บทที่ 103: นักเตะคนใหม่
นักข่าวเพียร์ซ บรอสแนนได้รับมอบหมายจากสำนักงานหนังสือพิมพ์ ซิตี้ กราวด์ซึ่งเป็นงานแถลงที่ได้รับความสนใจอย่างมาก
กองเชียร์น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ทุกคนต่างตื่นเต้นกับการแถลงข่าวสำหรับตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้ สื่อท้องถิ่นเกือบทั้งหมดในน็อตติงแฮม และสื่อลอนดอนก็ต่างพากันมาร่วมงานนี้
สแตน คอลลีมอร์ผู้จัดการทีมฟอเรสต์ที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งใหม่นั่งที่โต๊ะซึ่งเต็มไปด้วยไมโครโฟนจากสื่อต่างๆรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
เอ็ดเวิร์ดประธานคนใหม่ของสโมสรนั่งทางด้านขวาและดูพอใจไม่แพ้กัน ซึ่งนั่งอยู่ระหว่างชายสองคนนั้น เป็นชาวยูเครนรูปร่างเล็กและเป็นคนสำคัญในการแถลงข่าวครั้งนี้
เขาเป็นอดีตกองหน้าท็อตแนมฮ็อทสเปอร์ที่ไม่มีใครคาดว่าจะมาเล่นให้กับทีมลีกวัน เซอร์เก้ เรบรอฟ
เขาเป็นผู้เล่นชื่อดังที่สำคัญที่สุดในตลาดซื้อขายลีกวัน บางทีผู้จัดการคนใหม่คอลลีมอร์ที่ขาดประสบการณ์ อาจจะกำลังมองหาผู้เล่นอยู่ทุกหนทุกแห่ง
2 ล้านปอนด์เป็นราคาปัจจุบันของเรบรอฟแม้ว่าเขาจะมีมูลค่าสูงถึง 11,000,000 ปอนด์ในปี 2000 เมื่อเขาย้ายจากเอฟซี เคียฟ ไดนาโมไปยังทีมท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เอฟซี
อย่างไรก็ตาม หลังจากสามปีอดีตหุ้นส่วนของเชฟเชนโก
ได้กลายเป็นภาระใหญ่ที่ท็อตแนมหวังว่าจะกำจัดให้ได้มากที่สุด
เขาลงเล่น 29 นัดในฤดูกาลแรก แต่ยิงได้เพียง 9 ประตู ซึ่งไม่สอดคล้องกับคุณค่าของเขาอย่างมาก จากนั้นกองหน้าชาวยูเครนซึ่งมักจะติดหล่มอยู่ในสภาวะบาดเจ็บและเจ็บป่วยทำคะแนนได้เพียง 12 ประตูให้กับทีมในเวลา 2 ปีครึ่ง
การเล่นดังกล่าวทำให้ทีมและแฟนบอลไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด เรบรอฟเป็นผู้เล่นที่เซ็นสัญญาเมื่อจอร์จ เกรแฮมยังเป็นโค้ชให้กับทีมทอตนัมฮอตสเปอร์
แต่เมื่อเกล็น ฮ็อดเดิ้ล เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมสเปอร์ส เขาก็ค่อยๆถูกลดตัวลงมาเป็นตัวสำรอง
ทีมสเปอร์สต้องการที่จะขายกองหน้ายูเครนที่ไร้ประสิทธิภาพ และมันเพิ่งเกิดขึ้นที่น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ต้องการดึงผู้เล่นที่มีความสามารถและมีชื่อเสียงซึ่งมีอำนาจในการระดมแฟนบอลเข้ามา
ทั้งสองทีมสามารถบรรลุข้อตกลงได้ แม้ว่าค่าธรรมเนียมการโอน 2,000,000 ปอนด์จะค่อนข้างต่ำ นี้ก็ยังยอมรับได้เมื่อเทียบกับการปล่อยให้ผู้เล่นคนนี้อยู่ในทีมและจ่ายเงินเดือนให้เขาต่อไปจนกว่าเขาจะหมดสัญญา
ทีมฟอเรสต์รู้สึกขอบคุณสเปอร์สสำหรับความเอื้ออาทรของพวกเขา หลังจากที่อับราโมวิชกลายเป็นเจ้าของทีมเชลซีแล้ว ผู้เล่นเกือบทั้งหมดได้เพิ่มค่าธรรมเนียมการโอนเป็นสองเท่า พวกเขาโชคดีที่ซื้อผู้เล่นจากสเปอร์ส “ในราคาถูก”
หลังจากพิจารณาอย่างจริงจังแล้วเรบรอฟรู้สึกว่าเขาอยากจะย้ายไปที่น็อตติงแฮมฟอเรสต์โดยตรงมากกว่าที่จะถูกยืมตัวไปตุรกี
คอลลีมอร์ รับรองกับเขาว่าทีมจะกลับสู่พรีเมียร์ลีกเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล เขายังให้สัญญากับเขาในตำแหน่งกองหน้าตัวหลักและได้แสดงแผนการอันยิ่งใหญ่ของเขาให้กับทีมให้เขาเห็น
สิ่งเหล่านี้สัมผัสได้ เรบรอฟซึ่งตัดสินใจที่จะวางตัวเพื่อเข้าร่วมลีกฟุตบอลอังกฤษที่มีอันดับสูงสุดเป็นอันดับสองและพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง
“แน่นอนว่าเงินเดือนของเขาสูงที่สุดในทีม”
คอลลีมอร์เผชิญหน้ากับสื่อและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผมรับรองกับคุณว่าเราจะอยู่ในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลหน้า”
เรบรอฟยังยิ้ม รับช่วงต่อสื่อมวลชนและพูดกับทุกคนว่า “น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ เป็นทีมที่ยอดเยี่ยมและเคยมีประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ ผมหวังว่าการมาของผมจะช่วยให้ทีมกลับมาสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง”
คำพูดของเขาสร้างความประทับใจให้กับนักข่าวท้องถิ่นของน็อตติงแฮมหลายคน ชาวน็อตติงแฮมชอบให้คนอื่นพูดถึงปีอันรุ่งโรจน์ในอดีตให้พวกเขาฟัง แต่ช่วงเวลาของประวัติศาสตร์นี้นานเกินไปแล้วและไม่ใช่ทุกคนที่รู้เรื่องนี้ แม้แต่ผู้เล่นมืออาชีพก็มักจะไม่รู้ว่าทีมนี้ ซึ่งอยู่ในลีกดิวิชั่น 2 ได้รับความสำเร็จที่น่าประทับใจเช่นนี้
และตอนนี้พวกเขาเชื่อว่าเรบรอฟสามารถมีส่วนร่วมกับทีมได้จริงๆ แต่ไม่มีใครเคยคิดว่าเรบรอฟเป็นเพียงการสำรอกข้อมูลที่เขาจำได้?
เพียร์ซ บรอสแนนกำลังครุ่นคิดอยู่ลึกๆ เมื่อเขามองดูทั้งสามคน กองหน้าเรบรอฟไม่เคยพิสูจน์ตัวเองในพรีเมียร์ลีก แต่เขาสามารถพิสูจน์ความสามารถของเขาได้ในลีกวันซึ่งเป็นลีกที่ต่ำกว่า?
ในความเห็นของเขา ความล้มเหลวของเรบรอฟไม่ใช่ปัญหาของความแข็งแกร่ง แต่เป็นผลมาจากความไม่ลงรอยกันของสไตล์การเล่นส่วนตัวของเขาและสไตล์การเล่นแบบฟุตบอลอังกฤษ
คอลลีมอร์ในสายตาของบรอสแนนนั้นด้อยกว่าทเวนสิ่งที่ โทนี่ ทเวนไม่สามารถทำได้แต่คอลลีมอร์สามารถทำได้หรือไม่?
แม้ว่าเขาจะถูกทเวนเยาะเย้ย แต่บุคคลนั้นก็มีความสามารถ และเขาจะไม่ปฏิเสธบุคคลใดเนื่องจากความชอบส่วนตัวของเขา เช่นเดียวกับถังเอินเขาไม่เข้าใจการแต่งตั้งผู้จัดการทีมคนใหม่ของทีม Forest
ในความเห็นของเขา ความล้มเหลวของรอบ Play Offไม่ได้เป็นเพียงความรับผิดชอบของทเวน แม้ว่าเขาจะรับผิดทั้งหมดหลังจากความพ่ายแพ้ ทันใดนั้นเขาก็ยกมือขึ้น และคอลลีมอร์พยักหน้าให้เขาเพื่อระบุว่าเขาสามารถยืนขึ้นและถามคำถามของเขาได้
เพียร์ซ บรอสแนนไม่ใช่นักข่าวฝึกงานที่พูดติดอ่างอีกต่อไปเมื่อเขาถูกทเวนเยาะเย้ย เขามองอย่างตั้งใจที่คอลลีมอร์และระบุคำถามของเขาอย่างชัดเจน
“คุณผู้จัดการ การฝึกซ้อมปรีซีซันได้เริ่มขึ้นแล้ว 10 วัน และคุณเพิ่งเซ็นสัญญากับกองหน้าคนใหม่ คุณตั้งใจจะใช้ผู้เล่นตัวจริงประเภทใดในการเข้าสู่พรีเมียร์ลีก?”
เมื่อถามคำถามนี้ ก็เกิดความโกลาหลเล็กน้อย บางคนหันไปมอง บรอสแนนซึ่งยืนอยู่แถวหลังพร้อมไมโครโฟน และบางคนมองคอลลีมอร์ด้วยรอยยิ้มและต้องการดูว่าเขาจะตอบคําถามอย่างไร
รอยยิ้มบนใบหน้าของคอลลีมอร์หยุดนิ่งแล้วค่อยๆหายไป และเรบรอฟก็ดูอึดอัดเล็กน้อย มีเพียงเอ็ดเวิร์ดเท่านั้นที่นั่งอยู่ข้างๆโดยเอาแขนโอบหน้าอกและสวมรอยยิ้มที่อธิบายไม่ได้บนใบหน้าของเขา ราวกับว่าเขาเป็นผู้ชมที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
คอลลีมอร์ค่อยๆ เปิดปากของเขา ดวงตาของเขากวาดมองไปรอบๆ และเขายังคงสงสัยว่าจะตอบคำถามของนักข่าวอย่างไร
“อย่างที่คุณถาม การฝึกซ้อมปรีซีซั่นเพิ่งจะผ่านไป 10 วัน เรายังมีเวลาอีกมากเพื่อทำให้ทีมสมบูรณ์แบบ ผมคิดว่าสิ่งที่คุณจะได้เห็นต่อไปคือจะมีผู้เล่นระดับสูงมาปรากฏตัวที่ซิตี้ กราวด์
มากขึ้น และกระบวนการย้ายทีมยังไม่สิ้นสุด” หลังจากที่เขาพูด เขามองไปที่เอ็ดเวิร์ดโดยหวังว่าเขาจะออกมาพูดอะไรบางอย่างแทนเขา
“ใช่ การฝึกซ้อมของทีม Forest ยังไม่จบ เราเชื่อในความสามารถของคอลลีมอร์” เอ็ดเวิร์ด ยืนยัน
เห็นได้ชัดว่าบรอสแนนไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยพวกเขาออกไปดังนั้นเขาจึงถามต่อ “คุณเอ็ดเวิร์ด ฤดูกาลที่แล้วผู้จัดการทีมโทนี่ ทเวนพ่ายแพ้ในรอบเพลย์ออฟและถูกปลดออกจากตำแหน่ง
ดังนั้นผมต้องการจะถามว่าถ้าคุณคอลลีมอร์ไม่สามารถพาทีมเลื่อนชั้นได้สำเร็จคุณคอลลีมอร์จะถูกปลดออกจากตำแหน่งหรือไม่
คำถามนี้ให้ความรู้สึกค่อนข้างขัดแย้ง และการแถลงข่าวก็เต็มไปด้วยความโกลาหลในทันที
อารมณ์ไม่ดีของคอลลีมอร์ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งแต่เอ็ดเวิร์ดแทรกแซง “ขออภัยผมไม่เคยประเมินสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น หากคุณถามว่าคุณคอลลีมอร์จะถูกไล่ออกไหม คุณจะต้องรอจนกว่าฤดูกาลจะจบลงผมถึงจะตอบคุณได้
เอาล่ะทุกคน” เอ็ดเวิร์ดยืนขึ้น ลุกขึ้นปรบมือ “เราไปที่สนามที่มีแฟนบอลหลายร้อยคนที่กำลังรออยู่ดีกว่า”
และการมาถึงของเรบรอฟก็ดึงดูดความสนใจของแฟนบอลน็อตติ้งแฮมForestครึ่งหนึ่ง แต่ถังเอินไม่ได้อยู่ที่สนามอันที่จริงเขาไม่ได้อยู่ในเมืองด้วยซ้ำ
คอลลีมอร์เพิกเฉยและทิ้งการฝึกขอมทีม เขาบอกว่าเขาต้องค้นหาผู้เล่นที่จำเป็นสำหรับทีมถังเอินก็กำลังทำสิ่งเดียวกันกับเขา ความแตกต่างระหว่างชายสองคนคือ ถังเอินไม่ได้แค่พูด
ลมทะเลลูบไล้ผมและปกเสื้อของเขา และอากาศก็มีรสเค็มเล็กน้อย สถานที่เหล่านี้เป็นลักษณะของเมืองท่า
ถังเอินสูดอากาศริมทะเลที่สดชื่นและยังคงมุ่งความสนใจไปที่สนามฟุตบอลที่อยู่ข้างหน้าเขา
มีคนมากมายอยู่รอบๆเพื่อดูการฝึกซ้อมของทีมเยาวชนอายุไม่เกินสิบสี่ปี
