Heroes of Marvel หลุดเข้าไปในโลกมาร์เวล – ตอนที่ 664 อาการเป็นห่วงของธอร์

ตอนที่ 664 อาการเป็นห่วงของธอร์

ตอนที่ 664 อาการเป็นห่วงของธอร์
สองวันผ่านไปเเจ็คสัน โทนี่ เเละ ปีเตอร์ ทั้งสามคนไม่ได้ออกจากห้องปฏิบัติการใต้ดินเลย นั่นก็เพราะ เเจ็คสันได้นำบางสิ่งบางอย่างที่เก็บได้จากดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์ออกมาทำให้พวกเขาให้ความสนใจในการศึกษาพวกมันอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากสิ่งมีชีวิตเช่นเวน่อมเเล้ว เป็นอีกครั้งที่โทนี่ได้สัมผัสกับวัตถุต่างดาวเเม้จะเป็นเเค่พืชพรรณก็ตาม
ดังนั้นในช่วงนี้โทนี่จะไม่มีเเผนให้ทั้งสองคนกลับบ้านเขาได้ให้ เเจ็คสัน เเละปีเตอร์ อยู่เป็นลูกมือในการวิเคราะห์เเละจัดหมวดหมูภายในห้องปฏิบัติการ โทนี่ตั้งใจจะสร้างห้องสำหรับศึกษาเเละวิจัยวัตถุต่างดาวโดยเฉพาะ
ก่อนหน้านี้เเจ็คสันได้ให้ J.A.R.V.I.S ช่วยติดต่อที่บ้านให้เขาเเล้ว ทางครอบครัวของเขาเองก็รู้สึกสบายใจเเละไม่ได้ติดค้างอะไร เพราะลูกชายของพวกเขาได้อยู่ภายใต้การดูเเลของ โทนี่ สตาร์ค เเน่นอนว่าย่อมมีสายติดต่อที่ไม่คุ้นเคยดังเข้ามาทำให้ J.A.R.V.I.S ต้องบอกเเจ้งเตือนกับ เเจ็คสัน เเต่ เเจ็คสันไม่มีเเผนจะรับสายเเปลกในตอนนี้

ตู๊ดดด
ปั้ง!
ในนิวอยร์กห่างจากชานเมืองไม่ไกลเสียงกระเเทกที่รุนเเรงได้ดังขึ้นที่สนามหลังบ้านของศูนย์รับเลี้ยงสุนัขจรจัด
“เจ้าบ้าเเจ็คสัน!เจ้าหายไปไหนกัน ทำไมไม่รับโทรศัพท์เเละอ่านข้อความที่ข้าส่งไปให้”
ธอร์ได้ต่อยกำปั้นทุบไปที่กำเเพงด้านหน้าของตนเองจนเกิดเป็นรอยไหม้สีดำขนาดใหญ่เป็นเวลาหลายวันเเล้วที่เขาไม่สามารถติดต่อเเจ็คสันได้ในช่วงนี้ ความเป็นอยู่ของธอร์ได้คุ้นเคยกับโลกมากขึ้นความเย่อหยิ่งเเต่เดิมที่มีฐานะเป็นเจ้าชายเเห่งเเอสการ์ดได้ค่อย ๆ มลายหายไป ลงเหลือเเต่ฐานะคนธรรมดาเพียงเท่านั้น
สมบัติค้อนโยเนียร์ของเขาได้ค่อยๆ คืบคลานกลับไปที่ร่างของธอร์มาขึ้นเรื่อย ๆ เเม้ปัจจุบันธอร์จะยังไม่ได้ครอบครองค้อนของตัวเอง เเต่เขาสามารถสัมผัสได้ถึงตำเเหน่งของค้อนได้อย่างชัดเจน อีกทั้งพละกำลังของเขาก็เเข็งเเกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้เขาสามารถใช้จุดเเข็งที่เป็นพลังสายฟ้าของตนเองได้เเล้ว
ก่อนหน้านี้สองวันธอร์ มองเห็นเเสงของสะพานไบฟรอสพุ่งตรงตกลงมาที่ใจกลางเมืองนิวยอร์ก ธอร์ คิดว่าอาจจะเป็นคนของโลกเเอสการ์ดมาเยือนที่นี่ ดังนั้นเขาจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบเเต่ดูเหมือนสะพานไบฟรอสจะหายไปเเล้ว
เเน่นอนว่าธอร์ได้ออกตามหาเเขกของเเอสการ์ดจึงได้เริ่มเข้าใจโลกนี้มากขึ้นนอกเหนือจากความสัมพันธ์ของเขาเเละเเจ็คสันเเล้ว ธอร์ได้ค้นพบอุบัติเหตุที่น่าเหลือเชื่อโลกนี้ไม่ได้สงบสุขแบบที่เขาคิด  “สองสามวันที่ผ่ามามีการโจมตีจากทหารเอ็กซ์ทรีมิสสมาชิกทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ได้ปรากฏตัวขึ้น เเต่ ดูเหมือนมิราจไนท์ไม่ได้ปรากฏตัวออกมาก็มีเพียงเเต่สไปเดอร์แมนที่ปรากฏตัวขึ้นที่ทำเนียบขาว เเล้ว เเจ็คสันหายไปไหน”ธอร์ดึงกำปั้นของตัวเองกลับมา
ธอร์อาศัยอยู่ที่โลกเป็นเวลานานเขาเริ่มเข้าใจวิถีชีวิตของคนธรรมดาเกี่ยวกับข่าวเเละเหตุการณ์เมื่อสองวันที่เเล้ว ที่ ทหารเอ็กซ์ทรีมิสโจมตีเมืองเขาเองก็ติดตามการรายงานข่าวเเต่ไม่มีสักช่องที่เผยรูปของมิราจไนท์ เเน่นอนว่าธอร์รู้ว่ามิราจไนท์เเท้จริงเเล้วคือเเจ็คสัน
“หรือว่าข้าจะลองไปที่บ้านของเเจ็คสันดู”
“ข้าไม่เคยไปบ้านของเขามาก่อนเเต่ข้าพอจะรู้ว่ามีใครรู้จักบ้านของเขาเอาเถอะข้าว่าจะลองไปเยี่ยมครอบครัวของเขาดูก็ไม่เสียหายหลังเลิกงานข้าจะไปบ้านของเเจ็คสันเเละทำความรู้จักกับครอบครัวของเขา”ในที่สุดธอร์ก็ตัดสินใจมองหาบ้านของเเจ็คสัน
เพียงเเต่เมื่อธอร์หันไปมองรอบๆ เขาก็เห็นกลุ่มสุนัขจำนวนมากที่จ้องมองมาที่เขา ธอร์ได้มองไปที่กำเเพงที่เขาเพิ่งทำลายไปจนสีหน้าของเขาเผยเเววสลดออกมา สนามบ้านหลังนี้เป็นที่พักผ่อนสำหรับสุนัขจรจัด เห็นที ธอร์คงต้องหาทางเเก้ไขกำเเพงนี่ใหม่ซะเเล้ว
“เฮ้อ,ดูเหมือนว่าจะต้องใช้เงินจำนวนมากพอสมควร”ธอร์บ่นออกมาอย่างไม่เต็มใจ

ฟุ่บ!
ในห้องปฏิบัติการใต้ดินในนิวยอร์กโทนี่กำลังวิเคราะห์ผลข้อมูลจากเเท็บเล็ตที่เเจ็คสันส่งให้มันคือข้อมูลของเนื้อเยื่อพืชต่างดาวขณะนั้น ดูเหมือนโทรศัพท์ของเขาจะดังขึ้นมันเป็นสายจากทางบ้าน
เเจ็คสันได้วางสิ่งของทั้งหมดจากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ฟุ่บ!   เเจ็คสันได้กดรับโทรศัพท์พร้อมกับปัดเป็นวิดิโอคอลด้านหลังของเขาคือห้องปฏิบัติการโล่งไม่มีความจำเป็นจะต้องปิดบังอะไร
“สวัสดีพ่อ!”หลังจากเปิดการสนทนาทางวิดีโอเเจ็คสันก็เห็นใบหน้าของ หลินไฮ่ พ่อของเขา
เพราะสถานะมิราจไนท์ของตนเองทำให้บ่อยครั้งเเจ็คสันไม่ได้กลับบ้านเลยช่วงนี้เขาได้ใช้โทนี่เป็นที่กำบังให้กับตนเองในการหาเหตุผลที่ไม่กลับบ้านเเต่อย่างไรก็ตามคนในครอบครัวก็คือคนในครอบครัวการเจอหน้ากันตรง ๆ ย่อมเป็นการดีที่สุด
“ฮ่าฮ่า,เจ้าลูกชายเมื่อไหร่ลูกจะกลับบ้านกัน เเม่ของลูกคิดถูกลูกมากรู้ไหม พ่อไม่รู้หรอกนะว่าลูกทำการทดลองอะไร การทดลองที่ว่ายังไม่เสร็จอีกงั้นหรอ ช่วงนี้พ่อกับเเม่ไม่ได้เห็นหน้าลูกมาสักพักเเล้ว ”เห็นใบหน้าที่มีเสน่ห์ของลูกชาย หลิน ไฮ่ กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“อืม,~ ดูเหมือนจะไม่มีกำหนดที่เเน่นอนเเต่ผมว่าผมจะหาเวลาหยุดพักผ่อนในเร็ว ๆ นี้เเหละ ผมจะไปพูดเรื่องนี้กับคุณสตาร์ค”ได้ยินคำพูดของ พ่อตนเอง เเจ็คสันกล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม
“ฮ่าฮ่าเป็นเรื่องที่ดี จริงสิ วันนี้มีคนมาที่บ้านของเราเขาบอกว่าเป็นเพื่อนของลูก”
“ใครกัน”เเจ็คสันรู้สึกสงสัยใครกันที่มองหาเขาถึงขนาดมาที่บ้านของตนเอง
ฟุ่บ!
ขณะที่เเจ็คสันถามออกไปจู่ๆ มุมกล้องของโทรศัพท์ก็ถูกเปลี่ยนไปยังตำเเหน่งร่างสูงใหญ่เเละเเข็งเเรง ใบหน้าที่คุ้นเคยได้ปรากฏสู่เเนวสายตาของเเจ็คสัน

Heroes of Marvel หลุดเข้าไปในโลกมาร์เวล

Heroes of Marvel หลุดเข้าไปในโลกมาร์เวล

Status: Ongoing
 หลังจากเกิดอุบัติเหตุถูกไฟฟ้าช็อต เเจ็คสัน ได้หลุดเข้าไปในโลกคู่ขนานที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่เเปลกประหลาดกระทั่งสามารถบินบนฟ้าได้
ตอนเเรก เเจ็คสันคิดว่าเขาได้ หลุดข้ามจากฝั่งอเมริกาไปยังประเทศอื่น ๆ จนกระทั่งมีบางอย่างแปลก ๆ ปรากฏออกมา ในขณะดูช่องข่าว เเจ็คสันได้เห็นชายหนุ่มยักษ์ตัวสีเขียวได้กระโดดขึ้นลงบนอาคารของนิวยอร์กโดยไม่เเคร์สายตาใดใด
ทั้งยังมีรูปปั้นอนุสรณ์ของผู้เพาะกายที่สวมใส่เครื่องแบบสีฟ้าเเดงถือโล่ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมือง นอกจากนี้ยังมีคนบินอยู่บนท้องฟ้าด้วยค้อนขนาดใหญ่คู่ใจที่เรียกตัวเองว่าเป็นเทพ
   นอกจากนี้ยังมีคนบินอยู่บนท้องฟ้าด้วยค้อนขนาดใหญ่คู่ใจที่เรียกตัวเองว่าเป็นเทพ แต่หลังจากการถ่ายทอดช่วงเวลาข่าวจบลง เเจ็คสัน ดึงโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาเเละโทรออก”Mr. Stark เพื่อความปลอดภัยของมนุษย์ผมคิดว่าเราจำเป็นจะต้องหารือเกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาเกราะเทคโนโลยีขั้นสูงที่คุณมี”  นี่เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในโลก มาร์เวล เขาอยากที่จะมีชีวิตที่เงียบสงบเเละราบรื่น เเต่เเล้วโชคชะตากลับไม่เป็นเช่นนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท