Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – บทที่ 1548 ยอมด้วยความเต็มใจ

บทที่ 1548 ยอมด้วยความเต็มใจ

ลู่เซิ่นขมวดคิ้วและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็เงยหน้าขึ้นช้าๆ และพูดเบาๆว่า “ในเมื่อเขารักความโดดเด่นออกหน้าออกตาขนาดนี้ งั้นเราก็ทำให้เขาโดดเด่นขึ้นมาสิ”

ฉินซีเงยหน้าขึ้นไปมองลู่เซิ่น

แค่มองปราดเดียว เธอก็เข้าใจทันทีว่าลู่เซิ่นต้องการทำอะไร

“พวกเราจะ…ใช้ประโยชน์จากเขาเหรอ?”

ลู่เซิ่นยิ้มแล้วพูดว่า “ในเมื่อเขาทำผิดและเข้ามาหาเรื่องเราโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรต้องสงสาร”

ฉินซีไม่คัดค้านเขาอีกต่อไป แล้วพยักหน้าไปมา

……

จูเซี่ยงเหวินยังคงไม่รู้ว่าเขากำลังจะเผชิญหน้ากับอะไร

เขายังคงยืนอยู่ที่ประตูป้อมยามของสวนสนุก และกำลังเดินวนไปวนมาด้วยความลังเล

ตอนที่เขาเพิ่งพบว่าเขาถูกปล้น เขาก็โกรธมากจริงๆ จึงเดินตรงมาที่ป้อมยาม และคิดที่จะมาตรวจดูกล้องวงจรปิด แล้วมองให้ดีว่าใครที่ใจกล้าไม่กลัวเทวดาฟ้าดินขนาดนี้ และกล้าที่จะมาปล้นเขาในตอนกลางวันแสกๆ

แต่เมื่อเขาไปถึงหน้าประตู ความโกรธของเขาก็ลดลงเล็กน้อย และเขาก็สงบลงมา

เขา……สามารถเข้าไปแบบนี้ได้จริงๆเหรอ?

ขอเพียงแค่ได้ดูกล้องวงจรปิด การกระทำและวิถีทางของเขาก็จะถูกเปิดเผยออกมาทั้งหมด คนที่อยู่ในป้อมยามมองปราดเดียวก็จะรู้ทันทีเลยว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ เมื่อถึงเวลานั้นนอกจากจะขโมยไก่ไม่ได้แล้วยังเสียข้าวสารอีกกำมือ ไม่รู้ว่าคนที่อยู่ในกล้องวงจรปิดเป็นใคร ตัวเองยังต้องมาถูกคนอื่นค้นพบอีกด้วย

แต่ทว่า…ถ้าเขายอมแพ้แบบนี้แล้วไม่ไปสืบหา เขาก็ทำไม่ได้เหมือนกัน!

เงินที่เขาพกติดตัวมาก็ไม่มากเลย ส่วนเอกสารกับบัตรถึงเวลานั้นก็แจ้งหายและทำใหม่ก็ได้ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องเล็กน้อย

เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าโจรทั้งสองนั้นคิดอย่างไร ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาก็ไม่ได้มีเงินมากมายอะไร และไม่มีอะไรให้น่าปล้นตรงไหนเลย

หรือว่าเพราะเขาซ้อนตัวอยู่ในมุม ก็เลยมาลงมือกับเขา? ในใจของ

จูเซี่ยงเหวินเต็มไปด้วยความโกรธ แต่ในขณะนี้เขาไม่มีเวลาที่จะไปคิดถึงเรื่องนี้

เพราะว่าสิ่งที่เขาคิดถึงและเป็นห่วงอย่างสุดจิตสุดใจในตอนนี้ก็คือโทรศัพท์ของเขา!

ถ้ากลับไปหาโทรศัพท์ในตอนนี้ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะยังสามารถกลับไปหาร่องรอยของสองคนนั้นจนพบ แล้วยังสามารถติดตามร่องรอยของพวกเขาต่อไปได้

……หวังว่าผู้คนที่ดูคึกคักเหล่านั้นจะไม่ให้ความสนใจแล้วเพราะว่าเขาหายไปชั่วขณะหนึ่งนะ

ในขณะที่เหตุผลกับความเห็นแก่ตัวในใจกำลังต่อสู้กันแบบนี้ จูเซี่ยงเหวินก็เลยตัดสินใจไม่ได้อยู่นานมาก และได้แต่เดินไปเดินมาอยู่หน้าป้อมยาม

เสื้อคลุมของเขาที่ถูกปล้นอย่างนั้นเมื่อสักครู่นี้ มีฝุ่นติดอยู่ และบนใบหน้าก็มีรอยขีดข่วนอย่างเห็นได้ชัด บวกกับเขามักจะค่อมหลังและหลบสายตาตอนที่มองดูผู้คนจนติดเป็นนิสัย ในเวลานี้ ได้ปลุกระดมความสงสัยของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ปฏิบัติหน้าที่ในป้อมยามเข้าแล้ว

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนั่งอยู่เฉยๆไม่ได้แล้ว จึงเดินออกมาจากห้องยามและเดินไปหาเขา ตอนที่ตัดสินใจว่าจะซักถามดูสักหน่อย ทันใดนั้นก็มีคนประกาศชื่อของเขาในเครื่องกระจายเสียง

“ขอให้คุณจูเซี่ยงเหวินมาที่หน้าศูนย์รับฝากของหายทันทีที่ได้ยินประกาศด้วยค่ะ มีคนพบโทรศัพท์และกระเป๋าเงินที่สูญหายไปของท่าน เชิญท่านมารับได้เลยค่ะ ประกาศอีกครั้ง หลังจากที่ได้ยินประกาศขอให้คุณจูเซี่ยงเหวิน……”

ดวงตาของจูเซี่ยงเหวินเป็นประกาย

เขายืดตัวตรง ความเจ็บปวดของผิวหนังที่ถลอกปอกเปิกก็ไม่มีเวลามาสนใจแล้ว เขาหันหน้าไปและแทบจะรีบสาวเท้าพรวดๆไปที่ศูนย์รับฝากของหายอย่างรวดเร็ว และภายในใจของเขาก็แทบจะหัวเราะดังๆออกมาแล้ว!

ฟ้าย่อมมีทางออกให้คนเราเสมอจริงๆ!

อาจเป็นได้ว่าโจรทั้งสองคนพบว่าไม่มีอะไรในกระเป๋าสตางค์ของเขา และโทรศัพท์ก็เก่าเกินไป จึงไม่มีค่าและไม่มีประโยชน์อะไรเลย จะเอาไปด้วยก็ยุ่งยาก ก็เลยโยนทิ้งไป ก่อนที่จะมีคนเก็บขึ้นมา

พวกเขาน่าจะเห็นบัตรประชาชนที่อยู่ในกระเป๋าสตางค์ ดังนั้นจึงรู้ว่าควรจะส่งคืนให้เขา

นี่มัน…ยอดเยี่ยมไปเลย!

เขาเดินอย่างรวดเร็วจนเกือบเป็นการวิ่งจ๊อกกิ้ง ใช้เวลาไม่นานเขาก็มาถึงศูนย์รับฝากของหายแล้ว

“ผมคือจูเซี่ยงเหวินครับ!” เขาจับเคาน์เตอร์เอาไว้ แล้วโน้มตัวไปข้างหน้า โดยยื่นตัวเข้าไปเกือบครึ่งตัว “ผมได้ยินประกาศบอกว่าพบของของผมแล้ว ผมก็เลยมาเอาครับ”

พนักงานที่จุดรับฝากของหายตกตะลึงกับท่าทีที่กระตือรือร้นมากเกินไปของเขา เธอจึงตั้งสติให้มั่นแล้วก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว แล้วฝืนใจรักษามารยาท และพูดอย่างสุภาพว่า “คุณอย่าเพิ่งร้อนใจไปค่ะ สิ่งของของคุณเราเก็บเอาไว้อย่างปลอดภัยอยู่ที่นี่ค่ะ แต่เพื่อความปลอดภัย รบกวนคุณช่วยบอกลักษณะของโทรศัพท์ซ้ำอีกรอบและ ในกระเป๋าสตางค์น่าจะมีของอะไรอยู่บ้างด้วยค่ะ”

จูเซี่ยงเหวินคิดไม่ถึงว่าจะมีคำถามมากมายขนาดนี้ เขาอยากจะหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วตามสองคนนั้นไปเป็นอย่างมาก เขาก็เลยพูดด้วยน้ำเสียงที่หนูเล็กน้อยว่า “โทรศัพท์จะเป็นเคสโทรศัพท์แบบใส ภาพหน้าจอเป็นสีดำล้วน รหัสโทรศัพท์ก็คือ1234 ในกระเป๋าสตางค์มีบัตรประชาชนหนึ่งใบ หมายเลขบัตรประชาชนของผมก็คือ xxxxxxx ครับ และยังมีบัตรธนาคารสีเขียวหนึ่งใบกับเงินย่อยอยู่นิดหน่อย แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังมีอยู่หรือเปล่า”

พนักงานตรวจสอบอย่างละเอียดอยู่ครู่หนึ่ง เห็นว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง ก็เลยหยิบของออกมาจากใต้เคาน์เตอร์ แต่ยังไม่ทันได้ออกมา ก็เห็นคนที่อยู่ข้างหลังจูเซี่ยงเหวินพูดขึ้นมาว่า “ต้องรบกวนทั้งสองท่านแล้ว พวกเราจะคืนของให้คุณจูเอง”

พูดจบ เธอก็หันมามองจูเซี่ยงเหวิน แล้วพูดว่า “สุภาพบุรุษทั้งสองท่านนี้ก็คือคนที่ช่วยนำของของคุณมาส่งที่นี่ค่ะ คุณจู คุณควรจะขอบคุณทั้งสองท่านนี้สักหน่อยหรือเปล่าคะ?”

จูเซี่ยงเหวินทำสีหน้ารำคาญ และขี้เกียจที่จะไปพูดคุยกับเธอต่อ จึงเอื้อมมือข้างหนึ่งไปคว้าเอาโทรศัพท์มือถือกับกระเป๋าสตางค์ของตัวเองมา แล้วพลิกดูกระเป๋าสตางค์อย่างลวกๆ ก็พบว่าไม่มีบัตรธนาคารกับเงินย่อยอยู่จริงๆด้วย เหลือแค่บัตรประชาชนใบเดียวเดี่ยวๆ เขาก็เลยยัดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง แล้วเปิดโทรศัพท์อย่างใจจดใจจ่อ ในระหว่างที่กำลังรอ Weibo รีเฟรช เขาก็เดินออกไปข้างนอก และไม่ได้คิดจะเหลือบไปมองคนใจดีสองคนนั้นเลย

พนักงานไม่พอใจเล็กน้อยกับพฤติกรรมที่ไร้เหตุผลของเขา แต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ จึงทำได้เพียงพยักหน้าขอโทษสุภาพบุรุษผู้ใจดีทั้งสองท่าน แล้วพูดว่า: “ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ต้องขอบคุณท่านทั้งสองคนมากนะคะ”

“ไม่เป็นไรครับ”

ผู้ชายที่รูปร่างค่อนข้างสูงคนนั้นตอบกลับมา

แล้วจูเซี่ยงเหวินที่กำลังจะเดินผ่านทั้งสองคนไปพอดีก็ได้หยุดฝีเท้าลงสักครู่

……เสียงนี้ มันคุ้นหูจัง

เขารู้สึกเหมือนเคยได้ยินที่ไหนสักแห่ง แต่กลับคิดไม่ออกเลย ดังนั้นเขาก็เลยหันศีรษะกลับไปมองทันทีโดยไม่รู้ตัว

การเหลือบมองในครั้งนี้ทำให้เขาไม่ต้องซีเรียสอีกแล้ว เมื่อมองดูอย่างชัดเจนว่าสุภาพบุรุษสองท่านนั้นเป็นใคร เขาก็เกือบจะหัวเราะดังๆขึ้นไปบนฟ้า

สวรรค์ช่าง……ดีต่อเขาจริงๆ!

เดิมทีเขากังวลใจเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าจะไปตามหาคู่รักสายวายที่มีหน้าตาโดดเด่นสองคนนั้นได้จากที่ไหน ใครจะไปคิดเล่าว่าพอเงยหน้าขึ้น พวกเขาก็มายืนอยู่ตรงหน้าแล้วจริงๆ

——คิดไม่ถึงเลยว่าคนที่เก็บโทรศัพท์กลับมาคืนให้เขา ก็คือพวกเขาทั้งสองคน!

ในใจของจูเซี่ยงเหวินไม่ได้รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย จนถึงกับเย้าหยอกออกมาเล็กน้อย

ถ้าหากพวกเขารู้ว่าตัวเองกำลังคืนโทรศัพท์มือถือให้ใคร คาดว่าพวกเขาคงจะเสียใจในภายหลังไม่หยุดกระมัง

แต่เมื่อโอกาสมาถึงมือขนาดนี้แล้ว จูเซี่ยงเหวินจะไม่มีทางพลาดโอกาสนี้ไปโดยเปล่าประโยชน์อย่างแน่นอน พอเขากลอกสายตาไปหนึ่งรอบ เขาก็คิดแผนการที่ดีกว่าการตามไปแอบถ่ายรูปลับหลังพวกเขาทั้งสองคนออกแล้ว

……ถ้าหากสามารถเชิญพวกเขาไปนั่งด้วยกันได้ ก็จะสามารถถ่ายรูปหน้าตรงได้อย่างชัดเจนแล้ว

ถึงเวลานั้น ยังจะต้องกลุ้มเรื่องความนิยมอีกอย่างนั้นหรือ?

ในขณะที่กำลังคิดเช่นนี้อยู่ รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของเขาก็กว้างมากขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย ขาที่กำลังจะก้าวออกไปก็ถูกชักกลับเข้ามาแล้วเช่นเดียวกัน จากนั้นเขาก็หันหลังเดินไปอยู่ตรงหน้าของทั้งสองคนนั้น แล้วพยายามแสดงความนอบน้อมและจริงใจออกมาบนใบหน้าของตัวเอง

“ที่แท้คุณทั้งสองคนก็เป็นคนเก็บโทรศัพท์มือถือกับกระเป๋าสตางค์ของผมได้ ผมรู้สึกขอบคุณมากจริงๆครับ” เขายิ้มและยื่นมือให้ทั้งสองคน “เมื่อกี้ผมรีบติดต่อกับเพื่อนๆมากเกินไป ก็เลยไม่ได้กล่าวขอบคุณพวกคุณตั้งแต่แรก เป็นความผิดของผมเองครับ เอาอย่างนี้ดีกว่า ผมขอเลี้ยงกาแฟพวกคุณสองคนสักแก้ว เพื่อเป็นการแสดงการขอโทษก็แล้วกันนะครับ”

ท่าทีที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงนี้ของเขาแม้แต่พนักงานก็มองออกว่ามีความผิดปกติอยู่เล็กน้อย เมื่อเขากำลังเอ่ยปากเตือนคนใจดีทั้งสองคน ก็ได้ยินเสียงของผู้ชายที่ตัวสูงๆคนนั้นตอบตกลงอย่างสบายใจออกไปว่า “โอเคครับ งั้นก็ต้องรบกวนคุณแล้ว”

จูเซี่ยงเหวินยิ้มอย่างมีความสุข

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท