ตอนที่ 230 ก็ได้แค่กัดแต่ก็กินไม่ได้
ความมืดที่เกิดขึ้นทําให้หญิงสาวร้องออกมาเบาๆ ทว่าทันทีที่การกระทําของเอริคเริ่มขึ้นเสียงเบาๆของหล่อนก็ถูกกลืนหายไปในทันที
” นี่ นายทําแบบนี้ไม่ได้…อื้อ…” ท่ามกลางความมืดหญิงสาวก็ได้ตกเป็นทาสของเอริคไปชั่วขณะ เสียงที่เล็ดรอดออกมาจากหล่อนถูกปิดกั้นอีกครั้งในทันที
ในตอนเริ่มต้นเสียงที่เกิดขึ้นเป็นเสียงผลักที่เกิดจากความไม่ยินยอมของหญิงสาว แต่ว่าผ่านไปไม่ถึงหนึ่งนาทีเสียงขยับเขยื้อนตัวก็เงียบลงก่อนที่เสี่ยงของการสัมผัสของลิ้นระหว่างคนสองคนจะดังขึ้นมาแทนที่
ไม่รู้ว่าเป็นเวลานานเท่าใด ในที่สุดเอริคก็ผละตัวออกจากหญิงสาวก่อนที่จะกลับมานั่งตำแหน่งเดิมของตนเอง
” เปิดไฟไหม ? “ เอริคถามเสียงเบา
“ เรื่องของนาย “ เสียงของหญิงสาวแผ่วเบา ภายในเวลาเดียวกันหล่อนก็ยังมีความรู้สึกตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่หญิงสาวก็เลือกที่จะปกปิดความหวั่นไหวของตนเองไว้ภายในใจโดยที่ไม่ให้อีกฝ่ายสังเกตเห็น
เอริคยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะจับมือของหญิงสาวที่ทุบมาที่ไหล่ของเขาด้วยท่าทางที่อ่อนลงกว่าเดิม
” นายมัน…คนบ้า ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ! “ แม้ว่าปากของหญิงสาวจะพูดเช่นนั้นทว่าเอริคกลับรู้สึกว่ามือของตนเองถูกหญิงสาวกดเอาไว้อยู่ซึ่งแรงที่หล่อนใช้ก็มีอยู่ไม่น้อย
” เธอคงไม่อยากจะต่อหรอกใช่ไหม ? ” ผ่านไปครู่หนึ่งหลังจากที่เขายังเห็นว่ามือของหญิงสาวยังไม่ปล่อยออกไป เอริคก็ถามขึ้นด้วยน้ําเสียงที่ซุกซน
เอลิซาเบธใช้มือเล็กของตนเองข่วนเบาๆที่หลังของเอริคก่อนจะถามขึ้นว่า ” ทําไม ไม่กล้าแล้วงั้นสิ ? ”
” ว้าวว…ท้าทายเสียด้วยสิเนี่ย” เอริคพูดจบเขาก็ใช้มือคว้าไปที่เบาะด้านข้างคนขับก่อนที่จะเคลื่อนตัวไปอยู่เบาะด้านข้างพร้อมกับกดตัวของเขาลงบนร่างของหญิงสาว เอริคใช้มือของเขาฉีกเสื้อเชิ้ตของหญิงสาวอย่างรุนแรงก่อนที่จะโยนมันไปด้านข้าง
แม้ว่าภายในนี้จะเต็มไปด้วยความมืดแต่ว่ามันก็ยังไม่ใช่ห้องส่วนตัวอยู่ดี ร่างของหญิงสาวเย็นเฉียบทันทีที่ตระหนักขึ้นได้ หล่อนจึงถามออกมาด้วยน้ําเสียงที่ตื่นตระหนกว่า “ นี่ไอ้บ้า นายคงจะไม่ทําในรถนี่หรอกใช่ไหม ? “
“นี่ มันเป็นความต้องการของเธอนะ “ ปากของเอริคพูดทว่ามือของเขาก็ยังไม่หยุด เขาปลดตะขอชุดชั้นในของหล่อนออกก่อนที่จะใช้มือใหญ่ของเขาคว้าไปที่อกของหญิงสาว ความรู้สึกในการสัมผัสของเขาในเวลานี้มันช่างนุ่มและลื่นไหลดีเสียยิ่งกว่าตอนที่ถูกปกคลุมไปด้วยเสื้อเสียอีก
ลมหายใจจะรุนแรงและรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม ผ่านไปครู่หนึ่งเอลิซาเบธก็รู้สึกได้ว่ามือของเอริคกําลังเลื่อนลงไปยังท้องน้อยของหล่อน การกระทําของเขาทําให้หญิงสาวตื่นตระหนกขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่หล่อนใช้มือทั้งคู่หยุดมือของเอริคเอาไว้ “ ไม่ ไม่ได้เด็ดขาด นี่มันบนถนนใหญ่นะ เดี๋ยวก็มีคนมาเห็นหรอก”
” โอเค งั้นรอเดี๋ยวนะ” เอริคพูดจบเขาก็ขยับตัวไปที่นั่งคนขับก่อนที่จะใช้เวลาไม่ถึงสองนาที เพื่อที่จะขับรถเข้าไปในบ้านของเขา
หลังจากที่รถได้เข้ามาจอดภายในที่จอดรถภายในบ้านของเขาแล้ว เอริคก็พบว่าหญิงสาวได้ดับไฟในรถอีกครั้ง หลังจากที่เขาใช้มือคลําหาอยู่ครู่หนึ่งเขาก็พบว่าหญิงสาวยังนั่งอยู่ที่เดิม เขาจึงรีบย้ายตัวเองกลับไปที่เบาะข้างคนขับก่อนที่จะกดร่างของหญิงสาวไว้อีกครั้ง
” นายนี่… คล่องจังเลยนะ ” เอลิซาเบธกล่าวออกมาด้วยน้ําเสียงเคืองๆก่อนที่จะพบว่าเอริคใช้มือของเขาปลดกระดุมกางเกงยีนส์ของหล่อน หล่อนยกขาขึ้นเพื่อให้เอริคดึงกางเกงของหล่อนออกไป
” ฉัน..ฉัน…ฉันคิดว่าพวกเราไปบนเตียงกันเถอะ ” ร่างกายของหล่อนในเวลานี้เย็นเฉีย บพร้อมกับบิดตัวไปมาก่อนที่จะกล่าวแทรกขึ้นมา
แม้ว่าการทํากิจกรรมภายในโรงรถจะน่าตื่นเต้น ทว่าเอริคเองก็คิดว่าการถ้าจะปฏิบัติภารกิจภายในนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยได้อรรถรสเท่าไหร่นัก เขาจึงตอบตกลงก่อนที่จะผลักประตูออกพร้อมกับนําร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวพาดบ่าแล้วเดินเข้าวิลล่าไปอย่างรวดเร็ว
“ นี่นี่นี่ อย่าทําแบบนี้ มีแต่โจรเท่านั้นแหละที่จะจับผู้หญิงพาดบ่าแบบนี้ ”
เอริคยิ้มออกมาเล็กน้อยกับความคิดที่แตกต่างของหญิงสาวคนนี้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้แม้ว่าจะเป็นเวลากลางคืนแต่การที่ถูกผู้ชายจับพาดบ่าเดินอยู่ด้านนอกสถานที่ส่วนตัวสิ่งที่หญิงสาวควรจะทําคือการร้องขอหาเสื้อผ้ามาปกปิดส่วนเปลือยเปล่าของร่างกาย ทว่าเอลิซาเบธกลับมีปัญหาเกี่ยวกับการที่เอริคยกร่างของหล่อนในท่านี้ ชายหนุ่มยิ้มออกมาก่อนที่จะใช้มือตบไปที่สะโพกนุ่มๆของหล่อนพร้อมกับถามว่า ” แล้วเธอจะให้ฉันทํายังไง ?”
” อุ้มช้อนตัวแบบเจ้าหญิงสิ ฉันต้องการแบบนั้น! ” หญิงสาวใช้มือเล็กๆของหล่อนตบไปที่หลังของเขาพร้อมกับพูดออกมาด้วยความไม่เต็มใจว่า ” ทําไมนายถึงแก้ผ้าฉันจนหมด แต่ตัวเองกลับไม่เห็นถอดอะไรเลยห้ะ? ”
เอริคเปลี่ยนจากท่าพาดบ่าของเขาเป็นกอดหล่อนไว้ในอ้อมกอด เขาก้มหน้าลงก่อนจะจูบที่ริมฝีปากของหญิงสาวพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มว่า ” ฉันละแปลกใจจริงๆเลย ถึงเวลานี้แล้วทําไมเธอถึงยังมีปัญหามากมายขนาดนี้นะ ”
ร่างของหญิงสาวแข็งที่อไปชั่วขณะ ทําไมหล่อนถึงเป็นแบบนี้น่ะเหรอ ? ก็เพราะว่าตอนนี้ภายในใจของหล่อนกระส่ายกระสับจนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วยังไงล่ะ ในเวลาเช่นนี้หล่อนเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะพูดอะไรออกมาจึงจะระงับความตื่นเต้นภายในใจของหล่อนเอาไว้ได้
เป็นเพราะความเคยชินกับพื้นที่ภายในวิลล่าของเขา เอริคจึงสามารถอุ้มเอลิซาเบธมาที่ห้องนอนของเขาได้โดยที่ไม่ต้องเปิดไฟแม้แต่ดวงเดียว หลังจากที่มาถึงห้องนอนแล้วเขาก็โยนร่างของหญิงสาวลงบนเตียงพร้อมกับล้มตัวนอนทันที
….
ภายใต้ความงัวเงีย เอริคก็รู้สึกได้ว่าร่างของหญิงสาวขยับแล้ว และหลังจากที่หลุดออกจากอ้อมกอดของเขา หล่อนก็เคลื่อนตัวอย่างระมัดระวังเพื่อขยับไปที่ข้างเตียง
หลังจากที่เพ่งมองดู เขาก็พบว่าแผ่นหลังที่เปลือยเปล่าของหญิงสาวกําลังหันมาเผชิญหน้ากับเขาพร้อมกับมือเล็กของหล่อนที่กําลังจะเอื้อมไปจับโทรศัพท์ที่อยู่ตรงหัวเตียง
“จะทําอะไรน่ะ จะโทรไปหาตํารวจให้มาจับเขางั้นเหรอ ? ” เอริคถามตั้งคําถามขึ้นมาภายในใจของตนเอง เขายังคงนอนอยู่ท่าเดิมพร้อมกับเหล่ตามองไปที่หญิงสาวเพื่อดูว่าท้ายที่สุดแล้วหล่อนต้องการจะทําอะไรกันแน่
หลังจากที่กดหมายเลขแล้ว เสียงจากปลายสายก็ดังขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณให้รออีกฝ่ายตอบรับเอลิซาเบธนําโทรศัพท์แนบไว้ข้างหูก่อนตนเอง
ผ่านไปเพียงครู่หนึ่ง….
“ ฮัลโหลจูเลีย ฉันจะทํายังไงดี ฉันมีอะไรกับเขาแล้ว “ หญิงสาวถามขึ้นด้วยน้ําเสียงต่ํา
เอริคได้ฟังเช่นนั้น เขาก็ใช้มือตบไปที่หน้าผากของตนเอง เขาหวังว่าหญิงสาวคงไม่คิดว่าหลังจากที่ทําแบบนี้จะทําให้เขาสามารถนอนหลับได้หรอกนะ
เอลิซาเบธที่หันหลังให้กับเอริคยังไม่รู้ว่าเขาตื่นจากการนอนหลับแล้ว หล่อนก็ยังพูดกับปลายสายว่า “ อะไรนะ มันก็ไม่เลวเลย…นี่นี่นี่ เธออย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าเธอเองก็เคยขึ้นเตียงกับเขามาก่อนน่ะ ยังจะมาถามฉันเรื่องนี้อีกทําไมกัน ? ”
” ตอนนี้ฉันอยู่ไหนเหรอ ? ” หญิงสาวพูดขึ้นก่อนที่จะหันกลับมามองเอริคพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า ” ยังไงฉันก็หนีออกไปได้อยู่แล้วแหละ….ตอนนี้มันยังเร็วเกินไป แต่ว่าก็คงไม่ต้องรอให้เขาตื่นก่อนแล้วค่อยหนีไปหรอกจริงไหม ? น่าอึดอัดชะมัด…อื้อ…เฮ้อ..ฉันรู้แล้วน่า โทรหาเธอไม่มีประโยชน์อะไรเลย งั้นฉันวางละนะไม่ไม่ไม่…ไม่ต้องมารับฉันงั้นเอาตามนี้นะฉันวางก่อนหล่ะ ”
หลังจากที่วางโทรศัพท์ลงแล้วหญิงสาวก็ค่อยๆวางเท้าไปที่พื้นเบาๆ ทว่าทันใดนั้นมือคู่หนึ่งที่อยู่ด้านหลังของหล่อนก็คว้าตัวหล่อนไว้ ภายใต้น้ําเสียงตกใจของหญิงสาว เอริคก็พูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ว่า “ ลิซ ฉันควรจะชมว่าเธอน่ารักหรือควรจะด่าเธอว่าติงต๊องดีหล่ะ ถึงได้เอาเรื่องพวกนี้ไปเล่าให้คนอื่นฟังหรือว่าเธอไม่เคยโดนผู้ชายอุ้มมาก่อนหรือไง ?”
“ นี่ นี่นาย….ตื่นมาตอนไหนเนี่ย ?” หญิงสาวใช้มือเล็กๆของหล่อนทุบไปที่อกของเอริคก่อนที่จะถามออกมาด้วยความตื่นตระหนก
” ก็ไม่นานหรอก แต่ก็ทันที่จะได้ยินเธอพูดว่า ‘ไม่เลวเลย’ พอดี “
” อ้าย…” หญิงสาวใช้มือปิดหน้าของตนเองอย่างเขินอายกับสิ่งที่ชายหนุ่มพูด เอริคใช้มือของเขาลากหญิงสาวเข้ามาใกล้ก่อนที่จะกอดหล่อนไว้ในอ้อมกอดพร้อมกับพูดขึ้นว่า ” เอาหน่า มันเป็นเรื่องปกติของชายหญิงนั่นแหละ พูดจริงๆนะ ได้ยินเธอพูดว่าไม่เลวเลยฉันก็รู้สึกดีใจไม่น้อยเลยหล่ะ ”
” นาย…” เอลิซาเบธเปล่งเสียงออกมาด้วยอาการตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน เพียงครู่เดียวหญิงสาวก็อ้าปากก่อนที่จะกัดลงบนบ่าของเอริคอย่างแรง
เอริคสูดหายใจเข้าเพื่อให้ตัวเองใจเย็นลงหลังจากที่ถูกหญิงสาวทําเช่นนั้น ก่อนที่จะใช้มือตบไปที่หลังของหญิงสาวพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ นี่ลิซ ใช้ฟันขบนิดๆหน่อยๆก็พอแล้ว ไม่เห็นต้องใช้แรงขนาดนั้นเลย อีกอย่างเธอก็ทําได้แค่กัดแต่ก็กินฉันไม่ได้ซะหน่อย”
หลังจากที่หญิงสาวถูกเอริคพูดจาหยอกล้อปนหัวเราะ หล่อนก็ใช้มือหยิกเอริค 2-3 ครั้งก่อนที่จะผลักเขาออกพร้อมกับวิ่งหนีเข้าไปในห้องน้ําทันที