Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร – TXV – 412 บัตรเชิญ

TXV – 412 บัตรเชิญ

  TXV– 412 บัตรเชิญ

  หลายวันที่ผ่านไป เซี่ยเหล่ยพยายามไขความลับของอัลลอยโบราณและหนังสือสำริดอย่างไม่ลดละ แต่เขาค่อนข้างจะมุ่งเน้นและให้ความสำคัญในการไขความลับของหนังสือสำริดมากกว่าอัลลอยโบราณ

  เซี่ยเหล่ยเก็บเสียงของทุกตัวอักษรที่เขาอ่านไว้ในใจทุกตัว รวมถึงออกเสียงตัวอักษรที่เขาได้ยินและไปบันทึกในซอฟแวร์บนโทรศัพท์มือถือ หลังจากนั้นเขาก็คอยฟังเสียงเหล่านั้นซ้ำไปซ้ำมาเขาพยายามลองฟังดูหลายๆรอบ ทำให้ในตอนแรกเขานึกว่าเป็นการอ่านออกเสียงของแต่ละพยางค์แต่ในตอนหลังก็พบว่ามันไม่ใช่ เพราะนี่เป็นวิธีการบันทึกคำพูดโดยวิธี  bronze audio tape 

  ด้วยข้อมูลในตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนสร้างมันขึ้นมา

  หลังจากนั้นการไขความลับของอัลลอยโบราณและหนังสือสำริดก็อยู่ในช่วงชะลอตัว(ถูกพักไว้ก่อน)

  ในวันเดียวกันนี้ เซี่ยเหล่ยได้เขียนบันทึกการวิจัยนานถึงสองชั่วโมงในห้องใต้ดินก่อนที่จะบอกกับกองกำลังพิเศษว่าเขาได้เขียนบันทึกเสร็จเรียบร้อยแล้วพร้อมกับนำไปวางไว้ในเขตพื้นที่ปลอดภัย

  เขาไม่ได้เก็บบันทึกการวิจัยไว้ในตู้เซฟเพราะเขาตั้งใจจะให้คนอื่นอ่านบันทึกนี้ได้เช่นกัน บันทึกที่เขาเขียนไปนี้จะเป็นแนวคิดการวิเคราะห์วัสดุที่ซับซ้อนและแนวคิดในการวิจัยไขความลับของสองสิ่งนี้ นอกจากนี้เขาเชื่อว่าแม้จะเอาไปเก็บไว้กับตัว แต่หลิงฮั่นและเหล่านักวิชาการอาวุโสจะต้องหาวิธีอ่านบันทึกนี้ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งอย่างแน่นอน ดังนั้นเซี่ยเหล่ยจึงเลือกที่จะไปบอกกับกองกำลังพิเศษเอง

  จุดประสงค์อีกอย่างหนึ่งของเซี่ยเหล่ยก็คือเขาต้องการให้เหล่านักวิชาการอาวุโสเห็นว่าเขาตั้งใจและจริงจังมากแค่ไหน

  หลังจากนั้นเซี่ยเหล่ยก็เดินออกจากวิลล่าและบังเอิญเจอเข้ากับพันเอกหวู่เซี่ยวกู๋จึงพูดทักทายว่า  พันเอกหวู่ หลังจากหลายวันที่ได้ศึกษาและค้นคว้าทำให้ผมเขียนวิจัยเป็นลายลักษณ์อักษรไว้เรียบร้อยแล้ว คุณสามารถอ่านมันได้เลย ผมมั่นใจว่าคุณจะเห็นถึงความพยายามของผมนอกจากนี้ผมมีเรื่องอื่นที่จะต้องจัดการดังนั้นหลายวันต่อจากนี้ผมจะหยุดการค้นคว้าวิจัยไปช่วงหนึ่ง 

  หวู่เซี่ยวกู๋ตอบกลับว่า  คุณเซี่ย ผมรู้สึกสบายใจที่คุณปฏิบัติตามหน้าที่อย่างเคร่งครัดแต่อย่างไรก็ตามคุณไม่จำเป็นจะต้องบอกหรือรายงานอะไรให้ผมรับรู้หรอกนะ 

   เอาล่ะ เข้าใจแล้ว ไว้เจอกันใหม่  เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมกับเดินออกไป

  หลังจากที่เซี่ยเหล่ยเดินจากไปแล้วหวู่เซี่ยวกู๋ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับโทรไปหาใครซักคน เขาพูดว่า  เขาออกจากห้องใต้ดินแล้ว เขาบอกว่ามีเรื่องอื่นที่จะต้องจัดการ ….. โอเค ผมจะไปที่ห้องทำงานของเขาแล้วจะบอกคุณอีกครั้ง 

  สิ้นสุดการสนทนาทางโทรศัพท์ หวู่เซี่ยวกู๋เดินไปที่วิลล่าทันที

  เซี่ยเหล่ยคาดการได้แม่นยำ เขาคิดไว้อยู่แล้วว่าบันทึกจะต้องถูกตรวจสอบ

   ความจริงมันก็ไม่ได้มีอะไรมากมายในบันทึกการวิจัยนั้นหรอกนะ พวกคุณศึกษากันเป็นเวลาเกือบปีแต่ก็ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันแถมการวิจัยนั้นยังมีคนเสียสติและเสียชีวิตไปหลายคนด้วยซ้ำ ตอนนี้ผมมารับช่วงต่อถึงแม้ว่าการค้นคว้าและวิจัยของผมจะคืบหน้าไปอย่างมาก แต่ผมไม่คิดที่จะเร่งเขียนความจริงทั้งหมดในคราวเดียวหรอกนะ ผมจะยืดเวลาออกไปเรื่อยๆ  เซี่ยเหล่ยพูดกับตัวเองและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

  ในขณะนี้เซี่ยเหล่ยเดินไปยังเขตโรงงานที่สร้างเพิ่มเติมขึ้นมาใหม่ เขารู้สึกภูมิใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้

  นอกจากโรงงานผลิตอาวุธที่สร้างขึ้นเพิ่มเติมขึ้นมาใหม่แล้ว ยังมีมังกรเพลิงอีกหนึ่งอย่างที่จะช่วยให้ประสิทธิภาพในการผลิตเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าเมื่อเทียบกับความสามารถในการผลิตปืนไรเฟิลซุ่มยิง XL2500 ล็อตแรก ด้วยกำลังการผลิตนี้จะทำให้สามารถส่งปืนไรเฟิลซุ่มยิง XL2500 ให้กับลูกค้าที่เซ็นสัญญากับหลิงฮั่นได้ทันเวลาโดยที่ไม่มีปัญหาอะไรเลย

  หลังจากที่ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งเขาและอเลน่าเตรียมตัวจะเซอไพรซ์ทั้งโลกอีกหนึ่งอย่าง มันเป็นผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาศึกษามาด้วยกัน มันคือปืนไรเฟิลจู่โจม พวกเขาหวังเอาไว้ว่ามันจะกลายเป็นสินค้าชูโรงให้กับโรงงานผลิตอาวุธเหมือนกับปืนไรเฟิลซุ่มยิง XL2500 เช่นกัน

  และหากถึงเวลานั้น พวกเขาจะเริ่มต้นการผลิตและส่งออกมาขายหากเป็นไปตามที่คิดเอาไว้ด้วยปืนไรเฟิลทั้งสองรุ่นนี้จะทำให้โรงงานผลิตอาวุธของเซี่ยเหล่ยกลายเป็นโรงงานชั้นนำที่เทียบเท่าได้กับกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนและบริษัทฮั่นเลยก็ว่าได้

  จังหวะนี้ฉิงเสวียงก็เดินเข้ามาพร้อมกับข่าวดี เธอพูดว่า  เหล่ย ไม่รู้ว่าจู่ๆเกิดอะไรขึ้นแต่ทางทนายความของเราได้โทรมาจากศาลแล้วบอกกับฉันว่ากลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนได้ยกเลิกเพิกถอนข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดของเราแล้ว 

  เซี่ยเหล่ยพูดว่า  จริงหรอ ? ดูเหมือนตาเฒ่าเจ้าเล่ห์มู๋เจียนเฟิงจะไม่เห็นทางชนะจึงถอนตัวออกไปซะก่อน 

  ฉิงเสวียงพูดอีกว่า  นี่ถือเป็นเรื่องดีสำหรับเราอย่างมาก 

  เซี่ยเหล่ยบิดขี้เกียจพร้อมกับยิ้มและตอบไปว่า  ใช่ และตอนนี้สิ่งที่เราควรจะทำก็คือผ่อนคลาย 

  ฉิงเสวียงพูดว่า  เดี๋ยวก่อนนะ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งก่อนหน้านี้เฉินตูเทียนหยินฝากบัตรเชิญให้คุณไว้กับฉัน 

   บัตรเชิญงั้นเหรอ เธอเชิญให้ผมไปไหนและทำอะไรหล่ะ?  เซี่ยเหล่ยถาม

  ฉิงเสวียงตอบว่า  บริษัทเหวี้ยนเทียนและบริษัทก็อดโดเมนที่ร่วมมือกันในการผลิตโทรศัพท์มือถือได้เตรียมจัดพิธีเปิดตัวและแถลงข่าวอย่างเป็นทางการแล้ว เธอจึงเชิญคุณให้ไปร่วมงานในครั้งนี้ด้วย 

  เซี่ยเหล่ยเบ้ปากเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า  พวกเขาทำงานได้รวดเร็วจริงๆ 

  ฉิงเสวียงยิ้มก่อนจะพูดว่า  ฉันว่าไม่เท่าคุณหรอกนะหากเทียบกับคุณแล้ว เมื่อเกือบสองปีก่อน คุณยังเป็นเพียงหัวหน้าคนงานก่อสร้างไม่กี่คนแค่นั้นเอง แต่ดูตอนนี้สิ คุณกลายเป็นผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่แล้ว มีลูกน้องตั้งมากมายเป็นร้อยเป็นพัน จนถึงตอนนี้มันเหมือนกับฝันจริงๆ คุณทำทุกอย่างได้รวดเร็วกว่าพวกเขาซะอีกนะ 

   ยังหรอก ตอนนี้เรายังไม่ใช่บริษัทยักษ์ใหญ่อะไรหรอกนะแต่ก็อีกไม่นานหรอก ถ้าเป็นไปตามที่คาดไว้และไม่มีอะไรผิดพลาด ในอีกสองปีต่อจากนี้เราจะใช้คำนี้ได้อย่างภาคภูมิแน่นอน  เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมตบไหล่ฉิงเสวียงเบาๆก่อนจะพูดต่อว่า  อ้อใช่…เฉินตูเทียนหยินบอกว่าเมื่อไหร่หล่ะ? 

   พรุ่งนี้  ฉิงเสวียงพูดพร้อมส่งการ์ดเชิญให้กับเซี่ยเหล่ยก่อนจะพูดต่อว่า  นี่เป็นการ์ดเชิญจากฟู่หมิงเหม่ย ตอนที่เธอส่งมาเธอบ่นกับฉันเยอะเลยว่าโทรศัพท์ของคุณไม่เคยติดต่อได้เลย ทำให้เฉินตูเทียนหยินต้องส่งเธอมาเชิญแทนนอกจากนี้เธอยังมีคำพูดฝากมาให้คุณด้วยนะ คุณอยากฟังไหม? 

   เธอพูดว่าอะไร?  เซี่ยเหล่ยถาม

  ฉิงเสวียงยิ้มพร้อมกับพูดว่า  เธอบอกว่าการที่คุณมีโทรศัพท์แต่ไม่สามารถติดต่อได้ คุณควรที่จะกลับไปใช้ชีวิตแบบคนยุคหินซะดีกว่ามั้ง 

  เซี่ยเหล่ยฝืนยิ้มก่อนจะเก็บการ์ดเชิญและพูดว่า  เอาหล่ะ ตอนนี้เราไปพักผ่อนกันก่อนดีกว่า 

  ฉิงเสวียงพูดว่า  ในอนาคตหากมีโอกาสฉันว่าคุณไม่ควรรอช้าเรื่องเฉินตูเทียนหยินแล้วนะ ไม่อย่างนั้นอาจจะโดนคนอื่นคาบเอาไปกินได้ 

  เซี่ยเหล่ยเข้าใจทันทีว่า  คนอื่น  ที่ฉิงเสวียงพูดขึ้นนี้หมายถึงใคร

  ฉิงเสวียงยังคงพูดต่ออีกว่า  ฉันคิดว่าคุณเองก็ถึงเวลาแล้วที่จะเป็นฝั่งเป็นฝา หวังว่าคุณคงไม่คิดที่จะปล่อยให้ตัวเองแต่งงานตอนอายุสามสิบปีหรอกใช่ไหม?  ไอรีนโนเวล

   คุณคิดอะไรอยู่กันแน่เนี่ย… เอาหล่ะ ผมไม่พูดกับคุณแล้วดีกว่า ขอตัวก่อน  เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมกับเดินเลี่ยงออกไปเนื่องจากเขาไม่ต้องการคุยกับเธอในเรื่องน่าอายเช่นนี้กับเธอ

  ฉิงเสวียงมองไปด้านหลังของเซี่ยเหล่ยที่กำลังเดินออกไปก่อนจะถอนหายใจและพูดกับตัวเองว่า  สำหรับฉันคุณก็ยังเป็นคนที่ยอดเยี่ยมตลอดอยู่แล้ว ถ้าคุณแต่งงาน ไม่ต้องบอกเลยว่าผู้หญิงคนนั้นจะโชคดีขนาดไหนแต่อย่างไรก็ตามครั้งนี้ถึงคุณจะหนีไปได้แต่คุณก็หนีไปไม่ได้ทุกครั้งหรอกนะ 

  ณ ตึกสกายวิง

  เซี่ยเหล่ยกำลังเดินเข้าไปที่ห้องโถงของตึก ฟู่หมิงเหม่ยเห็นเข้าพอดีก็เดินเข้าไปหาพร้อมกับพูดว่า  เฮ้ นี่ใช่คุณเซี่ยจริงๆงั้นเหรอ ไม่น่าเชื่อว่าคุณจะว่างมานะ? 

  เซี่ยเหล่ยไม่ได้โกรธคำพูดหยอกล้อของฟู่หมิงเหม่ย เขายิ้มพร้อมกับพูดว่า  ผมค่อนข้างยุ่งมากจริงๆจึงไม่มีเวลาเลยแต่เอานี่ไปของขวัญสำหรับคุณ  พูดจบก็ยื่นอะไรบางอย่างไปที่มือของฟู่หมิงเหม่ย มันคือช็อคโกแลตที่เขาซื้อในซุปเปอร์มาเก็ตก่อนหน้านี้

  ฟู่หมิงเหม่ยยังไม่ได้รับช็อคโกแลตจากเซี่ยเหล่ย จู่ๆเธอก็เปลี่ยนท่าทีเป็นเคร่งขรึมพร้อมกับจ้องไปที่เขาก่อนจะพูดว่า  ฉันไม่รู้ว่าจะพูดยังไงกับคุณดี คุณไม่ได้ติดต่อกับเทียนหยินมานานแค่ไหนแล้ว คุณอยากให้เธอลืมคุณงั้นเหรอ? 

  เซี่ยเหล่ยฟังที่เธอพูดแต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะเขาและเฉินตูเทียนหยินในตอนนี้มีความสัมพันธ์กันแบบฐานะเพื่อนกันแค่นั้น แน่นอนว่าหากพวกเขาเป็นคู่รักกันการไม่ติดต่อหากันเลยนานถึงสามเดือนขนาดนี้ ความสัมพันธ์จะต้องไม่เหมือนเดิมอย่างแน่นอน เลวร้ายที่สุดก็อาจจะต้องเลิกรากันไปเลยก็ได้

   ว่าแต่คุณซื้อช็อคโกแลตให้ฉัน…  ฟู่หมิงเหม่ยพูดพร้อมกับมองตาโตไปที่เซี่ยเหล่ยก่อนจะพูดต่ออีกว่า  แต่คุณไม่ยอมซื้อดอกไม้ซักช่อให้กับเธอเลยงั้นเหรอ? 

  เซี่ยเหล่ยยิ้มพร้อมตอบไปว่า  ผมมีของจะให้เธออยู่แล้ว คุณไม่ต้องห่วง 

  ทันทีที่ฟู่หมิงเหม่ยได้ยิน เธอก็ยิ้มออกทันทีจากนั้นก็พูดว่า  มันคืออะไรหล่ะ บอกฉันได้ไหม มันคือแหวนหรือเปล่า? เพราะถ้าฉันเป็นคุณจะซื้อแหวนมาขอเธอแต่งงานซะเลยหน่ะ 

  เซี่ยเหล่ย   ……  

  แม้ว่าเขาจะไม่ได้นำแหวนมาเพื่อขอโทษเธอแต่สร้อยคอพลอยที่งดงามเส้นนี้ ก็น่าจะทดแทนกันได้เนื่องจากมันเป็นสร้อยที่นำมาจากสุสานของเจ้าหญิงหยงเหม่ย เขาตั้งใจเลือกเส้นนี้และเก็บไว้ให้กับเธอโดยเฉพาะอยู่แล้วแต่ก็ยังไม่ได้ให้เนื่องจากยังไม่มีโอกาส ดังนั้นการจะนำมาให้เพื่อขอโทษเธอในตอนนี้คงจะเป็นวิธีขอโทษที่ดีที่สุด

   มันคืออะไรหล่ะ ให้ฉันดูก่อนได้หรือไม่?  ฟู่หมิงเหม่ยพูดอย่างกระตือรือร้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น

  เซี่ยเหล่ยกล่าวว่า  ไม่ต้องห่วงหรอก อีกไม่นานคุณก็จะได้เห็นเหมือนกัน 

  ฟู่หมิงเหม่ยในตอนนี้รู้สึกเสียดายอย่างมาก

  เมื่อมาที่ออฟฟิศของเฉินตูเทียนหยิน มีนักข่าวมากมายหลายคนกำลังรุมสัมภาษณ์เฉินตูเทียนหยินอยู่

  ทื่นี่เซี่ยเหล่ยเห็นผู้คนมากมายไม่ว่าจะเป็นแขกผู้มีเกียรติที่เธอเชิญมาหรือแม้แต่นักข่าวหลายสำนักที่กำลังสัมภาษณ์เธออยู่ในตอนนี้ ยังมีคนๆหนึ่งที่เขาไม่อยากเห็นแต่ก็เลี่ยงไม่ได้คนๆนั้นคืออันซูฮยอน เพราะตอนนี้เขายืนอยู่ข้างเฉินตูเทียนหยิน

  ทันทีที่เซี่ยเหล่ยเดินเข้ามาภายในงาน สายตาของอันซูฮยอนก็เห็นเขาเข้าพอดี สายตาและท่าทางของเขาเต็มไปด้วยดวงตาแห่งความเยือกเย็นและไม่พอใจ

  เซี่ยเหล่ยเองเมื่อเห็นอันซูฮยอน เขาก็นึกถึงช่วงเวลาที่อยู่ในกรุงมอสโคขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ เขาไม่อาจลืมได้เลยว่าอันซูฮยอนได้ซื้อตัวแก๊งในรัสเซียเพื่อให้มาลอบสังหารตัวเอง ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็เกือบจะสำเร็จด้วยซ้ำ

  เฉินตูเทียนหยินเองก็เห็นเซี่ยเหล่ยเดินเข้ามาในงานเช่นกัน เธอส่งรอยยิ้มให้กับเซี่ยเหล่ย

  เซี่ยเหล่ยเองก็ส่งยิ้มตอบให้กับเธอ จากนั้นก็เดินไปยืนอยู่ที่มุมมุมหนึ่งภายในงานเพื่อรอให้การสัมภาษณ์สิ้นสุดลงแล้วค่อยเดินไปหาเธอ

  แต่จู่ๆนักข่าวเหล่านั้นก็เห็นทั้งสายตาของอันซูฮยอนและเฉินตูเทียนหยินไปมองไปที่ใครคนหนึ่ง พวกเขาจึงได้หันตามและก็เห็นเซี่ยเหล่ยเข้าจากนั้นนักข่าวคนหนึ่งก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า  นั่นใช่คุณเซี่ยจากโรงงานผลิตอาวุธหรือเปล่านะ? 

  หลังจากนั้นทุกสายตาของนักข่าวก็จับจ้องไปที่เซี่ยเหล่ยก่อนจะกรูวิ่งเข้าไปล้อมรอบตัวของเขา

   ผู้อำนวยการเซี่ย คุณมาที่นี่ได้อย่างไร?  นักข่าวคนหนึ่งถาม

   คุณเซี่ย หลังจากกลับจากงานนิทรรศการอาวุธของกรุงมอสโกแล้ว คุณมีนโยบายหรือโครงการอะไรใหม่บ้างหรือไม่สำหรับโรงงานผลิตอาวุธของคุณ? 

   ผู้อำนวยการเซี่ย คุณมาที่นี่เพราะโครงการโทรศัพท์มือถือของกลุ่มเหวี้ยนเทียนและบริษัทก็อดโดเมนอย่างนั้นเหรอ?  นักข่าวคนหนึ่งถาม

   ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้คุณเซี่ยและคุณเฉินตูได้หมั้นกันแล้ว นี่เป็นเรื่องจริงใช่หรือไม่?  นักข่าวคนหนึ่งถาม

   แล้วตอนนี้เลิกกันแล้วหรือเปล่า?  นักข่าวคนอื่นถามต่อทันที

   หรือต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับไม่สามารถบอกใครได้  นักข่าวคนอื่นยังคงยิงคำถามไปที่เซี่ยเหล่ยอย่างไม่ลดละ….

  ติดตามตอนต่อไป……..

 

Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร

Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร

Status: Ongoing

เซี่ยเหล่ยสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เด็กเขาจึงต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อดิ้นรนเอาตัวรอดและสิ่งที่สำคัญเขาต้องเลี้ยงดูน้องสาวของเขา แต่อยู่มาวันหนึ่งก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้น

เขาประสบอุบัติเหตุในโรงงานซึ่งทำให้ตาของเขาบอดแต่หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลเขาก็รู้ได้ทันทีเลยว่าตาเขาไม่ได้บอดแต่มันมีความสามารถพิเศษเพิ่มขึ้นมา !!

ในตอนนี้เขากำลังจะใช้ความสามารถพิเศษที่เขาได้มาในทางชั่วร้ายเพื่อสร้างชีวิตของเขาและน้องสาวให้ดีขึ้นเหมือนคนอื่นๆ

เซี่ยเล๋ยจะประสบความสำเร็จในการทำสิ่งชั่วร้ายกับพลังที่เขาเพิ่งค้นพบหรือไม่ ?

ข้าจะเป็นคนกำหนดชะตาชีวิตของข้าเอง !!!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท