TXV – 252 หนูติดกับดัก !
เฉินตูเทียนหยินเมื่อมองเห็นกู๋ดิงชานก็ขมวดคิ้วและหน้าผากย่นทันทีแต่มันเป็นเพียงแค่หนึ่งวินาทีเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นเธอก็ยิ้มออกมา พร้อมพูดทักทายไปว่า “ลุงกู๋ คุณกลับมาเมื่อไหร่? ทำไมไม่โทรหาฉันให้ไปรับหล่ะ “
กู๋ดิงชานหัวเราะขึ้นมาจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “เทียนหยิน ผมมาโดยไม่ได้ถูกเชิญคงไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
เฉินตูเทียนหยินตอบกลับไปว่า “ลุงกู๋ ลุงถือว่าเป็นแขกผู้มีเกียรติสำหรับฉันแค่ลุงมา ฉันก็ดีใจมากแล้ว “
กู๋ดิงชานและหลี่หมิงจิงจับมือเพื่อทักทายกันจากนั้นก็พูดขึ้นว่า ” หลี่หมิงจิง ครั้งสุดท้ายที่เราเล่นกอล์ฟด้วยกัน ผมแพ้ให้กับคุณแต่รับรองว่าครั้งหน้าผมจะต้องชนะอย่างแน่นอน “
หลี่หมิงจิงยิ้มจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ไม่มีปัญหา แต่ยังไงครั้งหน้าผมก็ขอชนะเหมือนเดิมนะ”
จากนั้นกู๋ดิงชานก็หันไปจับมือทักทายกับเฮ่อจายหยิงแล้วก็พูดขึ้นว่า ” ครั้งหน้าที่ผมไปมาเก๊า ผมต้องการไปเล่นการพนันที่คาสิโนของคุณ”
เฮ่อจายหยิงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ได้เลย ถ้าคุณมาผมจะไปเล่นกับคุณเอง “
กู๋ดิงชานส่ายหัวจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ผมไม่อยากที่จะเล่นกับคุณหรอกนะ คุณเป็นราชานักพนัน ถ้าผมไปเล่นกับคุณคงมีแต่เสียกับเสียอย่างแน่นอน”
เฮ่อจายหยิงยิ้มตอบโดยไม่ได้พูดอะไรกลับมา
กู๋ดิงชานยังคงทักทายนักธุรกิจอีกมากมาย เขาเองก็เป็นคนสำคัญในวงการธุรกิจนอกจากนี้เขายังมีชื่อเสียงมากกว่าเฉินตูเทียนหยินเสียอีกและมันก็เป็นเรื่องปกติสำหรับสำหรับนักธุรกิจคนอื่นๆด้วยไม่ว่าจะเป็นคนที่มาจากมาเก๊าเองหรือจะเป็นคนของประเทศจีนเองก็ตาม พวกเขามีความสัมพันธ์กันรู้จักกันแบบเป็นวงกลม ซึ่งวงกลมนี้เซี่ยเหล่ยไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะเข้าร่วม
กู๋ดิงชานยังคงเดินทักทายเหล่านักธุรกิจอยู่ เขาทักทายทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นยกเว้นเซี่ยเหล่ยที่เขาไม่ได้ทักและไม่ได้หันไปมองอีกเลยตั้งแต่ที่มองครั้งแรก
เซี่ยเหล่ยเองก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร เขาเองก็ไม่ได้สนใจที่จะทักทายหรือพูดคุยกับ กู๋ดิงชานอยู่แล้วแต่ตอนนี้เซี่ยเหล่ยก็รู้สึกแปลกๆขึ้นมาจากนั้นก็คิดในใจว่า ” กู๋ดิงชานไม่ได้ถูกเชิญมา ดังนั้นการที่เขามาที่นี่เพื่ออะไรกัน เพื่อที่จะให้เราประหลาดใจอย่างนั้นเหรอ?”
กู๋เค่อหวู่ยังคอยมองไปที่เซี่ยเหล่ยในบางครั้งคราว ในทุกๆครั้งที่มองไปที่เซี่ยเหล่ยนั้น เขามักจะแสดงสีหน้าเยาะเย้ยเหมือนต้องการที่จะสื่อไปว่าคุณจะจัดการกับคนที่ยิ่งใหญ่และมีอำนาจแบบพ่อเขาได้อย่างไร?
“เหล่ย เราไปนั่งเถอะ” เฉินตูเทียนหยินพูดขึ้นจากนั้นก็คว้ามือของเซี่ยเหล่ยและลากไป เพราะเธอไม่ต้องการที่จะให้เซี่ยเหล่ยยืนอึดอัดอยู่ตรงนี้
เซี่ยเหล่ยยิ้มแล้วพูดว่า “อือ”
กู๋ดิงชานหันไปที่เซี่ยเหล่ยและเฉินตูเทียนหยินทันทีที่เห็นว่าพวกเขากำลังจะเดินไปพร้อมกับพูดขึ้นว่า “เทียนหยิน เขาเป็นเพื่อนของคุณงั้นเหรอ? ทำไมไม่แนะนำให้ผมรู้จักด้วยหล่ะ? “
เฉินตูเทียนหยินพูดออกไปว่า “นี่แฟนของฉัน ชื่อว่าเซี่ยเหล่ย“
เฉินตูเทียนหยินพูดอย่างเป็นธรรมชาติอย่างมาก เซี่ยเหล่ยได้แต่ทำตัวงุ่มง่ามเก้ๆกังๆอยู่ข้างๆเธอ เซี่ยเหล่ยเองก็คิดไปว่าก่อนหน้านี้ที่ต้องปลอมตัวเป็นแฟนของเธอก็ทำให้มีปัญหาเกิดขึ้นมากมายในชีวิตของเขาแต่ครั้งนี้ยิ่งกว่าครั้งก่อนเพราะดันประกาศความสัมพันธ์ต่อหน้าบรรดาเหล่านักธุรกิจที่มีอิทธิพลในแวดวงมากมาย สิ่งนี้จะต้องสร้างปัญหาอย่างมากมายในวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามเซี่ยเหล่ยไม่ได้โกรธหรือขุ่นเคืองกับการที่เฉินตูเทียนหยินจะพูดว่าเขาเป็นแฟนของเธอเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก เขาเลยคุ้นเคยกับมันแล้ว
“แฟนของคุณงั้นเหรอ? ฮ่าฮ่า… ผมก็คิดว่าเค่อหวู่ของผมจะเป็นแฟนของคุณซะอีก” กู๋ดิงชานพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
เฉินตูเทียนหยินขมวดคิ้วทันทีจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ลุงกู๋ ฉันไม่ชอบการที่คุณพูดแบบนี้เลย “
เฮ่อจายหยิงยิ้มก่อนพูดขึ้นว่า “เทียนหยิน มีผู้ชายตั้งมากมายที่ดีพร้อมทั้งฐานะหรือหน้าตาทางสังคม คุณไม่ควรที่จะคบกับผู้ชายที่ยากจนแบบนั้นหรอก เขาไม่คู่ควรกับคุณหรอก “
จากการกระทำนี้ทำให้เห็นได้ชัดว่าเฮ่อจายหยิงและกู๋ดิงชานมีความสัมพันธ์ที่ดีมากต่อกันนอกจากนี้เฮ่อจายหยิงอาจจะยังรู้เรื่องอะไรบางอย่างเข้าไม่อย่างนั้นเขาคงจะไม่ช่วยกู๋ดิงชานพูดเหยียดว่าเป็น”คนจน” ในเวลานี้และสิ่งที่เขาพูดมานั้นหมายถึงเซี่ยเหล่ยอย่างเห็นได้ชัดในสายตาของนักล่าในวงการธุรกิจก็จะเห็นว่าเซี่ยเหล่ยมีทรัพย์สินแค่เล็กน้อย ยังไงก็ยังเป็นคนจนในสายตาของพวกเขาอยู่ดี
เฉินตูเทียนหยินทำหน้าไม่พอใจจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “พี่เฮ่อ คุณหมายความว่ายังไง? แฟนของฉันมีบริษัทและเขาก็ไม่ใช่คนที่งอมืองอเท้าขอใครกิน เขาตั้งใจทำงานและไม่เคยขอเงินฉันเลยซักครั้ง “
“อืม…ถ้าอย่างนั้นเขากล้าที่จะเล่นพนันกับผมซักเกมมั้ย?” เฮ่อจายหยิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่กำลังยั่วยุ
กู๋เค่อหวู่เล็งเห็นโอกาสที่จะทำลายเซี่ยเหล่ยได้ในที่สุดเขาก็พูดขึ้นว่า “พี่เฮ่อ เซี่ยเหล่ยมีโรงงานเล็กๆที่ผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรอยู่รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆด้วยถึงบริษัทของเขาจะเคยโดนระงับมาก่อนเพราะมีปัญหาเรื่องคุณภาพก็ตาม ผมไม่แน่ใจว่าเขาจะมีเงินจริงหรือเปล่าในตอนนี้ แต่ถ้าเขาจะพนันกับคุณผมก็จะร่วมด้วย “
“ไม่มีเงิน? แฟนของเทียนหยินจะไม่มีเงินได้อย่างไร? ” กู๋ดิงชานพูดพร้อมรอยยิ้มจากนั้นก็พูดต่อว่า ” มันเป็นจำนวนเงินเล็กน้อยแค่หนึ่งหรือสองร้อยล้านเท่านั้น ถ้าเซี่ยเหล่ยที่ไม่มีเงินที่จะเล่นพนันแล้ว เทียนหยินจะใจร้ายไม่ให้เงินเขาเล่นพนันอย่างนั้นเหรอ? “
ตอนนี้ใบหน้าของเฉินตูเทียนหน้าแดงขึ้นมาก เธอรู้สึกหงุดหงิดและโกรธในเวลาเดียวกัน เธอรู้ดีถึงความสามารถและความแข็งแกร่งของเฮ่อจายหยิงในการเล่นการพนัน ถ้าเซี่ยเหล่ยเล่นพนันด้วยก็จะมีแต่เสียกับเสียแต่นอกจากนี้ดูเหมือนว่ากู๋ดิงชานและเฮ่อจายหยิงจะร่วมมือกันเป็นเวลานานก่อนหน้านี้แล้ว ถ้าเซี่ยเหล่ยเดิมพันขึ้นจริงก็จะเท่ากับว่าเป็นแกะที่กำลังวิ่งเข้าปากเสือแต่อย่างไรก็ตามถ้าเซี่ยเหล่ยไม่เดิมพันด้วยก็จะยิ่งทำให้เซี่ยเหล่ยเสียหน้า ดังนั้นเรื่องนี้จึงทำให้เฉินตูเทียนหยินค่อนข้างที่จะหนักใจและอึดอัด!
เซี่ยเหล่ยเองก็ดูจะเข้าใจสถานการณ์เหมือนกันตั้งแต่ในสมัยก่อนที่กู๋ดิงชานได้ก่อตั้งแก๊งนอกกฏหมายขึ้นมาการที่จะเข้าไปยุ่งกับเรื่องผิดกฏหมายก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรและเมืองห่ายจูกับมาเก๊าก็อยู่ห่างกันนิดเดียว ถ้าทั้งคู่ที่เป็นผู้มีอิทธิพลร่วมมือกันแล้วมันก็จะทำให้เรื่องนี้ดูอันตรายอย่างมาก!
เรื่องนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายเลยเพราะเป็นการร่วมมือกันของยอดนักพนันกับผู้ก่อตั้งแก๊งนอกกฏหมายอย่างกู๋ดิงชานมีแนวโน้มอย่างมากที่จะทำให้เซี่ยเหล่ยสูญเสียเงินเป็นจำนวนมากและมันอาจจะเลยเถิดจนอาจจะต้องปิดบริษัทเลยก็ได้ เฉินตูเทียนหยินเองก็อาจจะมีปัญหากับกู๋ดิงชานทางใดทางหนึ่งไม่ว่าจะทางไหนก็มีแต่ปัญหา
“เหล่ย เราไปกันเถอะ” ในที่สุดเฉินตูเทียนหยินที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีเลยพูดขึ้นพร้อมกำลังลากเซี่ยเหล่ยออกไปด้วยเพื่อที่จะได้ตัดปัญหาทั้งหมด
กู๋เค่อหวู่ยิ้มจากนั้นก็พูดว่า “จะกลับไปบ้านแล้วซักเสื้อผ้าหรือทำอาหารอย่างนั้นใช่มั้ย ก็ดีนะกลับบ้านไปแล้วไปเป็นพ่อบ้านซะก็ดีจะได้ไม่ต้องออกมาทำท่าทางอวดดีที่ไหนได้อีก?”
เซี่ยเหล่ยหยุดเดินจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “เทียนหยิน ผมจะเล่นกับพวกเขา “
“คุณ … ” เฉินตูเทียนหยินพูดด้วยท่าทางตกใจเพราะไม่คิดว่าเซี่ยเหล่ยจะตัดสินใจเช่นนี้
เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นว่า “ผมจะเล่น ลึกๆผมเองก็คิดว่ามันน่าสนใจอยู่เหมือนกัน ผมก็สงสัยอยู่ว่าจะสามารถกวาดเอาเงินของพวกเขามาได้เท่าไหร่?”
เฉินตูเทียนหยินได้ขยับตัวเข้าไปใกล้เซี่ยเหล่ยจากนั้นก็กระซิบข้างหูว่า “คุณไม่เห็นงั้นเหรอ? พวกเขาทั้งคู่เป็นนักพนันที่มีประสบการณ์การที่พวกเขาท้าทายเช่นนี้เพราะพวกเขามั่นใจมากและอีกอย่างก็มีหลายคนที่สนใจจะรวยทางลัดตอบตกลงข้อเสนอนี้หรือไม่ก็ใช้บริษัทของตัวเองเป็นหลักประกัน แต่สุดท้ายแล้วเขาก็สูญเสียทุกอย่างในคืนเดียวในขณะที่บริษัทพวกเขาเองก็กำลังไปได้สวย คุณต้องการให้เป็นแบบนั้นเหมือนกันงั้นเหรอ?”
เซี่ยเหล่ยยิ้มแล้วพูดว่า “วางใจเถอะ ผมจะระมัดระวัง”
“คุณเป็นอะไรของคุณ?” เฉินตูเทียนหยินพูดขึ้นด้วยความโกรธและยังพูดต่อว่า “คุณยังมีสติอยู่อีกหรือป่าว?”
เซี่ยเหล่ยพูดอย่างเรียบง่ายว่า “ผมมีสติดีอยู่ เรื่องนี้คุณปล่อยให้ผมจัดการเถอะ”
“คุณ …… ” เฉินตูเทียนหยินพูดขึ้นจากนั้นก็ปล่อยมือของเซี่ยเหล่ย
กู๋ดิงชานหัวเราะจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “นี่สิคนจริง เทียนหยินช่วยหาสถานที่ให้พวกเราหน่อยผมจะได้เล่นกับเซี่ยเหล่ยได้”
เฉินตูเทียนหยินอยากจะปฏิเสธเรื่องนี้แต่ก็ทำไม่ได้ เธอคิดขึ้นซักพักก่อนพูดขึ้นว่า “โอเคพวกคุณมากับฉัน”
ภายใต้การนำของเฉินตูเทียนหยินเหล่านักธุรกิจหลายคนได้มาถึงห้องสำหรับเล่นหมากรุกและเล่นไพ่ ภายในห้องนี้ได้ถูกเตรียมทั้งการพนันหมากรุกและพนันไพ่ไว้เรียบร้อยพร้อมสำหรับเริ่มพนันได้ในทันทีและที่นี่ยังมีเครื่องสล็อต ลูกเต๋า และอีกมากมาย ถูกจัดเอาไว้เพื่อเตรียมพร้อมเหมือนกัน
เมื่อเซี่ยเหล่ยเดินเข้าไปในห้องก็พูดขึ้นว่า “ผมไม่ได้เอาเงินติดตัวมา เงินของผมอยู่ในบัญชีของผม จะเดิมพันยังไง? “
เฮ่อจายหยิงยิ้มจากนั้นก็พูดขึ้นว่า”คุณเซี่ย จะกังวลไปทำไมคุณลืมผมไปได้อย่างไรหล่ะ? ผมเป็นใครคุณก็รู้ ในบัญชีคุณมีเงินเท่าไหร่หล่ะ? ไม่เกินครึ่งชั่วโมงผมสามารถที่จะจัดการให้คุณได้เลย “
เซี่ยเหล่ยตอบไปว่า “ในบัญชีของผมมีอยู่ประมาน 150 ล้านไม่ทราบว่าคุณต้องการจะเล่นเยอะขนาดไหน?”
“150ล้านงั้นเหรอ? งั้นก็คงจะได้ซักสองเกม ” เฮ่อจายหยิงพูดขึ้นด้วยโทนเสียงที่ใหญ่จากนั้นก็ขยับมือเป็นสัญญาณเพื่อให้ลูกน้องของเขาไปอยู่ด้านข้างของเซี่ยเหล่ย
“คุณเซี่ย ผมจะช่วยเหลือคุณเองในเรื่องเอาเงินออกมาจากบัญชีในบัญชีคุณมีอยู่ 150ล้านใช่มั้ย ผมขอแนะนำให้คุณเปลี่ยนมันเป็นเงินสกุลยูโรก่อนเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วถึงจะสามารถใช้เงินนั้นได้ “ลูกน้องของจายหยิงพูด
เซี่ยเหล่ยพยักหน้าจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ตกลง แล้วหลังจากนั้นคุณจะจัดการอย่างไรหล่ะ?”
ลูกน้องของเฮ่อจายหยิงได้เอาคอมพิวเตอร์ออกมาและเปิดมันขึ้นจากนั้นก็พูดว่า “150ล้านเหรียญจีนสามารถแลกเปลี่ยนได้เป็นเงิน 21.186 ล้านยูโรและจะแลกเป็นเงินยูโรอย่างสมบูรณ์ที่ 42,360 คุณมีอะไรขัดข้องหรือไม่? “
เซี่ยเหล่ยตอบกลับไปว่า “ไม่ขัดข้องอะไรว่าแต่จะทำยังไงให้ผมเห็นเงินจำนวนนี้หล่ะ มันอยู่ที่ไหน? “
“แน่นอนว่าเรามีคนจัดการเรื่องนี้โดยเฉพาะ” ลูกน้องของจายหยิงพูดขึ้นจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรออกพร้อมกับพูดว่า “เอาเงินมาที่นี่!!”
จังหวะนี้กู๋ดิงชานเองก็โทรศัพท์ด้วยและพูดอะไรบางอย่าง
เฉินตูเทียนหยินดึงเซี่ยเหล่ยออกไปด้านข้างจากนั้นก็กระซิบพูดว่า “วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับคุณกันแน่? คุณไม่เห็นหรือว่าพวกเขาเตรียมพร้อมมาแค่ไหนแม้แต่เงินพวกเขาก็เตรียมไว้ก่อนแล้วด้วย ดูยังไงมันก็เป็นกับดักชัดๆ “
เซี่ยเหล่ยตอบไปพร้อมรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไร แค่เล่นไพ่ก็เท่านั้นผมจะเล่นแค่นิดเดียว ผมอยากจะเล่นชพวกเขาจริงๆ “
“คุณ …… ” เฉินตูเทียนหยินพูดขึ้นเสียงดังจากนั้นก็พูดต่อว่า “คุณเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ เงินนี้มันมีความสำคัญกับคุณมาก คุณลืมไปแล้วยังงั้นเหรอถ้าคุณเสียเงินนี้ไปคุณจะทำอย่างไรแล้วบริษัทคุณหล่ะจะทำอย่างไรกับมัน? “
เซี่ยเหล่ยตอบไปว่า “ยังไม่ทันจะได้เริ่มเล่นซักหน่อย คุณรู้ได้ยังไงว่าผมจะเสียเงินก้อนนี้และอย่าพูดแบบนี้อีก เค้าถือว่าถ้าพูดเป็นลางมันจะทำให้ส่งผลต่อการเล่นพนันด้วย “
กู๋ดิงชานและเฮ่อจายหยิงได้ยินคำพูดของเซี่ยเหล่ยหลังจากนั้นพวกเขาก็ยิ้มออกมา
เฉินตูเทียนหยินถอนหายใจและพูดอย่างผิดหวังไปว่า “เอาล่ะ แล้วแต่คุณเลย แต่ถ้าคุณเสียหมดตัวแล้ว ฉันจะไม่ให้คุณยืมเงินแน่นอน”.
ติดตามตอนต่อไป……….