Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – บทที่ 1567 แผนการสำเร็จ

บทที่ 1567 แผนการสำเร็จ

บนหน้าของฉินซียิ้มอย่างสบายใจ เธอเดินเข้าไปหาเวินจิ้งอย่างช้าๆ น้ำเสียงเบา “ไม่มีใครเคยสอนคุณหรอว่า เวลาอยู่ในบาร์ อย่าปล่อยให้แก้วของตัวเองละสายตาแม้แต่วินาทีเดียว”

ดวงตาของเวินจิ้งเบิกกว้างมาก “คุณทำอะไร?”

ฉินซีเข้าใกล้เวินจิ้ง เหยียดนิ้วชี้ออกมาแล้วเลื่อนเบาๆบนไหล่ของเวินจิ้ง “ตอนนี้คุณ……น่าจะรู้สึกร้อนมากใช่ไหม……”

เวินจิ้งไม่ใช่คนโง่เช่นกัน เธอนิ่งไปสักครู่แล้วตั้งสติได้ มองไปที่ฉินซีอย่างไม่อยากจะเชื่อ “คุณวางยาฉัน?”

ฉินซีไม่ได้ตอบคำถามนี้ต่อหน้า เพียงแค่ยืนตัวตรง ยกข้อมือขึ้นดูเวลา แล้วพูดเบาๆว่า “คุณยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วโมงที่สามารถยังมีสติได้…… ถ้าฉันเป็นคุณ จะไม่เสียเวลากับปัญหาแบบนี้ที่นี่ แต่……..จะรีบหาคนมาแก้ปัญหาที่อยู่ข้างหน้าทันที มิฉะนั้นถ้ารอยาออกฤทธิ์แล้ว ก็จะไม่มีโอกาสเลือกแล้ว”

เวินจิ้งฟังเธอพูดจนขนลุก เธออดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือจับคอเสื้อของตัวเองไว้ เธอจ้องไปที่ฉินซีมองตาปริบๆ ในน้ำเสียงที่มีเสน่ห์เริ่มควบคุมไม่ได้ “ทำไมคุณถึงทำเช่นนี้…….กับฉัน?”

ทั้งๆที่เป็นการถามที่กำลังโกรธอยู่ แต่น้ำเสียงไม่มีพลังเลย ฉินซีสามารถเห็นความปรารถนาที่อับชื้นในดวงตาของเธอได้อย่างชัดเจน

เวลามีไม่มากแล้ว เธอไม่สามารถเสียเวลาที่นี่ต่อไปได้

มิฉะนั้น……อาจไม่บรรลุเป้าหมายของพวกเขาได้

ฉินซีเม้มปากไม่รอช้า เดินไปที่หน้าต่างของห้องน้ำไม่กี่ก้าว เปิดหน้าต่างให้มีช่องที่สามารถเบียดออกไปได้ หันมามองเวินจิ้งที่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมและยิ้ม “ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะไปหา……..”

เธอไม่ได้พูดชื่อออกมา แค่ยืนอยู่ที่เดิมแล้วทำรูปปาก

แต่ทั้งสองคนรู้ว่าเธอกำลังพูดถึงอะไร

หลังจากที่ฉินซีพูดจบ ไม่ได้รอเวินจิ้งตอบสนองปฏิกิริยาใดๆ ก็เปิดหน้าต่างเดินออกไปแล้ว

การเคลื่อนไหวของเวินจิ้งช้าลงเพราะฤทธิ์ยา เมื่อเธอเข้าใจเจตนาของฉินซีและตั้งใจจะเอื้อมมือไปดึงเธอไว้ แต่ก็สายไปแล้ว แม้แต่มุมเสื้อของเธอก็ยังคว้าไว้ไม่ทัน คว้าได้เพียงอากาศที่ว่างเปล่า

เวินจิ้งยืนอยู่ข้างหน้าต่างและพึมพำ “…..จะไปหาเขาหรอ…..”

แต่ไม่มีใครสามารถตอบเธอได้แล้ว

…….

ฉินซีออกมาจากหน้าต่าง และเดินตามเส้นทางประตูหลังตามที่โจวเอ้อบอกไว้ล่วงหน้า แล้วกลับไปที่ห้อง

ลู่เซิ่นนั่งอยู่ในห้อง ถ้ามองที่สีหน้าดูเหมือนว่าเขาจะสงบมาก แต่ฉินซีสามารถสัมผัสความตึงเครียดของเขาได้จากการจับมือเขา

เธอมีรอยยิ้มบนใบหน้า เดินไปข้างกายเซิ่นอย่างรวดเร็ว เอื้อมมือออกไปและจับมือเขา แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันก็กลับมาในสภาพปกติแล้วนี่ไง”

ลู่เซิ่นมองดูเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า มั่นใจว่าเธอปลอดภัย จึงได้โล่งอก และถามไปว่า “เป็นอย่างไรบ้าง”

ฉินซียิ้มอย่างผ่อนคลาย “ง่ายกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะ……..”

อันที่จริง ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของเธอม ส่วนมากก็ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป ผู้หญิงอย่างถังย่าก็ไม่เอ่ยถึงแล้ว แม้ก่อนหน้านี้ตัวเธอเองจะลืมเพื่อนที่ดีที่สุดอานหยัน เมื่อตอนที่ใช้ชีวิตในองค์กรด้วยกัน แต่ก็มีภูมิหลังที่ซับซ้อน

ดังนั้นก่อนที่จะไปวางยาเวินจิ้ง ฉินซีก็มีการวางแผนหลายวิธีในใจ เพื่อป้องกันไม่ให้เวินจิ้งระวังตัวมากเกินไป จนตัวเองไม่สามารถลงมือได้ หรือถูกจับได้

แต่เวินจิ้งเป็นผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง ไม่มีทักษะที่ได้รับการฝึกฝน และไม่มีความระมัดระวังมากเกินไป แม้แต่การป้องกันขั้นพื้นฐานก็ยังไม่มี ปล่อยให้เธอลงมือได้อย่างง่ายดาย และถึงกับรู้สึกว่ามันง่ายเกินไปจนไม่น่าเชื่อ

มันก็แค่… พวกเขาเพิ่งเสร็จสิ้นแผนส่วนแรกเท่านั้น ต่อมาถึงจะเป็นส่วนที่สำคัญมาก

ถ้าเวินจิ้งไม่ไปหามู่วี่สิง เช่นนั้นความเหนื่อยของพวกเขาในตอนนี้ก็ถือว่าเปล่าประโยชน์

ฉินซีอธิบายสั้น ๆ เกี่ยวกับขั้นตอนการวางยาเวินจิ้ง โชคดีที่กระบวนการนี้ง่ายมาก ไม่ซับซ้อน ต้องใช้เวลานานในการอธิบาย จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เปิดซอฟต์แวร์อันหนึ่ง “ดูซิว่าเธอ…….ไปหามู่วี่สิงแล้วหรือยัง”

แน่นอนว่าเมื่อครู่เธอไม่ได้ไปดูเวินจิ้งอย่างไร้จุดหมาย แต่ใช้โอกาสติดเครื่องติดตามขนาดเล็กบนร่างกายของเธอซึ่งพอๆกับที่องค์กรใส่ไว้ในร่างกายของพวกเขา มีการยึดเกาะที่แข็งแกร่งและมีขนาดเล็ก แทบจะมองไม่เห็น แต่ไม่เพียงทำได้แค่การติดตามตำแหน่งยังสามารถบันทึกเสียงได้ด้วย

ฉินซีสามารถดูตำแหน่งของเครื่องติดตามตัวได้จากโทรศัพท์มือถือ และยังสามารถได้ยินสถานการณ์ที่ส่งมาจากเครื่องดักฟังอีกด้วย

เครื่องดักฟังมีประสิทธิภาพดีมาก แม้แต่เสียงหอบของเวินจิ้งได้ยินอย่างชัดเจน

และตำแหน่งของเธอ……กำลังเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว

“มู่วี่สิง……มู่วี่สิง……” เสียงกระซิบแผ่วเบาของเวินจิ้งผ่านเข้ามาในโทรศัพท์ และสะท้อนอยู่ในห้องที่เงียบสงบ แม้ว่าจะแค่คำธรรมดาไม่กี่คำ ก็สามารถทำให้คนอื่นอิจฉาและหัวใจเต้นแรงได้

และเสียงของอีกฝ่ายก็ส่งเข้ามาอย่างชัดเจน

“ฉันอยู่”

ตอนที่เสียงของคนคนนั้นส่งเข้ามา ฉินซีกับลู่เซิ่นมองหน้ากัน แล้วก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก

—— นี่เป็นเสียงของมู่วี่สิง

ในเมื่อเวินจิ้งอยู่กับมู่วี่สิงแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องติดตามสถานการณ์ต่อไปแล้ว ฉินซีคิดอยู่ครู่หนึ่ง คลิกสองสามครั้ง และเปิดการบันทึกจากที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้ในซอฟต์แวร์

เธอสงสัยเล็กน้อยว่ามู่วี่สิงมาได้อย่างไร

ลู่เซิ่นก็ไม่ได้ขัดขวางเธอเช่นกัน และทั้งสองคนก็เอาหัวแตะกัน และเปิดคลิปบันทึกเสียง

เมื่อดูจากเวลาแล้ว หลังจากที่ฉินซีจากไป เวินจิ้งเหมือนกำลังลังเล หลังจากเงียบไปสองสามนาที ก็มีการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน

—— เธอก็พอจะรู้สึกตัวว่าสถานะของเธอเริ่มควบคุมไม่ได้แล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่ลังเลอีกต่อไป และโทรหามู่วี่สิงโดยตรง และอธิบายสถานการณ์ของเธออย่างคลุมเครือ

ไม่ได้ยินที่มู่วี่สิงพูดในเครื่องดักฟัง แต่ผ่านไปไม่กี่นาที เสียงของมู่วี่สิงก็ดังขึ้นจากเครื่องดักฟัง

ลู่เซิ่นและ ฉินซีชำเลืองมองกันและกัน และทั้งคู่ก็เห็นความคิดของกันและกันจากสายตาของกันและกัน

หากไม่รวมเรื่องบังเอิญที่มู่วี่สิงอยู่ใกล้ ๆแถวนี้พอดี เขามาถึงเร็วมาก สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือ………เขาตามเวินจิ้งมาตั้งแต่แรกแล้ว

มิฉะนั้นเขาจะมาหาเวินจิ้งภายในไม่กี่นาทีได้อย่างไร และจะหาตำแหน่งที่อยู่ของเวินจิ้งได้อย่างแม่นยำได้อย่างไร

ร่องรอยของความกังวลปรากฏขึ้นในดวงตาของลู่เซิ่น ในเมื่อมู่วี่สิงติดตามเวินจิ้งมาโดยตลอด เช่นนั้นอีกไม่นานเขาก็น่าจะรู้ว่านี่เป็นฝีมือของฉินซี

ครั้งที่แล้วเขาเข้าใจผิดว่าตัวเองกำลังนอกใจฉินซี เดิมทีก็มีอคติต่อฉินซีอยู่แล้ว คราวนี้……เขาจะมีอคติที่กับฉินซีมากขึ้นไหม?

แต่ลู่เซิ่นไม่ได้พูดคำเหล่านี้ออกมา แค่วางแผนอย่างเงียบๆในใจ และเมื่อถึงเวลานั้นจะวิธีอธิบายกับมู่วี่สิงอย่างไร จึงจะสามารถเอาฉินซีออกจากเรื่องนี้ไปได้

หลังจากชี้แจงเหตุผลก่อนหน้านี้แล้ว ฉินซีก็ขยับนิ้วเปลี่ยนกลับไปดักฟังติดตามสถานการณ์เหมือนเดิม

แต่เมื่อกลับไป ก็มีเสียงครวญครางดังมาจากโทรศัพท์

ฉินซีหน้าแดง และโทรศัพท์เกือบตกลงมาจากมือ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท