ตอนที่ 1697 เจตนาร้าย (5)
หลังจากเยว่อี้ได้เห็นพลังที่แท้จริงของจูเก๋ออินเขาก็ไม่ประหลาดใจแม้แต่น้อย แค่เข้าใจขึ้นมาว่าก่อนหน้านี้เขาพยายามตรวจสอบพลังของจูเก๋ออิน แต่ก็ไม่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ความเป็นไปได้อย่างเดียวก็คือพลังของจูเก๋ออินเหนือกว่าเขา
และจูเก๋ออินก็ขึ้นมาบนเวทีอย่างเป็นธรรมชาติมากหลังจากเยว่อี้แสดงพลังของเขาออกมาแล้ว ความมั่นใจเช่นนี้ก็เผยข้อมูลออกมามากพอแล้ว
“พลังของเจ้ากับข้าไม่ได้แตกต่างกันมากนักข้าคิดว่าการประลองครั้งนี้คงน่าสนใจทีเดียว” จูเก๋ออินพูดด้วยรอยยิ้ม
คำพูดนี้น่าขำสิ้นดี!
พลังวิญญาณสีม่วงขั้นแรกเริ่มกับพลังวิญญาณสีม่วงขั้นหนึ่งแม้ว่าจะดูเหมือนกัน แต่ความจริงแล้ว ความแตกต่างของมันเป็นช่องว่างที่กว้างกว่าพลังวิญญาณสีม่วงกับพลังวิญญาณสีครามซะอีก! แล้วจูเก๋ออินยังมีหน้ามาพูดว่าพลังของพวกเขาไม่ต่างกันมากนัก นั่นเป็นเรื่องน่าขำมากที่สุด!
จื่อจินที่เพิ่งสงบใจลงได้เล็กน้อยก็ตกใจขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้เห็นพลังของจูเก๋ออิน!
ระดับพลังของเยว่อี้ไม่เพียงพอจะจัดการกับจูเก๋ออินได้การยั่วยุของจูเก๋ออินเมื่อครู่ คำพูดมากมายทั้งหมดนั้น ก็เพื่อบังคับให้เยว่อี้ขึ้นไปบนเวทีประลอง เพื่อให้เขามีเหตุผลที่จะเล่นงานเยว่อี้อย่างถูกต้องชอบธรรม!
“โปรดชี้แนะด้วย”เยว่อี้ถอนหายใจในใจ แต่ก็ตั้งท่าเตรียมพร้อม
รอยยิ้มที่มุมปากของจูเก๋ออินแฝงความชั่วร้ายเขากลายเป็นลำแสงพุ่งตรงเข้าใส่เยว่อี้ด้วยความเร็วสูง!
ยิ่งมีพลังสูงเท่าไรก็จะยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้นด้วยระดับพลังของพวกผู้เยาว์ที่อยู่ด้านล่างเวทีประลอง สายตาของพวกเขาไม่สามารถตามทันความเร็วของผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงได้เลย ทั้งหมดที่พวกเขาเห็นก็คือทันทีที่ร่างของจูเก๋ออินกลายเป็นแสง เยว่อี้ก็เคลื่อนไหวเช่นกัน พวกเขาไม่สามารถเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นบนเวทีได้อย่างชัดเจนอีกต่อไป เห็นแค่แสงสีม่วงสองสายพุ่งปะทะกันอย่างต่อเนื่อง!
พลังที่ระเบิดออกมาจากการปะทะกันระหว่างพลังวิญญาณสีม่วงแผ่ไปรอบๆเวทีประลองราวกับคลื่นที่ซัดเข้าหาฝูงชน
เมื่อเจอการต่อสู้อันดุเดือดกลุ่มผู้เยาว์ก็พากันส่งเสียงฮือฮาออกมาอย่างอดไม่อยู่!
นี่คือสิ่งที่พวกเขารอคอยความแข็งแกร่งของพลังวิญญาณสีม่วง!
พวกผู้เยาว์ที่ไม่สามารถมองเห็นการต่อสู้ได้อย่างชัดเจนส่งเสียงฮือฮาออกมาอย่างตื่นเต้น
แต่ท่ามกลางฝูงชนพวกนั้นมีหลายคนที่เห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน
หรงรั่วยืนอยู่ด้านหลังฝูงชนสายตาของนางจ้องไปบนเวทีประลอง ด้วยระดับพลังของนาง การมองความเร็วของจูเก๋ออินและเยว่อี้ให้ทันนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่ยิ่งนางเห็นชัดเท่าไร ในใจนางก็ยิ่งรู้สึกกังวลมากขึ้นเท่านั้น!
บนเวทีจูเก๋ออินเหมือนกำลังแกล้งหยอกเหยื่อ ไม่เพียงโจมตีเยว่อี้ไปทั่วทั้งตัวเท่านั้น แต่แสงพลังวิญญาณที่ถูกยิงจากมือของจูเก๋ออินพุ่งเข้าใส่ร่างของเยว่อี้ครั้งแล้วครั้งเล่า การโจมตีด้วยพลังวิญญาณพวกนั้นเหมือนโฉบไปโฉบมาดูไม่หนักหนาอะไร แต่ไม่ว่าจะโดนที่ใดก็เจ็บมากพอที่จะทำให้คนหมดสติได้!
“ใจเหี้ยมมาก”หรงรั่วหรี่ตา แววตาเต็มไปด้วยความโกรธ
นางไม่คุ้นเคยกับวิธีการโจมตีของจูเก๋ออินเลยบีบอัดพลังวิญญาณสีม่วงให้เป็นพลังรูปแบบหนึ่ง มันดูไม่รุนแรงเลย แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของพลังนี้คือมันไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรไว้บนเสื้อผ้าหรือผิวหนังเวลาโดนโจมตี แต่พลังที่แท้จริงของมันจะถ่ายทอดเข้าไปในเนื้อและกระดูกเมื่อสัมผัสโดน
มันจะไม่ทำลายผิวหนังแต่พลังของมันรุนแรงพอที่จะทำให้กระดูกใต้ผิวหนังแตก รุนแรงพอที่จะทำลายอวัยวะภายในของคน สามารถทำให้คนตายได้โดยที่ภายนอกไม่มีความเสียหายใดๆ!
เยว่อี้ได้แต่ป้องกันเท่านั้นแม้ว่าเขาจะพยายามหลบการโจมตีอย่างเต็มที่ แต่พลังก็ยิงโดนร่างเขามากขึ้นเรื่อยๆ!
ตอนที่ 1698 เจตนาร้าย (6)
ลำแสงพลังวิญญาณที่กระทบร่างของเยว่อี้ดูราวกับปัดผ่านไปเท่านั้นแต่เมื่อใบหน้าของเยว่อี้ซีดลงเรื่อยๆ และการเคลื่อนไหวของเขาก็เริ่มแข็งมากขึ้น หรงรั่วก็แน่ใจว่าการโจมตีของจูเก๋ออินทำให้เยว่อี้บาดเจ็บภายในอย่างรุนแรง!
ดูเหมือนจูเก๋ออินตั้งใจจะทรมานเยว่อี้อย่างช้าๆด้วยการโจมตีในบริเวณที่ไม่ใช่จุดสำคัญแต่เป็นบริเวณที่ทำให้คู่ต่อสู้ของเขาเจ็บปวดอย่างรุนแรง
จูเก๋ออินชื่นชมผลงานที่เขาทำกับเยว่อี้อย่างพอใจสีหน้าของเยว่อี้เริ่มดูแย่ลงเรื่อยๆ ทันใดนั้นเขาก็เข้าไปประชิดตัวเยว่อี้และฟาดฝ่ามือใส่สะบักไหล่ซ้ายของเยว่อี้!
เสียงกระดูกแตกดังขึ้นให้ได้ยิน
กระดูกสะบักไหล่ของเยว่อี้แตกทันทีแต่จากภายนอกไม่มีบาดแผลแม้แต่จุดเดียว
แต่ความเจ็บปวดที่รุนแรงนั้นทำให้เยว่อี้เหงื่อออกจนชุ่มในทันทีเขากัดฟันแน่น ริมฝีปากขาวซีด มุมปากสั่นระริกด้วยความเจ็บปวดที่เกินจะทานทน
“เจ้าหมอนี่ยังจะหัวแข็งอยู่อีกหรือ? ไม่ยอมส่งเสียงร้องสักคำ” จูเก๋ออินหัวเราะพลางมองเยว่อี้ที่แทบจะหมดกำลังแล้ว เขาหยุดการโจมตีไปชั่วขณะ
บนเวทีประลองในที่สุดผู้คนก็สามารถมองเห็นทั้งสองร่างได้อย่างชัดเจน
พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆเยว่อี้ถึงหน้าซีดขนาดนั้นและตัวก็โซเซเล็กน้อยขณะที่จูเก๋ออินดูปกติเหมือนเดิม
แต่ไม่มีใครเห็นบาดแผลบนร่างของเยว่อี้เลยสักแผลเดียวแล้วทำไมเยว่อี้ถึงดูเหมือนได้รับบาดเจ็บหนักอย่างนั้น?
“พอแล้วใช่ไหม?”เยว่อี้ขบกรามแน่น ไม่ยอมให้ตัวเองส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดออกมา เขากัดฟันอย่างแรงจนมีเลือดออกที่เหงือก รสชาติของเลือดกระจายเต็มปากเขา
จูเก๋ออินไม่ได้อยากแลกเปลี่ยนฝีมือกับเขาสักนิดเจตนาที่แท้จริงคืออยากทรมานเขาต่างหาก
เยว่อี้เข้าใจถึงความตั้งใจของจูเก๋ออินแต่เขาไม่รู้ว่าตัวเองไปทำให้จูเก๋ออินไม่พอใจจนนำหายนะมาสู่ตัวเขาได้ยังไง
จูเก๋ออินมองเยว่อี้อยู่นานดวงตาของเขาทอประกายชั่วร้าย แล้วเขาก็แกล้งพูดด้วยความตกใจว่า “คุณชายเยว่ดูหมิ่นข้างั้นหรือ? ประมือกันแค่ไม่กี่ครั้งก็จะขอเลิกแล้ว นี่มันไม่เกินไปหน่อยหรือไง? ข้าอยากแลกเปลี่ยนฝีมือกับคุณชายเยว่อย่างจริงใจนะ”
เยว่อี้ขมวดคิ้วและจ้องมองจูเก๋ออินเขม็ง
อวัยวะภายในทั้งหมดของเขาถูกปั่นรวมกันด้วยพลังวิญญาณของจูเก๋ออินและกระดูกสะบักไหล่ของเขาก็หัก ถ้าเขาไม่ฝืนยืนด้วยกำลังทั้งหมด เขาก็คงล้มลงกับพื้นไปแล้วและไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้อีก สิ่งที่ทำให้ทุกอย่างยิ่งแย่ลงไปอีกก็คือ แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้แล้ว ทุกคนรอบตัวเขาก็ไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก
ในสายตาของพวกผู้เยาว์ที่อยู่ด้านล่างเวทีประลองเขาจะถูกมองว่าเป็นคนแบบที่จูเก๋ออินว่าไว้ คนที่ทำอะไรแบบขอไปที!
ไม่ได้รู้เลยว่าแค่ยืนให้ได้ก็สุดแรงแล้ว!
“จูเก๋ออินเจ้าอยากทำอะไรกันแน่!” เหงื่อบนร่างของเยว่อี้ไหลไปตามเสื้อผ้าของเขาและหยดลงบนพื้น ทำให้พื้นรอบๆเท้าของเขาเปียก แต่ก็ไม่มีใครสังเกตเห็นอะไรเลย
จูเก๋ออินหัวเราะและมองไปที่เยว่อี้“คุณชายเยว่ ทำไมต้องโกรธขนาดนั้น? ข้าแค่อยากให้เจ้าแสดงออกมาให้ดีในวันนี้ ตอนกลับไปที่วิหารเงาจันทราเจ้าจะได้อธิบายกับ ‘ปู่’ เจ้าได้ไง เจ้าต้องรู้ซิว่าเกียรติยศที่เจ้าได้รับไม่ได้เป็นของเจ้าเพียงคนเดียว แต่ยังมีผลกับสถานะของเจ้าในสายตาของผู้อาวุโสเยว่ และ……น้องสาวของเจ้าด้วย……”
ดวงตาของจูเก๋ออินที่จ้องมองเยว่อี้นั้นราวกับดวงตาของงูพิษคำพูดของเขาผลักเยว่อี้จนไม่มีทางถอยได้อีก!
น้องสาว……
คือจุดอ่อนของเยว่อี้!
เยว่อี้อยากจะสับจูเก๋ออินให้เป็นหมื่นๆชิ้นใจจะขาดแต่เขาก็ต้องทนข่มกลั้นความเกลียดชังเอาไว้