หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เฉินตูเทียนหยินก็พาเซี่ยเสวียไปที่ห้องของเธอซึ่งถูกเตรียมไว้ก่อนหน้านี้แล้วหลังจากนั้นเซี่ยเหล่ยและเฉินตูเทียนหยินก็กลับไปนั่งที่ห้องนั่งเล่น
ก่อนหน้านี้ในขณะที่กำลังรับประทานอาหารค่ำ เฉินตูเทียนหยินมีท่าทางที่สดใสและร่าเริงแต่เมื่อหลบออกมาจากผู้คนและอยู่คนเดียว ท่าทางและสีหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ใบหน้าของเธอหม่นหมอง เธอขมวดคิ้วตลอดเวลาดูเหมือนจะมีเรื่องบางอย่างที่ทำให้เธอหนักใจและไม่สบายใจ
เธอไม่สามารถมีความสุขได้ในช่วงเวลานี้
แม้ว่าในประเทศจีนจะมีหลายคนที่ยักยอกทรัพย์สินของรัฐและเป็นเรื่องปกติที่เจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบจะต้องมีเรื่องกับนักธุรกิจ มันเป็นปัญหาที่มีมานานแล้วอย่างไรก็ตามการลงโทษของผู้ที่ยอกยอกทรัพย์สินของรัฐนั้นรุนแรงมาก ซึ่งทรัพย์สินของกู่เค่อหวู่ที่เฉินตูเทียนหยินได้มาโดยง่ายนั้นตอนนี้มันกลายเป็นมีดที่พร้อมจะสบั้นคอของเธอได้ตลอดเวลา!
เทียนหยิน ผมไม่เข้าใจคุณเลย ทำไมคุณถึงต้องการทรัพย์สินเหล่านั้นอีกหล่ะในเมื่อคุณก็มีเยอะแล้ว? เซี่ยเหล่ยถามด้วยความสงสัย
ฉันมีมากแล้วก็จริงแต่ที่ฉันทำไปเพราะต้องการยกระดับบริษัทเหวี้ยนเทียนให้มีความเป็นสากลมากกว่าที่เป็นอยู่เพื่อไปต่อสู้กับบริษัทชั้นนำระดับโลกไม่ว่าจะเป็น Apple, Microsoft หรือ General Electric ก็ตาม เพราะถ้าฉันได้ทรัพย์สินเหล่านั้นมา มันจะกลายเป็นรากฐานที่ดีให้กับฉันในอนาคตและตอนนั้นฉันก็คิดว่ากู๋เค่อเหวินต้องการช่วยฉันจริงๆฉันก็เลย…
เธอเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานและฉลาดหลักแหลม เธอรู้ว่ามันไม่ง่ายที่จะทำให้บริษัทเหวี้ยนเทียนมีระดับเทียบเท่ากับบริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง Apple, Microsoft หรือ General Electric อาจจะพูดได้ว่าทำได้แค่เพียงฝันก็เท่านั้นแต่อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ใช่ว่าจะหมดหนทางเลยซะทีเดียว การได้ทรัพย์สินโดยการช่วยเหลือของกู๋เค่อเหวินนั้นสามารถยกระดับให้กับบริษัทเหวี้ยนเทียนขึ้นไปได้อีกขึ้น ดังนั้นในเมื่อโอกาสก็มาถึงแล้ว เธอจึงคว้าโอกาสเอาไว้ทันที
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเธอจะมีความทะเยอทะยานซึ่งเป็นเรื่องที่ดีแต่เพราะเรื่องเดียวกันนี้ก็ทำให้เธอตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นกัน
เซี่ยเหล่ยเข้าใจเธอดีแต่อย่างไรก็ตามในตอนนี้เขายังไม่มีวิธีแก้ปัญหาดังนั้นเขาจึงพูดขึ้นก่อนว่า เทียนหยิน ผมเองก็ต้องการให้บริษัทของผมก้าวขึ้นเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกด้วยเช่นกัน ผมจึงเข้าใจความคิดของคุณดีแต่ผมไม่คิดจะใช้วิธีที่ผิดเลย เพราะถ้าเราทำผิดตั้งแต่เริ่ม มันจะส่งผลกระทบในอนาคตอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามถ้าเรื่องยกระดับบริษัทมันไกลเกินเอื้อม คุณก็ควรจะพอใจกับสิ่งที่คุณมีเพียงแค่นี้ก็น่าจะพอแล้วนะ
ฉันรู้และเข้าใจในสิ่งที่คุณพูดมาแต่ชีวิตคนเรามันสั้นนัก ฉันมีฝันของฉันซึ่งมันก็คือการทำให้บริษัทเหวี้ยนเทียนก้าวขึ้นเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกดังนั้นฉันพร้อมที่จะเสี่ยงเพื่อทำให้ฝันของฉันเป็นจริง เฉินตูเทียนหยินพูด
แล้วคุณจะไม่เสียใจงั้นเหรอแม้ว่าสิ่งที่คุณทำไปมันจะส่งผลร้ายแรงกับคุณ? เซี่ยเหล่ยถาม
เฉินตูเทียนหยินส่ายหน้าก่อนจะพูดว่า ไม่ ฉันจะไม่เสียใจ
เซี่ยเหล่ยแอบถอนหายใจเงียบๆคนเดียว เขารู้ว่าเขาสามารถโน้มน้าวใจของเฉินตูเทียนหยินได้แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ มันจะต้องใช้เวลาหน่อย
เฉินตูเทียนหยินโอบแขนของเซี่ยเหล่ยก่อนจะพูดอย่างอ่อนโยนว่า Hubby คุณจะช่วยให้ฉันผ่านเรื่องราวครั้งนี้ไปได้หรือไม่? เซี่ยเหล่ยยิ้มก่อนจะพูดว่า คุณคือภรรยาของผม เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ปัญหาของคุณก็เหมือนกับปัญหาของผม ดังนั้นทำไมผมจะไม่ช่วยหล่ะ ไม่ต้องกังวล…ผมจะช่วยจัดการเรื่องนี้ให้คุณเอง
คุณ…จะฆ่าเธอหรือเปล่า? เฉินตูเทียนหยินถามน้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความกังวล
เธอเข้าร่วมกับซีไอเอซึ่งทำให้สถานะของเธอกลายเป็นบุคคลที่หักหลังประเทศชาติอีกอย่างสำนักงานลับ101 ก็ไม่ต้องการให้เธอมีชีวิตอยู่อีกต่อไปเช่นกัน ดังนั้นถ้าผมเจอเธอ ผมจะฆ่าเธอแน่นอน เซี่ยเหล่ยตอบ
เอาหล่ะ ฉันจะไม่ถามเรื่องนี้อีกดีกว่า มันน่ากลัวเกินไปที่จะคิดถึงผลลัพธ์ เฉินตูเทียนหยินพูดพร้อมกับเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเซี่ยเหล่ย
ผมรู้ว่าตอนนี้กู๋เค่อเหวินอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นแต่มันก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะหาเธอให้พบ เซี่ยเหล่ยเล่าสถานการณ์โดยคร่าวๆให้กับเฉินตูเทียนหยินฟัง ก่อนจะพูดต่ออีกว่า ดังนั้นคุณต้องเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้น
เลวร้ายที่สุดงั้นเหรอ? เฉินตูเทียนหยินพูดพร้อมกับกัดริมฝีปากก่อนจะพูดต่ออีกว่า คุณหมายถึงคุกใช่มั้ย?
ผมจะไม่ปล่อยให้คุณต้องเข้าไปอยู่ในคุกแน่นอนแม้ว่ากู๋เค่อเหวินจะเปิดเผยหลักฐานต่อสาธารณะหรือสื่อแล้วก็ตามก่อนที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบ ผม….ผมจะหาวิธีหยุดเรื่องนี้เอาไว้ให้ได้ เซี่ยเหล่ยพูดอย่างหนักแน่นแม้ว่าในใจเขาจะไม่แน่ใจว่าจะสามารถทำได้ตามที่พูดจริงหรือเปล่า
รอยยิ้มเล็กๆปรากฏที่ริมฝีปากของฉฺนตูเทียนหยินก่อนที่จะมองไปที่เซี่ยเหล่ยด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและเคารพ
แต่ในทางกลับกันเซี่ยเหล่ยในตอนนี้รู้สึกไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่กับเรื่องนี้ เขาบอกกับเธอว่าจะจัดการกับหลักฐานก่อนที่ตำรวจจะทำการสืบสวน แต่นั่นคือในกรณีที่เขาใช้อำนาจโดยมิชอบ ในขณะนี้เขาจะมีไพ่ในมืออยู่สองใบหนึ่งคือเรื่องของโรงงานผลิตอาวุธและสองคือโครงการ Alloy X แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยไพ่ทั้งสองใบนี้ก็ไม่แน่ใจว่าจะช่วยเหลือเธอได้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้นเขาจึงรู้สึกไม่ค่อยดีและสบายใจซักเท่าไหร่
Hubby เราอย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องที่ทำให้เป็นกังวลตอนนี้เลยดีกว่า ไปเข้านอนกันเถอะ เฉินตูเทียนหยินหันไปพูดกับเซี่ยเหล่ย
อืม เป็นความคิดที่ดี เราอย่าเพิ่งพูดถึงมันในตอนนี้เลยดีกว่า เซี่ยเหล่ยพูด
จังหวะเดียวกันนี้เฉินตูเทียนหยินก็ปีนขึ้นไปบนตัวของเซี่ยเหล่ยก่อนจะใช้มือของเธอกดหน้าอกของเซี่ยเหล่ยให้ล้มตัวลงไปบนตียง จากนั้นเธอก็ขึ้นไปขี่บนตัวของเซี่ยเหล่ยและ…..
ขณะที่พวกเขากำลังจะบรรเลงบทเพลงรักนั้น เสียงริงโทนจากโทรศัพท์มือถือของเฉินตูเทียนหยินก็ดังขึ้น
ใครโทรมาในเวลานี้? เฉินตูเทียนหยินพยายามที่จะเมินเฉยต่อเสียงริงโทนที่ดังอยู่ขณะนี้ แต่อย่างไรก็ตามมันยังคงดังไม่หยุดจนเธอทนไม่ไหวต้องคลานไปหยิบโทรศัทพ์ขึ้นมาดูทันที
เป็นเบอร์โทรที่โทรมาจากประเทศญี่ปุ่น เฉินตูเทียนหยินพูดด้วยความประหม่าก่อนจะพูดต่อว่า หรือว่าจะเป็นเธอ?
เซี่ยเหล่ยรีบลุกขึ้นจากเตียงทันทีก่อนที่จะพูดว่า รับสายพร้อมกับเปิดสปีกเกอร์โฟน
เฉินตูเทียนหยินรับสายพร้อมกับเปิดสปีกเกอร์โฟนก่อนจะพูดว่า สวัสดี นั่นใครพูด?
เป็นเสียงของผู้หญิงดังมาจากลำโพงของโทรศัพท์ว่า ไม่ได้คุยกันนานเลยนะเฉินตูเทียนหยิน คุณเป็นยังไงบ้าง?
มันเป็นเสียงที่ทั้งเซี่ยเหล่ยและเฉินตูเทียนหยินคุ้นเคย มันคือเสียงของกู๋เค่อเหวิน
เฉินตูเทียนหยินเหลือบมองไปที่เซี่ยเหล่ยก่อนจะพูดว่า คุณมีอะไรจะพูดกับฉันงั้นเหรอกู๋เค่อเหวิน
ดูคุณจะหอบๆอยู่นะ เพิ่งทำกิจกรรมที่ออกเหงื่อมาสินะ กู๋เค่อเหวินพูดเยาะเย้ย
แก้มของเฉินตูเทียนหยินเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อยแต่อย่างไรก็ตามเธอก็พูดอด้วยความรำคาญออกไปว่า หยุดพล่ามอะไรไร้สาระได้แล้ว มีอะไรอยากจะพูดก็พูดมา
เซี่ยเหล่ยอยู่กับคุณด้วยหรือไม่? กู๋เค่อเหวินถาม
เซี่ยเหล่ยชะงักไปครู่หนึ่ง เธอยังไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพราะไม่รู้ว่าจะพูดความจริงหรือโกหกดี
การที่ฉันโทรหาคุณในครั้งนี้ไม่ใช่เพราะต้องการคุยกับคุณหรอกนะ แต่ฉันต้องการพูดกับเซี่ยเหล่ย กู๋เค่อเหวินพูดก่อนจะพูดต่ออีกว่า เซี่ยเหล่ย ฉันรู้ว่าคุณอยู่ตรงนั้นกับเธอด้วย หยุดซ่อนตัวได้แล้ว เรามาพูดกันดีกว่า เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นทันทีว่า ผมเซี่ยเหล่ยพูด คุณต้องการอะไร?
ฮ่าฮ่าฮ่า…คุณอยู่ที่นั่นจริงๆ กู๋เค่อเหวินหัวเราะก่อนจะพูดต่อว่า เซี่ยเหล่ย คุณกำลังสนุกอยู่บนเตียงกับเฉินตูเทียนหยินสินะ ผิดกับฉันจริงๆที่ต้องมาผจญภัยตัวคนเดียวในดินแดนต่างถิ่น ด้วยความอ้างว้างที่ฉันกำลังเผชิญในตอนนี้ทำให้ฉันคิดถึงวันเก่าๆจริงๆ พ่อของฉัน พี่ชายของฉันและฉัน พวกเราเคยมีอำนาจ พวกเราอยากได้อะไรก็ต้องได้ นี่เป็นความทรงจำที่ดีของฉันในตอนนั้น แต่ตอนนี้…ทุกครั้งที่ฉันนึกถึงมัน หัวใจของฉันก็รู้สึกเจ็บปวดเหมือนกับโดนมืดนับพันกำลังทิ่มแทงหัวใจ มันเจ็บมากจริงๆ
เซี่ยเหล่ยรีบขัดจังหวะคำพูดของกู๋เค่อเหวินทันทีว่า ผมไม่มีเวลามาฟังเรื่องราวที่ยืดยาวของคุณหรอกนะ ถ้าไม่มีธุระอะไรผมจะวางสายแล้ว
ถ้าคุณวางสาย พรุ่งนี้คุณก็จะพบว่าพาดหัวข่าวของทุกหน้าหนังสือพิมพ์จะมีแต่เรื่องราวของเธอ กู๋เค่อเหวินพูดขู่
เฉินตูเทียนหยินคว้าหมอนพร้อมกับบีบมันอย่างรุนแรง เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังโกรธ!
เซี่ยเหล่ยเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า อย่ามาพูดจาไร้สาระ คุณต้องการอะไรก็ว่ามา?
แน่นอน ฉันต้องการพี่ชายของฉัน คุณต้องปล่อยพี่ชายของฉันแลกกับหลักฐานของเฉินตูเทียนหยินที่ฉันมีในตอนนี้ กู๋เค่อเหวินพูดถึงสิ่งที่เธอต้องการ
เซี่ยเหล่ยขมวดคิ้วก่อนที่จะพูดว่า นี่คุณกำลังล้อผมเล่นอยู่หรือเปล่า? พี่ชายของคุณถูกตัดสินจำคุกไปแล้ว ผมจะช่วยเขาออกมาได้ยังไงกันหล่ะ?
ถ้าเป็นคนอื่นก็คงไม่สามารถทำได้แต่ถ้าเป็นคุณ คุณสามารถทำได้แน่นอน ฉันเชื่อว่าคุณหาทางออกได้ กู๋เค่อเหวินพูดจบก็หัวเราะอย่างไรก็ตามเธอพูดต่ออีกว่า เซี่ยเหล่ย คุณคิดว่าเฉินตูเทียนหยินต้องการแต่งงานกับคุณเพราะเธอชอบคุณอย่างนั้นเหรอ? เธอเป็นผู้หญิงที่ฉลาดกว่าที่คุณคิดหลายเท่าดังนั้นฉันจะบอกอะไรให้คุณฟังนะ สิ่งที่เธอต้องการจากคุณหลังจากแต่งงานไม่ใช่ตัวคุณแต่มันคือความสามารถทั้งหมดที่คุณมีต่างหาก เธอต้องการคุณเพราะคุณเป็นคนเดียวที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการทั้งหมดของเธอได้และมีเพียงคุณเท่านั้นที่จะทำตามคำขอของเธอ
หุบปาก! เฉินตูเทียนหยินตะโกนขึ้นมาทันทีด้วยความไม่พอใจก่อนจะพูดต่ออีกว่า กู๋เค่อเหวิน คุณต้องการอะไรก็บอกมาแค่นั้น ทำไมต้องมาทำให้พวกเราแตกคอกันด้วย ฉันรักสามีของฉันและมันมั่นคงมากกว่าที่คำพูดของเธอจะมาทำให้ความรักของเราสั่นคลอน
พวกเราก็เป็นผู้หญิงด้วยกันทั้งคู่ คุณคิดว่าฉันดูไม่ออกงั้นเหรอว่าคุณต้องการอะไร กู๋เค่อเหวินพูดพร้อมหัวเราะเยาะเย้ย
เฉินตูเทียนหยินต้องการที่จะเถียงกับกู๋เค่อเหวินมากกว่านี้ แต่เซี่ยเหล่ยก็ใช้นิ้วชี้แปะที่ริมฝีปากของเธอเพื่อไม่ให้เธอพูดก่อนที่ตัวเขาเองจะพูดขึ้นว่า กู๋เค่อเหวิน เรามาเจรจาในสิ่งที่เป็นไปได้กันดีกว่า บอกมาว่าคุณต้องการเท่าไหร่?
เท่าไหร่งั้นเหรอ? กู๋เค่อเหวินพูดพร้อมกับระเบิดหัวเราะออกมากันที เธอหัวเราะอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะเงียบและพูดต่อว่า ฉันเป็นคนของตระกูลกู๋ที่เคยมีทรัพย์สินมากมายเช่นเดียวกับตระกูลเฉินตู ฉันไม่ได้ต้องการเงินแต่ถ้าคุณให้ฉันเสนอก็จะอยู่ที่ราวๆห้าสิบล้านหยวน
เซี่ยเหล่ยควบคุมอารมณ์ของตัวเองไว้ไม่ได้จึงตะโกนออกไปทันทีว่า คุณจะโลภเกินไปแล้วกู๋เค่อเหวิน!