ตอนที่ 1675 บุปผาร่วงมีใจ สายน้ำไหลไร้รัก (3)
“น่ามองขนาดนั้นเลยหรือ?”เสียงของกู่อิ่งดังขึ้นข้างหูของกู่ซินเยียน กู่ซินเยียนเหงื่อแตกพลั่กทันที และรีบถอนสายตากลับมาอย่างรวดเร็ว
กู่ซินเยียนหันหน้าไปมองกู่อิ่งและพบว่าถ้วยสุราที่เขาถืออยู่มีเหล้าหยดออกมาจากก้นถ้วย ดูเหมือนข้างถ้วยไม่มีความเสียหาย แต่ก้นถ้วยน่าจะแตกจากแรงบีบของเขา
“คนที่เข้ามาคุยคือประมุขน้อยของวิหารมังกรใช่ไหม?”กู่อิ่งมองกู่ซินเยียนอย่างยิ้มแย้ม
กู่ซินเยียนเห็นเจตนาฆ่าฟันที่รุนแรงในแววตาของเขา“ช่วงหลายปีนี้ความแข็งแกร่งของวิหารมังกรเพิ่มขึ้นเร็วทีเดียว ถ้าไม่จำเป็น ก็อย่าสร้างศัตรูกับพวกเขาจะดีที่สุด เป้าหมายของเราตอนนี้คือวิหารปีศาจเพลิง”
กู่ซินเยียนเตือนเสียงเบา
กู่อิ่งหัวเราะออกมาทันที“เจ้ากลัวอะไรกันแน่? กลัวว่าข้าจะฆ่าเจ้าคนจากวิหารมังกร หรือกลัวว่าข้าจะฆ่าคนจากวิหารเงาจันทราคนนั้น?”
กู่ซินเยียนชะงักไปครู่หนึ่งอย่างที่คาด กู่อิ่งจับได้แล้ว
กู่อิ่งมองไปทางจวินอู๋เสียที่นั่งอยู่ไม่ไกลนักดวงตาคู่นั้นหรี่ลงเล็กน้อย
“ตาเขาสวยจริงๆ”
คำพูดง่ายๆไม่กี่คำนี้ทำให้กู่ซินเยียนเย็นวาบไปทั้งตัวนางเคยได้ยินแบบนี้มาแล้ว
“อย่าทำเขานะ!”กู่ซินเยียนเผลอตัวร้องออกมาอย่างตื่นตระหนก
กู่อิ่งเลิกคิ้วเล็กน้อย“โอ้? ปกป้องเขาขนาดนี้เลยหรือ?”
กู่ซินเยียนเองก็แปลกใจความจริงนางไม่แน่ใจเลยว่าคนผู้นั้นคือคนเดียวกับคนที่อยู่ในใจนาง แต่ท่าทาง, สายตา, และเสียงนั้นคล้ายกันมาก ทำให้ส่งผลต่อความรู้สึกของนาง ไม่ว่ายังไงนางก็ไม่อยากให้เด็กหนุ่มจากวิหารเงาจันทราที่คล้ายกับจวินอู๋คนนั้นต้องตกอยู่ในเงื้อมมืออันน่ากลัวของกู่อิ่ง
“ข้าแค่ไม่อยากให้ท่านก่อเรื่องที่วิหารจิงหงไม่งั้นพอกลับไป พวกเราจะตอบคำถามท่านพ่อไม่ได้ เรามาที่นี่เพื่อร่วมงานฉลองวันเกิดเท่านั้น ท่านจำใส่ใจไว้ด้วย” กู่ซินเยียนบังคับตัวเองให้ใจเย็นลง นางรู้ดีว่ากู่อิ่งสามารถทำอะไรได้บ้าง ถ้านางพูดมากเกินไป ก็มีแต่จะทำให้เขาโกรธ แล้วมันจะเกิดผลตรงกันข้าม
กู่อิ่งแค่มองกู่ซินเยียนยิ้มๆแต่รอยยิ้มนั้นทำให้กู่ซินเยียนรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น
“ข้าไม่เห็นว่าเจ้าปกป้องเจ้าจูเก๋ออินนั่นขนาดนั้นแต่กับเจ้าเด็กวิหารเงาจันทรานั่น เจ้ากลับปกป้องเขาซะมากมาย ถ้าข้าจำไม่ผิด เจ้าก็ไม่ได้ติดต่อพูดคุยกับใครในวิหารเงาจันทรามากนัก เห็นเจ้าปกป้องเขามากขนาดนี้ เป็นเพราะอะไรกันนะ?”
“ไม่มีอะไร”กู่ซินเยียนรู้สึกเสียใจเล็กน้อย ทำไมนางไม่ถอนสายตากลับมาให้เร็วกว่านี้
กู่อิ่งไม่ได้ซักไซ้นางต่อแต่หันไปมองจวินอู๋เสียที่นั่งอยู่ไม่ไกล ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาทำให้เกิดรอยยิ้มที่มุมปากของเขา
…………………..
จวินอู๋เสียไม่ได้สังเกตว่าการปรากฏตัวของนางทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมากแค่ไหนและไม่ได้รู้ตัวเลยว่าการที่กู่ซินเยียนสนใจนางทำให้จูเก๋ออินและกู่อิ่งจดจำนางเอาไว้ในใจ นางแค่นั่งเงียบๆอยู่กับที่ สายตากวาดมองผู้คนที่นั่งอยู่ในห้องโถง ท่ามกลางใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยเหล่านั้น นางได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยอยู่หลายคน แต่พวกเขาต่างเลี่ยงที่จะสบตากันอย่างรู้กันดี ทำให้ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่รู้จักกันเลย
แต่นี่คือตัวหมากที่จวินอู๋เสียฝังเอาไว้ในสิบสองวิหารและพวกเขานี่แหละที่เป็นคนนำพาสิบสองวิหารไปสุ่จุดจบในอนาคต
แขกทุกคนมาถึงหมดแล้วงานเลี้ยงเริ่มต้นขึ้น ผู้อาวุโสคนหนึ่งของวิหารจิงหงกล่าวขอบคุณทุกคนในนามของวิหารจิงหงและพูดคำที่ฟังดูดีอีกหลายคำ แต่มีไม่กี่คนที่ฟังเขา ผู้เยาว์ส่วนใหญ่เป็นหัวกะทิจากวิหารของตนและมีความหยิ่งผยองเป็นอย่างมาก ถือตัวว่าเป็นคนพิเศษ พวกเขาต่างนั่งดื่มกันเป็นกลุ่ม พร้อมกับดูนางรำร่ายรำอยู่ในห้องโถงใหญ่และพูดคุยกันอย่างมีความสุข
*************************
ตอนที่ 1676 บุปผาร่วงมีใจ สายน้ำไหลไร้รัก (4)
จื่อจินนั่งอยู่ข้างๆจวินอู๋เสียเพราะคำสั่งของจวินอู๋เสียทำให้นางไม่กล้าพูดหรือมองไปรอบๆอย่างไม่ระวัง แต่หลังจากนั่งอยู่พักหนึ่ง และมีเสียงเพลงดังก้องอยู่ข้างหู เสียงของความสนุกสนานรอบตัวทำให้นางผ่อนคลายเล็กน้อย นางแอบดึงแขนเสื้อของจวินอู๋เสียแล้วถามว่า “เจ้ารู้จักกู่ซินเยียนหรือ?”
จวินอู๋เสียมองจื่อจินด้วยสายตาสงสัย
จื่อจินจึงพูดเบาๆว่า“ตอนที่เราเข้ามาเมื่อกี้ ข้าสังเกตเห็นว่านางเอาแต่มองเจ้า ข้าจำได้ว่าเจ้าฝึกอยู่ที่สำนักธาราเมฆเกินครึ่งปีไม่ใช่หรือ? คุณหนูวิหารมารโลหิตก็อยู่ที่นั่นด้วยนี่ หรือว่านางจำเจ้าได้?”
สัมผัสที่หกของเด็กสาวนั้นมักจะเฉียบคมเป็นพิเศษแม้ว่าจื่อจินจะไม่กล้ามองไปรอบๆ แต่ประสาทสัมผัสของนางเฉียบคมพอที่จะรับรู้ได้ถึงความสนใจที่กู่ซินเยียนมีต่อจวินอู๋เสีย ทำให้นางอดรู้สึกกังวลไม่ได้
จวินอู๋เสียเบนสายตาออกมาอย่างเฉยเมยและมองไปทางกู่ซินเยียน ในตอนนั้นกู่ซินเยียนก้มหน้าอยู่ ไม่รู้ว่านางกำลังคิดอะไร
“ไม่รู้ซิ”จวินอู๋เสียตอบนิ่งๆ
กู่ซินเยียนจำนางได้รึเปล่านางเองก็ไม่แน่ใจ นางได้ปลอมแปลงใบหน้าไปแล้ว คนที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับนางจะไม่สามารถพบความผิดปกติได้เลย นางมีปฏิสัมพันธ์กับกู่ซินเยียนอยู่ช่วงหนึ่งก็จริง แต่ก็ไม่ได้นานนัก ยิ่งกว่านั้น นางก็ไม่คิดว่ากู่ซินเยียนจะมีความประทับใจอะไรในตัวนางมากนัก
ความสงบนิ่งของจวินอู๋เสียมาจากการวิเคราะห์ตามหลักเหตุผลของนางแต่นางไม่ได้รู้เลยว่าเวลาที่หญิงสาวมีใจให้ใครสักคน ไม่ว่าคนคนนั้นจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปยังไง ความรู้สึกคุ้นเคยก็ยังอยู่ ไม่ได้ถูกทำลายง่ายขนาดนั้น
“เจ้า……เจ้าต้องระวังให้มากล่ะอย่าให้ตัวเองถูกจับได้” จื่อจินมองจวินอู๋เสียด้วยความเป็นห่วง
จวินอู๋เสียแค่พึมพำตอบรับอย่างเฉยเมยว่า“อืม” เท่านั้น
ไม่รู้ว่ากู่ซินเยียนที่ก้มศีรษะอยู่นั้นแท้จริงแล้วกำลังแอบให้ความสนใจเหตุการณ์รอบๆตัวจวินอู๋เสียอยู่เมื่อนางเห็นจื่อจินเอนตัวเข้าไปกระซิบใกล้หูของจวินอู๋เสีย นางก็รู้สึกเจ็บปวดในใจ ดวงตายิ่งฉายแววเศร้าซึม
ในงานเลี้ยงนั้นจูเก๋ออินไม่ได้ละสายตาไปจากกู่ซินเยียนเลย ยิ่งมองเขาก็ยิ่งรู้สึกว่านางงดงามอย่างที่สุด ใจของเขารู้สึกว่าท่านพ่อตัดสินใจได้ฉลาดมาก แต่……
ทันใดนั้นสายตาของเขาก็ไปสบเข้ากับดวงตายิ้มๆของกู่อิ่ง ร่างทั้งร่างของเขาเย็นยะเยือกโดยไม่ได้ตั้งใจ
“คนที่นั่งข้างๆซินเยียนเป็นใคร?”จูเก๋ออินขมวดคิ้วถามเฟยเหยียนที่กำลังแอบชื่นชม “ความงาม” ของหรงรั่วอยู่
เมื่อถูกจูเก๋ออินขัดจังหวะความสุขเฟยเหยียนก็หันหน้ามามองด้วยสายตาเย็นชา แต่ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มอ่อนโยน
“นั่นคือกู่อิ่งประมุขน้อยของวิหารมารโลหิต พี่ชายของกู่ซินเยียน”
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง” จูเก๋ออินพยักหน้าเล็กน้อย เขาเคยได้ยินคนพูดถึงกู่อิ่ง แต่กู่อิ่งไม่ค่อยได้ออกมาข้างนอกมากนัก คนจำนวนมากจึงจำเขาไม่ได้ “พี่น้องคู่นั้นดูไม่เหมือนกันเลย แต่ทั้งคู่หน้าตาดีมากจริงๆ”
เฟยเหยียนยิ้มและไม่พูดอะไรเขาคิดอยู่ในใจว่า [กู่ซินเยียนเป็นยังไงข้าไม่รู้หรอก แต่ข้ารู้ดีเลยว่ากู่อิ่งโหดเหี้ยมมากแค่ไหน]
อีกด้านหนึ่งจวินอู๋เสียกำลังวางแผนว่าจะทำยังไงในงานเลี้ยงวันเกิดอีกไม่กี่วันข้างหน้า แล้วจู่ๆนิ้วมือของนางที่วางอยู่บนเข่าก็รู้สึกถึงความเย็นบางอย่าง
จวินอู๋เสียก้มหน้ามองและเห็นงูดำตัวหนึ่งที่มีขนาดลำตัวเท่าตะเกียบพันอยู่รอบนิ้วก้อยของนาง เมื่อเจ้างูน้อยสังเกตเห็นจวินอู๋เสียมองมาที่มัน มันก็คายจดหมายออกมา แล้วเลื้อยผ่านน่องของจวินอู๋เสียลงไปที่พื้น ออกไปทางประตูห้องโถงใหญ่ทันที