TXV – 237 โจรขโมยหัวใจ !
อาหารมื้อเย็นนี้มันอร่อยมาก เซี่ยเหล่ยเองก็กินอย่างมีความสุข พ่อแม่ของ จูเสี่ยวหงเป็นคนที่ซื่อสัตย์และเป็นเกษตรกรที่เรียบง่ายระหว่างนี้พวกเขาทั้งคู่ก็ได้พูดคุยสัพเพเหระกันเมื่อเซี่ยเหล่ยมองไปที่พวกเขาก็รู้สึกอบอุ่นอย่างมาก
หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จ เซี่ยเหล่ยและจูเสี่ยวหงได้อยู่ภายในห้องต่อเพื่อพูดคุยหาลือเกี่ยวกับข้อมูลในการลงทุนและการสร้างโรงงาน พวกเขาปรึกษาเรื่องนี้อยู่เป็นเวลาราวสองถึงสามชั่วโมง หลังจากนั้นพวกเขาต่างก็รู้สึกว่าตอนนี้มันดึกแล้วจึงเตรียมตัวไปเข้านอน
ฝนที่ตกอยู่ภายนอกหน้าต่างตอนนี้ได้ตกลงมาและกระทบกับชายคาของบ้านทำให้เกิดเสียงติ๊งๆ เมื่อฟังเสียงฝนที่ตกกระทบกับชายคาไปเรื่อยๆแล้วมันก็จะคล้ายๆเพลงสะกดจิต มันได้ผลกับเซี่ยเหล่ยอย่างมากในตอนนี้เขาค่อยๆหลับตาและพยายามที่จะหลับ
อาจจะเป็นเพราะว่าไวน์องุ่นก็ได้ที่เป็นสาเหตุให้ทั้งร่างกายและจิตใจของเซี่ยเหล่ยไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้เขาก็หลับไม่ได้เหมือนกันเพราะว่าเสียงรบกวนจากฝนที่ตกอยู่นอกหน้าต่าง
ในขณะที่เขานอนอยู่นั้นด้วยสภาวะที่สลึมสลือกึ่งหลับกึ่งตื่นนั้น เขาก็รู้สึกแปลกๆที่แก้มของเขาเหมือนกับว่ามีสิ่งใดที่นุ่มนิ่มมาสัมผัสอยู่ รวมถึงรู้สึกแฉะๆพร้อมกันด้วยเหมือนกับว่าตัวเองกำลังถูกเลียอยู่
เซี่ยเหล่ยลืมตาขึ้นมาก็ต้องตกใจอย่างมากเพราะเขาเห็นใบหน้าของจูเสี่ยวหง อยู่ใกล้กับหน้าของเขา มันห่างเพียงไม่กี่เซนติเมตรด้วยระยะห่างเพียงแค่นี้ทำให้ผิวหน้าของเขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเธอที่พ่นออกมาจากจมูกและปากของเธอ ร่างกายของเธอตอนนี้ส่งกลิ่นหอมออกมา หน้าอกของเธอได้สัมผัสกับหน้าอกของเซี่ยเหล่ยแน่นอนว่ามันนุ่มนิ่มและไม่มีกระดูก บรรยากาศตอนนี้ทำให้ชวนคิดไปไกลเหลือเกิน
ในห้องที่มืดสลัวเนื่องจากยังไม่ได้เปิดไฟแต่จูเสี่ยวหงก็รู้ว่าเซี่ยเหล่ยในตอนนี้ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วจากนั้นเธอก็พูดขึ้นว่า “พี่เซี่ยเหล่ย ให้ฉันนอนกับคุณ ให้ฉันนอนด้วยนะ “
เซี่ยเหล่ยพูดด้วยอารมณ์ที่ยังตกใจอยู่ไปว่า “เสี่ยวหง คุณจะทำอะไร”
“พี่เซี่ย คุณก็รู้ว่าคุณเป็นผู้ช่วยเหลือครอบครัวของเราเอาไว้และฉันไม่มีอะไรที่จะตอบแทนคุณได้เลยดังนั้นให้ฉันนอนกับคุณนะ ร่างกายของฉันสะอาดและยังไม่เคยมีใครได้สัมผัสมาก่อน “เมื่อพูดเสร็จหูของจูเสี่ยวหงก็แดงขึ้นและมือของเธอก็สั่นเล็กน้อย
เซี่ยเหล่ยพูดอย่างตื่นตระหนกไปว่า “เสี่ยวหง อย่าทำแบบนี้ ผมไม่ใช่คนที่ต้องการให้คุณตอบแทนโดยใช้ร่างกายหรอกนะ “
“พี่เซี่ย ฉันไม่ได้คิดที่จะผูกมัดคุณไว้หรอกนะ ฉันแค่ต้องการที่จะบริการคุณเพื่อตอบแทนก็เท่านั้น ” จูเสี่ยวหงพูดขึ้นจากนั้นก็ร้องไห้ออกมา
เมื่อได้ฟังเช่นนั้น ภายในหัวใจของเซี่ยเหล่ยตอนนี้รู้สึกและสัมผัสได้เพียงอย่างเดียวว่าผู้หญิงที่ซื่อสัตย์และดีอย่างจูเสี่ยวหง นั้นพูดออกมาโดยที่เธอไม่ได้ต้องการอะไรจริงๆ เธอเพียงแค่ต้องการที่จะบริการเขาให้ได้รับความสุขในแบบที่ผู้ชายชอบก็เท่านั้นเอง นี่คือวิธีที่เธอต้องการจะตอบแทนเซี่ยเหล่ยแต่ถึงอย่างไรก็ตามแล้วเซี่ยเหล่ยเองก็ไม่ใช่คนประเภทที่จะตอบสนองความต้องการของตนเองเพียงแลกกับความสุขแค่ชั่วคราวแบบนี้ได้
“เสี่ยวหง สิ่งนี้มัน…” เซี่ยเหล่ยพูดขึ้น
จูเสี่ยวหงไม่ได้เปิดโอกาสให้เซี่ยเหล่ยพูดต่อ เธอได้จูบไปที่ริมฝีปากของเซี่ยเหล่ยเพื่อไม่ให้เขาพูดต่อได้
สัมผัสที่อ่อนนุ่มชุ่มชื้นมีกลิ่นหอมและเซ็กซี่นั้นคือริมฝีปากของจูเสี่ยวหง การจูบของเธอนั้นทำให้เซี่ยเหล่ยตัวแข็งทื่อไปในทันทีมือของเธอที่ตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่นิ่ง เธอได้ลูบไล้ไปตามร่างกายของเซี่ยเหล่ยถึงแม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในด้านนี้มาก่อน แต่เธอก็รับรู้ได้ด้วยสัญชาติญาณว่าควรที่จะทำอย่างไรให้ผู้ชายรู้สึกดีและมีความสุข
ในสิ่งที่พวกเขาทั้งคู่กำลังทำกันอยู่ในตอนนี้ เปรียบเสมือนกับว่าเซี่ยเหล่ยนั้นเป็นเขื่อนที่แข็งแกร่งโดยที่จูเสี่ยวหงเปรียบเสมือนกับว่าเป็นกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวที่ต้องเปรียบเทียบเช่นนี้เพราะจูเสี่ยวหงยังคงโจมตีที่ริมฝีปากเซี่ยเหล่ยและลูบไล้อยู่ตลอดเวลา
ความคิดของเซี่ยเหล่ยตอนนี้ได้ต่อสู้กันอย่างหนักหน่วง เนื่องจากความคิดนึงก็อยากที่จะปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ แต่อีกความคิดนึงก็คิดไปว่าสิ่งนี้มันไม่ถูกต้องและอย่าปล่อยให้เหตุการณืที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้เลยเถิดไปมากกว่านี้แล้ว อย่างไรก็ตามเขาคิดอย่างหนักและสุดท้ายเขาก็ลุกขึ้นออกมาจากเตียง
จูเสี่ยวหง รู้สึกผิดหวังอย่างมากที่เซี่ยเหล่ยทำแบบนี้เธอได้แต่หลบอยู่ใต้ผ้าห่มและไม่กล้าที่จะมองไปยังเซี่ยเหล่ย
ลักษณะรูปร่างของเซี่ยเหล่ยตอนนี้เขาได้ยืนหันข้างเป็นมุม 90 องศาหันไปทางขวาอยู่ แต่ด้วยความเขินอายเขาก็ได้เอามือปิดส่วนสำคัญของเขาไว้เป็นประกันอีกชั้นว่าไม่ว่ายังไงเธอก็จะไม่เห็นมันอย่างแน่นอนและยังถือว่าโชคดีมากที่สายตาของ จูเสี่ยวหงไม่ได้มองมาที่เซี่ยเหล่ยในตอนนี้
เมื่อพวกเขาทั้งคู่ได้แยกออกจากกันแล้ว เซี่ยเหล่ยก็หันไปพูดอย่างสุขุมและจริงจังกับจูเสี่ยวหงไปว่า “เสี่ยวหง คุณไปสวมเสื้อผ้าซะ”
“ฉันรู้ว่าที่คุณไม่ชอบฉัน เพราะฉันน่าเกลียดใช่มั้ย” จูเสี่ยวหงพูดด้วยอารมณ์โกรธ
เซี่ยเหล่ยหัวเราะแล้วพูดว่า “คุณเป็นคนที่สวยและน่าสนใจมาก แต่……ผมไม่ใช่คนแบบนั้น และคุณก็รู้ว่าผมเพิ่งจะอกหักมา “
“ฉันไม่ได้ต้องการความรักที่จริงจังจากคุณ” จูเสี่ยวหงพูดขึ้น
เซี่ยเหล่ย “…… “
บรรยากาศในห้องในเวลานี้มันเงียบและค่อนข้างที่จะแปลกมาก ทั้งสองคนเงียบและไม่พูดอะไรต่อกันเลย ร่างกายของจูเสี่ยวหงที่ไม่ได้ใส่อะไรเลยก็ได้หลบอยู่ภายใต้ผ้าห่มและเซี่ยเหล่ยที่ยืนอยู่โดยที่ใส่กางเกงเพียงแค่ตัวเดียวและด้วยในตอนนี้เป็นฤดูหนาวและอุณหภูมิที่ต่ำมากทำให้เซี่ยเหล่ยรู้สึกหนาวเข้าไปถึงกระดูก……
“นั่น …… ” เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นเหมือนกับว่าต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็หยุดเอาไว้จากนั้นก็ค่อยๆเดินไปข้างเตียงเพื่อหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาส่วนจูเสี่ยวหงก็ได้ออกจากผ้าห่มและลุกขึ้นจากเตียง จากนั้นเธอก็เดินตรงไปที่ประตู
ขณะนี้เซี่ยเหล่ยต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่างกับเธอเพื่อให้เธอหยุดเดินก่อน แต่สุดท้ายแล้วทั้งปากและลิ้นของเขาก็แข็งจนไม่สามารถที่จะพูดอะไรออกไปได้
การจะเรียกเธอให้หยุดนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมาก แต่สิ่งที่ยากก็คือหลังจากที่เรียกเธอแล้วก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อกับเธอดี ในความเป็นจริงความสุขชั่วขณะนั้นเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจอย่างมาก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นหล่ะเธอจะเป็นอย่างไร เธอเป็นคนที่เรียบง่าย ใจดี และเมื่อเธอเป็นผู้หญิงแบบนี้จึงไม่ควรที่จะไปทำให้เธอแปดเปื้อน
หลังจากเรื่องราวต่างๆผ่านไป คืนนี้เซี่ยเหล่ยก็ยังคงนอนไม่หลับอีกครั้ง ในหัวของเขาเต็มไปด้วยเรือนร่างที่เปลื่อยเปล่าของจูเสี่ยวหง ……
เช้าวันรุ่งขึ้น ฝนไม่ได้ตกแต่ท้องฟ้าก็ไม่ได้สว่างเหมือนในฤดูร้อน มันยังคงมืดมัวอยู่ เซี่ยเหล่ยที่เห็นดังนั้นจึงลุกขึ้นจากเตียงจากนั้นเขาก็ไปฝึกหวิงชุนที่ลานหน้าบ้านต่อ
“พี่เหล่ย สวัสดีตอนเช้า” จูเสี่ยวหงทักทายเซี่ยเหล่ยในตอนเช้าใบหน้าของเธอตอนนี้ยังคงแดงอยู่ขณะที่เธอพูดกับเซี่ยเหล่ยและเห็นได้ชัดว่าเมื่อคืนนี้เองเธอก็คงจะนอนไม่หลับเหมือนกัน
เซี่ยเหล่ยที่กำลังฝึกหวิงชุนอยู่นั้นเมื่อได้ยินเสียงของจูเสี่ยวหง กทำให้เขาเตะและชกอากาศอย่างงุ่มง่ามในทันทีเมื่อได้ยินเสียง จากนั้นเขาก็หยุดฝึกและหันไปพูดกับจูเสี่ยวหงว่า “เสี่ยวหง สวัสดีตอนเช้า”
จูเสี่ยวหงได้เดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าของเซี่ยเหล่ยเมื่อมายืนต่อหน้าของเซี่ยเหล่ย เธอไม่กล้าที่จะมองหน้าของเขาเลยจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “พี่เซี่ย เมื่อคืนนี้ฉัน …… “
เซี่ยเหล่ยยิ้มแล้วพูดว่า “เมื่อคืน เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ? ผมดื่มมาก ผมเลยหลับไปจนถึงเช้ามีอะไรงั้นเหรอหรือว่าเมื่อคืนนี้มีขโมยขึ้นบ้าน “
ใบหน้าของจูเสี่ยวหงยังคงแดงอยู่ “แน่นอนว่าเป็นโจร แต่โจรก็ไม่ได้ขโมยอะไรไปได้เลย โจรมันต้องการที่จะขโมยหัวใจเพียงอย่างเดียวแต่ก็น่าเสียดายที่มันไม่สำเร็จ “
เมื่อได้ฟังคำพูดเช่นนี้แล้วเซี่ยเหล่ยไม่สามารถที่จะยิ้มได้เลยแต่กลับกันจูเสี่ยวหงได้พูดเรื่องนี้ขึ้นมาเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องตลก
หลังจากนั้นผ่านไปพวกเขาก็ไปรับประทานอาหารเช้ากัน หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จก็ได้มีการตอบรับมาจากรัฐบาลท้องถิ่นในเรื่องการลงทุน ทำให้เซี่ยเหล่ยและจูเสี่ยวหงกระตือรือร้นอย่างมากในขณะที่เศรษฐกิจตอนนี้กำลังซบเซาและมีเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้นที่มีการขยายตัวเพื่อการลงทุน
เจ้าหน้าที่ในตอบรับในครั้งนี้ของเซี่ยเหล่ยและจูเสี่ยวหงมีชื่อว่าเซียงไฮ่เป็นผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาท้องถิ่นหลังจากทำความเข้าใจกับสถานการณ์ในตอนนี้แล้วเขาก็พูดขึ้นว่า “ถ้าหากคุณจะเปิดบริษัทที่เป็นสาขาย่อย ก็จะมีเพียงขั้นตอนเล็กน้อยพร้อมกับเอกสารที่จำเป็นและมันใช้เวลาในการดำเนินการไม่นานแต่ถ้าคุณกำลังจะเปิดบริษัทใหม่เลยมันก็จะกินเวลานานหน่อย แต่ถึงนานแค่ไหนก็ไม่เกิน3วันสำหรับการดำเนินการ “
ตอนนี้ภายในใจของเซี่ยเหล่ยกำลังลังเลอยู่ว่าจะเปิดเป็นบริษัทใหม่เลยหรือว่าจะเปิดเป็นสาขาย่อยดี เขาพยายามคิดอยู่พักนึงจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ผู้อำนวยการเซียง ผมจะพูดความจริงกับคุณเนื่องจากว่ามีผู้มีอิทธิพลได้ทำการระงับบริษัทของผมดังนั้นผมต้องการที่จะย้ายบริษัทของผมไปที่อื่นซึ่งถ้าผมจะตั้งโรงงานขึ้นที่นี่เมื่อถึงเวลาจะมีใครมาระงับโรงงานของผมได้อีกหรือไม่? “
เซียงไฮ่ยิ้มก่อนพูดขึ้นว่า “คุณเซี่ย เขตพัฒนาอุตสาหกรรมของเราได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล คุณสามารถมั่นใจได้เลยว่าตราบเท่าที่บริษัทของคุณไม่ได้ผลิตหรือสร้างสิ่งที่ผิดกฏหมายขึ้นมา ผมรับรองได้ว่าจะไม่มีใครมาสร้างปัญหากับคุณที่นี่ได้ “
แม้ว่านี่จะเป็นเพียงแค่คำสัญญาจากลมปากแต่เมื่อเซี่ยเหล่ยได้ยินดังนั้นเขาก็รู้สึกโล่งใจจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ตกลง ถ้าเป็นเช่นนั้นผมตัดสินใจที่จะเปิดบริษัทสาขาย่อยขึ้นที่นี่ อันที่จริงผมชอบที่นี่มากนะ มันเป็นที่ที่ดีจริงๆดังนั้นคุณจัดการเรื่องนี้ได้เลยทันที “
เซียงไฮ่ยืนขึ้นและจับมือกับเซี่ยเหล่ยจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “คุณเซี่ย รอซักครู่หนึ่ง ผมขอตัวไปคุยกับนายกเทศมนตรีซักครู่ “
“เชิญตามสบาย” เซี่ยเหล่ยพูดอย่างสภาพ
หลังจากที่เซียงไฮ่เดินออกจากห้องไปจูเสี่ยวหงก็พูดขึ้นว่า “พี่เหล่ย ไม่คิดให้ดีกว่านี้เหรอ? หลังจากที่เกิดเรื่องนั้นขึ้นแล้ว”
เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นว่า “ไม่มีอะไรที่จะต้องพิจารณาแล้ว ที่นี่มีข้อเสนอและนโยบายที่ดีแถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายและหลีกเลี่ยงปัญหาหลายๆอย่างได้ด้วย “
จูเสี่ยวหงเงียบอยู่ซักพักจากนั้นก็พูดขึ้นด้วยเสียงที่แผ่วเบาว่า “คุณยังคงมานี่ที่อีกใช่มั้ย?”
เซี่ยเหล่ยยิ้มก่อนพูดขึ้นว่า “ที่นี่จะเป็นที่ตั้งของบริษัทของผม ทำไมผมจะไม่มาล่ะ?”
จูเสี่ยวหงแสดงใบหน้าที่ดีใจออกมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มไปว่า “งั้นฉันก็จะอยู่ที่นี่เพื่อช่วยดูแลบริษัทของคุณ”
“ผมจะให้หยินฮ่าวมาช่วยคุณด้วย เขาเป็นคนเก่ง เขาจะช่วยคุณจัดการหลายๆอย่างได้คุณเข้าใจที่ผมพูดใช่มั้ย?” เซี่ยเหล่ยพูดขึ้น
“อื้ม ฉันเข้าใจ” จูเสี่ยวห พูด
“ผมจะต้องออกเดินทางจากที่นี่ในวันพรุ่งนี้เพื่อไปยังเมืองห่ายจู คุณอยู่ที่นี่สามารถโทรหาผมได้ตลอดเวลาแต่ให้จำไว้ว่าต้องให้รัฐบาลท้องถิ่นคอยหาจัดหาผู้ก่อสร้างให้เร็วที่สุด เข้าใจใช่มั้ย?”
จูเสี่ยวหงพยักหน้า
ในเวลานี้เซียงไฮ่เดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “คุณเซี่ยเรามองไปยังที่ดินสำหรับสร้างอาคารให้คุณแล้ว นายกเทศมนตรีของเรากำลังไปที่ถนนเขตพัฒนาอุตสาหกรรม “
เซี่ยเหล่ยยิ้มและพูดขึ้นว่า “วันนี้เป็นวันที่ดีจริงๆ !”
ติดตามตอนต่อไป……….