Chapter 159 – ให้ฉันคิดก่อน
“ เอริค นายดูสิ ฉันเดาถูกใช่มั้ย ? “ – ในห้องสมุด ดรูวส์ ที่เขียนบางอย่างอยู่บนเก้าอี้ได้เอาสมุดที่เต็มไปด้วยรายชื่อโฆษณาออกมาและวิ่งไปหา เอริค
เอริค หันออกมาจากหน้าจอแล้วหันมามองที่เธอ เขาส่ายหน้าก่อนจะตอบกลับ – “ ทำไมเธอถึงถามเรื่องนี้ ? เธออยากจับฉลากด้วยรึไง ?”
“ ไม่ได้เหรอ ? มันตั้ง 10,000 “ – ดรูวส์ ดึงสมุดกลับคืนไปพร้อมกับเอาปากกาเคาะคางตัวเองอยู่สักพัก จากนั้นก็ก้มหน้าลงและหยุด – “ ฉันผิดอะไรนะ ?”
“ โอ้ ไม่ใช่พวกนั้น “ – เอริค มองไปที่กองเอกสารที่อยู่ตตรงหน้าโต๊ะเขา เขาเอากระดาษส่งให้กับสาวน้อยแล้วพูดขึ้นมา – “ เอาพวกนี้ไปแล้วอย่ามากวนฉันอีก “
“ ฉันไม่อยากได้ ฉันต้องเดามันด้วยตัวเอง “ – ดรูวส์ มองไปที่กระดาษพวกนั้นแล้วปฏิเสธทันที เธอเอาสองขายันไปที่พื้นแล้วขยับเก้าอี้ออกไปอีกราวกับว่ากระดาษนั้นมันจะทำให้เธอต้องแปดเปื้อน
เอริค ยักไหล่และหันกลับไปที่จออีกครั้ง เขากดคีย์บอร์ดแล้วพูดขึ้นมา – “ งั้นก็อย่ามาถามคนรู้สิ มันไม่ใช่ความสามารถตัวเอง “
“ แน่นอน นายก็เป็นหนึ่งในความสามารถส่วนตัวของฉัน “ – ดรูวส์ พูดและเปลี่ยนคำตอบของเธอ เอริค อดไม่ได้ที่จะชี้ไปที่ตัวที่เธอผิด – “ เฮ้ ละครไม่นับเป็นโฆษณา เปลี่ยนบรรทัดนี้เป็นกล้อง Canon “
“ ว๊าว นายทำแบบนี้ได้ไง ฉันอยากลองเดาเองสักหน่อย ! “ – ดรูวส์ อ้าปากและกัด เอริค แต่เธอคงไม่รู้ในส่วนข้อมูลนี้แน่ ส่วนที่ผิดถูกแก้ เธอมักจะคิดถึงฉากของ Friends ว่าน่าจะถือว่าเป็นโฆษณาเหมือนกัน อันที่จริงแล้วหลายคนก็คิดแบบเดียวกัน
เพราะ Friends เองก็มีส่วนที่โฆษณาด้วย ดังนั้นก็เหมือนกับแฟนๆหลายคน ดรูวส์ จึงคิดว่าฉากในละครนี้เองก็ถือว่าเป็นโฆษณาเหมือนกันและ Columbia ก็ไม่ได้ประกาศอะไรออกมาเพื่อปล่อยให้ผู้คนได้คิด
หลังจากนั้นไม่นานตัวนุ่มๆก็กดลงมาที่ เอริค หน้าอกเล็กๆที่ดันมาที่หลังเขาและกลิ่นหอมจากตัวเธอทำให้ เอริค ต้องกังวลเล็กน้อย
“ ดรูวส์ อย่าสร้างปัญหา ปล่อยฉันอยู่คนเดียวสักพักแล้วไปนั่งที่เก้าอี้นู่น มันค่อนข้างอึดอัดนะที่ต้องนั่งที่ม้านั่งนี้ “ – เอริค สะบัดไหล่ไปมาเพื่อดันเด็กสาวออก
ดรูวส์ คว้าคอ เอริค ราวกับคว้าลูกกวาด – “เอริค ฉันมีความคิดดีๆในการหาเงิน “
“ อยู่ๆเธอมาสนใจเรื่องหาเงินได้ยังไง ? “ – เอริค จับแขนของ ดรูวส์ ออกจากคอตัวเอง
“ ฉันอิจฉา “ – ดรูวส์ โดนดึงออกจากหลังของ เอริค แต่เธอก็วิ่งไปที่ต้นขา เอริค แล้วนั่งลงไปโดยไม่พูดอะไร
“ มีอะไรให้เธอต้องอิจฉา ? “ – เอริค โอบเอวของเธอไว้เพื่อปลอบเธอ เขาเข้าใจว่า ดรูวส์ นั้นคิดเรื่องนี้เพราะหนังสองเรื่องของเขา Home Alone และ Pretty Woman
แต่อันที่จริงแล้ว เอริค ไม่ได้มีเงินสด 200 ล้านเหมือนกับที่สื่อบอกมา แม้ว่าส่วนแบ่งของ Home Alone ได้เข้าบัญชีของเขามาตั้งแต่เดือนมิถุนายนแล้วแต่เขาก็ต้องจ่ายเงินกู้ธนาคารสองที่ 50 ล้าน ดังนั้น เอริค จึงมีเงินเหลือแค่ 20 ล้าน เงินนี้ต้องแบ่งกับนักแสดงของ Home Alone อีก ตามสัญญาที่เซ็นไว้ตอนแรก มีแค่ สจ๊วตรังเคิล ที่ได้เงิน 3 ล้าน สำหรับนักแสดงคนอื่นๆเขาก็คงใจร้ายเกินไปไม่ได้ ดังนั้นสุดท้ายแล้ว เอริค ก็ไม่ได้อะไรมากเท่าไหร่
และเพราะ Pretty Woman มีส่วนแบ่ง 35% ในอเมริกาเหนือและ 10% ทั่วโลก เอริค ก็จะได้เงิน 105 ล้านจากหนังเรื่องนี้แต่ Columbia ได้ให้ส่วนแบ่งของ Home Alone ประมาณเดือนก่อนเพื่อที่จะให้เขารับปากในการทำ Running Out of Time แต่ เอริค และ Fox ไม่ได้มีข้อตกลงแบบนั้น ดังนั้นทุกอย่างจึงเป็นไปตามกฎ ด้วยความสามารถของ เอริค Fox มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา ดังนั้นแม้ว่าพวกนั้นจะไม่ได้ลูกเล่นอะไรนักแต่ก็ถือว่าดีถ้าเขาได้เงินตัวเองใน 3 เดือน แม้ว่า Pretty Woman จะออกจากโรงมาเดือนหนึ่งแล้วแต่ เอริค ก็ยังไม่ได้เงินเลยสักแดงเดียว
ตอนนี้เมื่อมองไปยังเด็กสาวที่เหมือนจะสลดนิดๆในอ้อมแขนเขา เอริค ก็ไม่คิดว่าเด็กสาวที่มักจะไม่สนใจอะไรเองก็มีอารมณ์ด้านนี้ด้วยและมันรู้สึก…แปลกใหม่เอามากๆ
ดรูวส์ จับปากกาในมือแล้วพึมพำออกมา – “ มันมากกว่า 200 ล้าน ฉันไม่รู้ว่าทั้งชีวิตฉันจะทำเงินได้ถึง 200 ล้านมั้ย “
“ ลืมมันไปเถอะ อย่าพูดแบบนั้น ไม่ใช่ว่าเธอบอกว่ามีความคิดในการหาเงินรึไง ให้ฉันช่วยเธอเอง “
ดรูวส์ รู้สึกคึกขึ้นมาเล็กน้อยและพูดพร้อมกับนับนิ้ว – “ มันเป็นแบบนี้ เอริค หลังจาก Sophia Talk Show คนดูหลายคนคาดหวังว่าวิดิโอพวกนั้นจะวางขาย ฉันคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดี ฉันได้ยินว่าหลายวิดิโอขายได้ถึงสิบล้าน เราขายมัน 1 ล้านกล่องที่ราคา 30 ดอลลาร์ มันก็ 30 ล้าน แม้ว่าหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วแต่นายก็ยังทำเงินได้มากอยู่ดี “
เอริค ไม่ได้รีบพังฝันของเด็กสาวในการจะหาเงินแต่ถามออกมา – “ ได้ งั้นฉันอยากถามเธอ ใครจะได้เงิน ?”
“ แน่นอนว่าต้องเป็นฉัน วิดิโอนี้ฉันถ่ายเองกับมือ “ – ดรูวส์ พูดออกมาด้วยท่าทีอ่ายเล็กน้อย เธอแลบลิ้นออกมา – “ แย่ที่สุดฉันต้องแบ่งให้กับ Columbia บ้างและก็แค่นั้น แน่นอนว่านายคงไม่อยากได้ส่วนแบ่งหรอก ใช่มั้ย? “
“ มันไม่ได้ผลหรอก “ – เอริค พูดขึ้น เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงปล่อยเด็กสาวลงแล้วเตะม้านั่งออกไปด้านข้างก่อนจะดึงเก้าอี้มาและนั่งลงไป จากนั้นเขาก็กอดเด็กสาวอีกครั้งแล้วอธิบาย – “ เธอลืมจุดที่สำคัญที่สุดไป เนื้อหาในวิดิโอ “
“ หืม ? “ – เด็กสาวกระพริบตาด้วยความสับสน
เอริค ค่อยๆอธิบาย – “ ฉันอยากพูดถึงเนื้อหาของวิดิโอ เธอเองก็เป็นดาราดังเหมือนกับ ครูส และ แฮงค์ มีนักแสดงประกอบกับทีมงานตั้งเยอะ คนในนั้นไม่ได้เงินสักนิดเดียวกับการปรากฏตัวในวิดิโอ ถ้าเธอแค่บันทึกมันเอาไว้รึเอาไปโชว์เพื่อการประชาสัมพันธ์ในรายการ งั้นมันก็โอเคแต่ถ้าเธออยากทำกำไรจากมัน เธอต้องได้รับอนุญาตจากทุกคน ไม่งั้นแล้วเธอก็รอโดนฟ้องได้เลย แม้ว่าเธอจะได้เงินมาเป็น 100 ล้าน มันก็ไม่พอ ถ้าเธอต้องการคำรับรองจากคนมากมาย มันยากยิ่งกว่าการถ่ายหนังใหญ่ๆอีก “
“ ว๊าว ซับซ้อนจริงๆ งั้นก็ช่างมันเถอะ “ – ดรูวส์ ดูหมดแรงและเอาหัวพิงกับอกของ เอริค
เอริค ลูบหลังเด็กสาวแล้วพูดขึ้น – “ ไม่เป็นไรน่า ไม่ต้องสลด หลักๆแล้วมันเป็นเรื่องของเราผู้ชายในการหาเงิน เธอก็แค่แต่งตัวให้สวย มันยังไม่เช้าเลยด้วย กลับไปนอนได้แล้ว ปล่อยฉันเขียนบทเงียบๆสักพักหน่อย “
“ แต่ฉันอยากหาเงินนิ วันหยุดหน้าร้อนก็เหลืออีกตั้งนานและมันก็น่าเบื่อมากด้วย เอริค นายทำหนังให้ฉันหน่อยได้มั้ย ? หนังอะไรก็ได้ตราบใดที่มันไม่งี่เง่า “ – ดรูวส์ พยายามรัด เอริค เอาไว้และทำให้เล็บของเธอข่วนไปที่อกของ เอริค
“ ได้ ให้ฉันคิดก่อน …” – เอริค กุมขมับและมองไปที่บท Sleepless in Seattle ที่วางไว้บนโต๊ะและอยู่ๆก็จำบางอย่างได้