“ดี ฉันรู้อยู่แล้วพ่อ”
ฉินเสี่ยวหยุนทิ้งคำพูดเหล่านี้ไว้และวิ่งออกไป
เมื่อผ่านไปชั้นล่างฉินเชียวเหลียนต้องการพูดอะไรบางอย่างกับฉินเสี่ยวหยุนแต่ก่อนที่เธอจะได้พูด ฉินเสี่ยวหยุนก็วิ่งออกไปแล้ว
“ผู้หญิงคนนี้ไม่สุภาพเลย เธอไม่เหมือนตระกูลฉินของเราเลย!”
ฉินเชียวเหลียนพูดด้วยความโกรธ
“ทำไมยังปล่อยเขาอีกล่ะ?”
ฉินเจียนกั๋วออกมาจากห้องทำงานยืนอยู่บนชั้นสองด้วยรูปลักษณ์ที่เคร่งขรึมจ้องมองไปที่ฉินเสี่ยวหยางที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟา
ฉินเสี่ยวหยางยืนขึ้นด้วยความตกใจ
แม้ว่าเขาจะเอาแต่ใจมากแค่ไหน แต่ฉินเสี่ยวหยางก็ยังคงกลัวพ่อของเขา
“โอ้ ทำไมคุณดุจัง ลูกชายของเราถูกขังไว้ในห้องทุกวันไม่รู้สึกแย่กับเขาเหรอ?”
ฉินเชียวเหลียนอ้อนวอน
“หึ เด็กคนนี้เอาแต่ใจทำไมเธอถึงยังให้ท้ายเขาอีก?”
“ฉินเสี่ยวหยางฉันเตือนแกแล้วว่าอย่าออกมา ดูน้องสาวของแกบ้าง!”
“เข้าไปในห้องแล้วสำนึกผิดซะ!”
ทันทีที่เสียงของฉินเจียนกั๋วจบลง ฉินเสียวหยางก็รีบกลับไปที่ห้องด้วยความตกใจ
ในความเป็นจริงความสำเร็จของฉินเสี่ยวหยุนนั้นอยู่ในสายตาของเขาเสมอและเขาก็ภูมิใจในตัวเธอ
แต่เพียงแค่เขารู้สึกอายที่จะพูดออกไปเพราะความสำนึกผิดในใจของเขา
เมื่อเห็นว่าสามีของเธอโกรฉินเชียวเหลียนจึงไม่กล้าขอร้องให้ลูกชายของเธอ ดังนั้นเธอจึงรีบเดินไปช่วยฉินเจียนกั๋วที่กำลังลงมาชั้นล่าง
“เจียนกั๋วคุณหยุดโกรธเถอะ ฉันอยากรู้ว่าเรื่องผู้หญิงคนนั้นของตระกูลหลินจะประสบความสำเร็จไหม?””
“ดูสิ่งไร้สาระที่ลูกชายของเราทำ มันจะมีคนชอบเสี่ยวหยางด้วยงั้นเหรอ?”
ฉินเจียนกั๋วพูดด้วยโกรธ
ฉินเชียวเหลียนไม่มีความสุข ทำไมต้องดูถูกลูกชายที่มีค่าของเธอ?
“คุณพูดแบบนั้นไม่ได้ ตระกูลหลินก็ไม่มีอะไรดีนอกจากนี้ถึงลูกชายเราจะเคยทำตัวเหลวไหลเมื่อเร็ว ๆ นี้แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรมากมาย ไม่มีโอกาสให้คนเปลี่ยนตัวเองหรือไง?”
“บอกก่อนนะลูกชายแนะนำหุ้นให้ฉันเมื่อวันวานและมันขึ้นไปเยอะแล้ว! ใครบอกว่าลูกชายเราไม่มีสมอง เขาอายุน้อยเขาแค่ขี้เล่น!”
ฉินเชียวเหลียนยังแสดงให้ฉินเจียนกั๋วดูหุ้นที่เธอซื้อ
หุ้นมันกำลังขึ้น
ฉินเจียนกั๋วมองไปและพยักหน้า
“ถ้าเขาเลือกเองจริง ๆ ก็ถือว่าอึ้งไปเลย”
“โอ้ คุณเห็นไหมว่าลูกชายของคุณเก่งขนาดไหน เขาแค่ขี้เล่นมากไปตอนนี้อาจจะดีกว่าที่จะหาลูกสะใภ้มาดูแลเขา ฉันคิดว่าเด็กหญิงหลินจูเป็นคนอ่อนโยนและเธอก็เหมาะสมที่จะจับคู่กับเสี่ยวหยางของเรา”
“เธอจะทำยังไงถ้าหลินจูไม่เห็นด้วย”
ฉินเจียนกั๋วพูดด้วยความไม่พอใจ
“ทำไมคุณถึงเข้มงวดแบบนี้? ความสัมพันธ์ทั้งหมดนี้จะไม่ได้รับการพัฒนาเลยหรือ? แค่หาโอกาสปล่อยให้ลูกชายของเราและหลินจูพบกันตามลำพังไม่ได้เหรอ?”
ฉินเจียนกั๋วครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและคิดว่าคงไม่เป็นไร ดังนั้นเขาจึงโทรไปที่หมายเลขของตระกูลหลินทันที
เมื่อฉินเสี่ยวหยุนกลับบ้านหลินจูก็กลับไปแล้ว
เธอทิ้งข้อความไว้ว่ามีเรื่องด่วนที่บ้าน เธอจึงกลับไปก่อน
เธอทิ้งยาไว้ที่บ้านและตรงไปที่บริษัท
ในคฤหาสน์ตระกูลหลิน
ไม่นานหลังจากที่พ่อหลินจูได้รับโทรศัพท์จากฉินเจียงกั๋ว หลินจูก็กลับมา
“หลินจู พ่อพูดมากเกินไปเองเมื่อวาน พ่อขอโทษ”
“ไม่เป็นไรค่ะพ่อ”
หลินจูตอบอย่างเย็นชา
“ช่วยอะไรพ่อหน่อยได้ไหม? พอไปไม่ได้เพราะมีอะไรต้องทำ”
พ่อของหลินจูเหล่มองและพูดออกมา
…
ในทางด้านซูฟ่านก็เริ่มค้นหาข่าวเกี่ยวกับไคเหลียงเฟิงตั้งแต่ที่เขาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า
เพราะทันทีที่เขาลืมตาวันนี้เขาก็เห็นเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับชูหยุนซีและไคเหลียงเฟิง
หากชูหยุนซีไม่ตอบสนองต่อข่าวของเธอทันเวลา เธอจะต้องงานเข้าแน่นอน
เขาหึงไคเหลียงเฟิงมากและเขาต้องหารายละเอียดทั้งหมดของผู้ชายคนนี้
หนูน้อยหน้าขาว ไร้ความรับผิดชอบ เพลย์บอย…
ไคเหลียงเฟิงไม่มีข่าวในเชิงบวกเลย
เขาถูกจับได้สองครั้งจากการโกงและนี่คือสิ่งที่ถูกเปิดเผยเท่านั้น!
ไม่ว่าในกรณีใดซูฟ่านก็จะไม่ยอมให้ไคเหลียงเฟิงผูกมัดชูหยุนซีเพื่อโปรโมตตัวเอง
ซูฟ่านกำลังเลื่อนโทรศัพท์ทันใดนั้นก็พบว่า QQ ของเขามีแจ้งเตือน
“สุขสันต์วันเกิดน้องสาวอี้ถง”
ด้านบนแจ้งเตือนแสดงวันนี้เมื่อเจ็ดปีก่อน
ซูฟ่านจึงจำได้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของหิลนอี้ถงลูกสาวเจ้าของร้านอาหารที่เขาพาชูหยุนซีไปทาน!
ถ้าไม่รู้ก็ไม่เป็นไรแต่ตอนนี้เขาจำได้แล้ว ซูฟ่านจึงตัดสินใจเลือกของขวัญให้หลินอี้ถง
ท้ายที่สุดแล้วนอกจากญาติของเขาในโลกนี้แล้วครอบครัวของหลินอี้ถงก็คือคนที่ปฏิบัติต่อเขาอย่างดีที่สุด
ซูฟ่านจึงเลือกช้อปปิ้งมอลล์ใกล้ ๆ
เขาตั้งใจจะให้เสื้อผ้าหลินอี้ถงชุดใหม่
ครั้งสุดท้ายที่เขาเห็นหลินอี้ถง เสื้อผ้าของเธอเริ่มขาดแล้ว
สาว ๆ ในวัยนั้นน่าจะรู้จักความสวยความงามอยู่แล้ว
คุณมักจะรู้สึกด้อยค่าเมื่อแต่งตัวแบบนั้น
ซูฟ่านเลือกเสื้อผ้าสองชุดให้หลินอี้ถง
ซูฟ่านเก็บถุงเสื้อผ้าและวางแผนที่จะกลับไปมหาลัย
ทันทีที่เขากำลังจะขึ้นรถ ซูฟ่านก็เห็นชายและหญิงคู่หนึ่งทะเลาะกันอยู่ไม่ไกล
“ปล่อยฉัน!”
“คิดว่าฉันจะปล่อยเธอไปหรือไง! นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการเธออย่ามาแกล้งทำตัวสูงส่งหน่อยเลย!”
“ไอ้สารเลว!”
…
ทั้งสองทะเลาะกันอย่างดุเดือด
เมื่อเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติระหว่างทั้งสองคน ซูฟ่านจึงรีบเข้าไปหา
ชายคนนั้นหันศีรษะและมองไปที่ซูฟ่าน
“โชคร้ายจริง ๆ เลย!”
ฉินเสี่ยวหยางสบถสาปแช่ง
“โอ้ ฉันสิควรจะพูดอย่างนั้น”
ซูฟ่านก็บ่นออกมา
เมื่อเห็นใครบางคนมาช่วยหลินจูก็ซ่อนตัวอยู่หลังซูฟ่านทันที
“นักเรียนซูช่วยฉันด้วย”
หลินจูขอร้อง
เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนพ่อของเธอโกหกเธอเพื่อขอให้หลินจูมาที่ห้างแห่งนี้เพื่อส่งของบางอย่าง
ผลที่ตามมาหลังจากหลินจูมาก็คือเธอพบกับฉินเสี่ยวหยาง
เธอโกรธมากและอยากจะจากไปทันที ใครจะรู้ว่าฉินเสี่ยวหยางจะจับเธอไว้และบอกว่าพวกเขาได้พบกันโดยโชคชะตา เราน่าจะลองเดทกันสักครั้งเผื่อว่าเธอจะรู้สึกดี
หลินจูตบฉินเสี่ยวหยางด้วยความคลื่นไส้และรู้สึกอึดอัด แม้กระทั่งการหายใจร่วมอากาศกันเธอก็รู้สึกแย่แล้ว เธอจึงปฏิเสธฉินเสี่ยวหยางอย่างดุเดือด
คราวนี้ฉินเสี่ยวหยางผู้เอาแต่ใจจึงโกรธ
ฉินเสี่ยวหยางไม่ได้พูดถึงเดทอีกต่อไปและจะพาหลินจูไปที่โรงแรมโดยตรง
มีเสียงเชียร์จากพ่อของหลินจูที่ตกลงเรื่องแต่งงาน พวกเขาจึงสามารถหุงข้าวดิบให้เป็นข้าวสุกได้เต็มที่!
ถ้าซูฟ่านไม่ปรากฏตัวออกมาหลินจูอาจต้องทนทุกข์ทรมานจริง ๆ
หลังจากฟังเรื่องนี้ ซูฟ่านก็บังหลินจูไว้ข้างหลังเขา
“อยู่ให้ห่างจากเธอ”
ซูฟ่านพูดเบา ๆ
หลังจากพูดจบเขาก็วางแผนที่จะจากไปกับหลินจู
แต่ฉินเสี่ยวหยางไม่เต็มใจ
“โอ้ ฮีโร่ผู้ช่วยหญิงสาว แกคิดว่ามันเท่หรือไงไอตูดเหม็น!”
“ครั้งที่แล้วฉันไม่ชนะแกมันทำให้ฉันเสียหน้าไอเวรนี่!”
“ฉันจะบอกให้นะคุณหลินจู มันเป็นเกียรติของเธอที่ได้รับการชื่นชอบจากฉัน เธอมันเป็นแค่ของมือสองที่หมั้นกับใครบางคนไปแล้ว!”
น้ำตาของหลินจูที่ถูกฉินเซี่ยวหยางทำให้อับอายขายหน้าไหลออกมา
แต่ก่อนที่น้ำตาจะร่วง ซูฟ่านก็ได้ปล่อยหมัดออกไปแล้ว
ฉินเสี่ยวหยางถูกชกจนลอยออกไปสามเมตรและกระแทกเข้ากับรถของเขาโครมคราม
ด้านหน้าของรถ R8 สีดำถูกทุบจนเป็นหลุม
ช็อก!
ฉินเสี่ยวหยางและหลินจูต่างก็ช็อก!
“เชี่ย!”
ฉินเสี่ยวหยางสบถออกมาจากนั้นก็อาเจียนออกมาเป็นเลือด