Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – บทที่ 1541 การค้นหายอดนิยม

บทที่ 1541 การค้นหายอดนิยม

เดิมทีฉินซีนึกว่าการทำเช่นนี้จะสามารถทำให้ลู่เซิ่นมีสติขึ้นมาได้บ้าง แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่า ยิ่งเธอประชิดเข้าไปใกล้ๆ ลู่เซิ่นก็ยิ่งได้กลิ่นหอมจางๆที่กระจายออกมาจากร่างกายของเธอได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเอาเธอมากอดเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างรุนแรง แล้วย่ำยีเธอหนึ่งครั้ง

ลู่เซิ่นจับจ้องไปที่เธอ นัยน์ตาของเขาลึกเหมือนมหาสมุทรผืนหนึ่ง และมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด “คุณกำลังยั่วยวนผมอยู่เหรอ?”

เขาก้มตัวลงไปแนบชิดข้างใบหูของฉินซี แล้วเปิดริมฝีปากบางๆพูดออกมาเบาๆ

พอเขาพูดคำพูดนี้ออกมา ดวงตาทั้งสองข้างของฉินซีก็เบิกกว้างขึ้นมาทันใด

จำเป็นต้องกล่าวว่า เสียงของลู่เซิ่นช่างทำให้เธอใจสั่นเสียจริงๆ

เวลานี้ น้ำเสียงของลู่เซิ่นมีความเฉื่อยเนือยและมีลมหายใจที่แปรปรวนแฝงอยู่ด้วย ซึ่งแตกต่างจากเขาที่วางมาดขรึมคนนั้นในวันปกติอย่างสิ้นเชิง

เมื่อใดก็ตามในเวลานี้ ฉินซีก็รู้ว่า ลู่เซิ่นกำลังเริ่มที่จะเล่นลูกไม้ไม่ดีแล้ว

ภายในหัวใจของฉินซีเต้นตึกตักอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงถอยหลังครึ่งก้าวอย่างลุกลี้ลุกลน

เธอแสร้งทำท่าทางที่ดุร้ายอย่างมากออกมา แล้วพูดว่า “คุณช่วยจริงจังหน่อยจะได้ไหม!”

ฉินซีเอ่ยปากขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม ดูท่าทางเหมือนจะโมโหแล้ว แต่ใบหน้าที่ขาวผุดผ่องกลับแดงระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย

เธอทนการยั่วยุของลู่เซิ่นไม่ไหวแล้วจริงๆ ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไป เธอจะต้องอ่อนระทวยลงมาก่อนเป็นแน่

ในขณะที่ลู่เซิ่นกำลังมองไปยังท่าทางที่น่ารักของเธอ เขาก็อดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้นมา “โอเค ผมไม่แกล้งคุณแล้ว เราไปเล่นรถไฟเหาะกันก่อนดีกว่า”

คราวนี้ไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะกับการ **จริงๆ และลู่เซิ่นเองก็ไม่อยากถูกผู้คนมุงดูอยู่ตรงนี้เช่นกัน

หลังจากที่พูดประโยคนี้จบ ลู่เซิ่นก็จับมือของฉินซีขึ้นมา

ในสายตาของทั้งสองคนมีเพียงฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น และคิดไม่ถึงเลยว่า ทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขาจะถูกจูเซี่ยงเหวินบันทึกเอาไว้ทั้งหมดแล้ว

ในขณะที่กำลังดูภาพที่สวยงามในวิดีโอ บนใบหน้าของจูเซี่ยงเหวินก็แสดงรอยยิ้มที่ต่ำทรามออกมา

เขาเริ่มเปลี่ยนไปและค้นพบว่าตัวเองชอบผู้ชายมาตั้งแต่มัธยมต้น แต่เพื่อที่จะสามารถอยู่ร่วมกับเพื่อนร่วมชั้นได้ตามปกติ เขาจึงปิดบังมาโดยตลอด

ในตอนนี้เมื่อเขาได้เห็นฉินซี ความรู้สึก**ที่รุนแรงก็ปรากฏขึ้นมาเป็นครั้งแรก

จูเซี่ยงเหวินรู้สึกว่าฉินซีสวยมากจริงๆ ทำไมผู้ชายคนหนึ่งถึงได้มีผิวพรรณละเอียดเกลี้ยงเกลาและมีเนื้อหนังเนียนนุ่มแบบนั้นได้ล่ะ เขาสวยเหมือนสาวน้อยคนหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น จนถึงขั้นที่ว่าสวยกว่าสาวๆหลายคนด้วยซ้ำ

ผู้ชายอย่างฉินซีนี้ เกิดมาเพื่อเป็นเกย์ฝ่ายรับจริงๆ

คำพูดเหล่านี้คือคำพูดที่จูเซี่ยงเหวินพูดอยู่ภายในใจทั้งหมด ถ้าหากฉินซีได้ยินเข้า จะต้องตัดลิ้นของเขาและทำให้เขาพูดมั่วๆไม่เป็นภาษาอย่างแน่นอน

จูเซี่ยงเหวินบันทึกวิดีโอเอาไว้อย่างระมัดระวัง แล้วก็เซฟเอาไว้หลายๆแฟ้มอีกสักหน่อย เพราะกลัวว่าจะทำมันหายไป

หลังจากทำเรื่องทั้งหมดนี้เสร็จสิ้น ภายในใจของจูเซี่ยงเหวินก็ถอนหายใจยาวๆด้วยความโล่งอก

หลังจากนั้นเขาก็เข้าไปใน Weibo ด้วยสีหน้าที่ภาคภูมิใจ แล้วตรวจสอบจำนวนแฟนคลับใน Weibo

เดิมทีจูเซี่ยงเหวินคิดว่าถึงแม้ระดับความนิยมจะไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้สูงมาก

แต่ทว่า ทันทีที่เขาเปิด Weibo ขึ้นมา เขากลับประหลาดใจเป็นอย่างมาก

โทรศัพท์ของจูเซี่ยงเหวินค้างเสียแล้ว เพราะว่ามีข้อความส่วนตัวและการแสดงความคิดเห็นมากเกินไป

ในขณะที่กำลังมองไปยังโทรศัพท์ที่มีหน้าจอสีดำแล้ว ภายในหัวใจของจูเซี่ยงเหวินก็ทั้งโมโหและรู้สึกดีอกดีใจ

ดูเหมือนว่า ในครั้งนี้เขาจะต้องโด่งดังจริงๆแล้ว

หลังจากที่โด่งดังก็จะสามารถรับงานอาทิงานโฆษณาได้ เขากำลังจะร่ำรวยขึ้นแล้ว

พอคิดถึงตรงนี้ อารมณ์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟที่อยู่ภายในใจจูเซี่ยงเหวินก็มลายหายไปอย่างมากในฉับพลัน แล้วบนใบหน้าที่ผ่ายผอมก็ปรากฏรอยยิ้มที่กำเริบเสิบสานออกมา

จูเซี่ยงเหวินเปิดโทรศัพท์อีกครั้ง ในขณะที่กำลังมองดูจำนวนแฟนคลับที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวของจำนวนที่เขาต้องการแล้ว ในหัวใจของของเขาก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจอย่างช้าๆ

หลังจากนั้น จูเซี่ยงเหวินก็โพสต์รูปถ่ายรายละเอียดที่ทั้งสองคนจับมือกันไปหนึ่งรูป พร้อมกับข้อความสั้นๆหนึ่งข้อความที่ว่า

——ต้องบอกเลยว่า มือของคู่รักที่น่าอิจฉาคู่นี้ช่างสวยงามจริงๆ

ทันทีที่ Weibo นี้ไม่สามารถโพสต์ออกมาได้ ก็มีคนแสดงความคิดเห็นขึ้นมานับร้อย

แฟนคลับเหล่านั้นต่างก็เฝ้าหน้าคอมพิวเตอร์ และรอให้จูเซี่ยงเหวินโพสต์ข้อความอีกครั้งอยู่ตลอดเวลา

——โอ้แม่เจ้า! นี่มันสวยเกินไปแล้วนะ!

——นี่เจ้าของบล็อกอยู่ที่ไหนเนี่ย ดูๆแล้วเหมือนสวนสนุกเลย

——เหมือนว่าฉันจะเคยไปสวนสนุกแห่งนี้ด้วย มันอยู่ที่ไหนนะ

——ฉันรู้ ฉันรู้!

เมื่อจูเซี่ยงเหวินเห็นว่าในคอมเมนต์ได้มีการพูดคุยกันขึ้นมาแบบนั้น เขาก็รีบลบ Weibo นี้ทิ้งไปในทันที

เมื่อสักครู่นี้เขาเอาแต่ดีใจจนลืมเซ็นเซอร์สถานที่อาจจะถูกเปิดเผยออกมาได้ไปโดยสิ้นเชิง

ถึงขนาดที่ว่าตอนนี้บางคนเดาได้ว่ามันคือสวนสนุกอะไรจูเซี่ยงเหวินกำลังคิดในใจว่า จะให้คนรู้จักมากเกินไปไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้น ถ้าพวกเขาแห่มาที่นี่กันหมด แล้วเขาจะรักษาความนิยมนี้ให้คงอยู่ต่อไปได้อย่างไร

หลังจากที่จูเซี่ยงเหวินลบWeiboไปแล้ว ก็ก่อให้เกิดกระแสต่อต้านที่รุนแรงของแฟนคลับในทันที

——ทำไมเจ้าของบล็อกต้องลบรูป ฉันยังดูไม่จบเลยนะ

——ฮ่าๆๆ! โชคดีที่ฉันมองการณ์ไกลก็เลยบันทึกเอาไว้แล้ว ถ้าใครต้องการสามารถทักมาหาฉันได้ แล้วฉันจะส่งให้พวกคุณเป็นการส่วนตัว

——ฉันอ่านไปแล้ว เมื่อไหร่เจ้าของบล็อกจะโพสต์รูปต่อไป ฉันอดใจรอไม่ไหวแล้ว

พอจูเซี่ยงเหวินเปิดดูความคิดเห็นสองสามความคิดเห็น ก็เห็นว่าความนิยมไม่ได้ลดลงไปเลย เขาจึงผ่อนลมหายใจยาวๆอยู่ในใจด้วยความโล่งอก

หลังจากนั้น จูเซี่ยงเหวินจึงย้อนคิดดูใหม่อีกครั้ง

โลกกว้างใหญ่ขนาดนั้น เฉพาะเมืองที่เขาอาศัยอยู่แห่งนี้ก็อาจจะมีกลุ่มสาววายสองสามกลุ่ม ถึงแม้ว่าจะมีก็ตาม พวกเขาก็ไม่สามารถรีบเร่งมาจนถึงที่นี่ในตอนนี้ได้หรอก

นี่เป็นเพียงส่วนที่เล็กที่สุดในเท่านั้น จึงสามารถมองข้ามและไม่คำนึงถึงเลยก็ได้

เขาควรมองการณ์ไกลสักหน่อย ไม่ใช่มัวแต่วุ่นวายอยู่ตรงนี้

คิดถึงตรงนี้ ความคิดและจิตใจของจูเซี่ยงเหวินก็รู้แจ้งขึ้นมามากในทันใด

จูเซี่ยงเหวินจึงนำรูปที่ลบเมื่อสักครู่นี้มาแก้ไขใหม่แล้วโพสต์ลงไปอีกครั้ง

——ทุกคนสู้ๆนะคะ ผมจะโพสต์รูปใหม่เมื่อครบห้าแสนแล้ว

หลังจากนั้น เขาก็ตั้งใจปิดโทรศัพท์ลงเหมือนเมื่อเมื่อสักครู่นี้

แล้วจูเซี่ยงเหวินก็ติดตามฉินซีกับลู่เซิ่นไปอย่างใกล้ชิด

ฉินซีกับลู่เซิ่นกำลังเข้าแถวรอขึ้นรถไฟเหาะ

ฉินซีขมวดคิ้วและพูดว่า “ที่รัก คุณรู้สึกหรือเปล่าคะว่าเหมือนกับมีคนกำลังเฝ้ามองเราตลอดเวลาเลย?”

เธอกวาดสายตาไปด้านหลังอย่างฉับไว นัยน์ตาที่มีสีเหมือนอำพันก็เปล่งประกายแวววาวไปด้วยแสงอันคมกริบ

จูเซี่ยงเหวินเห็นการเคลื่อนไหวของเธอ เขาก็รู้สึกตกใจ และรีบก้มศีรษะลง แล้วแกล้งทำท่าทางเล่นโทรศัพท์มือถือออกมา

ลู่เซิ่นกำลังซื้อตั๋วอยู่ และไม่ได้สนใจอะไรมากนัก

ในขณะที่เขากำลังมองฉินซีที่มองไปรอบๆอยู่ เขาก็ลูบศีรษะเล็กๆของเธอเบาๆ และพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “คุณคิดว่าตั้งแต่ที่เราสองคนจับมือกันเดินเข้ามาในสวนสนุก มีคนที่มองดูเราน้อยมากอย่างนั้นเหรอ?”

ลู่เซิ่นกล่าวด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรักและลุ่มหลง

คำพูดของเขา ทำให้ฉินซีตะลึงงันไปครู่หนึ่ง

ฉินซีพยักหน้าไปมาแล้วพูดว่า “มีเหตุผลนะ บางทีฉันอาจจะขี้ระแวงมากเกินไปมั้ง”

เธอยิ้มแย้ม แล้วถอนสายตากลับคืนมา

ฉินซีถอนหายใจอย่างเงียบๆอยู่ในใจ เดิมทีเธอสวมหน้ากากเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ดึงดูดสายตาของผู้คน แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าจะยิ่งสะดุดตามากขึ้นกว่าเดิมเสียแล้ว

แต่ทว่า ยิ่งเป็นแบบนี้ เธอก็ยิ่งไม่อยากอยู่ห่างจากลู่เซิ่น

จูเซี่ยงเหวินเงยศีรษะขึ้นมาอย่างเงียบๆ เห็นทั้งสองคนพูดคุยและหัวเราะกันในขณะเข้าแถว เขาจึงแอบถ่ายรูปของพวกเขา

เขาไม่กล้าหายใจแรง เพราะกลัวว่าจะถูกฉินซีกับลู่เซิ่นพบเข้า

หลังจากที่ฉินซีกับลู่เซิ่นขึ้นรถไฟเหาะไปแล้ว จูเซี่ยงเหวินก็ตั้งหน้าตั้งตารออยู่ที่เดิม

เขาไม่กล้าเล่นของแบบนี้จริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ขึ้นไปแล้ว ก็จะไม่สามารถดำเนินการถ่ายรูปได้เลย

เชี่ยนเชี่ยนคิดไม่ถึงว่าพอถูกลู่เซิ่นขอร้องให้ลบรูปเมื่อสักครู่นี้ไปแล้ว ยังมีคนตั้งใจโพสต์รูปของฉินซีกับลู่เซิ่นโดยที่ไม่ฟังคำแนะนำใดใดเลย

เชี่ยนเชี่ยนมองปราดเดียวก็รู้จุดประสงค์และเจตนามิดีมิร้ายของจูเซี่ยงเหวินแล้ว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท