ความผิดปกติของวิญญาณไม่สามารถตัดสินได้จากคนนอก จ้าววิญญาณกับคนอื่นๆจึงไม่สามารถรับรู้ถึงความรู้สึกไม่สบายของจวินอู๋เสียได้
ภายในวิหารใต้ดิน ซือถูเหิงนั่งขัดสมาธิสีหน้าไร้อารมณ์ บนใบหน้าของเขาไม่มีความผิดปกติใดๆเลย
ตอนนี้จิตวิญญาณของจวินอู๋เสียกำลังทรมาน แต่นางไม่สามารถออกจากสถานการณ์นี้ได้
ซือถูเหิงจ้องร่างแข็งเกร็งของจวินอู๋เสียด้วยสายตามืดมน เจตนาฆ่าวาบผ่านดวงตาของเขา
หนึ่งวันผ่านไปในชั่วพริบตา ในที่สุดซือถูเหิงก็เก็บพลังวิญญาณของเขากลับคืนมา การกำราบพลังรอบแรกก็จบลง ตอนที่ซือถูเหิงถอนพลังออกไป ด้ายวิญญาณที่เชื่อมโยงกับหว่างคิ้วของจวินอู๋เสียก็หายไปด้วย ไฟวิญญาณที่มารวมตัวกันก็กระจัดกระจายออกไป
จวินอู๋เสียยังคงนั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อนบนแท่นวงกลมแม้ว่าซือถูเหิงจะลุกขึ้นและขยับไปด้านข้างแล้ว จ้าววิญญาณรีบเข้ามาตรวจดูจวินอู๋เสียทันที แต่เขาไม่กล้าแตะต้องนางสุ่มสี่สุ่มห้า
ตรงข้ามกับหลงจิ่วที่ดูกังวลเล็กน้อย เป็นยังไง? เป็นยังไง? มีผลกระทบอะไรไหม?
จ้าววิญญาณส่ายหน้า ข้าไม่เคยใช้วิธีแบบนี้ บอกไม่ได้จริงๆว่าได้ผลหรือเปล่า
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จวินอู๋เสียเป็นคนแรกที่ฝึกฝนด้วยวิธีการฝึกของดินแดนแห่งวิญญาณด้วยกายเนื้อ!
จ้าววิญญาณและคนอื่นๆรออยู่นานกว่าจะมีการเคลื่อนไหวจากจวินอู๋เสียที่นั่งอยู่บนแท่นวงกลม ดวงตาที่หลับสนิทค่อยๆลืมขึ้นช้าๆ แล้วดวงตาสงบเยือกเย็นคู่หนึ่งก็ปรากฏสู่สายตาของพวกเขา ตอนนี้เอง จ้าววิญญาณและคนอื่นๆจึงพากันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เป็นอย่างไรบ้าง? จ้าววิญญาณถามพลางมองไปที่จวินอู๋เสีย
หลังจากเงียบอยู่ครู่หนึ่ง จวินอู๋เสียก็ตอบว่า ก็ดี
ใบหน้าของจ้าววิญญาณปรากฏร่องรอยของความยินดี
ดีแล้ว เจ้ากลับไปพักผ่อนสักหนึ่งวัน แล้วเราจะทำกันต่อวันมะรืน ตอนแรกอาจจะรู้สึกไม่สบายหน่อย แต่มันจะค่อยๆดีขึ้น จ้าววิญญาณพูด จวินอู๋เสียไม่มีการต่อต้านรุนแรง นั่นดีที่สุดแล้ว
จวินอู๋เสียพยักหน้า ขณะที่ลุกขึ้นยืน นางโซเซเล็กน้อย ทำให้หลงจิ่วกลัวจนเกือบจะเดินเข้าไปพยุงนาง แต่จวินอู๋เสียก็ยกมือห้ามและยืนขึ้นด้วยตัวเองอย่างมั่นคง จากนั้นนางก็เดินออกจากวิหารใต้ดินอย่างช้าๆ ขณะที่เดินผ่านซือถูเหิง สีหน้าของจวินอู๋เสียไม่มีอะไรผิดปกติ เจ้าแมวดำตามหลังจวินอู๋เสียไปอย่างว่องไว
จ้าววิญญาณและคนอื่นๆในวิหารใต้ดินไม่สังเกตเห็นความผิดปกติใดๆเลยตั้งแต่ต้นจนจบ พวกเขารู้สึกยินดีกับจวินอู๋เสียจากใจจริง ไม่ว่าวิธีนี้จะทำให้จวินอู๋เสียฟื้นตัวได้เต็มที่หรือไม่ แต่อย่างน้อยตอนนี้มันก็ได้ผล
จวินอู๋เสียที่เดินออกไปนอกวิหารใต้ดินแล้วทนความเจ็บปวดในจิตวิญญาณไม่ไหว นางนั่งลงใต้ต้นไม้ใหญ่และเอนหลังพิงลำต้นของมันโดยไม่ส่งเสียงใดๆ แม้ว่านางจะอยู่ในร่างวิญญาณ แต่สีหน้าของนางก็ดูย่ำแย่จนน่ากลัว
ซือถูเหิงนั่นต้องมีอะไรแน่ๆ! เมื่อไม่มีใครอยู่แถวนั้น เจ้าแมวดำก็กระโดดขึ้นไปบนไหล่ของจวินอู๋เสียและพูดอย่างรวดเร็ว วิญญาณของมันกับจวินอู๋เสียใช้ร่างเดียวกัน ความเชื่อมโยงระหว่างวิญญาณของมันกับจวินอู๋เสียจึงใกล้ชิดกันมาก ตอนที่จวินอู๋เสียควบคุมพลังจิตวิญญาณ เจ้าแมวดำก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนเช่นกัน พลังจิตวิญญาณของจ้าววิญญาณ ฉินเกอ และหลงจิ่วไม่ได้มีปัญหาใดๆเลย
แต่พอถึงตาของซือถูเหิง สถานการณ์กลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง!
แม้แต่เจ้าแมวดำยังรู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมากจากพลังจิตวิญญาณที่เกรี้ยวกราดเช่นนั้น นับประสาอะไรกับจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียหรี่ตา ดวงตาทอประกายเย็นยะเยือก หลังจากนั่งอยู่สักพัก นางก็ลุกขึ้น แต่ไม่ได้กลับไปพักผ่อนในทันที ตรงกันข้าม นางหันกลับและมุ่งหน้าไปที่วังจ้าววิญญาณ
จ้าววิญญาณเพิ่งกลับมาถึงที่พักและเตรียมจะพักผ่อน ทันใดนั้นเขาก็เห็นจวินอู๋เสียที่น่าจะกลับไปแล้วยืนอยู่ที่นอกประตูห้องของเขา ใบหน้าของเขาจึงอดไม่ได้ที่จะแสดงความแปลกใจออกมา