Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร – ตอนที่ 269

ตอนที่ 269

TXV – 269 ช้าไปหนึ่งก้าว !

ปีศาจร้ายในตัวใครซักคนนั้นไม่ได้มีมาตั้งแต่กำเนิดแต่อาจจะเกิดขึ้นมาจากการเลี้ยงดูหรือสภาพแวดล้อมหล่อหลอมพวกเขามาเท่านั้น

เมื่อสามปีก่อนแดลนี่เดินผ่านสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้ที่กำลังทรุดโทรมจนน่าตกใจและที่นั่นเต็มไปด้วยเด็กที่ยากจน เมื่อแดลนี่เห็นดังนั้นภายในใจของเขาก็ผุดภาพในอดีตขึ้นมาทันทีและก็ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไรอยู่ก็ทำให้เขาเดินเข้าไปภายในนั้นแต่นั่นก็ทำให้เขาได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้ามามีอิทธิพลในชีวิตของเขา

ผู้หญิงคนนั้นคือซ่างชิงซินและเธอตกหลุมรักกับปีศาจในที่สุด…..

ในโลกของซ่างชิงซิน แดลนี่ไม่ได้เป็นปีศาจแต่อย่างใดเขาเป็นนักลงทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากชาวต่างชาติเขามักจะเดินทางไปในหลายๆที่แต่ทุกๆครั้งที่แดลนี่กลับไปหาเธอนั้นนั่นคือช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดของเธอ มันเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เธอชอบให้แดลนี่อุ้มลูกน้อยของเธอ ‘ซ่างเหยี่ยเหยี่ย’ แล้วยกลอยสูงขึ้น เธอมองว่านี่เป็นภาพที่งดงามที่สุดสำหรับเธอแล้ว

ไม่นานเซี่ยเหล่ยก็ได้เดินทางมาถึงสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาได้เดินไปรอบๆเพื่อที่จะค้นหาว่าสองแม่ลูกนั้นอยู่ที่ไหน สุดท้ายก็พบเธออยู่ในห้องๆหนึ่ง

ในช่วงกลางดึกของคืนนั้นซ่างเหยี่ยเหยี่ยยังไม่อยากที่จะเข้านอน

“แม่…พ่อจะกลับมาเมื่อไหร่?” ที่เตียงเสียงของซ่างเหยี่ยเหยี่ยพูดออกมาพร้อมกับกำลังกระพริบตาขนาดใหญ่สีดำซึ่งดูไร้เดียงสาอย่างมาก

“พ่อของลูกออกไปทำธุระได้ไม่กี่วัน ลูกก็คิดถึงเขาแล้วงั้นเหรอ? “ซ่างชิงซิน สัมผัสที่ศีรษะของซ่างเหยี่ยเหยี่ยอย่างแผ่วเบาจากนั้นก็พูดต่อว่า “รีบนอนเถอะ เดี๋ยวพ่อก็กลับมา”

“ฉันยังไม่อยากนอนเลย ฉันอยากเจอพ่อก่อน” ซ่างเหยี่ยเหยี่ยพูดอย่างไร้เดียงสา

“ไม่เชื่อฟังกันใช่มั้ย!?” ซ่างชิงซินนั่งยองๆและจั๊กจี้เท้าของซ่างเหยี่ยเหยี่ย

“ฮ่าฮ่าฮ่า …… “เสียงหัวเราะของซ่างเหยี่ยเหยี่ยดังอยู่บนเตียง

“จะนอนไม่นอน รีบนอนได้แล้ว” ซ่างชิงซินยังคงจั๊กจี้อยู่

ตาของซ่างเหยี่ยเหยี่ยยังคงเปิดกว้างและถามขึ้นว่า “แม่…ทำไมฉันถึงมีนามสกุลว่าซ่าง ?”

ซ่างชิงซินจึงหยุดจั๊กจี้และตอบคำถามไปว่า “พ่อของลูกบอกว่าถ้ามีลูกผู้หญิงจะให้ใช้นามสกุลของแม่ แต่ถ้ามีลูกผู้ชายจะให้ใช้นามสกุลของพ่อ ลูกเกิดมาเป็นผู้หญิงจึงใช้นามสกุลของแม่แต่บางทีแม่ก็คิดอยากที่จะมีลูกผู้ชายเหมือนกันจะได้มีนามสกุลของพ่อเค้าบ้าง”

“แล้วทำไมเด็กที่นี่ไม่มีพ่อและแม่กันหล่ะ?” ซ่างเหยี่ยเหยี่ยถามอีกครั้ง

“พ่อและแม่ของพวกเขาไม่ต้องการให้พวกเขาเกิดมาหรือด้วยเหตุผลอื่นๆดังนั้นพวกเขาจึงอาศัยอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า” ซ่างชิงซินตอบ

“ฉันเองก็อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแต่ทำไมฉันถึงมีพ่อและแม่หล่ะ?” ซ่างเหยี่ยเหยี่ยถามอีกครั้ง

“เด็กโง่…นอนได้แล้ว ถ้าไม่นอนแม่จะตีก้นแล้วนะ ” ซ่างชิงซินพูดขึ้นเพื่อตัดบท

“แม่…ฉันคิดว่าพ่อ …… ” ซ่างเหยี่ยเหยี่ยถามแต่ยังไม่ทันจะจบซ่างชิงซินก็ตีไปที่ก้นของซ่างเหยี่ยเหยี่ยเสียก่อน

ในห้องเล็กๆตอนนี้เต็มไปด้วยเสียงของการตีไปที่ก้นด้วยความรักและความอบอุ่นของผู้เป็นแม่

ภายนอกหน้าต่างในหัวใจของเซี่ยเหล่ยเต็มไปด้วยความรู้สึกแปลกๆ ผู้หญิงคนนั้นก็กำลังรอผู้ชายซึ่งเป็นคนรักกลับมา ส่วนลูกสาวของเธอก็รอการกลับมาของพ่อของเธอเช่นกันแต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าสถานการณ์ของแดลนี่ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

เซี่ยเหล่ยลังเลอยู่ชั่วขณะแต่หลังจากนั้นเขาก็เดินไปเคาะประตูทันที

“ใครหน่ะ?” เสียงของซ่างชิงซินพูดขึ้นด้วยความตื่นตัว

เซี่ยเหล่ยจึงตอบไปว่า “นั่นคุณซ่างชิงซินใช่มั้ย?”

“ใช่…แล้วคุณเป็นใคร? เข้ามาที่นี่ได้ยังไง? “ซ่างชิงซินพูดด้วยความตึงเครียด

เซี่ยเหล่ยตอบว่า “อย่าเพิ่งตื่นกลัวหรือกระวนกระวายไป ผมไม่ใช่คนไม่ดี ผมเป็นเพื่อนของแดลนี่และผมมีบางอย่างจะบอกเลยรีบมาหาคุณ “

“คุณเป็นเพื่อนแดลนี่งั้นเหรอ? แต่ฉันไม่เคยเห็นเพื่อนของเขาเลย ” ซ่างชิงซิน พูดโดยที่เธอยังไม่ได้เปิดประตูและก็ยังพูดต่อว่า” คุณกลับไปซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะกดสัญญาณเตือนภัย “

เซี่ยเหล่ยพูดว่า “แดลนี่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแต่เขายังผ่าตัดไม่ได้เพราะต้องการลายเซ็นยินยอมจากญาติเท่านั้นดังนั้นถ้าคุณไม่ไปเซ็นชื่อยินยอม เขาก็จะไม่ได้รับการผ่าตัดและจะตายในที่สุด “

ประตูได้ถูกเปิดออกอย่างรวดเร็วพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ที่ประตู เธอมีผิวสีแทนเล็กน้อย สัดส่วนร่างกายของเธอเป็นเหมือนกับคนจีนทั่วๆไป

“ตามผมมา” เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นและพูดต่อว่า “แต่เอ่อ…สถานการณ์ของแดลนี่ตอนนี้ไม่สู้ดีนักดังนั้นเอาลูกของคุณไปด้วยจะดีกว่า”

“คุณรอก่อน” ซ่างชิงซินพูดด้วยอาการตื่นตระหนกจากนั้นเธอก็รีบเข้าไปข้างในและอุ้มซ่างเหยี่ยเหยี่ยขึ้นมาจากนั้นเธอก็เดินไปพร้อมกับเซี่ยเหล่ย

“แม่เกิดอะไรขึ้นกับพ่อ?” ซ่างเหยี่ยเหยี่ยถามแม่ของเธอเพราะเธอยังมีอายุแค่สามขวบจึงยังไม่รู้ว่าอุบัติเหตุทางรถยนต์เป็นอย่างไร

ซ่างชิงซินได้เช็ดน้ำตาก่อนพูดขึ้นว่า “ตอนนี้เราจะไปหาพ่อกัน”

“เยี่ยมไปเลย ฉันอยากเจอพ่อแล้ว! คิกคิก…… “ซ่างเหยี่ยเหยี่ยพูดและหัวเราะด้วยความตื่นเต้นและดีใจ

เซี่ยเหล่ยถอนหายใจเบาๆพร้อมกับเปิดประตูรถจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “เชิญขึ้นรถ“

ซ่างชิงซินและซ่างเหยี่ยเหยี่ยได้เข้าไปนั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับส่วนเซี่ยเหล่ยเองก็เข้าไปนั่งที่คนขับ จากนั้นเซี่ยเหล่ยก็ขับรถออกไปตรงออกไปยังประตูของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

ประตูหน้าของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเปิดอยู่ก่อนแล้วแต่ไม่มียามที่คอยเฝ้าประตูอยู่บริเวณนั้นเลย

ซ่างชิงซินมองไปที่เซี่ยเหล่ยแล้วพูดขึ้นอย่างตื่นตัวว่า “คุณเข้ามาได้อย่างไร?”

นี่เป็นการถามที่ตื่นตัวของเธอเป็นครั้งที่สองเพราะก่อนหน้านี้เธอกำลังตกใจอยู่กับการที่เซี่ยเหล่ยพูดว่าแดลนี่ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จึงทำให้เธอลืมตัวไปชั่วขณะแต่ตอนนี้เพราะประตูเปิดอยู่แต่ไม่มียามเฝ้าประตูออกมาคอยเปิดปิดก็ทำให้เธอเกิดความตระหนกขึ้นมาอีกครั้ง

เซี่ยเหล่ยไม่ได้ตอบกลับอะไรไป เขาได้เหยียบคันเร่งของรถ SUV ต่อไป

“ให้ฉันลงเดี๋ยวนี้!” ซ่างชิงซินพูดด้วยอาการตื่นตระหนกและพูดขึ้นต่อว่า “ไม่อย่างนั้นฉันจะโทรไปแจ้งความ!”

เซี่ยเหล่ยไม่ได้สนใจคำพูดของเธอ เขายังคงขับรถของเขาต่อไป

ซ่างชิงซินดึงโทรศัพท์ขึ้นมาและเตรียมที่จะโทรไปแจ้งความ

เซี่ยเหล่ยดึงโทรศัพท์จากมือของซ่างชิงซินทันทีแล้วพูดอย่างดุดันว่า “คุณใจเย็นก่อน ผมไม่ได้มาเพื่อที่จะทำร้ายคุณแต่ผมมาเพื่อช่วยคุณ!”

ซ่างชิงซินที่รู้สึกกลัวในตอนนี้ เธอได้ร้องไห้ออกมาพร้อมพูดขึ้นว่า “พี่ชาย ปล่อยฉันและลูกไปเถอะนะ ฉันไม่มีเงินให้คุณหรอกสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าของเราไม่ได้มีเงินทองอะไรเลย ฉันขอร้องละนะ ปล่อยฉันไปเถอะ…… ”

เมื่อซ่างชิงซินร้องไห้ออกมาก็ทำให้ซ่างเหยี่ยเหยี่ยร้องไห้ตามไปด้วย

เมื่อเซี่ยเหล่ยเห็นน้ำตาของเธอแล้วความคิดของเขาก็ผุดขึ้นว่าต้องการที่จะบอกความจริงทั้งหมดแต่…….ในที่สุดแล้วเขาก็ไม่สามารถที่จะพูดมันออกไปได้

การที่จะบอกความจริงกับซ่างชิงซินและซ่างเหยี่ยเหยี่ยเกี่ยวกับแดลนี่นั้นมันค่อนข้างที่จะอึดอัดใจสำหรับเซี่ยเหล่ยเป็นอย่างมากเพราะซ่างชิงซินจะรับได้หรือไม่ที่รู้ว่าแฟนหนุ่มของเธอเป็นนักฆ่าและความรู้สึกของซ่างเหยี่ยเหยี่ยจะรู้สึกอย่างไรที่ได้รู้ความจริงเกี่ยวกับพ่อของตัวเองและในอนาคตสิ่งที่เด็กคนนี้จะได้เจอมันคงจะสาหัสมาก เพื่อนๆที่โรงเรียนของเธอจะต้องพูดกันถึงเรื่องนี้แล้วเธอจะใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างไร? นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขาไม่ได้พูดความจริงออกมา

“หยุดร้อง !” เซี่ยเหล่ยตะคอกเล็กน้อยและพูดต่อว่า “ไม่อย่างนั้น….”

เซี่ยเหล่ยยังไม่ทันจะได้พูดข่มขู่ว่าอะไรแต่ซ่างชิงซินก็ได้ปิดปากเงียบและหยุดร้องไห้ส่วนซ่างเหยี่ยเหยี่ยยังคงร้องไห้อยู่ ด้านซ่างชิงซินที่เห็นว่าลูกของเธอเองยังร้องไม่หยุดก็ได้เอามือไปปิดปากเอาไว้เพราะกลัวว่าเสียงร้องของเด็กจะไปกระตุ้นความโกรธให้กับเซี่ยเหล่ยที่ตอนนี้เธอคิดว่าเป็นคนร้ายอยู่

เมื่อออกมาได้ไม่ไกลเซี่ยเหล่ยก็หยุดรถที่ข้างถนนและมองย้อนกลับไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแองเจิลล์

ซ่างชิงซินพยายามจะเปิดประตูรถแต่ไม่เป็นผลเพราะประตูตอนนี้ถูกล็อคเอาไว้

เซี่ยเหล่ยพูดว่า “อย่าทำอะไรโง่ๆ ผมอยู่ที่นี่ตอนนี้เพื่อช่วยคุณ ลองมองไปข้างหลังดูสิ “

ซ่างชิงซินหันหน้ากลับไปดูตามที่เซี่ยเหล่ยพูดในเวลานี้รถโตโยต้าสีดำจำนวนหนึ่งที่ได้ขับตามรถบูร์กาติเวร่อนส์จอดอยู่ตรงบริเวณทางเข้าของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแองเจิลล์ จากนั้นก็มีกลุ่มชายใส่ชุดดำทยอยกันออกมาจากรถจำนวนมากและตรงไปยังประตูทางเข้าของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแองเจิลล์อย่างรวดเร็ว นี่เป็นครั้งแรกของซ่างชิงซินที่ได้พบกับกู๋เค่อหวู่

“พวกเขา…… เป็นใคร?” ซ่างชิงซินถามขึ้นอย่างสงสัย

เซี่ยเหล่ยตอบไปว่า “พวกคนร้าย ถ้าสุดท้ายแล้วผมมาช้าไปทั้งคุณและลูกก็จะตกอยู่ในมือของพวกเขา พวกเขาจะใช้คุณในการบีบคับให้แดลนี่ทำตามคำสั่งของเขา ดังนั้นได้โปรดเชื่อใจผมว่าผมมาที่นี่เพื่อปกป้องคุณไม่ได้คิดจะทำร้ายคุณและผมจะพาคุณไปหาแดลนี่เอง “

“ทำไมฉันต้องเชื่อใจคุณ?” ซ่างชิงซินพูดขึ้นและยังคงระมัดระวังตัว

เซี่ยเหล่ยจึงตอบกลับไปว่า “คุณไม่มีทางเลือกหรอกนะ”

“คุณ…ถ้าคุณบอกว่าคุณกำลังปกป้องพวกเราอยู่ดังนั้นคุณควรจะไปส่งฉันที่สถานีตำรวจ ฉันจะยินดีมาก” ซ่างชิงซินพูด

ตอนนี้เซี่ยเหล่ยได้สตาร์ทรถขึ้นมาแต่ยังไม่ได้เปิดไฟหน้ารถ เขาได้ขับตรงไปยังทิศทางของโรงงานทางทหารของเขา

ชายชุดดำที่ลงมาจากรถได้ตรงไปยังบริเวณป้อมยามทางเข้าของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอย่างเงียบๆแล้วแอบดูเข้าไปภายในจากนั้นก็รายงานสถานการณ์ให้กู๋เค่อหวู่ฟังว่า “ นายน้อยหวู่ ดูเหมือนว่ายามจะหลับเป็นตายเลย”

“งั้นก็ปล่อยเขาไป เราเข้าไปหาเป้าหมายกันได้แล้ว” กู๋เค่อหวู่พูดขึ้น

สิ้นเสียงคำสั่งของกู่เค่อหวู่บรรดาชายชุดดำได้กระจายตัวกันออกไปเพื่อค้นหา ซ่างชิงซินและซ่างเหยี่ยเหยี่ยตามแต่ละห้อง

ตอนนี้กู๋เค่อหวู่ยืนอยู่ตรงบริเวณสนามเด็กเล่นเล็กๆของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ไม่นานเขาก็หันหน้าไปที่ประตูจากนั้นคิ้วเขาก็ย่นทันที เขาสงสัยว่าทำไมประตูตอนนี้ถึงยังไม่ปิดและก่อนหน้านี้ช่วงเวลาที่เขาเพิ่งมาถึงมันก็ถูกเปิดกว้างอยู่ ในหัวของเขากำลังคิดถึงความเป็นจริงข้อนี้

“แย่แล้ว!” กู๋เค่อหวู่พูดกับตัวเองและรีบวิ่งไปที่ป้อมยาม

เมื่อไปถึงป้อมยาม กู๋เค่อหวู่ก็หาน้ำมาหนึ่งถังและสาดไปที่ยามทันทีไม่นานยามก็ลืมตาขึ้นและพบว่ากู๋เค่อหวู่ยืนอยู่หน้าเขา

เมื่อเห็นว่ายามรู้สึกตัวแล้วกู๋เค่อหวู่ก็ได้เดินเข้าไปกระชากคอเสื้อยามขึ้นมา จากนั้นก็ตะคอกถามไปว่า “เมื่อกี้มีใครเข้ามาที่นี่? “

ยามพูดขึ้นด้วยความงุนงงและกลัวว่า “คุณ …… คุณต้องการอะไร?”

“ไม่ได้ยินงั้นเหรอ พูดมาเดี๋ยวนี้!” กู๋เค่อหวู่ยังคงตะคอกและผลักยามคนนั้นลงไปที่เตียง

“ผม…ผมไม่รู้…ผมเห็นแค่คุณ คุณ…คุณต้องการจะทำอะไร” ยามคนนั้นพูดขึ้นด้วยความตระหนกแต่จู่ๆเขาก็นึกอะไรบางอย่างได้เขาจึงหยิบเงินขึ้นมาจากนั้นก็ยื่นให้กู๋เค่อหวู่พร้อมพูดขึ้นว่า “ผมมีแค่นี้ คุณเอาไปเลยแต่ได้โปรดอย่าทำอะไรเด็กๆเลยนะ”

กู๋เค่อหวู่ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็มีชายชุดดำคนหนึ่งรีบวิ่งมาและพูดขึ้นว่า “นายน้อยหวู่ เราหาจนทั่วแล้วแต่ก็ไม่พบแม่ลูกคู่นั้นเลย”

“ว่าไงนะ!!” กู๋เค่อหวู่พูดขึ้น

เมื่อครู่นี้ที่เขาแค่คิดสงสัยว่าทำไมประตูถึงได้เปิดกว้างไว้ตั้งแต่แรกและทำไมมันถึงไม่ยอมปิดด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่านี่จะมีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้สองแม่ลูกนั้นหายไป!

ไม่นานหลังจากนั้นบรรดาชายชุดดำก็ทยอยกันมาและพูดขึ้นว่า “นายน้อยหวู่ พวกเราหาจนทั่วแล้วแต่ไม่เจอเลย เราจะทำอย่างไรต่อดี?”

ทันใดนั้นในหัวของกู๋เค่อหวู่ก็นึกถึงภาพของเซี่ยเหล่ยขึ้นมาโดยอัตโนมัติ นั่นทำให้จิตใจของเขาในตอนนี้ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนี่เป็นเรื่องที่อธิบายได้ยากมากเพราะเรื่องการมีตัวตนของภรรยาและลูกสาวของแดลนี่ไม่น่าจะมีใครรู้ได้ ตัวเขาเองก็เพิ่งจะรู้เมื่อครู่นี้แต่ทำไมเซี่ยเหล่ยถึงรู้เรื่องนี้และดำเนินการทุกอย่างนำหน้าไปหนึ่งก้าว ทำไมกัน! ทำไมกัน!

“ นายน้อยหวู่ เราจะทำอย่างไรกันต่อ?” ชายชุดดำขึ้นหนึ่งถามขึ้นอีกครั้ง

กู๋เค่อหวู่เริ่มตะโกนขึ้นอย่างบ้าคลั่งและพูดตะคอกออกไปว่า “ยังจะยืนเฉยกันอยู่ทำไม? ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนในเมืองชิงตู่ออกไปตามหาสองแม่ลูกนั่นมาให้ได้ ไป! “

เหล่าบรรดาชายชุดดำเมื่อได้ยินคำพูดของกู๋เค่อหวู่แล้วรู้สึกค่อนข้างที่จะตกใจ เพราะในเมืองชิงตู่มันใหญ่มากและมีประชากรมากถึง20ล้านคนแล้วเราจะไปหาสองแม่ลูกเจอได้อย่างไรกัน?

ติดตามตอนต่อไป…………….

Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร

Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร

Status: Ongoing

เซี่ยเหล่ยสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เด็กเขาจึงต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อดิ้นรนเอาตัวรอดและสิ่งที่สำคัญเขาต้องเลี้ยงดูน้องสาวของเขา แต่อยู่มาวันหนึ่งก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้น

เขาประสบอุบัติเหตุในโรงงานซึ่งทำให้ตาของเขาบอดแต่หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลเขาก็รู้ได้ทันทีเลยว่าตาเขาไม่ได้บอดแต่มันมีความสามารถพิเศษเพิ่มขึ้นมา !!

ในตอนนี้เขากำลังจะใช้ความสามารถพิเศษที่เขาได้มาในทางชั่วร้ายเพื่อสร้างชีวิตของเขาและน้องสาวให้ดีขึ้นเหมือนคนอื่นๆ

เซี่ยเล๋ยจะประสบความสำเร็จในการทำสิ่งชั่วร้ายกับพลังที่เขาเพิ่งค้นพบหรือไม่ ?

ข้าจะเป็นคนกำหนดชะตาชีวิตของข้าเอง !!!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท