‘ราชาวิญญาณตัวจริง! แต่เป็นไปได้ยังไง?! ราชาวิญญาณจะอยู่ในสวรรค์ชั้นล่างได้ยังไง!’ ท่านหญิงเฟิงร้องไห้อยู่ข้างในใจหลังจากตระหนักถึงความผิดพลาดของเธอที่อาจทำให้ชีวิตของเธอจบลง
“โปรดเมตตาข้าด้วยราชาวิญญาณ! ข้าคนนี้มีดวงตา แต่ยังไม่สามารถรับรู้ถึงการปรากฏตัวของท่าน!” จากนั้นท่านหญิงเฟิงก็คุกเข่าลงบนพื้นโดยที่หน้าผากเนียนของเธอแนบกับพื้นแข็ง
อย่างไรก็ตามเสี่ยวฮัวไม่ได้ขยับตัว และยังคงปล่อยพลังทางจิตวิญญาณของเธอต่อไป
“เกิดอะไรขึ้นที่นี่! ผู้เชี่ยวชาญคนไหนที่เปล่งพลังนี้ออกมา?!”
“ผู้เชี่ยวชาญคนนี้เหนือกว่าระดับปรมาจารย์วิญญาณอย่างแน่นอน! ระดับจ้าววิญญาณ ไม่ไม่! มันสูงกว่านี้อีก! การปรากฏตัวนี้เป็นของราชาวิญญาณ!”
ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆที่อยู่ภายในตลาดฟินิกซ์ทองคำรู้สึกตกใจอย่างมากเมื่อพวกเขาสัมผัสได้ถึงการปรากฏตัวอันยิ่งใหญ่ของเสี่ยวฮัวที่ปรากฏออกมาในอากาศ อย่างไรก็ตามพวกเขากลัวเกินกว่าที่จะมองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อดูสถานการณ์ หากไม่ได้รับคำสั่งโดยตรงพวกเขาก็จะไม่ยื่นจมูกของพวกเขาไปในที่ๆไม่ควรอยู่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับราชาวิญญาณ
ท้ายที่สุดแล้วความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวอาจหมายถึงจุดจบของธุรกิจ และแม้แต่ชีวิตของพวกเขา! นั่นคือพลังของราชาวิญญาณ
ในสวรรค์ชั้นล่างนี้ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุดอยู่ที่ระดับปรมาจารย์วิญญาณ เท่านั้น!
ในขณะเดียวกันที่ทางเข้าของตลาดฟินิกซ์ทองคำ ท่านหญิงเฟิงยังคงนอนอยู่บนพื้นโดยไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้น
“เสี่ยวฮัวไม่เป็นไรตอนนี้เราไม่เป็นอะไรแล้ว” หยวนพูดกับเธอครู่ต่อมา
“อืม” เสี่ยวฮัวพยักหน้าและดึงออร่าอันทรงพลังของเธอออกมาทันทีทำให้ท่านหญิงเฟิงสามารถหายใจได้อีก
“เจ้าเป็นอะไรมั้ย?” หยวนเข้าหาท่านหญิงเฟิงก่อนจะยื่นมือไปหาเธอ
“ขอบคุณ…” กลัวว่าเสี่ยวฮัวอาจโกรธเธออีกครั้ง หากเธอไม่ยอมรับมือของเขาท่านหญิงเฟิงจับมือของหยวนและปล่อยให้เขาดึงเธอขึ้นไป
“อย่างไรก็ตามข้าจะขอโทษอีกครั้งสำหรับการล้ำเส้นตัวเอง และทำให้เจ้าเดือดร้อน และข้าไม่เคยตั้งใจที่จะทำร้ายเจ้า”
ท่านหญิงเฟิงก้มศีรษะลง และโค้งคำนับให้พวกเขาอย่างขอโทษหลังจากที่เธอยืนอีกครั้ง
“มันเป็นเพียงความเข้าใจผิดเจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษ” หยวนกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่สงบบนใบหน้าของเขา
“เนื่องจากเจ้าได้ยืนยันแล้วว่าเสี่ยวฮัวอยู่ในระดับราชาวิญญาณแล้ว เราจะซื้อของในตลากฟินิกซ์ทองคำได้ใช่มั้ย?” หยวนจึงถามเธอ
“ใช่…” ท่านหญิงเฟิงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครกล้าหยุดพวกเขาแม้ว่าพวกเขาต้องการอาศัยอยู่ใน ตลาดฟินิกซ์ทองคำก็ตาม
และเธอยังพูดต่อว่า
“ถ้าเจ้าไม่รังเกียจข้าสามารถช่วยเจ้าได้ทุกอย่างที่เจ้ากำลังมองหา ข้าเป็นเจ้าของ ‘ฟินิกซ์สวรรค์’ ในตลาดฟินิกซ์ทองคำ ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านค้าที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองนี้ ไม่ว่าเจ้ากำลังมองหาสมบัติแบบไหนเราจะมีให้ ถ้าเราไม่มีเราจะรู้ว่าเจ้าจะหามันได้ที่ไหน “
“นั่นดีมากเลย!” หยวนพูดและพูดต่อว่า
“ข้ากำลังต้องการซื้อผลไม้วิญญาณ”
“ผลไม้วิญญาณ…?” ท่านหญิงเฟิงมองเขาด้วยใบหน้ามึนงงดูเหมือนพูดไม่ออก
หยวนเริ่มรู้สึกประหม่าทันทีที่เห็นปฏิกิริยาของท่านหญิงเฟิง เขากังวลว่ามันอาจจะไม่สามารถหาได้เนื่องจากความหายาก มันอาจจะหายากเกินไป
อย่างไรก็ตามท่านหญิงเฟิงกำลังคิดในทางตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงเนื่องจากผลไม้วิญญาณนั้นค่อนข้างไร้ค่าในตลาดฟินิกซ์ทองคำ ซึ่งสมบัติมักมีมูลค่ามากกว่าผลไม้วิญญาณ 100 เท่า
“ถ้าเป็นเพียงผลไม้วิญญาณข้าสามารถให้เจ้าได้ฟรี…” ท่านหญิงเฟิงพูดกับเขาครู่ต่อมา
“จริงหรอ มันแพงมากเลยไม่ใช่เหรอ” หยวนมองเธอด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
“ใช่ มันเป็นวิธีของข้าในการขอโทษสำหรับปัญหาที่ข้าทำให้เจ้าสามคนในวันนี้” ท่านหญิงเฟิงกล่าว
“และถ้าให้พูดตามตรงจริงๆ ผลไม้วิญญาณก็ไม่ได้มีค่าอะไรในสายตาของข้าหรอกเพราะร้านของข้าขายของที่มีค่ามากกว่านั้น”
“เนื่องจากเจ้าไม่รังเกียจข้าก็จะไม่ถ่อมตัว” หยวนพยักหน้า
“ได้โปรดตามข้ามา” ท่านหญิงเฟิงกล่าวขณะที่เธอหันกลับมาและเริ่มเดินจากไป
“นี่มันยอดเยี่ยมไปเลยใช่ไหมหยูรู่เราไม่ต้องใช้เงินสักบาท กับผลไม้วิญญาณตอนนี้” หยวนพูดกับเธอขณะที่พวกเขาเดินตามท่านหญิงเฟิง
“ใช่” เธอพยักหน้า
ไม่กี่นาทีต่อมาพวกเขาก็เข้าไปในอาคารหรูหราแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางตลาดฟินิกซ์ทองคำ
“ยินดีต้อนรับกลับครับท่านหญิงเฟิง ยินดีต้อนรับสู่ฟินิกซ์สวรรค์แขกผู้มีเกียรติ” คนงานข้างในทักทายพวกเขาทันทีที่เข้ามาในอาคาร
ท่านหญิงเฟิงพยักหน้าก่อนจะพูดกับคนงานคนหนึ่งที่อยู่ตรงนั่น
“นำผลไม้วิญญาณสามผล ห่อมาให้ฉันอย่างดีสำหรับแขกผู้มีเกียรติเหล่านี้”
“ได้เลยครับ ท่านหญิงเฟิง” คนงานโค้งคำนับก่อนเดินจากไป
“ผลไม้วิญญาณสามผลงั้นหรือพวกเราวางแผนที่จะซื้อเพียงหนึ่งผลเท่านั้น” หยวนพูดกับเธอ
“ไม่ต้องกังวลไปหนึ่งหรือสาม มันก็ไม่ได้แตกต่างมากสำหรับข้า” ท่านหญิงเฟิงพูดกับเขาด้วยรอยยิ้มจากนั้นเธอก็แนะนำว่า
“อย่างไรก็ตามอาจต้องใช้เวลาสักพักกว่าที่พวกเขาจะหาผลไม้วิญญาณมา ทำไมไม่ให้ข้าพาพวกเจ้าไปรอบๆร้าน ในขณะที่เรากำลังรอผลไม้วิญญาณล่ะ? “
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอหยวนพยักหน้าและพวกเขาก็เดินตามท่านหญิงเฟิงไปรอบๆชั้นหนึ่งของอาคาร
“โดยปกติแล้วสมบัติที่นี่มีมูลค่าเท่าไรข้าไม่เห็นป้ายราคาเลย” จู่ๆหยวนก็ถามเธอด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ชั้นแรกส่วนใหญ่มีสมบัติมูลค่าระหว่าง 10 ล้านเหรียญทองและ 100 ล้านเหรียญทอง” ท่านหญิงเฟิงตอบเขาอย่างรวดเร็ว
“100 ล้านเหรียญทอง…?” หยวนมองเธอด้วยใบหน้างุนงง
ดูเหมือนจะมีประมาณหกชั้นในอาคารนี้และหากชั้นแรกมีสมบัติที่มีมูลค่าหลายสิบล้านเหรียญทองอยู่ เขาก็นึกไม่ออกเลยว่าชั้นบนสุดมีสมบัติประเภทใด
“นี่คืออะไร?” จู่ๆหยวนก็หยุดอยู่หน้าตู้โชว์ที่มีใบไม้สีแดงใบเดียวอยู่ข้างในด้วยความสงสัยว่านี่เป็นสมบัติอะไร
“นั่นคือใบไม้สีเลือดจากป่าปีศาจ เป็นสมบัติหายากที่ต้องใช้เวลา 500 ปีในการเติบโตตามธรรมชาติ” ท่านหญิงเฟิงอธิบายให้เขาฟัง
“มักจะใช้ในการเสริมสร้างยา”
“อย่างนั้นเหรอ…” หยวนพึมพำเสียงเบา
ไม่กี่นาทีต่อมาพวกเขาก็เห็นสมบัติทั้งหมดที่ชั้นหนึ่งเสร็จแล้ว
“เจ้าต้องการดูชั้นอื่นๆหรือไม่?” ท่านหญิงเฟิงถามเขาหลังจากสังเกตว่าพวกเขาสนุกกับทัวร์มากแค่ไหนโดยเฉพาะหยวนซึ่งดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นเป็นหลัก
“ถ้าเจ้าไม่รังเกียจ” หยวนพูด
“ฮ่าฮ่า…ทำไมข้าต้องรังเกียจด้วยละ?” ท่านหญิงเฟิงหัวเราะด้วยน้ำเสียงที่อึดอัดเล็กน้อย
ในขณะที่ปกติแล้วเธอจะไม่อนุญาตให้คนแปลกหน้าขึ้นไปบนชั้นที่สูงขึ้นไป แต่ก็ไม่มีอะไรที่เธอไม่สามารถทำให้ได้ เมื่อมีราชาแห่งวิญญาณอยู่ท่ามกลางพวกเขา แม้ว่าหยวนต้องการที่จะปล้นทั้งตึก แต่ท่านหญิงเฟิงก็ทำได้เพียงยืนอยู่ที่นั่นพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอในขณะที่พวกเขาปล้นร้านค้า
อย่างไรก็ตามเนื่องจากหยวนไม่ได้เป็นคนแบบนั้น ท่านหญิงเฟิงจึงไม่กังวลมากเกินไปที่จะแสดงสมบัติให้พวกเขาดู
ท่านหญิงเฟิงพาหยวนและคนอื่น ๆ ไปที่ชั้นสองในไม่กี่อึดใจต่อมา แต่ดูเหมือนว่าชั้นสองจะมีตู้โชว์น้อยกว่าเมื่อเทียบกับชั้นแรก
“สมบัติบนชั้นนี้มีราคาเท่าไหร่หรอ?” หยวนอดไม่ได้ที่จะถาม
“ราว ๆ 100 ล้านเหรียญทองถึง 200 ล้าน” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“200 ล้าน…” หยวนรู้สึกได้ว่าตัวเองเหงื่อแตกเพียงแค่ได้ยินจำนวนเงินที่มหาศาลขนาดนี้
ท่านหญิงเฟิงกล่าวต่อว่า
“สมบัติที่ชั้นสามและชั้นสี่มีมูลค่าประมาณ 200 ล้านถึง 700 ล้าน”
“ที่ชั้นห้าสมบัติทั้งหมดมีมูลค่ามากกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญทอง แต่เนื่องจากจำนวนนั้นสูงมากเราจึงรับเฉพาะคริสตัลวิญญาณเท่านั้น”
“สำหรับชั้นที่หก…เงินนั้นไม่มีค่า ดังนั้นเราจึงรับเฉพาะการซื้อขายที่มีมูลค่าใกล้เคียงกันเท่านั้น”
หลังจากเห็นสมบัติทั้งหมดบนชั้นสองแล้วพวกเขาก็เดินต่อไปยังชั้นสาม
“นี่คือดาบระดับเทพ?” หยวนจ้องมองดาบที่สวยงาม ที่วางอยู่ในกล่องแสดงด้วยความชื่นชมในดวงตาของเขา
“ดาบนั้นถูกเรียกว่า ‘พันลอร์ด’ และถึงแม้ว่ามันจะมีคุณภาพต่ำ แต่ก็มีพลังมหาศาล จนถึงจุดที่แม้แต่มนุษย์ก็สามารถผ่าภูเขาทั้งลูกได้ครึ่งหนึ่งหากพวกเขาสามารถใช้มันได้
“เสี่ยวฮัวพี่ต้องมีการฝึกพลังระดับไหนถึงจะสามารถใช้อะไรแบบนี้ได้?” หยวนตัดสินใจถามเธอ
“ตอนนี้พี่หยวนน่าจะสามารถใช้สมบัติระดับโลกได้แล้ว บางทีอาจจะเป็นสมบัติระดับสวรรค์คุณภาพต่ำก็ได้ แต่พี่จะต้องไปถึงระดับปรมาจารย์วิญญาณก่อนถึงจะสามารถถือครองสมบัติระดับเทพได้”
“ปรมาจารย์วิญญาณ…นั่นค่อนข้างไกล…” หยวนถอนหายใจ
หลังจากใช้เวลาไม่กี่นาทีบนชั้นสามในขณะที่พวกเขาเตรียมที่จะมุ่งหน้าไปยังชั้นสี่ คนงานคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพวกเขาพร้อมกับกล่องสี่เหลี่ยมที่ดูหรูหราสามกล่อง
“ท่านหญิงเฟิงนี่คือผลไม้วิญญาณที่ท่านสั่ง”
ท่านหญิงเฟิงยอมรับผลไม้วิญญาณก่อนที่จะมอบให้หยวน
“นี่ผลไม้วิญญาณแม้มันจะไม่มาก แต่ได้โปรดรับจากข้าด้วย”
“ขอบคุณ…” หยวนรับกล่องด้วยสีหน้าอ่อนน้อมถ่อมตน
“แม้ว่าตอนนี้เจ้าได้ในสิ่งที่เจ้าต้องการแล้ว เจ้ายังต้องการเห็นชั้นอื่น ๆ หรือไม่ข้าเห็นว่าเจ้ามีความหลงใหลในดาบ เนื่องจากเป็นเช่นนั้นเจ้าจะต้องหลงรักสิ่งที่ข้ามีอยู่ที่ชั้นบนสุดแน่นอน” ท่านหญิงเฟิงพูดกับเขาในภายหลัง
ในขณะที่เธอสามารถปล่อยหยวนไปตอนนี้ แต่เธอไม่ต้องการให้พวกเขาจากไปก่อนที่เธอจะสร้างความสัมพันธ์บางอย่างกับพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเสี่ยวฮัวซึ่งเป็นราชาวิญญาณ
“ตกลง” หยวนพยักหน้าทันทีในขณะที่เขาอยากรู้เกี่ยวกับสมบัติบนชั้นที่สูงขึ้นไป