เสียงกระสุนที่ดังต่อเนื่องทำเอาแทบหูหนวก ไรเฟิลจู่โจมของบริษัทฮั่นยุทโธปกรณ์กำลังคำรามราวกับสัตว์ป่าที่เกรี้ยวกราด กระสุนมากมายจากปากกระบอกปืนมีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่มุ่งตรงเข้าเป้าระยะ 300 เมตร แต่บางส่วนก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ไม่เพียงแค่ตัวแทนกองทัพเท่านั้นที่มองเห็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงของไรเฟิลจู่โจมเฉิงหวู่และไรเฟิลจู่โจม Gale เหล่าผู้ซื้อและคนมุงดูเหตุการณ์เองก็สังเกตเห็นเช่นกัน ที่สำคัญยิ่งบริษัทฮั่นยุทโธปกรณ์ยิงต่อเนื่องนานเท่าไหร่ปืนก็ยิ่งสั่นหนักมากขึ้นเท่านั้น ปืนนั่นเสียความแม่นยำไปจนหมดก่อนจะถึงนัดที่ 500 เสียอีกและในตอนนี้มันก็ยังเป้าระยะ 300 เมตรไม่ได้อีกแล้ว
เกิดอะไรขึ้น? เกิดอะไรขึ้น! เย่คุนรู้ตัวแล้วว่ามีปัญหา ใบหน้าเขาซีดเป็นไก่ต้ม หน้าผากเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ คุน ไหนบอกว่ามันไม่มีปัญหาไง? ไหนบอกว่าไม่มีปัญหาไงล่ะ! มู๋เจียนเฟิงตวาดอย่างโมโห นี่น่ะเหรอที่แกบอกว่าไม่มีปัญหา?
อาจารย์ ผม… มันเป็นพิมพ์เขียวเดียวกันนะ แล้วทำไมมันถึงคุณภาพต่างกันขนาดนี้ล่ะ? ผมไม่เข้าใจเลย แต่เราไม่น่าจะทำอะไรพลาดในขั้นตอนการผลิตนี่ คุณก็เห็นใช่มั้ย? ไรเฟิลของโรงงานทหารอาชาสายฟ้าก็ปืนเหมือนกับของเราเป๊ะๆเลยนะ แม้เรื่องจะดำเนินมาจนถึงจุดนี้แล้ว เย่คุนก็ยังคงเก็บความหวังเล็กๆเอาไว้อยู่
ฮึ่ม! ‘ของเรา’เหรอ? มู๋เจียนเฟิงพูดอย่างเย็นชา นั่นมันปืนของแก บริษัทฮั่นยุทโธปกรณ์เป็นคนผลิตนี่ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมสักหน่อย
เย่คุนนิ่งอึ้ง อาจารย์ นี่คุณ…
มู๋เจียนเฟิงพูดจบแล้วและไม่อยากจะสนทนาอะไรกับเย่คุนอีกต่อไป
‘อาจารย์’ คนนั้นเดินเข้ามาในวันที่มีผลประโยชน์ให้เก็บเกี่ยว เขาโน้มน้าวผ่านความใจดีและเอ่ยปากขอส่วนแบ่งแต่ตอนนี้ปัญหาใหญ่มันเกิดขึ้นแล้วอาจารย์คนนั้นก็เดินจากไป เลี่ยงทุกทางไม่ให้ตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้อง นี่คืออาจารย์ของเย่คุน จิ้งจอกเฒ่ามู๋เจียนเฟิง เขาอยู่มาได้จนอายุปูนนี้และสั่งสมประสบการณ์มาถึงขั้นนี้แล้ว เขารู้ดีว่าตัวเองต้องทำอะไร
การทดลองยิง 500 นัดของบริษัทฮั่นยุทโธปกรณ์จบลงแล้ว ปากกระบอกปืนส่งควันโขมง หน้าผากมู๋เจียนเฟิงเองก็ร้อนไม่แพ้กันแม้ว่าตอนนี้จะเป็นฤดูหนาวก็ตาม เขามองเย่คุน สายตาเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงใจ ท่าทางและสายตาของเขากำลังบอกอะไรเย่คุนบางอย่างโดยปราศจากคำพูด นั่นก็คือ ปืนในมือเขามันขยะดีๆนี่เอง!
สายตาของเหล่าทหารยศใหญ่เองก็กำลังเชือดเฉือนเย่คุนอยู่เช่นกัน ความสงสัยและความผิดหวังต่างพุ่งเข้าทิ่มแทงเขาอย่างจัง ก่อนหน้านี้เย่คุนประกาศเสียงดังลั่นไปแล้วว่าโรงงานทหารอาชาสายฟ้าเป็นคนขโมยสิทธิบัตรของบริษัทฮั่นยุทโธปกรณ์ไป ทั้งยังอยากให้จับกุมตัวเซี่ยเหล่ยไปสอบสวนอีกด้วย ตอนนี้ทุกอย่างกระจ่างชัดแล้วว่าใครขโมยใคร แถมยังขโมยไม่สำเร็จอีกต่างหาก!
เหล่าตัวแทนกองทัพต่างเป็นทหารยศสูงและมีอิทธิพลกันทั้งนั้น แม้ว่าบทลงโทษจะยังไม่ถูกพิจารณากำหนดแน่ชัด แต่เย่คุนก็ขนลุกไปทั้งร่างแล้วเมื่อเห็นสายตาพวกนั้นมองมา
ผมเชื่อว่าพวกคุณคงได้เห็นกับตาตัวเองไปแล้ว ประธานเย่ของบริษัทฮั่นยุทโธปกรณ์อ้างว่าผมขโมยเทคโนโลยีซึ่งเป็นสิทธิบัตรของบริษัทเขาไป แล้วปืนของทั้งสองฝ่ายก็เหมือนกันขนาดนี้ด้วย ทุกท่านเชื่อคำพูดเขารึเปล่า ? เซี่ยเหล่ยกล่าว
เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังมาจากทั่วทุกทิศทาง
เซี่ยเหล่ยเก่งกว่าเย่คุนหลายขุม ปืน Gale เองก็เหนือกว่าเฉิงหวู่แบบทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่นเช่นกัน ต่อให้เย่คุนจะงัดหลักฐานอะไรมาสู้คนอื่นก็คงไม่เชื่อเขาอีกแล้ว
ประธานเย่ คุณมีคำอธิบายเรื่องนี้มั้ย? หลิงฮั่นถามเสียงเย็นเยือกและแฝงความโกรธเอาไว้
เย่คุนพยายามปกป้องตัวเอง ผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ บริษัทเราเป็นผู้ออกแบบและผลิตขึ้นมา ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเขาออกแบบกันยังไงแต่ผมจะไปไล่ถามเรียงคนทีละขั้นตอนได้ยังไงล่ะในเมื่อบริษัทผมก็ใหญ่ซะขนาดนี้?
งั้นเรื่องที่คุณยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าเซี่ยเหล่ยลอกเลียนปืนคุณล่ะ? สายตาหลิงฮั่นน่ากลัวยิ่งขึ้น
นั่นมัน… เย่คุนนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อช้าๆ นั่นเป็นงานของทีมทนายของบริษัทเรา ผมจะรู้รายละเอียดมากกว่านี้หลังกลับไปเช็กดูมั่นใจได้เลย คุณหลิง เรื่องนี้จะต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันแน่ๆ แต่ยังไงก็ตาม ผมไม่ยอมปล่อยตัวคนผิดให้ลอยนวลหรอก ผมจะไล่คนที่ควรถูกไล่ออกไปซะและให้คนที่เกี่ยวข้องมารับผิดชอบแน่นอน
นั่นถือเป็นแผนการหนีที่ฉลาดมาก เย่คุนไม่ใช่มือสมัครเล่นแล้ว เขาหาแพะรับบาปได้ไม่ยากในช่วงที่เขาพยายามอยู่ให้ห่างเรื่องนี้ เก็บตัวสักหน่อย และรอให้เรื่องมันซาไปเองก็จบแล้ว
หลิงฮั่นขมวดคิ้ว เขารู้ว่าเย่คุนพยายามไล่บี้โรงงานทหารอาชาสายฟ้าและพยายามใส่ร้ายเซี่ยเหล่ย แต่แน่นอนว่าหลิงฮั่นทำอะไรเย่คุนไม่ได้โดยไม่มีหลักฐานในมือชัดเจน
เซี่ยเหล่ยเดินเข้าไปหาเย่คุนพูดขึ้นเบาๆ จริงๆแล้วผมอิจฉาคุณนะ ประธานเย่
อิจฉาเรื่องอะไร? เย่คุนเลี่ยงสบตาเซี่ยเหล่ย ในใจเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและเกลียดชัง เขาแทบไม่อยากเห็นเซี่ยเหล่ยด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงการคุยเลย
ดูคุณสิ ท่านประธานบริษัทฮั่นยุทโธปกรณ์ ก่ออาชญากรรมแท้ๆแต่กลับไม่ต้องรับโทษอะไรเลย ขนาดผมไม่ได้ทำอะไรผิดผมยังเกือบถูกตำรวจจับเลยนะ ถ้าให้พูดก็คือ เราเองก็คนเหมือนกัน แต่ทำไมถึงต่างกันขนาดนี้? แล้วจะไม่ให้ผมอิจฉาคุณได้ยังไงล่ะ ? เซี่ยเหล่ยตอบ
อย่ามาพูดไร้สาระนะ! เย่คุนกล่าวเสียงเย็น นี่มันเรื่องเข้าใจผิดกัน ผมก็บอกไปแล้วนี่ว่าสาเหตุมันต้องเป็นพนักงานของผมที่ทำงานพลาด ผมต้องการเวลาตรวจสอบและหาทางแก้ไขเรื่องนี้ เดี๋ยวเราก็จะได้ข้อสรุปเอง ทำไมคุณต้องรีบนักล่ะ ?
เพราะคุณจะไปหาแพะมาแทนน่ะสิ จริงมั้ย ประธานเย่? เซี่ยเหล่ยหัวเราะ
เซี่ยเหล่ย! เย่คุนโมโห ผมพยายามสุภาพกับคุณแล้วนะ! ได้คืบจะเอาศอกงั้นเหรอ ผมก็ตกลงจะทำการสอบสวนแล้วนี่ คุณยังจะเอาอะไรอีก?
ความยุติธรรม! เซี่ยเหล่ยคำราม ผมต้องการความยุติธรรม!
เซี่ยเหล่ยดูเปลี่ยนไปราวกับคนละคน ตอนนี้เขาไม่ใช่นักธุรกิจสุดสง่าคนเดิมแล้วแต่เป็นทหารในสนามรบเป็นสัตว์ร้ายในป่า!
เย่คุนนิ่งอึ้งแต่ก็ดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ความยุติธรรม? ผมจะช่วยคุณหาเองว่าใครจะต้องรับผิดชอบ ผมจะบอกอะไรให้นะ เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับผม แล้วคุณก็จะไม่มีทางเจอความข้องเกี่ยวอะไรกับผมด้วย ถ้าคุณคิดว่ามันไม่ยุติธรรม คุณก็ไปศาลแล้วฟ้องผมเลยสิ ผมจะสู้จนถึงที่สุดเลย
ผมไม่คิดเลยว่าจนถึงขนาดนี้แล้วคุณยังทำตัวหยิ่งยโสได้อยู่อีก รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าเซี่ยเหล่ย น้ำเสียงเขากลับมาเป็นมิตรอีกครั้ง ประธานเย่ คุณทำเรื่องแย่ๆตั้งเยอะแยะในช่วงหลายสิบปีมานี้แต่ก็ยังเป็นประธานของบริษัทฮั่นยุทโธปกรณ์ ยังมีความสุขใช้เงินและชีวิตหรูหราได้อยู่ การที่มีแพะมารับแทนแล้วประวัติคุณก็ยังใสสะอาดได้ นั่นเพราะคู่ต่อสู้ของคุณคือคนอื่น แต่วันนี้คู่ต่อสู้ของคุณคือผม ถ้าคุณทำผิดต่อผม บทลงโทษของคุณจะไม่เป็นศูนย์อย่างที่ผ่านมาแน่นอน เย่คุนแสยะยิ้มอย่างหงุดหงิด วันนี้ก้าวร้าวจังเลยนะ แต่ก็คงได้แค่วันนี้แหละ ยังไงตอนนี้ผมก็ไม่ค่อยอยากจะสนทนาอะไรกับคุณสักเท่าไหร่ ถ้าคุณยังเอาแต่เปลืองน้ำลายอยู่ที่นี่ก็ตามสบายเลย ผมขอบายล่ะ เย่คุนโบกมือ ไปกันได้แล้ว!
เมื่อได้รับคำสั่ง กลุ่มพนักงานของบริษัทฮั่นยุทโธปกรณ์ก็เริ่มเก็บของและเตรียมตัวออกจากสนามยิงปืน
แต่เซี่ยเหล่ยยื่นมือออกไปจับไหล่เย่คุนไว้เสียก่อน
คุณจะทำอะไร? เย่คุนหันกลับไปแล้วจ้องเซี่ยเหล่ยเขม็ง ปล่อยเดี๋ยวนี้!
วันนี้คุณหนีไปไหนไม่ได้หรอกนะ ประธานเย่ เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมรอยยิ้ม
ฮ่าฮ่าฮ่า! เย่คุนหัวเราะ อะไร คุณอยากต่อยผมรึไง? เอาเลย เชิญ ผมไม่ต่อยคุณกลับหรอกนะ
แต่เซี่ยเหล่ยก็ไม่ได้ทำอะไรเขา คุณมันก็แค่นี้แหละนะ ต่อให้คุณมีความกล้ากว่านี้สักสิบเท่าก็คงยังไม่กล้าต่อยผมอยู่ดีนั่นล่ะ เย่คุนเย้ยหยัน
ผมไม่ต่อยคุณหรอก แต่ผมจะเอาอะไรให้ดู เซี่ยเหล่ยกล่าว
เย่คุนเงียบไป ความกังวลก่อตัวขึ้นในใจเขาอย่างบอกไม่ถูก
เซี่ยเหล่ยปล่อยมือจากไหล่เย่คุนแล้วตะโกนเสียงดัง ทุกท่าน เชิญทุกท่านมาดูที่จอใหญ่นี่พร้อมๆกันนะ !
ที่ด้านข้างสนามยิงปืนมีหน้าจอขนาดใหญ่อยู่สำหรับประกาศต่างๆและแจ้งเตือนเมื่อการยิงจบลง
เมื่อเซี่ยเหล่ยพูดจบ บนหน้าจอก็เปลี่ยนไป ดึงสายตาทุกคนให้จับจ้องมัน
บนจอเป็นภาพของคาเฟ่แห่งหนึ่ง เย่เสี่ยวฉีกำลังเรียกร้องให้หวู่บิงส่งภาพร่างให้เธอ แต่หวู่บิงก็ยังคงยืนยันที่จะขอดูเงินก่อน เย่เสี่ยวฉีจึงเปิดกระเป๋าเอกสารให้อีกฝ่ายเห็นเงินภายใน จากนั้นหวู่บิงจึงยอมเปิดกระเป๋าตัวเองให้เย่เสี่ยวฉีได้เห็นภาพร่างบ้าง
วิดีโอถูกหยุดเอาไว้ตรงนั้น บนจอใหญ่ปรากฏภาพร่างปืนไรเฟิลจู่โจมของโรงงานทหารอาชาสายฟ้าชัดเจน รวมถึงโลโก้ของบริษัทด้วยเช่นกัน
การตกลงค้าขายสำเร็จไปได้ด้วยดี เย่เสี่ยวฉีกลับออกไปจากคาเฟ่พร้อมกระเป๋าเอกสารที่บรรจุพิมพ์เขียวเอาไว้ หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปในตึกของบริษัทฮั่นยุทโธปกรณ์
สายตาหลิงฮั่นตวัดไปมองเย่เสี่ยวฉีที่ยืนอยู่ข้างหลังเย่คุนทันที
ซึ่งไม่ใช่แค่หลิงฮั่น ตัวแทนกองทัพทุกคนก็มองเธอเช่นกัน
เย่เสี่ยวฉีเป็นเลขาของเย่คุนแต่เลขาตัวเล็กๆคนหนึ่งจะทำเรื่องแบบนี้ได้โดยไม่มีเย่คุนคอยบงการจริงๆเหรอ?
สายตานับพันจับจ้องไปยังเย่เสี่ยวฉี สีหน้าเธอเริ่มขาวซีด ตื่นตระหนกจนพูดติดอ่าง ฉัน ฉัน… มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันนะ! มัน มัน… เธอหันไปมองเย่คุนแต่ไม่กล้าพูดอะไรต่อ
เย่คุนเองก็วิตกไม่แพ้กัน พูดอะไรน่ะ เย่เสี่ยวฉี? เธอจะต้องรับผิดชอบเรื่องที่เธอทำนะ!
เย่เสี่ยวฉีอ้าปากแต่ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมา เมื่อคืนก่อนเขายังแนบชิดกับเธอ เรียกเธอว่า ‘ที่รัก’ อยู่เลย แต่ตอนนี้เรากลายเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน เขาทิ้งเธอเผ่นแน่บไปคนเดียวแล้ว!
เย่คุนขยิบตาให้เย่เสี่ยวฉี พยายามส่งสัญญาณอะไรบางอย่างให้เธอ
วิดีโอบนจอถูกหยุดเอาไว้อีกครั้ง
มู๋เจียนเฟิงเดินเข้าไปใกล้ๆเย่เสี่ยวฉี กระซิบเบาๆ รับผิดไปก่อน เธอจะไม่โดนจับแน่นอน แต่กลับกัน เธอจะได้ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างหรูหราเลยล่ะ
ในใจคนฟังแบ่งออกเป็นสองฝั่ง รู้สึกสับสนไปหมด เธอควรจะทำยังไงดี?
ทุกคนต่างคิดว่าเรื่องนี้ถึงตอนจบแล้วโดยมีวิดีโอนั่นเป็นหลักฐาน แต่บนจอใหญ่ก็ปรากฏอีกฉากหนึ่งขึ้นมา
เป็นภาพของเย่คุนและเย่เสี่ยวฉีกำลังคุยกันอยู่ เขากำลังชื่นชมเธอที่ทำงานได้ดีเยี่ยม จากนั้นทั้งสองคนก็เดินเข้าไปในห้องพักแล้วทิ้งตัวลงด้วยกัน ฉากนี้ถูกเซนเซอร์เอาไว้ ไม่มีส่วนไหนถูกเผยให้เห็นเลยแม้แต่น้อย แต่ฉากกอดรัดฟัดเหวี่ยงนั่นก็ปรากฏอยู่ไม่นาน เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น
แล้วจอยักษ์ก็เงียบลงอีกครั้ง
เหงื่อเย็นมากมายปะทุขึ้นบนหน้าผากของเย่คุน
อะแฮ่ม มู๋เจียนเฟิงถอยห่างออกมาจากเย่เสี่ยวฉี เขามองเซี่ยเหล่ยด้วยรอยยิ้ม ทำได้ดีนี่เซี่ยเหล่ย คุณพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้แล้ว ไม่เลว ไรเฟิลจู่โจม Gale ของโรงงานทหารอาชาสายฟ้าน่ะเป็นไรเฟิลจู่โจมที่ดีที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะผมภูมิใจจริงๆที่ประเทศเรามีคนเก่งอย่างคุณ!
เซี่ยเหล่ยหัวเราะ หึหึหึ…
แล้ววิดีโออีกไฟล์หนึ่งก็เริ่มเล่นต่อบนจอตรงหน้าทุกคน