I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลี – ตอนที่ 207

ตอนที่ 207

ตอนที่ 207 ความปั่นปวน

เช้าวันรุ่งขึ้น หนังสือพิมพ์หลายฉบับในอเมริกาเหนือต่างพาดหัวข่าวด้วยตัวหนังสือสีดําตัวใหญ่ ว่า “Friend” “30 ล้าน” “เรตติ้งที่น่าอัศจรรย์” บทความวิจารณ์ต่างๆนาๆต่างปรากฏแก่สายตาของผู้ชมอย่างต่อเนื่อง

“ ซีรี่ย์เรื่องนี้มีตัวละครหลักทั้งหมด 6 คน คนแรกคือราเชล กรีนเด็กสาวที่ชอบเอาแต่ใจ คนที่สองโมนิก้า เกลเลอร์ผู้รักความสะอาดเป็นชีวิตจิตใจ คนที่สามฟีบี้ บัฟเฟย์ผู้มีนิสัยแปลกๆ คนที่สี่รอสส์ เกลเลอร์ ผู้มีนิสัยชอบคิดเล็กคิดน้อย คนที่ห้า แชนด์เลอร์ บิงเป็นคนอารมณ์ดี ตลกและสนุกสนานเฮฮา และคนสุดท้ายคือโจอี ทริบเบียนีซึ่งเป็นคนง่ายๆสบายๆ…แม้ว่าซีรี่ย์เรื่องนี้จะเพิ่งออกอากาศไปได้เพียง 2 ตอนก็ตาม แต่ผู้กํากับอย่างเอริค วิลเลียมก็สามารถเก็บทุกรายละเอียดของทุกฉากในเรื่องนี้อย่างไม่มีที่ติ เพื่อให้คนดูเข้าใจนิสัยที่แตกต่างกันของตัวละครทุกตัวอย่างชัดเจนที่สุด และที่ยิ่งไปกว่านั้นคนดูจะต้องตกหลุมรักตัวละครทั้ง 6 คนภายในเวลา 1 ชั่วโมงที่ซีรี่ย์ได้ออกอากาศไป”

” โครงเรื่องของซีรี่ย์เรื่องนี้ถ่ายทอดออกมาได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่สุด จึงทําให้คนดูเกิดความรู้สึกร่วมตามไปด้วย เสียงตอบรับที่สูงถึง 31.7ล้านคนของซีรี่ย์เรื่อง Friend ที่เพิ่งออกอากาศไปนั้นก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างหนึ่ง คนดูได้เห็นเรื่องราวของตัวละครหลักทั้ง 6 คนที่ใช้ชีวิตร่วมกันในอพาร์ตเมนต์ห้องหนึ่งในนิวยอร์ก ซึ่งเรื่องราวเหล่านั้นเปรียบเสมือนกระจกที่สะท้อนชีวิตของตัวเอง บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลสําคัญอย่างหนึ่งที่ทําให้ซีรี่ย์เรื่องนี้ประสบความสําเร็จก็เป็นได้ เช่นเดียวกับซีรี่ย์เรื่อง Growing Pains ยอดฮิตที่กําลังออกกอากาศอยู่ตอนนี้ด้วย เห็นเหตุนี้เอริค วิลเลียมจึงถูกขนานนามว่าเป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง เขาสามารถนํารายละเอียดของเรื่องราวชีวิตมาสร้างเป็นบทสนทนาที่สร้างความเพลิดเพลินสนุนสนานให้แก่คนดูได้อย่างไม่มีที่ติ

บทสนทนาที่สร้างความเพลินเพลินสนุกสนานของซีรี่ย์เรื่อง Friend นั้นกลายเป็นคําพูดติดปากของหนุ่มสาวมายาวนาน นิสัยที่โดดเด่นของตัวละครทั้ง 6 คนถูกถ่ายทอดออกมาอย่างชัดเจน แม้ว่าซีรี่ย์เรื่องนี้จะออกอากาศออกมาได้เพียง 2 ตอนเท่านั้น แต่เมื่อได้ดูแล้วทุกคนก็คงจะคาดหวังกับตอนต่อไปของซีรี่ย์เรื่องนี้อย่างแน่นอน ทุกคนเชื่อว่าบทประพันธ์ของเอริค วิลเลียมที่ถูกถ่ายทอดออกมาในซีรี่ย์เรื่องนี้จะสร้างความประหลาดใจแก่คนดูอย่างแน่นอน อยากจะรู้จริงๆว่าใครเป็นผู้สร้างชื่อเอริค วิลลเลียมคนนี้ขึ้นมากันนะ

“…”

ในคําชื่นชมนับไม่ถ้วนนั้น แน่นอนว่าก็ยังมีอีกหลายความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน ซึ่ง Los Angeles Metropolis Daily กําลังทําการตรวจสอบด้วยวิธีการง่ายๆ ด้วยการสุ่มสัมภาษณ์คนดูที่ดูซีรี่ย์เรื่อง Friend ก็พบว่าคนดูที่พอใจกับซีรี่ย์เรื่องนี้มีไม่ถึง 60% และจากการทําแบบสอบถามก็พบว่าซีรี่ย์เรื่อง Friend ไม่ได้เป็นไปตามที่พวกเขาคาดหวังไว้มากกว่า 20% ส่วนที่เหลืออีก 20% มาจากคนดูที่รู้สึกว่าซีรี่ย์เรื่องนี้เป็นซีรี่ย์ธรรมดาๆเท่านั้น

ดังนั้น บทความวิจารณ์จาก Los Angeles Metropolis Daily ก็ได้ข้อสรุปว่า เสียงตอบรับที่มากกว่า 30 ล้านคนของซีรี่ย์เรื่อง Friend เป็นผลมาจากการโฆษณาของซีรี่ย์ที่ถูกฉายออกไปก่อนหน้านั้น และข้อสรุปที่ชัดเจนจากซีรี่ย์เรื่อง Friend แสดงให้เห็นว่ามันไม่ได้เป็นไปตามที่เอริค วิลเลียมคาดหวังไว้ ซึ่งข้อสรุปนี้อาจจะทําให้เรตติ้งจากซีรี่ย์เรื่องนี้ตกลงอย่างรวดเร็วได้อีกด้วย

พวกสื่อหนังสือพิมพ์ก็ติดตามเรตติ้งของซีรี่ย์เรื่อง Friends อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับ Los Angeles Metropolis Daily แต่บทวิจารณ์ประเภทนี้ทําได้เพียงสร้างความตระหนกให้กับคนทั่วไปเท่านั้น มีเพียงผู้ที่เชี่ยวชาญด้านสถิตินี้เท่านั้นที่จะรู้ว่าเรตติ้งที่น่ามหัศจรรย์เหล่านั้นได้มาจากการโฆษณาส่วนหนึ่ง แต่ถ้าซีรี่ย์เรื่องนี้ไม่ได้มาตรฐานจริงก็คงจะไม่ได้เสียงตอบรับจากคนดูถึง 31.7 ล้านคนแน่นอน ซีรี่ย์เรื่อง Friends ที่เพิ่งออกฉายเพียงแค่ 2 ตอนนั้นก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ชัดเจนเลยทีเดียว ด้วยความที่เรามีฐานคนดูเกิน 30 ล้านคนอยู่แล้ว และถ้าในอนาคตข้างหน้าซี รี่ย์เรื่องนี้ได้รับเรตติ้งเพิ่มขึ้นอย่างถล่มทลาย เหตุการณ์นั้นก็การันตีได้ว่าจํานวนคนดูต้องมากกว่า 20 ล้านคนขึ้นแน่นอน

สําหรับซีรี่ย์ที่ฉายบนทีวีแล้ว การที่มีคนดูมากกว่า 20 ล้านคนถือว่านั้นเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อที่สุดแล้ว

เดิมที่สถานีโทรทัศน์ Fox นั้นไม่ได้อยู่ในสายตาของสถานีโทรทัศน์เก่าแก่อย่าง NCB , ABC และ CBS เลยแม้แต่น้อย แล้วยิ่งไปกว่านั้นสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ทั้งสามแห่งเป็นสถานีที่อายุน้อยที่สุดที่เติบโตมามากกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว ซึ่งสถานีโทรทัศน์ CBS นั้นยาวนานที่สุด

หลายปีมานี้ กลุ่มสื่อมวลชนกลุ่มหนึ่งพยายามที่จะท้าทายตําแหน่งของสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ทั้งสามแห่ง แต่สุดท้ายก็ต้องล้มเหลวและพ่ายแพ้ไป

ด้วยเหตุนี้ บริษัท New Crop จึงเชิญบุคคลที่สื่อมวลชนให้ความสนใจอย่างแบร์รี่ ดิลเลอร์มาร่วมก่อตั้งธุรกิจเครือข่ายโทรทัศน์

แม้ว่าเครือข่ายโทรทัศน์ของบริษัท Fox จะถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 4 ในอเมริกาก็ตาม แต่ในสายตาของสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ทั้ง 3 แห่งนั้นก็ยังคิดว่าบริษัท Fox เป็นสถานีน้องใหม่ในแวดวงโทรทัศน์ในอเมริกาเหนืออยู่ดี ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าองค์กรเหล่านั้นจะใหญ่แค่ไหนก็ตาม สถานีโทรทัศน์ก็ยังจําเป็นต้องพึ่งพาเรตติ้งรายการทีวีในการเติบโตต่อไปข้างหน้า ซึ่งสถานี Fox ไม่เคยได้รับเรตติ้งหลายการไหนเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ก่อนที่จะออกอากาศซีรี่ย์เรื่อง Friend บันทุกการรับชมสูงสุดที่สถานี Fox เคยได้รับนั้นไม่เคยเกิน 20 ล้านคนเลยซึ่งเมื่อดูจากการบันทึก การรับชมที่สูงสุดของสถานีโทรทัศน์ใหญ่ทั้ง 3 แห่งที่ผลัดเปลี่ยนเวียนกันออกอากาศรวมกันนั้นมากกว่า100ล้านคน แม้ว่าในเวลาปกติ สถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ทั้งสามแห่งก็สามารถสร้างสถิติการรับชมมากกว่า 20 ล้านคนได้อย่างสบายๆอยู่แล้ว

ดังนั้น แม้ว่า New Crop จะไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรมากในอเมริกาเหนือก็ตาม แต่เพื่อที่รูเพิร์ต เมอร์ด็อกห์จะได้มีอํานาจในการจัดตั้งเครือข่ายโทรทัศน์อย่างเต็มที่ เขาจึงได้เปลี่ยนสัญชาติมาเป็นอเมริกันอย่างเต็มตัว ยิ่งไปกว่านั้นทัศนคติที่สถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ทั้งสามแห่งที่มีต่อเศรษฐีใหม่ชาวออสเตรเลียคนนี้ไม่ได้ดีมากนัก พวกเขาเหล่านั้นต่างคาดหวังให้รูเพิร์ต เมอร์ดอีกต้องต่อสู้ล้มลุกคลุกคลานเช่นเดียวกับสถานีคู่แข่งคนอื่นๆ

เมื่อสถิติการรับชมของคนดูที่เกินกว่า 30 ล้านคนปรากฏขึ้น จึงทําให้สถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ทั้งสามแห่งต้องตื่นตระหนกตกใจกันอย่างมาก เพราะพวกเขารู้ว่าเครือข่ายโทรทัศน์ของ Fox นั้นเพิ่งจัดตั้งขึ้นได้ไม่นาน แต่สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายอื่นๆกว่า 100 เครือข่ายได้ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งเครือข่ายเหล่านั้นก็ครอบคลุมพื้นที่กว่า 90 %ในสหรัฐอเมริกา ปฏิกิริยาแรกของสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ทั้งสามแห่งคือจะต้องทําทุกอย่างเพื่อไม่ให้สถานี Fox ได้พัฒนาต่อไป แต่ทั้งที่ทั้งนั้นในช่วงเวลานี้องค์กรการตลาดโทรทัศน์ในสหรัฐอเมริกายังคงที่อยู่ แต่ถ้าสถานี Fox เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างนี้ อาจทําให้ส่วนแบ่งทางการตลาดของสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ทั้งสามแห่งลดน้อยลงไปด้วยอย่างแน่นอน

สถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ทั้งสามได้จัดประชุมด่วนขึ้นเพื่อปรึกษาหารือกันถึงแผนรับมือแรกที่จะช่วงชิงการออกอากาศซีรี่ย์เรื่อง Friend ซีซั่น 2 โดยไม่คํานึงที่ผลเสียแต่อย่างใด ถ้าเป็นไปได้พวกเขาอยากจะช่วงชิงการออกอากาศตอนต่อไปของซีรี่ย์เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ แม้ว่าต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับเอริค วิลเลียมมากมายแค่ไหนก็ตาม ถ้าสถานี Fox ไม่มีซีรี่ย์เรื่อง Friend จะทําให้การเติบโตของสถานี Fox กลับมาช้าลงอีกครั้ง และถ้าเป็นเช่นนี้สถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ทั้งสามแห่งจะมีเวลาเหลือเพื่อที่จะได้จัดการคนนอกอย่างสถานี Fox อย่างช้าๆ

ถ้าสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ทั้งสามแห่งคิดวิธีการนี้ได้ ผู้อํานวยการของ Fox อย่างแบร์รี่ ดิลเลอร์กับผู้ควบคุม New Crop อย่างรูเพิร์ต เมอร์ด็อกก็คิดวิธีการนี้ได้เช่นกัน ถึงแม้ว่าหนังหลายเรื่องของเอริคจะสร้างกําไรมหาศาลให้กับ Fox ก็ตาม แต่สําหรับรูเพิร์ต เมอร์ด็อกที่ไม่ได้ให้ความสําคัญกับเอริคมากนัก ซึ่งเขาหวังแค่ให้เอริคเป็นผู้กํากับหน้าใหม่ให้กับ Fox เท่านั้น อาจเป็นเพราะเหตุนี้เมอร์ด็อกจึงไม่เคยเจอกับเอริคมาก่อน แต่ครั้งนี้แตกต่างกัน กลุ่มหนังสือพิมพ์ของเมอร์ด็อกได้เติบโตไปถึงอันดับต้นๆ และตอนนี้เครือข่ายโทรทัศน์ก็ขึ้นไปอยู่อันดับต้นๆตามที่เขาคาดหวังไว้แล้วเช่นกัน เพื่อให้ซีรี่ย์เรื่อง Friend ของเอริคเติบโตรวกเร็วในเครือข่ายโทรทัศน์ของเขา รูเพิร์ต เมอร์ด็อก จะต้องดึงเอริคเข้ามาอยู่ในองค์กรของเขาให้ได้ ไม่ว่าสถานียักษ์ใหญ่ทั้งสามแห่งจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไรก็ตาม

วันที่ 4 เดือนกันยาย เอริคได้เข้าร่วมงานประกาศผลรางวัลเวนิสครั้งที่ 46 เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวลําหนึ่งลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติมาร์โค โปโล

I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลี

I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลี

Status: Ongoing

ผู้กำกับหนังได้กลับมาเกิดในปี 1988 ที่ฮอลลีวูดในฐานะเด็กชายชาวตะวันตกวัย 18 ปีที่ชื่อ เอริควิลเลียม จากนั้นเขาก็เริ่มเขียนบนทหนัง เพลงและรายการทีวีขึ้น แล้วกลายเป็นผู้กำกับที่เก่งในทุกด้านของวงการบันเทิง ชนะใจของดาราสาวทุกคนและเข้าสู่เส้นทางตำนานผู้กำกับแห่งฮอลลีวูด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท