Chapter 160 – An Affair to Remember
มันน่าจะอยู่ในช่วงที่เขาคุยกับเพื่อนในชีวิตที่แล้ว ตอนนั้นหนัง Finding Mr.Right เพิ่งจะออกฉาย สองคนได้คุยกันเกี่ยวกับหนังและสุดท้ายก็เริ่มนึกถึงสิ่งที่พวกเขาเคยพูดกันและพวกเขาก็รู้ว่าหนังหลายเรื่องอย่าง Grey Gardens, Sleepless in Seattle, Love Story และอื่นๆนั้นล้วนแต่ได้รับแรงบันดาลใจจาก An Affair to Remember
แน่นอนนั่นไม่ใช่จุดสำคัญ เอริค จำได้ว่าเพื่อนเขาบังเอิญพูดประโยคหนึ่งเอาไว้ ดูเหมือนว่ามันเป็นเพราะความนิยมของ Sleepless in Seattle, วิดิโอเทปของ An Affair to Remember ที่โด่งดังขึ้นมาและขายหมดในเวลาอันสั้น มันขายได้มากกว่า 2 ล้านกล่องซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดกับค่ายที่ถือลิขสิทธิ์หนังอยู่
An Affair to Remember เป็นหนังเก่า 40 ปีที่แล้ว แม้ว่านักแสดงนำทั้งสองจะเป็นดาราฮอลลีวูดอยู่ แต่เวลาของพวกเขาได้ผ่านมานานแล้ว และหนังเรื่องนี้ก็ไม่ใช่หนังอมตะแบบ 007 มันไม่มีค่าในการถ่ายทำภาคต่อ ดังนั้นบางทีเงิน 1-2 ล้านก็สามารถซื้อลิขสิทธิ์ของหนังเรื่องนี้ได้ ยิ่งกว่านั้น เอริค รู้ว่าตอนที่เขาถ่าย Sleepless in Seattle แน่นอนว่าเขาจะมีเอกสารลิขสิทธิ์ของ An Affair to Remember หลังจากที่อีกฝ่ายรู้เรื่องนี้ มันก็ยากที่จะการันตีว่าเขาจะสามารถได้ราคาดีๆมาแต่มันก็ดีกว่าตอนนี้ ดังนั้นเขาควรที่จะซื้อลิขสิทธิ์ทั้งหมด
เมื่อเห็น เอริค ทำสีหน้าตื่นเต้นออกมาเล็กน้อย ดรูวส์ ที่ซึ่งอดทนไม่ไหวก็ข่วนหน้าอกของ เอริค และรีบถามออกมา – “เอริค มีหนังดีๆให้ฉันรึเปล่า พูดมาสิ “
“ มันไม่มีหนังแต่ถ้าเธอต้องการหาเงิน มันก็มีโอกาสดีๆ “ – เอริค หยิบปากกาขึ้นมาแล้วเขียนชื่อเรื่อง An Affair to Remember ลงบนกระดาษ – “เธอรู้จักหนังเรื่องนี้รึเปล่า ? “
ดรูวส์ มองและส่ายหน้า – “ ฉันไม่รู้จัก “
เอริค ได้แต่ต้องอธิบาย – “ เธอจำที่ฉันบอกถึงหนังเรื่องต่อไปของฉันได้รึเปล่า ?”
ดรูวส์ มองไปที่ห้อง นิโคล แล้วเม้มปาก – “ แน่นอน “
“ ในหนังเรื่องนี้ตัวเอก แอนนี่ ชอบดู An Affair to Remember ฉันคิดว่าหลังจากที่ปล่อย Sleepless in Seattle ยอดขายของ An Affair to Remember แน่นอนว่าต้องเพิ่มขึ้น ดังนั้นถ้าเธออยากหาเงิน เธอก็ใช้เวลาช่วงวันหยุดของเธอพยายามซื้อลิขสิทธิ์หนังมา เพราะมันเป็นหนังเก่า 40 ปีที่แล้วและสำหรับหนังเก่า ตราบใดที่ราคาพอเหมาะ ค่ายหนังก็ต้องเต็มใจขายแน่ “
ดรูวส์ นั้นเชื่อในคำพูดของ เอริค ถ้า เอริค บอกแบบนี้กับคนอื่น เดาได้เลยว่าคนนั้นต้องสงสัยแต่ ดรูวส์ ไม่ได้สงสัยในเรื่องนี้แต่เธอก็ถามออกมา – “ แต่หลังจากที่ฉันซื้อมันแล้ว ฉันจะขายวิดิโอยังไง ?”
“ Firefly เพิ่งจะสร้างช่องทางจำหน่ายของตัวเองรวมไปถึงช่องทางของวิดิโอเทปด้วย “ – เอริค พูดขึ้นแล้วนึกถึง Home Alone และหนังสามเรื่องที่ได้เซ็นไว้กับ Fox ด้วยท่าทีหมดหนทางและรู้สึกผิด
ตอนแรกเขานั้นโดดเดี่ยวและยังไม่ดัง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คิดให้ดีและทำความเข้าใจกับทุกอย่าง ดังนั้นตอนเซ็นสัญญา สิทธิหนังและวิดิโอรวมไปถึงสิทธิการถ่ายทอดในทีวีก็จะเป็นของ Fox Firefly เขาได้แค่ส่วนแบ่ง มันก็ดูดี ยังไงซะหลายค่ายหนังก็ไม่ได้สิทธิหนังของตัวเองเลย ปกติพวกเขามักจะโดนซื้อสิทธิหนังไปแต่เขานั้นยังคงได้ส่วนแบ่งอยู่ แต่เมื่อเทียบกับการขายด้วยตัวเอง จากอำนาจของ Fox และการเสียรายได้ส่วนใหญ่ไปก็ยังถือว่าเป็นการขาดทุน ยังไงซะหลังจากที่ปล่อยหนังไป ชื่อเสียงของหนังและความนิยมก็ถูกเอามาตัดสินใจ ถ้ามีช่องทางจำหน่ายของตัวเอง แม้ว่าจะไม่ได้มากเท่ากับบริษัทใหญ่ๆแต่เราก็สามารถได้กำไรเป็นเค้กก้อนโตได้
ยิ่งกว่านั้นจากช่วงนี้ เขาเรียนรู้ว่าค่ายหนังเล็กๆก็ยังมีความสามารถในการขายของตัวเอง แม้ว่าพวกเขาจะส่งสิทธิในการจำหน่ายหนังให้กับค่ายใหญ่แต่ปกติแล้วพวกเขาจะไม่ให้สิทธิการขายวิดิโอและการฉายอื่นๆ ส่วนแบ่งนี้ทำให้รายได้ของหนังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รายได้ของการฉายที่อื่นนั้นเหมือนกับเงินทุนที่สำคัญของค่ายหนังชั้นสองและสาม ถ้าพวกนั้นได้เส้นสายที่ดี, กำไรจากช่องทางอื่นทุกปีที่สนับสนุนบริษัทได้โดยไม่จำเป็นต้องดึงเงินจากรายได้ที่ฉายในโรง ดังนั้นตราบใดที่ไม่มีการขาดทุนก้อนโต ค่ายหนังเหล่านี้ก็อยู่รอดได้
ดังนั้น เอริค จึงอยากที่จะสร้างช่องทางของตัวเองให้เร็วที่สุด สำหรับหนังสามเรื่องต่อไป The Others, Scent of a Woman และ Steel Magnolias รวมไปถึง Friends ด้วย แน่นอนว่าเขาต้องไม่ยอมยกลิขสิทธิ์ให้คนอื่น
“ แต่ เอริค ฉันไม่มีเงิน “ – ดรูวส์ มองมาที่ เอริค
เอริค อดไม่ได้ที่จะหยิกแก้มขาวๆของเธอ – “ เธออาจจะไม่มีบัตรแต่เธอก็น่าจะมีเงินสำหรับ…” – เอริค พูดถึงตรงนี้แต่ก็จำได้ว่าคนยุโรปไม่มีเงินสินสอด เขาจึงเปลี่ยนคำพูดไป – “ เงินเก็บที่ฉันติดเธออยู่ “
“ งั้นฉันก็จะทำ “ – ดรูวส์ เลียหน้าเขาทันที เธอกำลังจะจูบปากเขาแต่เธอก็พบมือใหญ่ๆรอเธออยู่ เธอไม่สนถึงกับแลบลิ้นออกมาเลียที่มือ เอริค
“ ชาติก่อนเธอต้องเป็นแมวแน่ๆ เลียนู่นเลียนี่ไปเรื่อย “ – เอริค เอาเด็กสาวออกจากตัก – “ เอาล่ะ งั้นบางส่วนก็เสร็จแล้วและเธอมีเงินทำมัน เธอไปนอนได้แล้ว “
“ เอริค นายไม่ได้นอนกับฉันมานานแล้วนะ “ – ดรูวส์ พูดขึ้นพร้อมกับแสดงสีหน้าเสียใจ
“ ฉันเป็นคนรักษากฎหมาย “- เอริค พูดพร้อมทำสีหน้ารังเกียจแล้วพยักหน้าไปทางประตู – “ และมีคนนอกอยู่นั่นด้วย “
ดรูวส์ ได้ยินว่าคนนอกและดูเหมือนว่าจะพอใจอย่างมาก ดังนั้นเธอจึงรีบออกไปหลังจากที่จูบแก้ม เอริค แล้ว
เอริค มองไปที่ประตูที่ปิดลงแล้วส่ายหน้า เขาหันกลับมาสนใจจอต่อและเริ่มเขียนบท Friends แบรี่ดิลเลอร์ โทรหาเขาเร่งให้เขาดูการถ่าย Friends ด้วยตัวเอง แม้ว่าละครดราม่าจะฉายแต่มันก็มีการถ่ายทำไปด้วยและ Friends ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ตอนนี้มันเกือบเดือนสิงหาคมแล้วและละครก็จะเริ่มในเดือนกันยายน ดังนั้น เอริค จึงมีเวลาเหลือแค่เพียงเดือนเดียว
“ เอริค นี่หนังสือพิมพ์วันนี้ “ – เช้าวันต่อมา เอริค ได้อาบน้ำและกลับมาที่ห้องนั่งเล่น นิโคล วางหนังสือพิมพ์ไว้ที่โต๊ะกาแฟตรงหน้า เอริค
“ ขอบคุณ นิโคล “ – เอริค มองไปยังชุดสาวใช้สีชมพูด้วยความสนใจและรับหนังสือพิมพ์ไปดู นิโคล เองก็กลับไปที่ครัวอีกครั้ง
สักพัก เอริค ก็เห็นชื่อของหนังในหนังสือพิมพ์ หนังนี้ปล่อยออกมาโดย Columbia เขาไม่คิดว่ามันจะได้ผลลัพธ์ที่ดี ยิ่งกว่านั้นมันชื่อ When Harry Met Sally ดาราที่แสดงนำคือคนที่ได้รับรางวัลออสการ์ บิลลี่คริส และ เม็กไรอัน นักแสดงนำหญิงคนเดิมของ Sleepless in Seattle
เอริค ยังคงชอบนักแสดงที่ดูหวานแต่ดูเหมือนว่าเส้นทางของเธอนั้นจะยากลำบาก ในตอนที่มาถึงจุดนี้มันก็พอคิดได้ว่าการเลือกของเธอนั้นแย่มากๆ มันทำให้ทุกอย่างแย่เมื่อเทียบกับหนังสองเรื่องที่สำเร็จของเธอก่อนหน้านี้ หนังสองเรื่องของเธอเล่นกับ ทอมแฮงค์ หนึ่งคือ Sleepless in Seattle และอีกเรื่องคือ You’ve Got Mail ในอีกไม่กี่ปีต่อมา ไม่มีอะไรอย่างอื่นที่โดดเด่นอีก
เหตุผลว่าทำไมมันถึงบอกว่าตาของเธอไม่ค่อยดีนัก ก็เพราะเธอผ่านหนังใหญ่มาหลายเรื่อง ดูเหมือนราวกับเวทย์มนต์ ตั้งแต่ปี 1990 เธอได้ปฏิเสธ Pretty Woman, Ghost และ Basic Instinct เธอถึงกับให้ ชาร์ลอนสโตน ได้โด่งดังขึ้นมาในเรื้อง Basic Instinct เธอเล่นหนังที่คล้ายๆกันชื่อ In the Cut แต่โชคร้ายที่หนังเรื่องนี้ไม่ได้ดีเท่า Basic Instinct ในปีนั้นและหนังก็ไม่ได้น่าจดจำ
เมื่อมองไปที่รายได้ของ When Harry Met Sally ในหนังสือพิมพ์ มันก็เดาได้ว่าสาวหวานคนนี้คงดูมีความนิยมนิดหน่อย เพราะการกระทำของ เอริค ประวัติศาสตร์ฮอลลีวูดจึงบิดเบี้ยวไปอย่างมาก เขาหวังว่าสาวหวานคนนี้คงไม่โชคร้ายหมือนกับอดีตที่เขาจากมา
“ นิโคล มานี่หน่อยได้มั้ย ?” – เอริค มองไปที่ When Harry Met Sally บนหนังสือพิมพ์และนึกถึงภาพของคนจาก Sleepless in Seattle และตะโกนเรียกเด็กสาวในครัว
“ มีอะไรให้ฉันทำเหรอ ? “ – นิโคล รีบเดินออกมาโดยถือกระบวยในมือ
“ มัน…ช่างมันเถอะ เธอยุ่งอยู่ เรากินข้าวเช้าแล้วค่อยคุยกัน “
“ โอ้ “ – เด็กสาวหันกลับไปด้วยความสับสนและเดินจากไป
ที่โต๊ะอาหาร ดรูวส์ ฮึดฮัดพร้อมกับกินข้าวเช้าของเธออย่างรวดเร็วก่อนจะเอาผ้ามาเช็ดปากตัวเองแล้วรีบขึ้นไปชั้นบนและต้องการจะออกไปข้างนอก
“ กลับมานั่งลงแล้วดื่มนมซะ “ – เอริค ชี้ไปที่นมที่เธอเหลือทิ้งไว้และมองไปที่เด็กสาว – “ เธอไม่ได้รีบกลับดาวอังคารซะหน่อย ดังนั้นไม่ต้องรีบหรอก “
เธอต้องกลับมาที่โต๊ะแล้วอธิบายออกมา – “ ฉันจะไปหาคนเพื่อซื้อลิขสิทธิ์หนัง “
“ รอก่อนแล้วกินข้าวเช้าให้เสร็จ “- เอริค ไม่สนใจคำอธิบายของ ดรูวส์ แล้วพูดซ้ำออกมา
“ เหอะ “ – ดรูวส์ ยกมือขึ้นมาบีบจมูกตัวเองก่อนจะเทนมเข้าไปในปากของเธอ
“ มันจะดีเหรอ ? ! เธอดื่มมันเร็วไปแล้ว “
“ น่าขยะแขยง “ – ดรูวส์ ดึงผ้าขึ้นมาแล้วเช็ดปากตัวเองก่อนจะเดินออกจากห้องไป อยู่ๆเธอก็หันกลับมาและมองมาที่ นิโคล จากนั้นก็หันมามองที่ เอริค – “ ตอนฉันไม่อยู่บ้าน พวกนายสองคนห้ามทำเรื่องวุ่นวายล่ะ “