาดนี้มาก่อน

บนใบหน้าของทั้งสองคนปรากฏความประหลาดใจ ไม่ได้รู้สึกสบายใจขึ้นเลย แต่กลับยิ่งกังวลมากขึ้น

พวกเขารู้ดี ตอนนี้จ้านเซินไม่ได้หัวเราะออกมาจากใจ ท่าทางของเขา ยิ่งเหมือนกับจิตใจที่มีชีวิตชีวากำลังพังทลายลง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท