ตอนที่ 1553 เด็กนี่ไม่เลว (3)
เมื่อปิดประตูห้องเก็บเหล้าจวินอู๋เสียก็ไปยืนอยู่ตรงหน้าซูหย่า ไม่รู้ว่าราชินีที่รักเหล้ายิ่งชีพคนนี้จะทรมานอะไรนางอีก
ซูหย่ามองจวินอู๋เสียอย่างประเมินตั้งแต่หัวจรดเท้าหลังจากเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดนางก็เอ่ยปากพูด
“คุกเข่า”
จวินอู๋เสียชะงัก
ซูหย่าเลิกคิ้ว“คารวะอาจารย์ต้องคุกเข่าทำพิธี อยากให้ข้าสอนเจ้ารึเปล่าล่ะ?”
คารวะอาจารย์?
จวินอู๋เสียย่อมรู้ว่าหลังจากผ่านพิธีคารวะอาจารย์แล้ว ซูหย่าจะกลายเป็นอาจารย์ของนาง ไม่ใช่แค่ครูผู้ชี้แนะ ความหมายแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
ซูหย่าตั้งใจจะรับนางเป็นศิษย์ผู้สืบทอดงั้นหรือ?
“อะไรไม่อยากรึไง?” ซูหย่าพูดอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นจวินอู๋เสียไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
จวินอู๋เสียคุกเข่าลงตรงหน้าซูหย่าทันทีถ้าเป็นคนอื่นอาจจะคับแค้นใจที่ซูหย่าทำให้ลำบากในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ แต่จวินอู๋เสียตระหนักดีถึงการเปลี่ยนแปลงของเส้นเอ็นและหลอดเลือดในร่างตัวเอง ทั้งหมดเริ่มขึ้นที่ห้องเก็บเหล้านั้น ไม่ว่าซูหย่าจะมีจุดประสงค์อะไร แต่นางก็ช่วยจวินอู๋เสียจริงๆ
“อาจารย์โปรดรับการคารวะจากศิษย์ด้วย” จวินอู๋เสียทำพิธีคารวะอาจารย์อย่างจริงจัง สำหรับคนที่ปฏิบัติกับนางอย่างจริงใจ นางไม่เคยหวงความเคารพนับถือ
“พิธีคารวะอาจารย์ก็ต้องยกน้ำชาแต่ข้าไม่ชอบรสชาติแบบนั้น เจ้าเอาเหล้าบนพื้นตรงนั้นมาแล้วกัน” ซูหย่าพูด
จวินอู๋เสียเอื้อมมือไปหยิบและส่งให้ซูหย่า
นั่นเป็นเหล้าที่เทียนเจ๋อเอามาให้และซูหย่ายังไม่มีเวลาเปิดไห
ซูหย่ารับไหเหล้ามากอดแล้วกระดกเข้าไปอึกใหญ่ จากนั้นก็เอาหลังมือเช็ดปาก ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มกว้าง
“ดี!”
คำว่าดีนั้นไม่รู้ว่าหมายถึงเหล้าที่เทียนเจ๋อเอามา หรือการที่นางเพิ่งรับศิษย์
“จวินอู๋จำไว้นะ ตั้งแต่นี้ไปเจ้าคือศิษย์ของข้า ซูหย่า เป็นศิษย์ข้าไม่จำเป็นต้องยึดติดกับมุมมองทางโลก ไม่จำเป็นต้องจำกัดตัวเองไว้กับบรรทัดฐานที่น่าเบื่อหน่ายและซับซ้อนพวกนั้น มีแค่เรื่องเดียวที่เจ้าต้องจำไว้ให้ดี!”
จวินอู๋เสียฟังอย่างตั้งใจ
“ศิษย์ของข้าซูหย่า จะถูกคนอื่นรังแกไม่ได้เด็ดขาด! ถ้าคนอื่นรังแกเจ้า เจ้าต้องตอบแทนไปสิบเท่า ถ้าเจ้าทำไม่ได้ ข้าจะช่วยเจ้าเอง! นับแต่นี้ไป อย่าให้ข้าเห็นว่าเจ้านั่งร้องไห้ขี้มูกโป่งเพราะถูกคนอื่นรังแก สิ่งเดียวที่เจ้าทำได้มีแค่กระทืบไอ้พวกนั้นให้ร้องไห้หาพ่อหาแม่ไปเลย เข้าใจไหม!” ซูหย่ามองจวินอู๋เสียอย่างจริงจัง ศิษย์ของนางจะถูกรังแกไม่ได้เด็ดขาด
พวกที่จวินอู๋เอาชนะได้เขาจะต้องเอาชนะด้วยตัวเอง ส่วนพวกที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้ อาจารย์คนนี้จะจัดการกระทืบพวกมันให้เอง!
จวินอู๋เสียมองซูหย่าอย่างมึนงงนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนพูดกับนางแบบนี้
ชีวิตนี้นางเคยคารวะอาจารย์มาก่อนสองคน
เยี่ยนปู้กุยดีกับนางมากแม้ว่าความสามารถของเขาจะมีจำกัด แต่เขาก็ได้มอบทุกสิ่งที่เขาสามารถมอบได้ให้กับนาง
จักรพรรดิผู้ก่อตั้งแคว้นเหยียนตอนที่นางคารวะเขาเป็นอาจารย์ ชายคนนั้นได้ตายไปหลายปีแล้ว แต่จวินอู๋เสียเป็นหนี้บุญคุณเขา นางยอมรับเขาเป็นอาจารย์ด้วยความเคารพ
สำหรับซูหย่านางเป็นอาจารย์คนที่สามของจวินอู๋เสีย และเป็นอาจารย์คนเดียวที่บอกนางว่า “ศิษย์ข้าจะถูกคนอื่นรังแกไม่ได้เด็ดขาด ใครก็ตามที่รังแกเจ้า ข้าจะช่วยเจ้าเอาคืนเอง”
แม้ว่าจวินอู๋เสียจะเย็นชาแต่นางก็ยังตกใจกับคำพูดของซูหย่า
“เอาล่ะลุกขึ้นเถอะ เจ้าจะไม่เสียใจที่คารวะข้าเป็นอาจารย์เจ้าแน่” ซูหย่าพูดด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเห็นสีหน้ามึนงงของศิษย์ตัวน้อยนางก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างน่าสนใจ
นางยังจำได้ว่าตอนที่คนนั้นคารวะนางเป็นอาจารย์สีหน้าร้องไห้แบบไม่มีน้ำตาของเขาทำให้นาง……
ซูหย่าสะบัดหัวและหันไปหาจวินอู๋เสีย“เอาล่ะ ตามข้าขึ้นไปที่ชั้นสามของหอจันทร์แรม ตั้งแต่วันนี้ไป เจ้าต้องไปที่นั่นเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับพลังจิตวิญญาณ”
ชั้นสามของหอจันทร์แรม
สถานที่ที่จวินอู๋เสียไม่เคยไป
ซูหย่าจะสอนพลังจิตวิญญาณให้นางจริงๆ!
ตอนที่ 1554 เด็กนี่ไม่เลว (4)
เป็นครั้งแรกที่จวินอู๋เสียได้ขึ้นมาบนชั้นสามแต่สภาพของชั้นสามนั้นเกินกว่าที่นางคาดว่าจะได้เห็นมาก มีสระขนาดใหญ่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวภายในห้องกว้าง ในสระนั้นมีระลอกคลื่นกระเพื่อมพร้อมกับกลิ่นเหล้าโชยเข้าจมูกของจวินอู๋เสีย
สระตรงหน้านางเต็มไปด้วยเหล้าชั้นดี!
“ตั้งแต่นี้ไปเจ้าต้องแช่ตัวในสระเหล้านี้เป็นเวลาครึ่งวันทุกวัน ไม่ว่ามันจะทำให้เจ้ารู้สึกไม่สบายแค่ไหน เจ้าก็ต้องอยู่ในนั้นให้ถึงครึ่งวัน ส่วนอีกครึ่งวัน เจ้าสามารถฝึกฝนความสามารถของเจ้าบนชั้นสามนี้ได้” ซูหย่ามองจวินอู๋เสีย นางหยุดครู่หนึ่งขณะประเมินขนาดตัวที่เล็กของจวินอู๋เสียก่อนจะพูดว่า “เจ้าสามารถแช่ในสระทั้งเสื้อผ้าเลยก็ได้”
จวินอู๋เสียหันหน้ามามองซูหย่านางไม่ได้สนใจเรื่องนั้นนักหรอกเนื่องจากพวกนางเป็นผู้หญิงทั้งคู่ นางไม่รังเกียจที่จะเปิดเผยอะไรต่อหน้าซูหย่า แต่เห็นได้ชัดว่าซูหย่าใส่ใจและห่วงใยศิษย์ “ขี้อาย” ตัวน้อยของนาง
หลังจากให้คำแนะนำกับจวินอู๋เสียแล้วซูหย่าก็เดินลงบันได ทิ้งจวินอู๋เสียให้จัดการตัวเอง
จวินอู๋เสียถอดชุดคลุมตัวนอกออกเหลือเพียงชุดคลุมชั้นใน แล้วก้าวเข้าไปในเหล้าที่เย็นและสดชื่น เหล้าในสระหนาวเย็นเล็กน้อย ทันทีที่ลงไปในนั้น จวินอู๋เสียก็สั่นไปทั้งร่าง กลิ่นหอมเข้มข้นของเหล้าฟุ้งกระจายไปในอากาศ จวินอู๋เสียนั่งลงในสระหลังจากร่างกายปรับอุณหภูมิได้แล้ว
สระนั้นไม่ได้ลึกมากสูงไม่ถึงหนึ่งเมตรด้วยซ้ำ เมื่อจวินอู๋เสียนั่งลง น้ำก็ถึงแค่คางของนางเท่านั้น ต่ำกว่าริมฝีปากนางประมาณสองนิ้ว
เอาแค่ความรู้สึกเหล้าก็ไม่ได้สัมผัสแตกต่างจากน้ำมากนัก จวินอู๋เสียไม่เข้าใจว่าทำไมซูหย่าถึงพูดว่าที่นี่อาจจะทำให้รู้สึกไม่สบาย
จวินอู๋เสียสงบจิตใจและแช่ตัวอยู่ในสระ
ก่อนที่ซูหย่าจะจากไปนางได้กล่าวว่า ตอนที่จวินอู๋เสียแช่ตัวอยู่ จะต้องปล่อยพลังจิตวิญญาณออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่วิธีที่จวินอู๋เสียใช้พลังจิตวิญญาณนั้น แท้จริงแล้วเป็นการแปลงพลังจากพลังวิญญาณของนาง พลังจิตวิญญาณที่แท้จริงคืออะไรนางไม่รู้ ดังนั้นนางจึงทำได้แค่พยายามผลักดันพลังวิญญาณของนางออกมา
ในขณะที่นางปล่อยพลังวิญญาณออกมานั้นเองก็เกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งกับร่างกายของนาง
ขณะที่พลังวิญญาณกระจายออกมาจากร่างเหล้าที่อยู่รอบตัวจวินอู๋เสียซึ่งแนบชิดกับผิวของนางก็รู้สึกเหมือนว่ามันกำลังซึมเข้ามาในตัวนางอย่างช้าๆ ความรู้สึกเย็นที่ผิวหนังค่อยๆแพร่กระจายไปทั่วทุกเส้นประสาท แช่เซลล์ทุกเซลล์ในร่างเอาไว้ในเหล้า ในเวลาแค่ครู่เดียว จวินอู๋เสียยังไม่ได้ปล่อยพลังวิญญาณออกมามากมายอะไรนัก แต่ร่างกายของนางก็แสดงอาการเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียเหมือนตอนที่นางใช้พลังไปจนหมด
สถานการณ์นี้ทำให้จวินอู๋เสียรู้สึกประหลาดใจร่างกายของนางรู้สึกเหมือนมีบางอย่างระบายออกไปจนหมด แต่พลังวิญญาณในเส้นลมปราณของนางก็ยังคงแข็งแกร่งดีอยู่
ความเย็นเล็กน้อยกลายเป็นความหนาวเหน็บกัดกระดูกตอนนี้ข้างนอกเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิและดอกไม้กำลังเบ่งบาน แต่จวินอู๋เสียรู้สึกเหมือนถูกพายุหิมะโหมกระหน่ำเข้าใส่ หนาวมากจนปากซีดไม่มีสีเลือด
แต่จวินอู๋เสียไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อยไม่ได้ใช้พลังวิญญาณปิดกั้นความหนาวเหน็บนั้น แต่อดทนอยู่อย่างเงียบๆ
ซูหย่าต้องมีเหตุผลที่สั่งให้นางทำเช่นนี้ในเมื่อนี่คือการฝึก มันก็ย่อมไม่สะดวกสบายอยู่แล้ว เพื่อให้นางได้พลังและความสามารถมากขึ้น จวินอู๋เสียก็ไม่รังเกียจที่จะอดทน
เวลาผ่านไปจากวินาทีเป็นนาทีจวินอู๋เสียสงบจิตใจตั้งสมาธิไปที่พลังวิญญาณ พยายามมองข้ามความรู้สึกไม่สบายตัวอย่างเต็มที่
เมื่อใจของนางสงบลงอย่างสมบูรณ์ความหนาวเหน็บก็ดูเหมือนจะไม่ใช่สิ่งที่ทนไม่ได้
พลังวิญญาณสีม่วงของนางถูกดันออกไปทีละนิดและนั่นเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น