Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร – 495 น้ำหล่อเลี้ยงชีวิต !

495 น้ำหล่อเลี้ยงชีวิต !

  จากตำแหน่งที่จัดตั้งบูธและขนาดของพื้นที่บูธนั้น ถ้าจะมีผู้คนหัวเราะเยาะพวกเขาก็ไม่น่าแปลกใจเลย

  เซี่ยเหล่ยที่เดินนำหน้าเข้าไปในงานพร้อมกับเข็นรถเข็นที่บรรทุกกล่องลังไม้ซึ่งบรรจุปืนไรเฟิลซุ่มยิง XL2500 และปืนไรเฟิลจู่โจม Gust อยู่เต็มคันรถเข็น ด้านหลังของเขาก็มีพนักงานของโรงงานเข็นเอากล่องลังไม้ที่บรรจุปืนไรเฟิลซุ่มยิงและปืนไรเฟิลจู่โจมตามเขามาติดๆเช่นกัน

  เมื่อไปถึงบูธของตัวเอง เขาก็วางกล่องที่บรรจุทั้งปืนไรเฟิลซุ่มยิง XL2500 และปืนไรเฟิลจู่โจม Gust ไว้บนโต๊ะที่ทางผู้จัดงานจัดเตรียมไว้ให้ก่อนจะเปิดฝากล่องออก เซี่ยเหล่ยตัดสินใจที่จะตั้งโชว์อาวุธของบริษัทของเขาในลักษณะแบบนี้

  อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถนำปืนทั้งสองชนิดที่นำมาแสดงออกมาตั้งโชว์ทั้งหมดได้เพราะมีขนาดพื้นที่ไม่มากพอ

  การจัดบูธในแบบนี้ไม่แตกต่างจากการจัดผักเพื่อขายในตลาดสดเลย!

   ผู้อำนวนยการเซี่ย การจัดบูธแบบนี้ดูไม่น่าสนใจเลย  พนักงานหญิงคนหนึ่งพูดพร้อมกับเสนอความคิดต่อว่า  เราสามารถใช้กล่องลังไม้ที่นำมาเป็นเคาน์เตอร์สำหรับจัดวางอาวุธของเราได้ นอกจากนี้มันคงจะดึงดูดผู้คนได้ไม่น้อยเลยถ้าบูธของเรามีสาวๆแต่งตัวเซ็กซี่ยืนเป็นพรีเซ็นเตอร์  

   การใช้กล่องลังไม้เป็นความคิดที่ดี เอาตามนั้นเลย แต่เรื่องพรีเซ็นเตอร์ไม่จำเป็นหรอกนะ  เซี่ยเหล่ยตอบพนักงานหญิงคนนั้นไป

  หลังจากนั้นพนักงานหญิงคนนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เนื่องจากการที่เธอเสนอเรื่องพรีเซ็นเตอร์นั้น เธอเตรียมใจที่จะนุ่งน้อยห่มน้อยเพื่อดึงดูดความสนใจให้กับแขกภายในงานแล้วแต่เนื่องจากคำพูดของเจ้านายเธอทำให้เธอไม่สามารถพูดอะไรต่อได้อีก!   ฉิงเสวียงที่ยืนอยู่ข้างเซี่ยเหล่ยก็พูดขึ้นว่า  คำแนะนำของผู้หญิงคนนั้นก็ไม่เลวเลยนะ สถานที่ตรงนี้ไม่ใช่จุดที่ใครที่ไหนจะเดินมา มันจะมีแค่ไม่กี่คนที่รู้ว่ามีเราอยู่ตรงนี้ มันจะดีกว่านี่ถ้าเราให้มีผู้หญิงแต่งตัวเซ็กซี่คอยเป็นพรีเซ็นเตอร์เพื่อดึงดูดลูกค้า 

  เซี่ยเหล่ยหัวเราะก่อนจะพูดว่า  พวกคุณเป็นห่วงเรื่องนี้กันมาเลยงั้นเหรอ? แต่ไม่มันเห็นจำเป็นเลยนี่เพราะเราเอาแบนเนอร์มาด้วย เอามันไปวางแขวนไว้ตรงนั้นสิ คนจะได้เห็นกัน 

  ฉิงเสวียงยักไหล่หนึ่งครั้งด้วยท่าทางที่หมดหวัง ดูเหมือนเธอเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้และต้องยอมแพ้ให้กับเซี่ยเหล่ย

  อย่างไรก็ตามแบนเนอร์ที่เซี่ยเหล่ยพูดถึงนี้เป็นเพียงแผ่นผ้าที่ทำอย่างง่ายๆโดยมีตัวหนังสือเขียวเอาไว้ว่า  โรงงานผลิตอาวุธ  แค่นั้นเอง

  ด้วยสิ่งที่เซี่ยเหล่ยกำลังทำในตอนนี้ทำให้ฉิงเสวียงอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าเขากำลังจะทำอะไรกันแน่!

  เช่นเดียวกับที่พนักงานคนอื่นๆต่างก็สงสัยว่าทำไมเซี่ยเหล่ยถึงทำแบบนี้

   เอ่อ…มันจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมที่เราทำกันแบบนี้  พนักงานหญิงพูดขึ้นด้วยความไม่แน่ใจ

   ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น ทำตามที่ผมบอกก็พอแล้ว  เซี่ยเหล่ยพูดกับเธอ

  หลังจากนั้นพนักงานหญิงคนนั้นกับเพื่อนของเธออีกคนก็เดินออกไปแจกโบว์ชัวตามจุดต่างๆเพื่อเป็นการโฆษณาและเชิญชวนทั้งแขกภายในงานและผู้สื่อข่าวให้มายังบูธของเขา

  ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่เซี่ยเหล่ยวางเอาไว้!

  ฉิงเสวียงมองไปที่เซี่ยเหล่ยก่อนจะพูดว่า  มันจะไปได้สวยงั้นเหรอ? 

  มันเป็นคำถามเดียวกันกับที่พนักงานหญิงคนนั้นถามแต่ครั้งนี้เซี่ยเหล่ยอธิบายไปว่า  ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรอก ผมได้กำชับให้พนักงานของเราให้โฆษณาออกไปว่าโรงงานของเราไม่ได้มีดีแค่ปืนไรเฟิลซุ่มยิงที่ดีที่สุดในโลก แต่ยังมีปืนไรเฟิลจู่โจมที่ทันสมัยที่สุดในโลกอีกด้วย คุณคิดว่าพวกเขาจะสนใจเราขึ้นบ้างหรือเปล่าจากคำโฆษณานี้? แน่นอนว่าไม่มากก็น้อยและเมื่อมีทั้งแขกในงานและผู้สื่อข่าวทยอยมาที่บูธของเราและได้เห็นถึงประสิทธิภาพของปืนว่ามันมีมากแค่ไหน พวกเขาก็จะกระจายข่าวให้กับเราเอง 

  ฉิงเสวียงเข้าใจความคิดของเซี่ยเหล่ยทั้งหมดแล้ว เธอหัวเราะพร้อมกับพูดว่า  ถือว่าเป็นแผนที่ดี ถ้าเป็นแบบนี้ฉันคงไม่ต้องกังวลอะไรอีกแล้ว 

  บริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่นและกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนได้ร่วมมือกันเพื่อทำลายโรงงานผลิตอาวุธของเซี่ยเหล่ยในการจัดนิทรรศงานครั้งนี้โดยเฉพาะ พวกเขาดูถูกว่าเซี่ยเหล่ยจะต้องจบอนาคตแค่เพียงเท่านี้ แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่าเซี่ยเหล่ยรู้ทุกอย่างที่พวกเขาคิดและทำและยังเตรียมแผนรับมือเอาไว้หมดทุกอย่างแล้วด้วย!

  หลังจากนั้นฉิงเสวียงก็เดินไปที่บูธพร้อมกับเรียกพนักงานหญิงที่อยู่ใกล้ๆบริเวณนั้นให้ไปตกแต่งกล่องลังไม้ที่ใช้เป็นเคาน์เตอร์สำหรับวางอาวุธ เธอต้องการให้มันดูสวยงามและน่ามองมากขึ้น

   นี่เป็นความคิดที่ดี คุณเสวียง ตอนนี้บูธของเราดูดีขึ้นมากจริงๆ  พนักงานหญิงคนหนึ่งพูด

  ฉิงเสวียงหัวเราะด้วยความชอบใจก่อนจะพูดว่า  มันดูมีชีวิตชีวาขึ้นจริงๆสาวน้อย! มันดูให้ความอบอุ่นและเป็นมิตรเมื่อลูกค้าเดินเข้ามาที่บูธของเรา 

   ใช่แล้ว คุณเสวียง  พนักงานหญิงคนนั้นพูดเสริม

  ในไม่ช้าพนักงานหญิงที่ไปแจกโบว์ชัวก็กลับมาแต่พวกเธอกลับมาโดยไม่มีใครตามมาด้วยเลยแม้แต่คนเดียวนอกจากนี้พวกเธอยังกลับมาพร้อมกับใบหน้าที่บึ้งตึง  เซี่ยเหล่ยขมวดคิ้วก่อนจะถามพวกเธอว่า  เกิดอะไรขึ้น ทำไมเป็นแบบนี้หล่ะ? พวกคุณได้ทำตามที่ผมบอกหรือเปล่า? 

   ผู้อำนวยการเซี่ย พวกเขากลั่นแกล้งพวกเรา!  พนักงานคนหนึ่งพูด

   มันเกิดอะไรขึ้น? บอกผมมา  เซี่ยเหล่ยถาม

   บริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่นและกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนคอยจับตาดูพวกเราอย่างใกล้ชิด พวกเขากีดกันไม่ให้พวกเราเข้าไปหาลูกค้า นอกจากนี้ขณะที่กำลังแจกนามบัตร พวกเขาก็จะเข้ามาขัดจังหวะจนพวกเราไม่สามารถเชิญลูกค้ามาที่นี่ได้  พนักงานคนหนึ่งพูด

   ยังมีอีก  พนักงานหญิงอีกคนพูดเสริมก่อนจะพูดว่า  ผู้อำนวยการเซี่ย พวกเขาวางป้ายชี้ไปด้านที่อยู่ตรงกันข้ามกับเรา นอกจากนี้ยังเขียนว่าให้ไปใช้ห้องน้ำที่นั่น แม้ว่ามีบางคนที่จะเดินมาทางบูธของเราแต่พวกเขาก็ห้ามไว้     ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว!  ฉิงเสวียงระเบิดอารมณ์ออกมาก่อนจะพูดต่อว่า  ฉันต้องไปคุยกับพวกเขาซักหน่อยแล้ว! 

  เซี่ยเหล่ยหยุดฉิงเสวียงที่กำลังจะเดินออกไปพร้อมกับพูดขึ้นว่า  ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปคุยกับพวกเขา มันไม่ต่างอะไรกับการไปพูดกับหมูกับหมาหรอก 

   งั้นจะปล่อยไว้แบบนี้หรอ? ฉันไม่ยอมเด็ดขาด!  ฉิงเสวียงพูดด้วยความโมโห

  ในขณะนั้นเย่เสี่ยวฉีก็มาเดินมาที่บูธของเซี่ยเหล่ยพร้อมกับใครบางคน

   โอ้ นี่คือบูธของโรงงานผลิตอาวุธของคุณงั้นเหรอ?  พูดเยาะเย้ยก่อนจะพูดต่อว่า  ผู้อำนวยการเซี่ย ทำไมคุณไม่จัดการบูธของคุณให้ดูดีกว่านี้หล่ะ บูธของคุณนี่มันไม่ต่างอะไรกับการขายของในตลาดสดเลยนะ 

  ฉิงเสวียงกำลังจะออกไปตอบโต้แต่ก็โดนเซี่ยเหล่ยหยุดเอาไว้

   คุณมาที่นี่เพราะเย่คุนส่งมาเยาะเย้ยพวกเรางั้นเหรอ?  เซี่ยเหล่ยพูดก่อนจะพูดต่อว่า  ทำไมเขาไม่มาด้วยตัวเองหล่ะ? 

   ทำไมคุณพูดแบบนั้นหล่ะ? ท่านประธานฉันเพียงแค่สั่งให้ฉันมาดูแลบูธของคุณเป็นพิเศษเพื่อดูว่ามีอะไรขาดเหลือหรือไม่นะ ดูสิ…ประธานของฉันใจดีกับพวกคุณมากขนาดไหน  เย่เสี่ยวฉีพูดพร้อมรอยยิ้มที่เยาะเย้ย ขณะเดียวกันก็มองไปที่ปืนไรเฟิลจู่โจม Gust ที่ตั้งโชว์อยู่ในบูธของพวกเขา

  อย่างไรก็ตามเหตุผลที่แท้จริงที่เธอมาที่นี่มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือการมาดูว่าเซี่ยเหล่ยได้นำปืนไรเฟิลจู่โจม Gust มาจัดแสดงด้วยหรือไม่

  ซึ่งเซี่ยเหล่ยตระหนักถึงเรื่องนี้ได้!

   ถ้าอย่างนั้นคุณคงเห็นว่าแล้วเราไม่ต้องการความช่วยเหลือจากใคร ฝากคุณกลับไปบอกเขาด้วยนะ  เซี่ยเหล่ยตอบกลับอย่างเรียบง่าย

   หืมม!  จู่ๆท่าทางของเย่เสี่ยวฉีเปลี่ยนไปอย่างกระทันหันก่อนจะพูดขึ้นว่า  ผู้อำนวยการเซี่ย ปืนไรเฟิลจู่โจม Gust ของคุณมีหน้าตาเหมือนกับปืนไรเฟิลจู่โจม เฉิงหวู่ของเราเลยนี่! นี่มันหมายความว่ายังไง? 

  เซี่ยเหล่ยแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินที่เธอพูดก่อนจะถามว่า  คุณพูดว่าอะไรนะ? 

  เย่เสี่ยวฉีหัวเราะก่อนจะพูดว่า  คุณไม่ต้องมาแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินหรอกนะ ฉันรู้ว่าคุณได้ยินและเข้าใจในสิ่งที่ฉันพูดแต่เอาเถอะ…อีกไม่นานคุณจะต้องเจอกับปัญหาใหญ่แน่! 

   คุณกำลังพูดอะไร? ใครจะเจอปัญหาอะไรงั้นเหรอ?  ฉิงเสวียงที่ทนไม่ไหวจึงโผล่งออกมาพร้อมเดินมาด้านหน้าของเซี่ยเหล่ย

   หืม? คุณเป็นใคร?  เย่เสี่ยวฉีพูดอย่างเหยียดหยามก่อนจะพูดต่อว่า  เซี่ยเหล่ย คุณนี่เป็นยอดชายจริงๆ ดูคุณสิ…เฉินตูเทียนหยินรู้เรื่องนี้หรือไม่? 

  เซี่ยเหล่ยเดินไปด้านหน้าของเย่เสี่ยวฉีก่อนที่จะยกมือขึ้นเพื่อเตรียมตบหน้าเธอ  ฉิงเสวียงเป็นเพื่อนของเขา เขาไม่ยอมให้ใครมาพูดจาไม่ให้เกียรติกับเธอแบบนี้

   หยุดนะ!  จังหวะเดียวกันนั้นก็มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา

  ฝ่ามือของเซี่ยเหล่ยหยุดลงใกล้กับแก้มของเย่เสี่ยวฉีมาก มันห่างเพียงไม่กี่มิลลิเมตรเท่านั้น

  เซี่ยเหล่ยไม่ต้องหันกลับไปดูก็รู้ว่าเป็นเสียงของใครเพราะเขาคุ้นเคยกับเสียงนี้มาก เธอคือเฉินตูเทียนหยิน เธอมาที่นี่แล้ว

  อย่างไรก็ตามไม่ใช่แค่เฉินตูเทียนหยินแต่ด้านหลังของเธอยังมีกลุ่มคนจำนวนมากตามมาด้วย

  เฉินตูเทียนหยินเดินเข้าไปที่บูธ เธอมาพร้อมกับชุดสีดำ ซึ่งดูน่าสวยงามและดึงดูดสายตาเป็นอย่างมาก

  นอกจากนี้กลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังของเธอก็ไม่ใช่บุคคลธรรมดาทั่วไปเพราะมีทั้งดาราศิลปินชื่อดังระดับประเทศ กลุ่มนักธุรกิจ และสื่อขนาดใหญ่ทีมีอุปกรณ์ครบครันสำหรับการทำข่าว

  แม้ว่าบริษัทยุทโธปกณ์ฮั่นและกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนต้องการจะตัดพวกเขาให้เฉาตายอยู่ตรงนี้ แต่เฉินตูเทียนหยินก็ช่วยเขาไว้ เธอมาพร้อมกับความสดชื่นที่จะสร้างความมีชีวิตชีวาให้กับบูธของสามีของเธอ!

  นี่คือการช่วยเหลือกันของสามีภรรยาที่ใครหลายๆต้องการและอิจฉา!

  ใบหน้าของเซี่ยเหล่ยค่อยๆมีรอยยิ้ม เขารู้สึกว่าตัวเองคิดไม่ผิดที่แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้!

   มือของคุณจะสกปรกไปด้วยนะถ้าไปสัมผัสกับใบหน้าของเธอ  เฉินตูเทียนหยินพูดเสียงดัง

  เซี่ยเหล่ยหดมือกลับก่อนจะหันไปพูดกับเฉินตูเทียนหยินว่า  ใช่แล้วที่รัก คุณพูดถูก ถ้าผมเอามือของผมไปโดนใบหน้าของเธอ มือของผมคงจะสกปรกไปด้วย     ฝากไว้ก่อนเถอะ!  เย่เสี่ยวฉีพูดพร้อมกระทืบเท้าทิ้งท้ายไว้ก่อนที่จะเดินกลับไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว

  เฉินตูเทียนหยินเดินเข้าไปที่เซี่ยเหล่ยพร้อมกับกอดและจูบเขาที่แก้ม

  แชะ! แชะ! แชะ! กล้องกดชัดเตอร์กันรัวมากๆ แน่นอนว่านักข่าวจะไม่พลาดช็อตแบบนี้

 

Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร

Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร

Status: Ongoing

เซี่ยเหล่ยสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เด็กเขาจึงต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อดิ้นรนเอาตัวรอดและสิ่งที่สำคัญเขาต้องเลี้ยงดูน้องสาวของเขา แต่อยู่มาวันหนึ่งก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้น

เขาประสบอุบัติเหตุในโรงงานซึ่งทำให้ตาของเขาบอดแต่หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลเขาก็รู้ได้ทันทีเลยว่าตาเขาไม่ได้บอดแต่มันมีความสามารถพิเศษเพิ่มขึ้นมา !!

ในตอนนี้เขากำลังจะใช้ความสามารถพิเศษที่เขาได้มาในทางชั่วร้ายเพื่อสร้างชีวิตของเขาและน้องสาวให้ดีขึ้นเหมือนคนอื่นๆ

เซี่ยเล๋ยจะประสบความสำเร็จในการทำสิ่งชั่วร้ายกับพลังที่เขาเพิ่งค้นพบหรือไม่ ?

ข้าจะเป็นคนกำหนดชะตาชีวิตของข้าเอง !!!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท