ห้านาทีต่อมา
เสี่ยวฉีที่เดินออกจากร้านกาแฟพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสและมีความสุข เธอยิ้มให้กับผลตอบแทนที่เธอจะได้หลังจากการนำสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าใบนี้ไปให้กับเย่คุนผู้เป็นเจ้านายของเธอ
ขณะเดียวกันนี้เสี่ยวฉีที่เดินไม่ระมัดระวังเพราะกำลังเพ้อฝันถึงผลตอบแทนที่กำลังจะได้ทำให้เธอเดินชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งตรงทางเดินจนกระเป๋าหลุดจากมือ
ชายคนนั้นแข็งแรงมาก เขาสามารถคว้าตัวของเสี่ยวฉีที่กำลังจะล้มไม่ให้ล้มลงไปได้
เสี่ยวฉีหันไปมองหน้าของผู้ชายคนนั้น เธอรู้สึกตกใจเล็กน้อยเพราะผู้ชายคนนั้นมีใบหน้าที่หล่อมาก นอกจากนี้รูปร่างของเขาก็ดูดีมีเสน่ห์ ท่าทางของเขาก็ดูเป็นผู้ใหญ่และดูเซ็กซี่ยิ่งไปกว่านั้นเขายังใส่ชุดของ Giorgio Armani นาฬิกาข้อมือก็เป็นของ PatekPhilippe ที่ผลิตขึ้นมาจำนวนจำกัด โดยรวมแล้วเขาดูสง่าและดูแต่งตัวมีระดับอย่างมาก
พวกเขาสบตากันทันใดนั้นหัวใจของเสี่ยวฉีก็เริ่มเต้นเร็วขึ้น
ความเป็นผู้ใหญ่ที่ดูเซ็กซี่ ความสง่างาม ความสำเร็จ ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะตามหาผู้ชายตามที่ว่ามานี้
คุณไม่เป็นอะไรใช่มั้ย? ชายคนนั้นถามด้วยความเป็นห่วง เขายังคงโอบเอวของเธอเอาไว้อยู่ ท่าทางของพวกเขาในตอนนี้ดูเหมือนกับการเต้นละตินอย่างมาก
ฉันไม่เป็นไร คุณ… เสี่ยวฉีพูดใบหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะเธอยังอยู่ในอ้อมกอดของเขาทำให้เธอรู้สึกเขินและรู้สึกประหม่า
โอ้ ผมขอโทษ ชายคนนั้นรีบพูดพร้อมกับปล่อยเธอ
ในขณะที่เขากำลังพูดและปล่อยเธอนั้น เขาก็อาศัยความเร็วแอบหย่อนอะไรบางอย่างที่มีขนาดเล็กลงไปในชุดสูทของเธอ มันเร็วมากจนเสี่ยวฉีไม่รู้สึกอะไร
ขณะเดียวกันนี้เสี่ยวฉีก็รู้สึกว่าในมือไม่มีกระเป๋าเอกสารอยู่ เธอก็รีบก้มลงไปหยิบมันขึ้นมาทันที
ชายผู้นั้นยิ้มอย่างอบอุ่นก่อนจะพูดว่า ผมอยากเป็นเพื่อนกับคุณ ผมขอเบอร์โทรศัพท์ของคุณได้มั้ย
เสี่ยวฉีชะงักไปทันที เธอทำตัวไม่ถูกเลย หัวใจของเธอเต้นแรงอย่างมากแต่อย่างไรก็ตามเธอพยายามปิดบังความรู้สึกเอาไว้พร้อมกับพยายามพูดให้ดูเป็นปกติที่สุดว่า นี่เป็นวิธีที่คุณใช้มาตลอดหรือเปล่า? เราไม่รู้จักกันและคุณก็ต้องการเบอร์โทรศัพท์ของฉัน หวังว่าคุณคงไม่ได้คิดว่าฉันเป็นผู้หญิงแบบนั้นหรอกนะ
ผู้ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความจริงใจว่า ผมต้องการเป็นเพื่อนและรู้จักกับคุณจริงๆ
อย่างนั้นเหรอ? เสี่ยวฉีพูด ชายคนนั้นหยิบกระเป๋าเงินออกมาแล้วเปิดมันออก ภายในมีภาพถ่ายที่ดูเก่าๆถูกเก็บเอาไว้ มันเป็นภาพที่มีผู้ชายและผู้หญิงยืนยิ้มอยู่ด้วยกัน พวกเขาทั้งคู่ยืนอยู่ด้านหน้าของปิรามิดของประเทศอียิปต์
เสี่ยวฉีมองไปที่ผู้หญิงในภาพอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ชะงักและอ้าปากค้างในทันที เพราะผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนเธอมากถึง 70 ถึง 80% เลยทีเดียว สิ่งที่แตกต่างจากเธอคือผู้หญิงในรูปนี้ดูแก่กว่าเล็กน้อยเท่านั้น
ชายคนนั้นถอนหายใจพร้อมกับดวงตาของเขาที่ดูแสดงความรู้สึกเจ็บปวดออกมา เขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า ชื่อของเธอคือ เคียวกะ มินาโกะ เธอเป็นแฟนของผม… แต่เราถูกลอบโจมตีเมื่อสองปีก่อนในอิรักและเธอก็เสียชีวิตลงที่นั่น
แฟนของคุณเป็นคนญี่ปุ่นงั้นเหรอ? เสี่ยวฉีถามด้วยความประหลาดใจ
ทันใดนั้นผู้ชายคนนั้นก็โค้งคำนับให้กับเสี่ยวฉีหนึ่งครั้งก่อนจะพูดว่า ผมเองก็เป็นคนญี่ปุ่นด้วย ผมชื่อ คาโต้ ทากาสุเกะ ตอนนี้ผมทำการค้าระหว่างประเทศอยู่ ผมมาที่ประเทศจีนเพื่อทำธุรกิจ ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่าผมจะมาพบคุณซึ่งคล้ายกับแฟนของผมมาก ให้โอกาสผมได้เป็นเพื่อนกับคุณได้หรือไม่?
เสี่ยวฉี หัวเราะคิกคักก่อนจะพูดว่า คุณดูพูดภาษาจีนได้คล่องมาก มันน่าเหลือเชื่อจริงๆที่คุณบอกว่าตัวเองเป็นคนญี่ปุ่น
ชายคนนั้นพูดภาษาญี่ปุ่นทันทีว่า ผมชอบวัฒนธรรมจีนมาตั้งแต่ผมยังเด็ก ผมเริ่มเรียนภาษาจีนตั้งแต่ตอนนั้น อีกอย่างผมเองก็มีเชื้อสายจีนด้วยเพราะแม่ของผมก็เป็นคนจีน
เสี่ยวฉีชะงักเล็กน้อย เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดเลย
ชายคนนั้นพูดต่อเป็นภาษาจีนว่า ให้โอกาสกับผมได้รู้จักกับคุณได้หรือไม่?
เอาล่ะ ฉันเห็นถึงความจริงใจของคุณแล้ว นี่คือนามบัตรของฉัน วันนี้ฉันเลิกงานตอนห้าโมง เสี่ยวฉีพูดพร้อมส่งนามบัตรให้กับชายคนนั้น
นามบัตรของเธอเขียนชื่อเต็มไว้ว่า เย่ เสี่ยวฉี ถัดออกไปก็มีเบอร์โทรศัพท์ของเธอ
ชายคนนั้นเก็บนามบัตรไว้พร้อมกับพูดว่า ขอบคุณนะคุณเย่
เสี่ยวฉียิ้มมุมปากก่อนจะพูดว่า เรียกฉันว่าเสี่ยวฉีก็ได้ เย็นนี้ฉันจะรอคุณโทรมานะ ตอนนี้ต้องขอตัวก่อน ฉันไปก่อนนะคุณ คาโต้ ทากาสุเกะ
ชายคนนั้นยิ้มก่อนจะพยักหน้าเขามองดูเย่เสี่ยวฉีเดินข้ามถนนและตรงเข้าไปยังสำนักงานของบริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่น
จู่ๆเสียงโทรศัพท์ของผู้ชายคนนั้นดังขึ้นพอดี
ชายคนนั้นหยิบโทรศัพท์ออกมาพร้อมกับรับสาย เขาพูดแค่ประโยคเดียวว่า ให้ฮู่ฮุย 400,000 จากนั้นก็ไปซ่อนตัวซะ
ผู้ชายที่เซ็กซี่และดูเป็นผู้ใหญ่คนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือเซี่ยเหล่ย เย่คุนและมู๋เจียนเฟิงเล่นเกมส์สอดแนมกับเขามาแล้วถึงสองครั้ง ครั้งนี้เขาจึงอยู่เฉยไม่ได้แล้ว เขาจึงเริ่มเป็นฝ่ายรุกก่อนบ้าง
การที่เขาโดนสอดแนมถึงสองครั้ง ถ้าเขาไม่แสดงฝีมือหรือทำอะไรเลยคงจะเสียชื่อเจ้าหน้าที่ของสำนักงานลับ 101 เอาได้
ก่อนหน้านี้เซี่ยเหล่ยได้ค้นหาว่าใครเป็นเลขาคนปัจจุบันของเย่คุน ส่วนรูปถ่ายและชื่อในภาษาญี่ปุ่นของเขาที่บอกกับเธอไปนั้น เขาก็เอาตัวตนที่สำนักงานลับ 101 สร้างขึ้นให้กับเขามาใช้ก่อนกำหนด อย่างไรก็ตามหลังจากนี้เขาก็จะนำตัวตนนี้ไปใช้อีกครั้งตอนทำภารกิจในประเทศญี่ปุ่น
เซี่ยเหล่ยวางสายพร้อมกับเดินเข้าไปในร้านกาแฟ เขาเดินไปที่โต๊ะที่หวู่บิงเคยนั่งและทำการแลกเปลี่ยน เขานั่งลงที่นั่นและสั่งลาเต้หนึ่งแก้วหลังจากพนักงานเสิร์ฟเดินออกไปเซี่ยเหล่ยก็แอบดึงกล้องรูเข็มที่แอบซ่อนไว้ที่โต๊ะเก็บใส่ในกระเป๋าของเขา
ก่อนหน้านี้เขาสั่งให้หวู่บิงเลือกสถานที่แห่งนี้รวมไปถึงที่นั่งที่ตรงนี้ในการแลกเปลี่ยนเพราะต้องการบันทึกภาพการแลกเปลี่ยนของพวกเขาเอาไว้
การแลกเปลี่ยนระหว่างหวู่บิงและเสี่ยวฉีถูกบันทึกไว้เรียบร้อยแล้ว เขามีทั้งภาพเคลื่อนไหวและเสียงจากการบันทึกนี้ ซึ่งมันเป็นไปตามแผนการของเซี่ยเหล่ยทุกอย่าง
ไม่นานพนักงานเสิร์ฟก็นำลาเต้มาเสิร์ฟให้กับเซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยรับลาเต้มาก็ยกดื่มทันที ในขณะที่กำลังดื่มเขาก็มองไปที่ฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นบริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่นที่มีเย่คุนเป็นเจ้าของ ในขณะนี้เขาไม่รู้ว่าเย่คุนอยู่ไหนและกำลังทำอะไร แต่อย่างไรก็ตามเขาเพียงแค่รอเวลาเพราะเขาแอบติดเครื่องดักฟังเอาไว้ที่เสี่ยวฉีไปแล้ว
เซี่ยเหล่ยจิบลาเต้พร้อมกับรอฟังการสนทนาระหว่างเสี่ยวฉีกับเย่คุนอยู่เงียบๆ
เย่เสี่ยวฉีเดินออกจากลิฟต์และตรงไปที่ห้องทำงานของประธานบริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่นทันทีอย่างไรก็ตามขณะที่กำลังเดินไปนั้น เธอก็อดที่จะคิดไม่ได้เลยว่า ‘นี่เป็นโชคโชคชะตาของฉันหรือเปล่านะ ฉันกำลังจะได้ผลตอบแทนก้อนใหญ่ แถมตอนนี้ฉันก็ได้พบกับปลาตัวใหญ่อีกด้วย เขาเป็นถึงนักการค้าระหว่างประเทศ จากชุดที่เขาใส่ก็บอกได้ว่ามีฐานะพอสมควร แถมเขาทั้งยังหล่อและดูเซ็กซี่อีกด้วย วันนี้เป็นวันที่โชคดีจริงๆ ‘
เย่เสี่ยวฉีเดินมาถึงประตูหน้าห้องของเย่คุนก่อนจะเคาะประตูสามครั้ง
เข้ามา เสียงของคุณดังมาจากในห้อง
เย่เสี่ยวฉีสูดหายใจลึกๆและกลับเข้าสู่โหมดการทำงานก่อนจะผลักประตูเข้าไปพร้อมกับพูดว่า ท่านประธาน ผู้อาวุโสมู๋ ฉันนำสิ่งที่พวกคุณกำลังต้องการมาแล้ว ฉันตรวจสอบแล้วด้วยว่ามันคือของจริง
เร็วเข้า เอามาดูเดี๋ยวนี้เลย เย่คุนพูดอย่างตื่นเต้น
แผนภาพถูกนำออกมาวางไว้บนโต๊ะ มันเป็นแผนภาพการออกแบบปืนไรเฟิลจู่โจมGust ทุกๆแผ่นมีตัวเลขสัดส่วนกำกับเอาไว้เรียบร้อย
เย่คุนและมู๋เจียนเฟิงหยิบแต่ละแผ่นขึ้นมาดูอย่างละเอียด
ไม่กี่นาทีต่อมา เย่คุนก็หัวเราะเสียงดังพร้อมกับพูดว่า แม้ว่าเซี่ยเหล่ยจะเป็นคู่แข่งของเรา แต่ผมต้องขอยอมรับเลยว่าเขาเป็นอัจฉริยะด้านการออกแบบอาวุธจริงๆ
มู๋เจียนเฟิงเองที่ระมัดระวังตัวอย่างมากในการสังเกต เขาใช้เวลาอยู่พักใหญ่ก็เชื่อว่าแผนภาพเหล่านี้เป็นของจริง
ไม่จำเป็นต้องให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบแล้ว เย่คุนเราสามารถผลิตปืนไรเฟิลจู่โจมรุ่นนี้ได้เลยทันที มู๋เจียนเฟิงพูดก่อนจะพูดว่า นี่จะเป็นปืนไรเฟิลจู่โจมรุ่นใหม่ที่เราทั้งสองบริษัทช่วยกันออกแบบ คุณเลือกชื่อมาเลยว่าจะตั้งว่าอะไร
เย่คุนมองไปที่มู๋เจียนเฟิงด้วยความว่างเปล่าทันที อาจารย์ เอ่อ… เย่คุนพูดแต่ก็พูดไม่จบ อันที่จริงเขาไม่ต้องการจะแบ่งผลประโยชน์เรื่องนี้ให้กับใคร แต่เขาไม่สามารถปฏิเสธมู๋เจียนเฟิงได้เพราะเขานับถือมู่เจียนเฟิงเป็นอาจารย์และถือว่าเขาก็เป็นผู้มีพระคุณคนหนึ่ง
มู๋เจียนเฟิงรู้ว่าเย่คุนต้องการจะพูดอะไร เขาจึงพูดขึ้นว่า เราสองคนติดสินบนให้พวกเขาเป็นสายลับในโรงงานผลิตอาวุธของเซี่ยเหล่ย สายลับของคุณประสบความสำเร็จแต่ของผมไม่ ถ้าอย่างนั้นบริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่นจะได้รับไป 60% ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมจีนจะได้ไป 40% โอเคมั้ย?
เย่คุนลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่ในที่สุดก็พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า โอเค ตกลงตามนั้น คุณคือผู้มีพระคุณของผม ผมยอมได้
ฮ่าฮ่าฮ่า เอาหล่ะถือว่าเป็นอันว่าตกลง มู๋เจียนเฟิงพูดพร้อมหัวเราะ
อาจารย์ เนื่องจากว่ามันเป็นการร่วมมือกันของบริษัทเราทั้งสอง ดังนั้นผมจะตั้งชื่อปืนไรเฟิลจู่โจมนี้ว่าเฉิงหวู่ ชื่อนี้เอาหนึ่งคำมาจากบริษัทของพวกเรา เย่คุนพูด
เฉิงหวู่ เฉิงหวู่ …ผมชอบนะ งั้นเราจะตั้งชื่อมันว่า เฉิงหวู่ มู๋เจียนเฟิงพูดอย่างมีความสุขก่อนจะพูดต่ออีกว่า ผมจะทำเรื่องการจดสิทธิบัตรทันที เราจะได้ใช้สิทธิบัตรนี้ตัดโอกาสความได้เปรียบของเซี่ยเหล่ย
เยี่ยมไปเลยอาจารย์ ทุกๆอย่างเข้าทางเราหมดเลย! เย่คุนพูด
มู๋เจียนเฟิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับกดโทรออก
ขณะนี้เย่คุนก็เหลียวมองไปที่เย่เสี่ยวฉีพร้อมกับพูดว่า คุณมัวยืนทำอะไรอยู่? กลับไปทำงานของคุณได้แล้ว
ฉัน… เย่เสี่ยวฉีต้องการจะพูดอะไรบางอย่างแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกมา
โอ้ใช่แล้ว ครั้งนี้คุณทำได้ดีมาก ผมจะให้แผนกการเงินสั่งจ่ายเงินรางวัลให้กับคุณ 50,000 หยวน เย่คุนพูดแน่นอนเขารู้ว่าเธอต้องการจะพูดอะไร
50,000 งั้นเหรอ? เย่เสี่ยวฉีพูดพร้อมกับจินตนาการของเธอที่พังทลายลง
เย่คุนขมวดคิ้วก่อนจะพูดว่า คุณพูดเหมือนกับว่ามันน้อยเกินไปอย่างนั้นเหรอ?
ไม่ไม่ ไม่เลย…ฉันจะกลับไปทำงานของฉันเดี๋ยวนี้ ขอบคุณประธานเย่ เย่เสี่ยวฉีพูดทิ้งท้ายก่อนจะหันหลังเดินออกไปพร้อมกับสาปแช่งเย่คุนทันทีว่า ‘บ้าเอ๊ยย! ฉันช่วยให้คุณได้แผนภาพที่สำคัญมากขนาดนี้ แต่คุณกลับให้รางวัลกับฉันแค่ 50,000 หยวนแค่นั้นเหรอ? ฉันเป็นขอทานในสายตาคุณใช่มั้ย? ขอแช่งให้ครอบครัวของคุณไม่มีวันเจริญ ขอให้พวกเขาตายทั้งหมด! คุณเองก็ขอให้เกิดอุบัติเหตุ หลังเลิกงานวันนี้ได้เลยยิ่งดี!’
ผู้หญิงเป็นเพศที่เจ้าคิดเจ้าแค้นมากกว่าที่ผู้ชายจะคิดได้…..