TXV – 263 มือปืนที่เก่งที่สุดในโลก !
เมื่อเงินดี งานก็คล่องตัวโรงงานทางทหารของอุตสาหกรรมอาชาสายฟ้าเริ่มเข้าสู่ช่วงก่อสร้างแล้ว วิศวกรและคนงานมากมายก็เข้ามาในพื้นที่โล่งๆและจัดแจงสร้างเขตกั้นเป็นพื้นที่ก่อสร้าง เซี่ยเหล่ยตั้งใจไว้ว่าจะแบ่งพื้นที่ไว้สองเอเคอร์จากพื้นที่ทั้งหมด เพื่อให้บริษัทก่อสร้างสร้างคฤหาสน์และสวนเอาไว้
คฤหาสน์นี้สร้างไว้สำหรับอเลน่า เนื่องจากเธอมีสถานะพิเศษเปิดเผยใบหน้าไม่ได้และต้องการการคุ้มครองภายในพื้นที่ก่อสร้างโรงงาน เธอจะมีพื้นที่เป็นของตัวเองและมีทหารที่ดูแลโรงงานคอยคุ้มกันเธอด้วย
อุปกรณ์ของโรงงานก็เริ่มเข้าสู่ช่วงของการจัดซื้อแล้วเช่นกันซึ่งอุปกรณ์ส่วนใหญ่จะนำเข้ามาจากรัสเซียและยูเครน อเลน่าเป็นคนเลือกซื้ออุปกรณ์ส่วนเซี่ยเหล่ยรับบทบาทเป็นล่าม คนเจรจาต่อรองและคนตกลงซื้อขายกับรัสเซียและยูเครน
ทั้งเซี่ยเหล่ยและอเลน่าเองก็พักอยู่ที่ที่พักชั่วคราวในพื้นที่ของโรงงานทางทหารด้วยเช่นกัน ซึ่งระหว่างที่รออุปกรณ์จากรัสเซียและยูเครนส่งมา พวกเขาก็ร่วมพัฒนาเครื่องมือเครื่องจักรท้องถิ่นกับกองทัพไปด้วยทั้งสองคนเป็นช่างกลฝีมือดี เซี่ยเหล่ยดูแลเกี่ยวกับชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อนและต้องใช้ความแม่นยำสูง อเลน่าดูแลเรื่องการประชุมทั้งสองคนร่วมมือกันทำงานและในที่สุดเครื่องมือท้องถิ่นจำนวนมากก็พัฒนาเปลี่ยนเป็นเครื่องมือเครื่องจักรคุณภาพระดับโลก ทัดเทียมเครื่องจักรระดับสูงของยุโรปและอเมริกาได้ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว
ช่วงนี้แม้จะทำงานที่โรงงานด้วยแต่เซี่ยเหล่ยก็ฝึกกังฟูของตระกูลถ่างอยู่ไม่ขาด ทุกเช้า ทุกเย็น เขาใช้เวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมงในการฝึกวิชาตัวเบาและการใช้อาวุธลับโดยใช้ทักษะการเรียนรู้ของเขาเอง นับวันมันก็ยิ่งแข็งแกร่งและพัฒนาก้าวหน้าเรื่อยๆ
เวลาครึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวมาจนถึงฝั่งตะวันตกใกล้จะลับขอบฟ้าไปทุกทีที่ไซต์ของโรงงานทางทหารเหมือนถูกเคลือบไว้ด้วยแสงสีทอง ป่าด้านหลังไซต์ก่อสร้างก็เหมือนกับถูกผงสีทองโรยปกคลุมเอาไว้ด้วยเช่นกันตอนนี้ทั้งโลกกำลังสว่างไสวเป็นภาพอันงดงามที่ไม่ว่าใครได้เห็นก็ไม่อยากกระพริบตาเลย
ที่เนินเขา เซี่ยเหล่ยปีนขึ้นไปบนก้อนหินแล้ววางสไนเปอร์ไรเฟิลลงตรงหน้าเขา นี่คือปืนที่ถ่างหยู่เหยี่ยให้เขามาดัดแปลงพัฒนาให้ในช่วง 2 เดือนมานี้ เซี่ยเหล่ยใช้เวลาพักผ่อนของเขาไปกับการพัฒนาปืนสไนเปอร์ไรเฟิลของเขาและในที่สุดเขาก็ได้สไนเปอร์ไรเฟิลที่พัฒนาเสร็จสมบูรณ์…..
และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เซี่ยเหล่ยจะทดลองประสิทธิภาพของปืนแล้ว
อเลน่านั่งลงข้างๆเซี่ยเหล่ยบั้นท้ายยกสูงขึ้นเล็กน้อย มุมมองจากด้านหลังของเธอ ความเต่งตึงนั่นทำเอาผู้ชายที่ได้เห็นแทบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ได้เลย อเลน่ามองตรงไปข้างหน้าตามแนวลำกล้องปืนสไนเปอร์ไรเฟิลแต่เธอก็เห็นแค่ภูเขาและป่าเท่านั้น ไม่รู้เลยว่าเซี่ยเหล่ยกำลังเล็งอะไรอยู่
“ลูคัส จะยิงอะไรเหรอ?” เมื่อเห็นเซี่ยเหล่ยนิ่งอยู่นานแล้วไม่ขยับสักทีอเลน่าก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
เซี่ยเหล่ยตอบ “นกน่ะ”
อเลน่าตาโตและจ้องเขม็งไปที่เซี่ยเหล่ย พูดอย่างงงๆ “แล้วนกอยู่ไหน?”
เซี่ยเหล่ยเลิกมองกล้องปืนแล้วส่งปืนให้อเลน่ามองเอง
อเลน่ารับสไนเปอร์ไรเฟิลมา มองที่กล้องปืนแต่กลับเห็นคนสองคนแทนเป็นหนุ่มสาวที่น่าจะเป็นคู่รักของหมู่บ้านข้างๆกำลังพลอดรักกันอยู่ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้วว่า ‘นก’ ที่เซี่ยเหล่ยพูดหมายถึงอะไรอเลน่าหน้าแดงทันทีจากนั้นเธอก็ตีก้นเซี่ยเหล่ยไปหนึ่งป้าบ ทั้งโกรธทั้งเขิน “ลูคัส คุณให้ฉันดูอะไรเนี่ย? คุณมันแย่ที่สุดเลย!”
เซี่ยเหล่ยหัวเราะ “บอกว่าผมแย่ แต่คุณก็หน้าแดงเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”
หลังจากที่เธอถลึงตาใส่เซี่ยเหล่ยแล้วอเลน่าก็แอบมองสองคนนั้นผ่านกล้องสไนเปอร์ไรเฟิลต่อ “พวกเขาโรแมนติกจัง น่ายินดีกับเขาเนอะ”
คนจากต่างวัฒนธรรมก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ในตะวันออกกลางถ้ามีคนเจอคู่รักแบบนี้เกรงว่าพวกเขาจะถูกขว้างด้วยหินจนตายแต่ถ้าเป็นประเทศจีนชื่อของคู่รักคู่นั้นก็คงจะแพร่สะพัดออกไปทั่วและพวกเขาก็จะกลายเป็นประเด็นร้อนให้คนพูดถึงกันแทน
เหตุผลที่เซี่ยเหล่ยยังไม่เริ่มยิงก็เพราะสองคนนี้เองเขาไม่อยากทำลายฉากโรแมนติกที่เห็นและทำให้คู่รักหนีกระเจิงไปเพราะเสียงปืนเสียก่อน
“ลูคัส ฉันจะยิงแล้วนะ” อเลน่าวางปืนลงบนหินละสายตาจากลำกล้องมามองเซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยกล่าว “รอเดี๋ยวสิ ถ้าคุณยิง คุณจะทำคู่รักคู่นั้นกลัวเอานะ”
“งั้นไม่ยิงกับสไนเปอร์ไรเฟิลคุณก็ได้” อเลน่ากัดริมฝีปากเบาๆ
เซี่ยเหล่ยพูดติดเศร้านิดๆ “ผมไม่มีปืนอื่นนะ คุณอยากได้อะไรแบบไหนล่ะ?”
อเลน่ามุดเข้าไปในอ้อมแขนเซี่ยเหล่ยจับมือเขาแล้วยิ้มกว้าง “คุณรู้ว่าฉันอยากได้อะไร”
เซี่ยเหล่ย “……”
เซี่ยเหล่ยยังไม่ได้ทำอะไรเลยตั้งแต่เข้าป่ามา เขาเริ่มวิตกและลังเลไหนจะเสียงซิปนั่นอีก อเลน่าใช้เวลากระตุ้นเขาแค่ 3 วินาทีความเย้ายวนของเธอช่างแข็งแกร่ง เซี่ยเหล่ยต้านทานมันไม่ไหวจริงๆ
ภายใต้แสงอาทิตย์อุ่น มีคู่อีกคู่หนึ่งบนเนินเขาด้านบนเป็นท้องฟ้าสีครามมีลมเบาๆพัดเอื่อย โอบอุ้มข้อความที่สื่อถึงความรักของพวกเขาเอาไว้
หลายสิบนาทีผ่านไป เซี่ยเหล่ยนอนลงบนหิน เขามองเห็นสถานการณ์ในป่าเขานี่ได้โดยไม่ต้องพึ่งกล้องสไนเปอร์ไรเฟิลคู่รักวัยรุ่นออกไปแล้วในป่ากลับมาเงียบอีกครั้งจริงๆตาซ้ายของเขามองเห็นได้แม้กระทั่งกระดาษทิชชู่ที่คู่รักหนุ่มสาวเมื่อครู่ทิ้งไว้ในป่าได้เลยด้วยซ้ำ
เซี่ยเหล่ยยกปากกระบอกปืนขึ้นเล็กน้อยแม้แต่กระดาษทิชชูก็เป็นเป้าได้ ระยะทางที่เซี่ยเหล่ยคาดคะเนด้วยสายตาคือ 800 เมตรซึ่งเป็นระยะที่ใกล้เกินกว่าจะทดสอบขีดจำกัดของปืนได้ เซี่ยเหล่ยจึงเล็งไปยังต้นไม้ซึ่งอยู่ไกลออกไปอีกหน่อยแทน
เซี่ยเหล่ยมีเครื่องมือวัดระยะทางเป็นของตัวเองอยู่แล้วนั่นก็คือตาซ้ายของเขาที่สามารถใช้ประมาณระยะทางได้ทุกเมื่อ
ซึ่งถ้าวัดเป็นเส้นตรง ต้นไม้นั่นก็จะอยู่ห่างออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร
“นั่นล่ะ” เซี่ยเหล่ยเล็งไปยังกิ่งไม้ที่ตายแล้วบนต้นไม้นั่น
อเลน่านั่งลงข้างเซี่ยเหล่ยหยิบเอากระจกแต่งหน้าขึ้นมาเติมลิปสติก เธอมองบั้นท้ายกระชับของเซี่ยเหล่ยอยู่พักหนึ่งก่อนจะยิ้มออกมาอย่างพอใจความคิดที่เข้าใจได้ง่ายที่สุดคือความพึงพอใจและความสุขนี่แหละ และเธอก็พิสูจน์เรื่องปรัชญานี้ได้ดีเลยทีเดียว
เซี่ยเหล่ยก็ยกปากกระบอกปืนขึ้น 20 องศา ทั้งร่างเขาเกร็งไปหมด
“รีบยิงเลยนะ ใกล้จะมืดแล้ว” อเลน่าเก็บกระจกและลิปสติกกลับเข้าที่อย่างเดิม
“อย่าส่งเสียงสิ!” เซี่ยเหล่ยละสายตาจากกล้องแล้วมองตรงไปยังป่าเบื้องหน้า
“เจออะไรเหรอ?” อเลน่าขยับเข้าไปใกล้เซี่ยเหล่ยอีกหน่อยและถามด้วยความอยากรู้
ทันใดนั้นมีแสงสว่างส่องวูบวาบออกมาจากในป่า…..
เซี่ยเหล่ยรีบกดคออเลน่าลงทันทีและซ่อนตัวอยู่ด้านหลังก้อนหินกับเธอ
ปัง! หินแตกออกเศษของมันพุ่งกระจายราวกับมีดบิน เศษหินชิ้นหนึ่งกระเด็นไปบาดแก้มเซี่ยเหล่ยจนเลือดไหลออกมาทันที
อเลน่าเองก็โดนเศษหินกระเด็นใส่ แต่มันทำเสื้อผ้าเธอขาดและฝากรอยแผลตื้นๆไว้ที่ไหล่ของเธอแทน
“น- นัก……” อเลน่าจะพูดว่า ‘นักฆ่า’ แต่เธอคงพูดแบบปกติไม่ได้ภายใต้ความตื่นตระหนกและหวาดกลัวแบบนี้
“อย่าขยับนะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอย่าชะโงกหัวออกไปเด็ดขาด” เซี่ยเหล่ยยังคงกดคออเลน่าเอาไว้อยู่ด้วยกลัวว่าเธอจะขยับแบบไม่ระวังตัวจนอีกฝ่ายยิงโดนเอา
“เขา เขาอยู่ไหน?” อเลน่าพูดด้วยความตระหนก
“ในป่าฝั่งตรงข้าม” เซี่ยเหล่ยคลายมือออกจากคอเธอแล้วหยิบสไนเปอร์ไรเฟิลมายื่นปากกระบอกปืนออกไปนอกหินอย่างระมัดระวัง
ถ้ามีสไนเปอร์ไรเฟิลในมือเขาแบบนี้ เซี่ยเหล่ยค่อยผ่อนคลายลงได้หน่อย เขาค่อยๆขยับหัวช้าๆไปที่ขอบหินแต่ยังไม่ยื่นหน้าออกไปเซี่ยเหล่ยใช้ตาซ้ายมองทะลุผ่านหินและป่าไปสำรวจดูก่อน
ก่อนหน้านี้ เขาเห็นแค่ใครบางคนเคลื่อนไหวอยู่ลางๆในป่านั่น สัญชาตญาณป้องกันตัวช่วยให้เขารอดจากการยิงนัดแรกของอีกฝ่ายไปได้แต่ตอนนี้เขาเห็นอีกฝ่ายชัดแล้ว ผิวหน้าสีเหลืองรูปตาเป็นทรงสามเหลี่ยมร่างไม่ใหญ่มากแต่ดูแข็งแรงดูเป็นคนเอเชียใต้ มือปืนเอเชียใต้ซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้ปากกระบอกปืนสไนเปอร์ไรเฟิลในมือเขาเล็งตรงมาที่เซี่ยเหล่ยและอเลน่า
ที่หูของเขาใส่หูฟังอยู่ สายสีดำของมันไล่จากคอเขาไปถึงกระเป๋าเสื้อโค้ท ปากเขาเหมือนกำลังพูดอะไรอยู่แต่เซี่ยเหล่ยไม่เข้าใจภาษาเอเชียใต้ของเขาจึงไม่สามารถใช้การอ่านปากทำความเข้าใจได้แต่อย่างไรก็ตามทั้งหูฟังและปากที่พูดพึมพำอยู่ของมือปืนคนนั้นทำให้เซี่ยเหล่ยรู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว!
มือปืนเอเชียใต้ยิงพลาดไปครั้งหนึ่งแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ยังไม่เปลี่ยนอะไรแม้กระทั่งตำแหน่งของเขาเห็นได้ชัดว่าเขากำลังยื้อให้เซี่ยเหล่ยและอเลน่าอยู่กับที่ และรอให้คนของเขาโจมตีเซี่ยเหล่ยจากที่อื่น!
“บ้าจริง…… ตรงนี้ไม่มีสัญญาณ!” อเลน่าหยิบโทรศัพท์ออกมา ในตอนนี้ดูวิตกมากๆ
“อย่าขยับสิ ไม่ต้องกลัวไปนะ” เซี่ยเหล่ยพยายามปลอบอเลน่าและขยับปากกระบอกปืนไปทางมือปืนเอเชียใต้คนนั้นช้าๆ
อีกฝ่ายมีพวกมาด้วยแม้ว่าตอนนี้เซี่ยเหล่ยจะยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคนอื่นๆอยู่ตรงไหนแต่พวกเขาคงไม่โจมตีเซี่ยเหล่ยเร็วๆนี้แน่นั่นทำให้เขามีโอกาสและเวลาในการฆ่ามือปืนที่เล็งเขากับอเลน่าจากป่าภูเขาฝั่งตรงข้ามอยู่
ปากกระบอกปืนเซี่ยเหล่ยโผล่ออกมาจากรอยแตกของหินแหวกหญ้านิดหน่อยพอให้หญ้าช่วยปกปิดแล้วเล็งไปที่มือปืนเอเชียใต้เป็นวิธีที่แปลกสำหรับการโจมตีมีหินอยู่ตรงหน้าเขาแถมกล้องปืนก็ไม่ได้ใช้จนเหมือนมีประดับไว้มากกว่า พุ่มไม้ที่อีกฝ่ายซ่อนอยู่ห่างออกไป 1,800 เมตร สถานการณ์ตอนนี้ต่อให้มือปืนที่ดีที่สุดอย่างเซี่ยเหล่ยไม่มีที่กำบัง มันก็ไม่มีอุปสรรคใดขวางเขาได้แล้ว!
เล็งให้มั่น และเหนี่ยวไกปืน
ปัง! สิ้นเสียงปืน เลือดแดงฉาดก็สาดกระเซ็นในพุ่มไม้ระยะ 1,800 เมตรเบื้องหน้า
กระสุนสไนเปอร์ไรเฟิลเจาะเข้าที่ศีรษะของมือปืนเอเชียใต้คนนั้นพอดี ภาพมันเหมือนกับแตงโมที่ระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆเพราะกระสุนปืนเลย!
มือปืนคนนั้นตายทั้งที่ยังไม่ทันเข้าใจอะไรเลยด้วยซ้ำ เขาล็อคเป้าเซี่ยเหล่ยเอาไว้ ตั้งแต่เขาปรากฏตัวออกมา เขามีโอกาสทองที่จะกำจัดเซี่ยเหล่ยอยู่แล้วเชียว แต่ยังไม่ทันได้เห็นแม้ปลายผมเซี่ยเหล่ย เขาก็โดนเป่าหัวกระจุยไปเสียแล้ว
ถ้าเป็นเรื่องการซุ่มยิง บนโลกนี้ไม่มีใครแข่งกับเซี่ยเหล่ยได้อีกแล้ว!
“คุณลงจากเขาไป แล้วโทรหาหลงบิงนะ!” หลังจากฆ่ามือปืนฝ่ายตรงข้ามได้แล้ว เซี่ยเหล่ยก็ลุกขึ้นและดึงตัวอเลน่าขึ้นมาจากพื้น
“สไนเปอร์คนนั้นล่ะ……” ตอนนี้อเลน่ากลัวแทบบ้า
“เขาตายแล้ว แต่เขามีพวกมาด้วย คุณต้องออกไปจากที่นี่ ผมจะจัดการคนที่เหลือเอง!” เซี่ยเหล่ยพูดจบก็ผลักอเลน่าให้รีบไป
“แต่คุณล่ะ……” เธอพูดต่อด้วยความกังวล
เซี่ยเหล่ยพูดเสียงดัง “คุณอยากให้เราตายที่นี่ทั้งคู่รึไง? รีบหนีไปเร็ว!”
อเลน่ากัดริมฝีปากก่อนจะหันหลังรีบวิ่งลงจากภูเขาไป
ติดตามตอนต่อไป………………