ตอนที่ 185 เมล็ดพันธุ์
“เฮ้ เอริค” เอลิซาเบธลากแขนจูเลียที่มีสีหน้าลำบากใจเดินมาหยุดตรงหน้าของเอริค เมื่อเวอร์จีเนียที่นั่งข้างเอริคเห็นทั้งสองคนก็ลุกเดินจากไปทันที เอลิซาเบธจึงกดตัวจูเลียให้นั่งลงบนโซฟาอย่างไม่เกรงใจและหล่อนก็นั่งลงตาม
“ลิซเธอยังไม่กลับอีกเหรอ” เอริคกล่าวถามขึ้นด้วยความแปลกใจ
เอลิซาเบธจ้องตาเอริคอย่างไม่พอใจ “แล้วทำไมฉันต้องกลับ คุณไม่ต้อนรับฉันแล้วใช่ไหม”
“ไม่ใช่แน่นอน” เอริคกล่าวปฏิเสธ “ใครจะไปกล้าทำอย่างนั้นกับลูกสาวคนที่สองของตระกูลเมอร์ด๊อคได้ละ เพียงแต่งานปาร์ตี้เล็กๆอย่างนี้อาจจะไม่เหมาะกับเธอเท่าไหร่นักใช่ไหม?”
ลูกสาวคนที่สองของตระกูลเมอร์ด๊อคอย่างนั้นหรือ?
เมื่อจูเลียได้ยินประโยคนั้นจากเอริคหล่อนจึงพิจารณาหญิงสาวที่นั่งข้างหล่อนอีกครั้ง เอริคสังเกตเห็นใบหน้าที่สงสัยของจูเลีย เขาจึงรีบแนะนำอีกฝ่ายขึ้นทันที “จูเลีย ลิซยังไม่แนะนำตัวกับเธอเหรอ หล่อนเป็นลูกสาวคนที่สองของรูเพิร์ต เมอร์ด็อกซึ่งเป็นเจ้าของ News Corporation ที่ถือสิทธิ์โดย Twentieth Century Fox”
“เฮ้ เอริคคุณกำลังสร้างความแตกแยกให้ฉันกับพี่จูเลียอยู่นะ คุณมันเป็นคนน่ารังเกียจเหมือนที่พี่จูเลียพูดไว้จริงๆ” เอลิซาเบธทุบไหล่เอริคด้วยความโกรธ ในขณะเดียวกันจูเลียที่รู้สึกไม่ดีกับสถานะที่เอลิซาเบธปิดบังหล่อนไว้ เมื่อได้ยินประโยคท้ายที่เอลิซาเบธกล่าวออกมาก็ยิ่งทำให้หล่อนรู้สึกลำบากใจมากเข้าไปอีก
ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ! ทำไมหล่อนถึงได้กล่าวประโยคนั้นออกมากันนะ
เอริคตะลึงไปชั่วขณะ เขาหัวเราะพร้อมกล่าวว่า “ในที่สุดจูเลียก็กล้าพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาแล้วสิ”
“ไม่ เอริค ฉันไม่…” หญิงสาวโบกมือและพยายามจะกล่าวอธิบาย แต่หล่อนกลับพูดไม่ออก
เมื่อกล่าวประโยคนั้นออกมาเอลิซาเบธพึ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองพลั้งปากไป หล่อนจึงหันไปมองจูเลียด้วยสายตารู้สึกผิด และขอโทษหล่อน หญิงสาวจึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนธนาทันที “เอริค ผู้หญิงคนนั้นคือคนรักของคุณเหรอ”
“ใช่” เอริคพยักหน้า
“อ๊าห์….คุณพูดจริงเหรอ” เอริคยอมรับอย่างไม่ลังเล ทำให้เอลิซาเบธตกตะลึง “แล้วพี่จูเลียละ”
จูเลียทำท่าจะปิดปากหญิงสาวปากกล้าคนนี้ แต่ก่อนที่หล่อนจะได้ลงมือทำเอลิซาเบธก็ถามเอิรคออกไปเสียก่อนแล้ว หล่อนจึงทำได้เพียงคาดหวังคำตอบจากอีกฝ่ายอย่างกระวนกระวายใจ เพราะไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายจะตอบอย่างไร
“ฉันกับ จูเลียมีความสัมพันธ์อะไรเหรอ?” เอริคกล่าวถามด้วยความแปลกใจ
“ฉัน … ฉันไม่อยากฟังเรื่องไร้สาระของพวกคุณแล้ว” เมื่อได้ยินคำตอบของเอริค ใจของจูเลียก็หล่นวูบ หล่อนรู้สึกเจ็บปวดอยู่ในใจ เมื่อหล่อนกล่าวประโยคนั้นจบ ก็รีบลุกขึ้นและเดินหนีไปทันทีเหมือนกับกระต่ายน้อยที่หนีจากการถูกล่า
เมื่อเอลิซาเบธเห็นด้านหลังของจูเลียที่รีบร้อนเดินออกไปนั้น หล่อนจึงหันมากล่าวกับเอริคด้วยสายตาว่างเปล่า “คุณนี่เข้าใจยากจริงๆนะ คุณวิลเลียม”
เอริคยักไหล่โดยไม่ใส่ใจกับคำพูดของหญิงสาวที่กล่าวออกมา “ลิซ เรื่องบางเรื่องคุณก็ไม่เข้าใจ ดังนั้นอย่าพึ่งด่วนสรุปเองน่าจะดีกว่านะ”
“อือ เห็นอย่างนี้ยิ่งทำให้ฉันอยากรู้จักคุณมากขึ้นแล้วสิ เอริค จะเป็นอะไรไหมถ้าจะไปกินข้าวกับฉันสักมื้อ ฉันมีเรื่องอยากคุยกับคุณหลายเรื่องเลยละ”
“ไม่ละ” เอริคยกไวน์ขึ้นดื่มแล้วยืนขึ้น เขากำลังจะเดินไปพูดคุยกับแขกคนอื่นๆในงาน
“เฮ้ เฮ้ ทำไมคุณทำอย่างนี้ละ” เอลิซาบธดึงชายเสื้อเอริคแล้วกล่าวขึ้น “ฉันก็แค่อย่างเลี้ยงข้าวคุณเท่านั้น”
เอริคไม่รู้ว่าเอลิซาเบธกับกัลป์ตาร์มีความสัมพันธ์อะไรกัน เพราะในความทรงจำของเอริคนั้นไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับหญิงสาวคนนี้เลย ด้วยเหตุนี้เอริคจึงพูดคุยกับหล่อนแค่ช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น เขาพยายามแสดงจุดยืนของตัวเองให้เอลิซาเบธเห็น ว่าถึงแม้ว่าฐานะทางสังคมของหญิงสาวจะสำคัญมากก็ตาม แต่ด้วยชื่อเสียงที่เอริคมีตอนนี้ จึงไม่มีความจำเป็นต้องลดตัวลงไป เพื่อประจบเอาใจหล่อน
เอริคพยายามเอามือของหญิงสาวออกจากชายเสื้อหลายครั้ง เขามองชายเสื้ออย่างจนปัญญา และหันมาจ้องหน้าหญิงสาวที่ดูไม่ยอมใครคนนี้แล้วโค้งตัวลงมาอย่างช้าๆ เขายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมกล่าวขึ้นว่า “ลิซ ฉันขอเตือนคุณ…”
เอลิซาเบธมองสายตาที่ดูรุกรานคู่นั้นอย่างไม่ไว้ใจ หล่อนเอนตัวไปด้านหลัง พร้อมยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากันตัวเอริคอย่างไม่เต็มใจ แล้วกล่าวอย่างตะกุตะกะว่า “อะ….อะไร”
ยิ่งหญิงสาวถอยร่อนลงไปด้านหลังมากเท่าไหร่ เอริคก็ยิ่งเดินเข้าหามากขึ้นเท่านั้น เขาดมกลิ่นน้ำหอมจางๆจากตัวของหล่อน แล้วใช้มือชี้ลูบไล้หน้าหล่อนเบาๆ “ฉันขอเตือน อย่าพยายามสนใจผู้ชายมากเกินไป ไม่อย่างนั้นคุณเองจะตกหลุมรักอีกฝ่ายอย่างงง่ายดาย”
“อ่า….” เอลิซาเบธกำลังจะอ้าปากพูด แต่เมื่อได้ยินประโยคนั้นของเอริคหล่อนจึงกลืนคำพูดนั้นหายไป` เมื่อเอริคเดินจากไป หญิงสาวก็ได้สติ หล่อนจึงกระทืบเท้าอย่างแรงด้วยความโมโห “ฮึ ไม่มีทางที่ฉันจะตกหลุมรักคนอย่างคุณแน่นอน คุณมันน่ารังเกียจ วิปริต คุณมันบ้าไปแล้ว …. ” คำพูดหยาบคายเหล่านั้นต่างหลั่งไหลออกมาจากปากของหญิงสาวด้วยความโกรธเคือง เมื่อกล่าวจบหล่อนก็ชำเลืองมองไปรอบๆตัวอีกครั้ง โชคดีที่ไม่มีใครสนใจ หล่อนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก หญิงสาวลุกขึ้นยืนและจัดแจงเสื้อผ้าเล็กน้อย หลังจากนั้นก็เชิดหน้าขึ้น แล้วแสดงท่าทางหยิ่งยโสเหมือนที่เคยทำ พร้อมกับถือแก้วไวน์เดินเข้าไปรวมตัวกับกลุ่มคนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เหตุการณ์เหล่านี้เหมือนกับประโยคของปรมาจารย์ลู่ซวินที่กล่าวไว้ว่า โลกแต่เดิมนั้นไม่มีแม้แต่ถนน แต่จำนวนคนที่จะเดินทางนั้นมีมากมายนัก ถนนจึงถูกสร้างขึ้นมา ซึ่งในความเป็นจริงประโยคนี้มีความหมายแฝงไว้มากมาย ยกตัวอย่างเช่น บางสิ่งบางอย่างจะไม่เกิดขึ้น แต่คนไม่มีจริยธรรมบางคนดันไปฝังเมล็ดพันธุ์นั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ จนเมื่อเวลาผ่านไป เมล็ดพันธุ์เหล่านั้นก็เจริญเติบโตและกลายเป็นความจริงขึ้นมา
“คุณวิลเลียม เป็นเกียรติดื่มกับฉันสักแก้วได้ไหม? ” เสียงหนึ่งดังขึ้นขณะที่เอริคกำลังพูดคุยกับแขกในงาน เขาจึงหันไปตามเสียงแล้วก็พบเด็กสาวคนหนึ่ง ในมือถือน้ำผลไม้เดินนำแม่ของหล่อนมาหยุดอยู่ตรงหน้าเอริค ดวงตากลมโตคู่สวยนั้นมองไปที่ใบหน้าของเอริค
“ได้แน่นอน ซาราห์” เอริคกล่าวยิ้มพร้อมโค้งตัวเล็กน้อย เขาชนแก้วน้ำผลไม้ของเด็กสาวเบาๆ แล้วยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มจนหมด
เด็กสาวเองก็ยกแก้วน้ำผลไม้ดื่มตาม หลังจากนั้นหล่อนก็มองเอริคดื่มไวน์จนหมด “ขอบคุณ คุณวิลเลียมมากนะคะที่มอบบทบาทแอนนี่ สแตนท์ให้แก่ฉัน “
“ไม่เป็นไรครับ การแสดงของเธอนั้นก็ยอดเยี่ยมมาก” เอริคมองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า ซาราห์ มิเชลล์ มีอายุเพียงแค่ 12 ปี แต่พัฒนาการของร่างกายของเด็กสาวกลับดูโตกว่าดรูซ์มาก บางทีอาจะเป็นผลมาจากฐานะทางของครอบครัวก็เป็นได้ เอริคได้ยินมาว่าสภาพความเป็นอยู่ของแม่ลูกคู่นี้ไม่ค่อยดีนัก ดังนั้น หล่อนจึงมีความสูงเพียงแค่ 120 เซนติเมตรเท่านั้น ซึ่งค่อนข้างผอมและตัวเล็กกว่าเด็กที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ใบหน้ากลมรูปไข่นั้นดูอวบอั๋นน่ารักเหมือนเด็กทารกพึ่งเกิด ซึ่งในความทรงจำของเอริคเด็กสาวคนนี้มีความสูงเพียงแค่ 160 เซนติเมตรเท่านั้น
“คุณวิลเลียม จะเป็นอะไรไหมคะ ถ้าฉันจะขอแสดงหนังที่คุณเป็นผู้กำกับ ” เด็กสาวกล่าวถามขึ้นด้วยความไร้เดียงสา ดวงตากลมโตของหล่อนหมองเอริคอย่างคาดหวัง
เอริคมองแม่ของซาราห์และเด็กสาวอีกครั้ง เพราะเขาไม่สามารถแยกออกได้ว่าคำพูดนั้น เป็นคำพูดที่แม่ของหล่อนสอนหรือเด็กสาวพูดเองเพราะความไร้เดียงสา
จริงๆแล้ว ถ้าซาราห์ไม่ติดถ่ายหนังเรื่อง The Others บทบาทเจสสิก้าแฟนสาวของโจนาธานในหนังเรื่อง Sleepless in Seattle ก็คงจะเป็นใครไม่ได้นอกจากซาราห์ แต่เมื่อหญิงสาวได้แสดงเรื่อง The Others ไปแล้ว เอริคจึงไม่สามารถให้บทบาทนี้กับอีกฝ่ายได้อีก ไม่อย่างนั้นผู้ชมคงจะได้เห็นการแสดงของเด็กสาวจากหนังทั้งสองสไตล์พร้อมกัน
“ถ้ามีโอกาส ผมหวังว่าเราคงจะได้ร่วมงานกัน” เมื่อเห็นใบหน้าที่คาดหวังของเด็กสาว เอริคเองก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ ได้แต่ตอบกลับอย่างสุภาพเท่านั้น